การเข้าคุกอย่างไรให้ถูกวิธีและอยู่รอดปลอดภัย ตอนที่ 2 แดนแรกรับ (ก้าวแรกในเรือนจำ)

กระทู้สนทนา
การเข้าคุกอย่างไรให้ถูกวิธีและอยู่รอดปลอดภัย ตอนที่ 2
แดนแรกรับ
เป็นพื้นที่ส่วนแรกในเรือนจำที่ใช้กับผู้ต้องขังเข้าใหม่   แทบทุกคนที่ต้องคำพิพากษาต้องเข้ามาที่แดนนี้ก่อน นอกจากจะเป็นคดีอัตราโทษสูงอาจจะขึ้นขังเดี่ยวรอย้ายแดนที่เหมาะสม  แดนแรกรับเปรียบได้ดั่งสนามซ้อมการใช้ชีวิตในคุกเลยก็ว่าได้   ที่นี่จะมีคนคุกเดิมอยู่ไม่กี่คน  ก็น่าจะประมาณ 30 เปอร์เซนต์ได้   พวกนี้จะมีหน้าที่ในแดนแรกรับให้กับคนใหม่  ทำบันทึกข้อมูลประวัติ ทำเรื่องบัญชีเงินที่ติดตัวเรามา เป็นครูฝึกระเบียบแถว  แนะนำระเบียบเรือนจำให้คนใหม่รู้  คนคุกพวกนี้ต้องความสามารถพอสมควรและมีเส้นสาย  มีกำลังทรัพย์พอตัว  ไม่ใช่ใครก็มาทำได้ง่ายๆ ถึงจะเป็นงานสบายก็จริงแต่มันเป็นงานละเอียดผิดพลาดไม่ได้ ยกตัวอย่างคนคดีจำหน่ายยาบ้าหมื่นเม็ด ถ้าลงข้อมูลผิดไปเป็น พันเม็ดเนี้ย   จริงอยู่ไม่เกี่ยวกับผลคดีของศาลแน่นอนเพราะศาลมีคำสั่งมาเป็นเอกสารแล้ว  แต่ระบบภายในเรือนจำยุ่งแน่ คนขายยาหมื่นเม็ดกับพันเม็ดการดูแลต่างกัน  อยู่คนละแดน    แต่ที่สำคัญคือคนคุกที่ได้อยู่แดนแรกรับ  ไม่อดยากแน่  ทำไมหรอครับเพราะคนใหม่ที่เข้ามาญาติยังแรงอยู่   มาเยี่ยมกันทุกวัน ก็ได้หากินกับคนใหม่นี่หล่ะ  ทั้งปล่อยกู้เงิน (ไม่ใช่เงินสดนะครับ ข้างในพกเงินสดไม่ได้ อาจให้กู้เป็นของกินของใช้ ตอนใช้คืนก็ให้ญาติเอาเงินคืนเข้าชื่อคนปล่อยเงินกู้  บวกดอกตามตกลง  ลูกค้าประจำก็ 10 หรือ20 เปอร์เซนต์    ทั่วไปอาจ 30 เปอร์เซนต์ อันนี้ ต่ออาทิตย์นะครับ ดอกน่ากลัวจริงๆ)     ทั้งเข้ามาตีสนิท  ตีซี้ช่วยเหลือ  หาที่เก็บของชวนเข้าบ้านเพื่อหลอกเอาของกิน ของใช้ก็มีเยอะ  มีหลากหลายเล่ห์เหลี่ยม   คนใหม่ที่เข้ามายังไม่รู้อะไรมาก  ใครพูดอะไรก็เชื่อเค้าหมด  ยิ่งถ้าเจอคนรู้จักที่เคยเจออยู่ข้างนอกด้วยแล้ว ยิ่งวางใจใหญ่เลยที่นี้   เจอคนดีก็ดีครับเค้าจะแนะนำต้องอยู่ยังไง   แต่ถ้าเจอคนไม่ดี(ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ดี) ก็จะหลอกซื้อโน่นนี่นั่นให้  แต่ที่นี้ยังไม่ค่อยเข้มข้น โจ่งแจ้ง เพราะถ้ามีปัญหาอะไรมา คนใหม่ร้องเรียนเจ้าหน้าที่   คนคุกที่มาหลอกเค้าจะโดนทำโทษและย้ายแดนแน่นอน  พวกเค้าจึงไม่กล้าเสี่ยงทำไรโจ่งแจ้งเกิน  การได้อยู่แดนแรกรับดีอยู่แล้ว  
