ตอนนี้ก็ถึงเวลาต้องจำแนกแดนกันแล้วครับ หลังจากต้องจำเจกับกิจวัตรซ้ำซากในแดนแรกรับมาเป็นสัปดาห์ พอเราเคารพธงชาติเสร็จก็จะมีรายชื่อคนที่ต้องเข้ารับการจำแนกแดนครับ คนที่มีชื่อก็จะนั่งรอเจ้าหน้าที่มา แล้วเริ่มเรียกไล่ตามรายชื่อเพื่อซักถามคดีว่าเหมาะสมที่แดนไหน จนครบตามจำนวนรายชื่อแล้วก็จะปล่อยให้ไปเตรียมตัวย้ายแดนได้
เอาหล่ะครับก็ถึงเวลาเก็บของย้ายแดน พอกินข้าวเที่ยงเรียบร้อย ก็จะเรียกรวมคนที่ต้องย้ายกันหล่ะ ใครอยู่แดนไหนก็นั่งรวมกัน แล้วจะมีคนพาเราไปส่งถึงที่หน้าแดนใหม่กันเลย
การจำแนกแดน คือการแบ่งคนให้เหมาะสมตามการดูแลของเรือนจำ ส่วนมากเรือนจำแบ่งตามลักษณะคดี คดีที่อัตราโทษสูงก็จะอยู่รวมที่แดนนึง เรียกว่าแดนความมั่นคงสูง ส่วนคดีอัตราโทษไม่มากก็อยู่ด้วยกันอีกแดนนึง แต่บางเรือนจำมีการซอยแดนเยอะก็อาจมีรายละเอียดในการจำแนกได้มากขึ้น ก็อาจจะแดนมีวัยรุ่นเพิ่มมา แดนนี้จะเป็นคนที่อายุไม่เกิน 25 ปี หรือแดนเกษตร ไว้ปลูกผักเลี้ยงปลาใช้เป็นอาหารให้เรือนจำ แดนต่างๆมีการใช้งานต่างกัน เอาหล่ะครับมาทำความรู้จักกันว่าแต่ละแดนเป็นอย่างไร เอาที่หลักๆแล้วกันนะครับ
1. แดนแรกรับ สำหรับคนใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามา(รายละเอียดในตอนที่ 2)
2. แดนพยาบาล
ใช้ตรวจรักษาคนทั้งเรือนจำให้บริการ วันจันทร์-ศุกร์ ตามเวลาราชการ นอกเวลานี้หากมีกรณีฉุกเฉินก็ตามแพทย์มาดูอาการได้ เวลาปกติก็จะมีแพทย์มาเข้าเวรคอยตรวจรักษาให้ ถ้าเป็นเรือนจำใหญ่ๆ ก็จะมีเป็นโรงพยาบาลเลย รองรับเคสหนักถึงขั้นผ่าตัดได้เลยทีเดียว การได้รับการรักษาพยาบาลเป็นหนึ่งในสิทธิ์ที่คนคุกทุกคนจะได้รับ
การที่คนคุกจะมาใช้บริการที่แดนนี้ได้ไม่ใช่ตามใจฉันนะครับ ต้องลงชื่อและแจ้งด้วยว่าเป็นอะไรก่อน 8 โมง ไปแจ้งที่ทำการแดน และต้องแจ้งหัวหน้ากองงานที่เราสังกัดด้วย พอเคารพธงชาติเสร็จก็จะประกาศให้คนที่ลงชื่อไว้มาเข้าแถวรอ แล้วจะมีคนมาพาไปแดนพยาบาลครับ แล้วไม่ใช่ว่าจะไปได้บ่อยๆนะครับเพราะต้องมีอาการจริงๆ ไม่งั้นจะโดนแพทย์ท่านว่าได้ มาทำไมบ่อยๆ ให้คนอื่นมาบ้าง
การจ่ายยาที่นี่ก็เป็นที่รู้กันดีครับ เค้าจะไม่ค่อยให้เยอะ กินได้ 2-3 วัน ถ้าเป็นไข้เล็กๆน้อยๆ แล้วยังไม่หายดี ที่เหลือต้องพึ่งร่างกายให้หายเองหล่ะครับ แต่ถ้าเคสหนักจริงๆหรือโรคที่ต้องรักษาต่อเนื่องอย่างวัณโรค ก็ต้องมีลายเซนต์แพทย์ให้มารับยาได้ทุกวัน