เริ่มต้นตั้งแต่วันแรกเลยนะครับ  พอเข้ามาอาจจะเย็นแล้ว พวกคนเก่าอาจขึ้นเรือนนอนกันหมดแล้ว ก็จะเจอเจ้าหน้าที่รอตรวจค้น  แก้ผ้าครับเปลือยเลย   ต่อด้วยขยี้ผม  อ้าปาก  กระดกลิ้น  ถ่างขาแล้วทำท่าลุกนั่ง ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบการลักลอบของผิดกฎหมาย  เข้ามาในเรือนจำ  บางเรือนจำหรือบางช่วงที่เค้ามีข่าวมาว่าจะมียาเสพติดเข้าอาจต้องยืนโก่งโค้งให้เจ้าหน้าที่  เอานิ้วล้วงเข้าไปในทวาร   ก็เสียความบริสุทธิ์กันไป !!   ตอนตรวจค้นมีเงินก็ฝากไว้ได้เลย   และที่สำคัญที่สุดหากโดนซ้อมมา(ใครซ้อม?ก็ว่าไป) หรือ เป็นโรคประจำตัวอะไรให้แจ้งด้วยนะครับ  อีกอย่างใครที่รู้ว่าตัวเองมีคู่กรณี หรือเรียกว่ามีโจทย์  ไม่ว่าเรื่องชกต่อย    เคยแจ้งจับใคร   เคยไปแย่งเมียใครเค้ามา   หรืออะไรก็ตามที่เคยทำไว้ข้างนอก  แล้วคู่กรณีอยู่ที่นี่ก็ต้องบอกนะครับเค้าอาจจะแยกเราไปนอนขังเดี่ยว  จะได้ไม่โดนกระทืบแก้แค้น  เสร็จเรียบร้อยก็จะให้เราเดินไปที่โรงเลี้ยง  กินข้าวครับ  มื้อแรกที่นี่  ต้องบอกเลยว่า  กินเพื่ออยู่นะครับ  ท่องไว้ ๆ  กินเข้าไปก่อนเถอะครับพอที่จะกินได้  เพราะขึ้นเรือนนอนแล้ว  ไม่มีอะไรให้กินแล้ว   ถ้าโชคดีบางทีบนเรือนนอนอาจมีพ่อค้าเอาขนมขึ้นมารอขาย  แต่จะแพงกว่าปกตินิดนึงนะครับ และที่สำคัญต้องมีเงินฝากในบัญชีของเราที่เรือนจำนะครับไม่งั้นอาจเจ็บตัวได้  ทางที่ดีกินข้าวหลวงตุนไว้เลยจะดีกว่า กินข้าวเสร็จไปอาบน้ำต่อ  เป็นอ่างสี่เหลี่ยมยาวๆ  อาบกลางแจ้งเลย  สบู่ไม่มีครับ  น้ำล้วนๆไปก่อน  ไม่อาบไม่ได้นะครับ   บางคนหมักหมม ไม่อาบน้ำมาตั้งแต่ถูกจับ   อยู่สถานีตำรวจก็ไม่ได้อาบเลย  ขึ้นเรือนนอนต้องนอนรวมกับคนอื่นอีกมาก   เค้ารับไม่ได้แน่นอน   จึงต้องบังคับให้อาบทุกคน  บางคนกลิ่นแรง   ก็อาจได้รับการสงเคราะห์สบู่เก่าๆมาฟอกตัว     ได้เวลาขึ้นเรือนนอนอันนี้แล้วแต่บุญกรรมหล่ะ  