ผมเข้าใจนะครับ เ พราะคนคุกมันรู้มาก แกล้งป่วยมาเอายา แล้วก็กักตุนยากันเก็บไว้ขายกันเอง และยิ่งยาบางตัวมีผลมึนเมาด้วยหล่ะก็ยิ่งได้ราคาดีเลย ถึงขนาดคนคุกที่มีหน้าที่ทำงานในแดนนี้ทำเป็นธุรกิจ แอบยักยอกยาไปขายเลยก็มี
ส่วนคนที่มีโรคประจำตัวก็ให้ญาติเอายามาฝากหน้าเรือนจำ รอแพทย์ประจำเรือนจำตรวจสอบก่อนนำให้เราครับ ยุ่งยากนิดหน่อยแต่ก็จำเป็นครับ ป้องกันการรั่วไหลของยาเสพติดเข้ามาที่เรือนจำ
แดนนี้ปกติคนคุกที่จะได้อยู่และนอนที่นี่โดยไม่มีหน้าที่อะไรก็ต้องเป็นคนป่วยอาการหนัก คนที่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง บางเรือนจำก็อาจเอากระเทยมาอยู่และทำงานที่นี่ คอยเป็นลูกมือแพทย์ ทำแผล จ่ายยา และนี่คงเป็นอีกเหตุผลนึง ที่มีคนคุกอยากมาแดนนี้บ่อยๆ ก็มีทั้งยาและกระเทย
3. แดนการศึกษา
แดนนี้ปกติจะถูกใช้งานเฉพาะตอนกลางวัน ก็จะมีคนคุกที่มีหน้าที่มาประจำที่นี่ เช่นดูแลห้องสมุด คอยพิมพ์ข้อมูล คอยอำนวยความสะดวก เก็บกวาด ช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ประจำแดนนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นคนคุกเหลือโทษจำคุกไม่มากเพราะแดนนี้นอกจากจะใช้เรียนแล้วยังเป็นที่อบรมวิชาชีพ เช่น ช่างตัดผม ช่างซ่อมโทรศัพท์ ฯลฯ ซึ่งก็จะมีบุคคลภายนอกเข้าออกเป็นประจำ ทั้งอาจารย์และวิทยากร ส่วนคนคุกทั่วไปที่ทำเรื่องเรียน กศน.ก็จะมาใช้เรียน แบ่งวันกันไป ประถม ม.ต้น และ ม.ปลาย
การกรองคนคุกที่จะมาเรียนนั้น น่าจะวัดจากโทษด้วย คงไม่สามารถเรียนได้เลยหากโทษเยอะๆ อาจต้องรอให้เหลือน้อยหน่อย ถึงจะลงเรียนได้ ส่วนเรียนระดับ ป.ตรี ก็ต้องเรียนเองทางไปรษณีย์กับมหาวิทยาลัยที่เค้าเปิดบริการครับ ติดคุกทั้งทีได้วุฒิ ได้ปริญญาสักใบก็ดีนะครับ เพราะตอนอยู่ข้างนอกไม่ค่อยคิดจะเรียนสักเท่าไหร่ เอ้ย !! ไม่ใช่ๆพูดผิด ไม่ค่อยจะมีเวลาเท่าไหร่
4. แดนสูทกรรม (โรงครัว)
แดนนี้ก็เป็นอีกแดนที่ใช้ทำงานเท่านั้น แต่บางเรือนจำอาจให้คนคุกที่ได้รับโอกาศไปทำงานภายนอกเรือนจำ หรือกองงานสาธารณะ เข้าใจง่ายๆคือ พวกที่ได้ออกไปลอกท่อข้างนอก มานอนที่นี่เพื่อจะได้กินข้าวก่อนแล้วออกไปทำงานได้แต่เช้า งานที่นี่กะแรกจะเริ่มตอนตี 4 ครับ ต้องมาทำอาหารเลี้ยงคนทั้งเรือนจำ ให้ไปถึงทุกแดนก่อน 7 โมง งานหนักพอสมควร