บางเรือนจำแออัดก็ต้องนอนเบียดกันอาจถึงขั้นสลับฟันปลา หัวกับเท้าสลับกันเลยทนเอาครับ    แน่นอนหล่ะตอนนี้เราเข้ามาในห้องแล้วก็จะมีคนคุกเข้ามาถามเราหล่ะ   ว่าเราคนที่ไหน    โดนคดีอะไรมา   มีใครรู้จักที่คุกนี่ไหม  ซักถามรายละเอียดของเราไปเรื่อยหล่ะ จริงๆแล้วน่าจะดูหล่ะว่าเราเป็นคนยังไง   ดูไหวพริบในการตอบ  แล้วพอมีอะไรให้หากินได้ไหม   แนะนำให้พูดให้น้อย  ไม่ต้องพูดไรมาก  เริ่มถามเค้ากลับบ้างก็ได้  แต่ส่วนใหญ่พวกนี้จะตอบแบบเว่อร์ๆ   แกล้งอำเรา  ดูว่าเรามีอาการอย่างไร  ต้องนิ่งๆไว้หน่อย  ไม่ตกใจไรมาก   สมมุติถ้าเราถามเค้า   พี่โดนคดีอะไรมา  เค้าอาจตอบโดนคดีฆ่ามา  เราก็อาจพูดต่อ  “หรอครับ ตัดสินมากี่ปีหล่ะครับ”   “10ปี”  มันโม้ต่อ  “อืมๆ “  แค่นั่นหล่ะที่เราควรพูดคือไม่ได้สำคัญอะไรกับเรา   ไม่อยากรู้อะไรต่อประมาณนั้น  แล้วเค้าก็อาจจะชวนเข้าบ้านเค้าไหม   ยังไม่ต้องตอบรับหรอกครับ  ค่อยๆดูไปก่อน เพราะเดี๋ยวเราก็ต้องย้ายแดน  ค่อยวางแผนคบเพื่อนดีๆพอคบได้   ตอนนี้อยู่แบบบินเดี่ยวไปก่อน   ส่วนใหญ่ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ก็ต้องย้ายแล้ว ขึ้นอยู่ปริมาณนักโทษใหม่ด้วย ไล่ย้ายตามลำดับ  แล้วการคุยเรื่องคดีของเราถ้ายังไม่ตัดสิน ก็ไม่ต้องไปฟังใครครับ มีแค่ศาลเท่านั้นที่จะตัดสินได้ ถ้าไปคอยถามคนเก่าว่าคดีของเราจะโดนกี่ปี  นั่นหล่ะเข้าทางมันเลย  มันจะแกล้งอำไปต่างๆนานๆ  จนบางคนเชื่อ รับไม่ได้เดินรั่วพูดคนเดียวไปเลยก็มี
บนเรือนนอนมีกฎระเบียบนะครับ  หัวหน้าห้องจะบอกเราว่าห้ามอะไร    เอาหลักหล่ะกันครับ
1.ห้ามสูบบุรี่    แต่คนเก่าดูดกันแทบทุกคน   ถ้าโดนเจ้าหน้าที่จับได้ต้องรับเอง   ต้องบอกว่าหัวหน้าห้องห้ามแล้ว
2.ห้ามอาบน้ำในห้องน้ำบนเรือนนอน    อาจมีบ้างที่คนเก่าจะอาบ  ถ้าอากาศร้อน  ใช้กฎเดิมครับ  ทำเองรับผิดชอบตนเองถ้าโดนจับได้
3.ห้ามนำอาหารขึ้นมากินบนเรือนนอน  ข้อนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ครับ บางท่านก็เข้มงวดห้ามจริงๆ   แต่บางท่านก็ให้อนุโลมให้  เพราะกินข้าวเย็นก็ตอน 4 โมงเย็น  กว่าจะนอนก็หิวแล้ว