หั่นผัก หั่นปลา หุงข้าว ทำทีละจำนวนมากๆ เลี้ยงคนทั้งเรือนจำ คนคุกที่จะมาทำงานที่นี่ได้ต้องขยัน อดทน มากพอสมควรเพราะงานต้องทำทุกวัน ไม่มีวันหยุดเหมือนงานอื่น การคัดคนมาที่นี่ก็ไม่ง่ายครับ ต้องเป็นพวกที่มีความประพฤติดี ดูสะอาด ไม่มีรอยสักและส่วนมากจะเอาพวกที่ติดคุกรอบแรก เพราะยังไม่ค่อยรู้มาก และเหลือโทษจำคุกไม่มากนัก
คนคุกที่ทำงานที่นี้ก็มีข้อดีที่แลกกับความขยัน อดทน คือ กินดีกว่าคนอื่น เนื้อสัตว์เน้นๆ รสชาติที่ปรุงเองตามใจ ทำเมนูตามใจตัวเองได้หากวัตถุดิบเอื้ออำนวย เรียกได้ว่ากินดีทุกมื้อเลย มีบางทีอาจหารายได้พิเศษด้วยการแอบทอดปลา ทอดไก่ (ไม่ต้องลงทุนด้วย) ขายตามออร์เดอร์ แล้วแอบใส่ถังข้าวส่งตามแดน แต่ต้องดูให้ดีนะโดนจับได้ โดนทำโทษ แล้วย้ายงานเลยหล่ะ
5. แดนโทษสูง (แดนความมั่นคงสูง)
ต้องยอมรับโดยดีเลยครับว่า แดนนี้ผมไม่มีบุญได้เข้าไปเหยียบครับเพราะต้องมีโทษหลัก 10 ปีขึ้นไป แต่พอมีข้อมูลนิดหน่อยจากปากคนที่เคยอยู่ เอาด้านสังคมก่อนนะครับ ที่นี่คนคุกทุกคนจะไม่ค่อยอยากกระทบกระทั่งกันสักเท่าไหร่ เพราะแต่ละคนโทษหนักๆกันทั้งนั้น จะพูดจากันดี น่าจะเนื่องด้วยจาก คนที่ทำคดีหนักๆได้ต้องเป็นคนจริงพอสมควร อย่างพ่อค้ายารายใหญ่ คดีปล้น หรือคดีฆ่า ไม่ค่อยมีพวกขี้ยาขาเสพ พวกลักขโมยปลายแถวสักเท่าไหร่ ที่นี่เลยจะมีแต่ขาใหญ่ คนจริงกันทั้งนั้น
อีกเหตุผลนึงที่แดนนี้ไม่ค่อยมีปัญหาทะเลาะกันคือ เพราะหากมีตีกันจนถึงตาย ก็จะโดนต่อคดีแค่ 5 ปี ไม่สะพรึงเค้าเลย คดีที่มีอยู่ก็เยอะหล่ะ หากถึงจุดเดือดจะต้องเพิ่มอีก 5ปี ไม่เท่าไหร่มั้ง เรื่องระเบียบที่นี้อาจจะเข้มงวดเรื่องการตวจค้น เวลาเข้าออก หรือกลับจากศาล แต่ระเบียบเล็กๆน้อยๆ จะไม่ค่อยเท่าไหร่ คือไม่กดดันเรื่องเล็ก แต่จะรัดกุมเรื่องใหญ่มากกว่า
มาที่กองงาน ก็จะเน้นงานที่ใช้ทักษะ ฝึกทำกันนานๆ ออกไปก็ใช้หากินได้เลย อย่าง ช่างไม้ ช่างเชื่อม ช่างหนัง หรือใช้จักรเย็บผ้า ทางด้านจิตใจของคนคุกในแดนนี้ ต้องเรียกได้ว่าต้องการกำลังใจที่ดีและจิตใจเข้มแข็งมากๆ เนื่องจากโทษจำคุกที่หนักอึ้งที่คอยกัดกร่อนจิตใจเค้าอยู่ทุกวี่วัน หากมัวแต่คิดสลดหดหู่ คงอยู่ไม่ถึงวันพ้นโทษเป็นแน่ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่จะประจำแดนนี้ก็คงต้องได้รับการอบรมเป็นพิเศษในเรื่องจิตวิทยาที่จะใช้กับคุนคุกแดนโทษสูงมาพอสมควร ต้องขออภัยนะครับข้อมูลไม่มาก ไม่อาจเอื้อมที่จะได้เข้าไปครับ
6.แดนคดีทั่วๆไป
พูดกันง่ายๆเลยแดนนี้รวมสารพัดผู้คน สารพัดคดี ตั้งแต่คดีเล็กๆ จนถึงคดีใหญ่ๆดังๆ ขี้ยา ขี้เมา ขี้ขโมย ขี้โกง ข่มขืน นักเลง นักฆ่า มีหมดครับ แดนนี้จะเป็นแดนที่เราต้องอยู่แบบถาวรตามคำตัดสินแล้วครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของเรือนจำแต่ละที่ แต่ละแดนหล่ะครับ ว่าขีดความสามารถการป้องกันได้ถึงโทษกี่ปี ถ้าเราไม่เกินก็ต้องอยู่ที่แดนนี้ จนพ้นโทษหล่ะครับ (หากเรือนจำคนเยอะมากเกิน อาจย้ายไปเรือนจำปิดที่อื่นได้นะครับ อ่อ เรือนจำปิดคือเรือนจำที่มีแต่คนคุกที่ตัดสินเรียบร้อยแล้วครับ )
พอย่างก้าวเข้าสู่แดนนี้จะยิ่งวุ่นวายมากกว่าแดนแรกรับมากนัก เพราะมีคนเยอะมาก บางที่หลักพันเลย ทั้งยังมีกองงาน ร้านค้า สนามบอล เรือนนอน ทำเอาตื่นตาตื่นใจพอสมควรเลย พอกลุ่มคนใหม่เข้ามาถึง จะมีคนคุกหลากหลาย เดินมาวนมาเวียนดู ว่ามีคนที่มันรู้จักไหม หรือถ้าใครมีลักษณะอ่อนโลก ให้พอจะหาหลอกกินได้ไหม ตอนนี้หล่ะครับ เราต้องพยายาม นิ่งๆไว้ครับ อย่าแสดงอาการตื่นคุกให้มากไป “ ตื่นตัว แต่อย่าตื่นเต้นครับ” และยังคงเจอคำถามเดิมๆ โดนคดีอะไรมา บ้านอยู่แถวไหน เมื่อยปากตอบกันอีกสักพักเลยหล่ะ
ต่อมาก็เป็นช่วงที่เราต้องนั่งรอให้คนคุกที่ทำหน้าที่แบ่งเราลงห้องหรือเรียกว่า เสมียนแดน เพราะที่นี่จะมีห้องนอนเยอะครับ เค้าต้องไปดูห้องไหนว่า พอว่างเอาคนใหม่ลงได้ กระจายๆกันไป ถ้าบางคนที่เจอเพื่อนที่แดนนี้ ก็อาจจะเสียค่าธรรมเนียมให้เสมียนแดนนิดนึง เพื่อจะให้ไปนอนห้องเดียวกันครับ ราคาก็บุหรี่ซอง หรือ 2 ซองก็ว่ากันไป ส่วนคนไม่เจอใครก็ตามยถากรรมครับ ห้องไหนก็คุกเหมือนกันครับ
เสร็จแล้วก็จะได้รับแจกตู้ล๊อคเกอร์ไว้เก็บของส่วนตัว เสื้อผ้า ของใช้ ให้เราครับ เราก็เอาของไปเก็บ แล้วค่อยหาซื้อกุญแจมาล๊อคเอาครับ เสร็จจากนี้ก็ปล่อยตัวใครตัวมันหล่ะ คนมีเพื่อนจริงๆ เน้นนะครับ เพื่อนจริงก็ไปกับเพื่อนมัน ส่วนคนมีเพื่อนไม่ค่อยจริง ก็จะโดนเพื่อนไม่ค่อยจริง พาไปหล่ะครับ อย่าเพิ่งตกใจไปครับ มันแค่พาไปเอาของไปเก็บกับมัน เอาเข้าบ้านมัน ไปแนะนำคนในบ้าน ยังไม่มีไรเกินเลยครับ ยังอยู่ในขั้นหยั่งเชิงกัน