4.ห้ามทะเลาะวิวาท   อันนี้เกิดประจำจากคนใหม่กับคนใหม่  เพราะการนอนเบียดกันมากเกินไป   เท้าไปโดนหน้ามั่ง  เบียดไปเบียดมาโมโหมั่ง ตกดึกลุกขึ้นชกกันมาเสียงตุบตับๆ ใจเย็นกันไว้ครับ กรณีนี้โดนทำโทษทั้งคู่นะครับ
5.ห้ามขโมยของ    ข้อนี้ต้องจำเลยนะครับ   ไม่ใช่ของเราอย่าไปเอา   ไม่งั้นอาจโดนประชาคุกทัณฑ์ได้  
6.ห้ามมีเพศสัมพันธ์บนเรือนนอน   ข้อนี้หาดูยากครับ  เพราะจะแอบทำกันดึกๆ   ถ้าเห็นผ้าคลุมโปงกัน 2 คน ท่าทางดุกดิกๆหล่ะก็  อย่าเอ็ดไปครับเงียบๆไว้ เดี๋ยวเค้าจะพาโกรธเรา ไปขัดความสุขเค้า
                     กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงกริ่งยาวปลุกประมาณ 6 โมงเช้า ให้ตื่นแล้วครับ   ประมาณ 6 โมง 15 นาที เจ้าหน้าที่ก็จะเดินมานับยอดแต่ละห้องขัง ก่อนปล่อยลงไปด้านล่าง เวลานี้เรียกว่าวุ่นวายมาก เราจะเห็นคนมากมายแย่งกันทำกิจวัตรประจำวัน ล้างหน้า แปรงฟัน  อาบน้ำ  อาจจะลายตาผู้คนมากมาย  เราก็งงๆไปก่อน  สัก 7 โมง ก็จะมีเสียงระฆังดังที่โรงเลี้ยง เรียกไปกินอาหารเช้า คราวนี้คนก็จะทยอยตั้งแถวกันเข้าไปตามโต๊ะ  มื้อเช้าก็จะดูดีกว่าเมื่อคืน  เพราะจะได้กินร้อนๆ ส่วนมากจะเป็นแกงจืดครับ  หรือถ้าใครติดกาแฟก็มี  พ่อค้าคุกนั่งขายกาแฟอยู่ครับไปใช้บริการได้ เหมือนเดิมแบบเครดิต  ระหว่างนี้อาจจะมีคนมากหน้าหลายตา เดินมาถาม มาคุย แบบคำถามเดิมๆที่เจอเมื่อคืน โดนคดีไรมา ข้างนอกบ้านอยู่ไหน  เข้าอยู่บ้านกับเค้าไหม     สัก 7 โมง 50 นาที กริ่งดังอีกครั้งเรียกเข้าแถว อาจมีเสียงตามสายเรียกคนใหม่ที่เข้ามาใหม่เมื่อคืนให้ไปเข้าแถวที่ไหนฟังให้ดีนะครับ   หลังจากเคารพธงชาติ  สวดมนต์แล้วก็อาจจะมีอบรม หรือชี้แจงข่าวสารเรื่องต่างๆจากเรือนจำอีกนิดหน่อย ก็จะปล่อยไปประจำตำแหน่งตามหน้าที่ของแต่ละคน ส่วนคนใหม่ก็จะมีคนมารับไปทำทะเบียนประวัติ  ถ่ายรูป  ตัดผม หากใครคิดว่าจะประกันตัวแล้วจะยังไม่ตัดก็แจ้งเค้าได้นะครับ แต่ให้ไม่เกิน 1 สัปดาห์  หากยังไม่ได้ประกันก็ต้องตัดผมครับ  แน่นอนครับ  คนใหม่ทุกคนจะได้ทรงเดียวกันกะลาครอบ  แต่พอแยกลงแดนแล้วก็อาจเลือกทรงผมได้นิดนึง ทรงฮิตมาแรงตลอดกาลก็ทรงสกินเฮดครับ  ไม่ต้องตัดกันบ่อยๆ  และถ้าอยากได้ทรงตามใจเรา ก็ต้องมีค่าฝีมือให้ช่างนิดนึงครับ น้ำสักกระป๋อง  อะไรประมาณนี้ ช่างตัดผมก็เป็นอีกอาชีพนึงในคุกที่มีรายได้ดีพอสมควร ตัดผมเรียบร้อยก็ไปต่อที่ตรวจร่างกาย  มีโรคประจำตัวอะไรบอกแพทย์ที่ตรวจได้ครับ  ถ้าตรวจร่างกายแล้วไม่เป็นอะไร ไม่เป็นโรคติดต่อให้คนอื่น  ก็อาจจะปล่อยให้ว่างหล่ะ  ก็เดินไปหาที่นั่ง  ที่หลบนอนพักหน่อย
           พอเที่ยงระฆังโรงเลี้ยงดังอีกครั้ง   พร้อมความวุ่นวายของผู้คนชาวคุก ที่ออกมาต่อแถวเพื่อรอเข้าโรงเลี้ยง  อาหารกลางวัน ส่วนมากก็จะเป็นข้าวต้ม กับผักดอง ถ้าเสาร์อาทิตย์ก็อาจมีขนมหวานครับดูแลดีจริงๆ และถ้าวันไหนมี  ผัดซีอิ๊ว  หรือ  ราดหน้า  โรงเลี้ยงจะแน่นเอียดเลยทีเดียว เพราะนานๆจะมีมาสักที    กินเสร็จก็พักผ่อนตามอัธยาศัยเลยครับ รอบ่ายโมง ก็จะเรียกรวมเข้าแถว นับยอดอีกครั้งก่อนปล่อยเข้าประจำตำแหน่งตามหน้าที่ตัวเอง  ส่วนเราคนใหม่ก็ไม่มีไรมาก  อบรมกฎเรือนจำ หรืออาจจะฝึกแถวอีกนิดๆหน่อยๆพอได้เหงื่อ บางทีก็อาจไปช่วยทำความสะอาดเรือนนอนบ้าง  ห้องน้ำบ้างและแต่ครูฝึกที่ดูแลคนใหม่จะพาไปทำ   สัก บ่าย 2 โมงครึ่ง  เค้าจะให้คนใหม่ไปอาบน้ำก่อน  ไม่ต้องรอพร้อมคนเก่าจะได้ไม่วุ่นวายมาก   เรียบร้อยแล้วก็รอเวลากินข้าวกันหล่ะ                    
                               มื้อเย็น ต้องถือว่าเป็นมื้อสำคัญเลยหล่ะ ต้องกินตุนไว้ เพราะหลังจากนี้เราต้องขึ้นไปอยู่บนเรือนนอนอีก 10 กว่าชั่วโมง มื้อนี้คนคุกที่อยู่บ้านเดียวกันจะมากินกันพร้อมหน้า  อาจจะเอาแกงที่ซื้อจากร้านค้ามาร่วมด้วย เรือนจำบางแห่งอาจมี พริก มะนาว กะปิ ขาย คนคุกก็จะทำน้ำพริกกะปิ มาร่วมกินด้วย เป็นมื้อที่ครบเครื่องเลยทีเดียว ส่วนเรายังไม่มีบ้าน ไม่มีพวกพ้อง ทางเรือนจำก็ยังดูแลครับ มื้อเย็นจะมีเสิร์ฟอาหาร 2 อย่าง เป็นแกง และ ผักผัก  หรืออาจปรับเปลี่ยนหมุนเวียน แต่จะมี 2 อย่างทุกเย็น   แล้วก็ผ่านไปอีกมื้อ   เห็นไหมครับเรือนจำมีข้าวให้เราครบ 3 มื้อ ไม่ต้องกังวลเรื่องจะไม่มีกิน   สำคัญที่เราจะกินไหมเท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่