ส่วนเราถ้าไม่มีคนดึงไป ไม่มีคนรู้จัก หรือไม่อยากไปกับใครก็ตาม ก็ดูๆเอาครับว่าเค้าทำอะไรกัน ถึงตอนนี้น่าจะใกล้เวลากินข้าวเย็นแล้ว อ่อ ลืมบอกเรื่องสำคัญไปเลย ที่แดนนี้ไม่มีช้อนกับขันอาบน้ำให้เรานะครับ แดนแรกรับอาจมีให้คนใหม่ใช้ แต่แดนนี้ดูแลตัวเองครับ หาซื้อเอาที่ร้านค้าก่อนเลยครับ แล้วก็ไปเข้าแถวรอกินข้าวกัน คนคุกที่แดนนี้จะเข้าแถวกินข้าวกันเป็นกลุ่มๆ เป็นบ้านๆครับ เพราะเค้าจะได้ร่วมโต๊ะเดียวกัน เราอาจจะต้องไปยืนอยู่ท้ายๆแถวหน่อย ไม่มีคู่ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวคนที่ไม่มีคู่เหมือนกันก็จะมาเข้าคู่กินข้าวกับเราเอง มีเยอะครับคนที่อยู่ในคุกคนเดียว
เมื่อกินข้าวเสร็จก็ไปเข้าแถวอาบน้ำต่อหล่ะครับ ในแดนนี้คนเยอะมากครับทำทุกอย่างต้องเข้าแถวกัน ระหว่างรอเราอาจจะได้ยินเสียงโซ่กระทบกันดัง กรุ๊งกริ๊งๆ อยู่ทั่วไปในเวลานี้ มันเป็นเสียงของการทำความสะอาดโซ่ตรวน โซ่ตรวนจะเป็นห่วงเหล็กหนา 2 ห่วงที่สวมไว้ที่ข้อเท้าของเรา ข้างละห่วงและถูกร้อยด้วยโซ่ยาวพอให้ก้าวขาได้ แต่ไม่สะดวกนัก สำหรับคนที่ใส่โซ่ตรวน จะได้อภิสิทธ์ในการอาบน้ำก่อนใคร เพราะเค้าต้องนั่งขัด ถู เช็ดทำความสะอาดมันอีก ไม่งั้นโซ่ตรวนที่เป็นสนิท อาจทำให้ขาเน่าได้
ส่วนคนที่โชคดีที่ได้ใส่นั้นก็มีหลายกรณีครับ แบบแรกเลยจะมีกลุ่มคดีที่ต้องใส่โซ่ตรวน เช่น ปล้น ฆ่า หรือจำหน่ายยาเสพติดจำนวนมากๆ พวกนี้จะได้ใส่กันนานหล่ะครับ เป็นเดือนเลย ต้องกินนอนกับโซ่ตรวนเลยหล่ะ และอีกกลุ่มคือทำผิดกฎเรือนจำ ทะเลาะวิวาท การพนัน ยาเสพติด ฯลฯ พวกนี้อาจไม่นานถ้าไม่ร้ายแรงจริงๆ อาทิตย์สองอาทิตย์ประมาณนั้น
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย กินข้าว อาบน้ำ กันเสร็จสิ้นทั้งแดน ก็จะมีเสียงกริ่งเรียกรวมแถวขึ้นเรือนนอนกันหล่ะครับ เราก็อาจจะถูกเรียกรวม แล้วจะมีหัวหน้าห้องมารับเราไปที่แถวประจำห้อง การตรวจค้นก่อนขึ้นเรือนนอนก็จะให้เราเดินถอดเสื้อ เรียงแถวเข้ารับการค้น จาก ผชล. (ผู้ช่วยเหลือ) ก็คือคนคุกที่เข้ารับการอบรม การฝึกแบบพิเศษเพื่อคอยช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ครับเพราะแดนนี้คนเยอะ ลำพังแค่เจ้าหน้าที่คงไม่พอ ดูแลไม่ทั่วถึงครับ
การเข้าคุกอย่างไรให้ถูกวิธี ? แลัวอยู่รอดปลอดภัย ตอนที่ 3 จำแนกแดน ( เปิดประตูดูทุกแดน )
เอาหล่ะครับก็ถึงเวลาเก็บของย้ายแดน พอกินข้าวเที่ยงเรียบร้อย ก็จะเรียกรวมคนที่ต้องย้ายกันหล่ะ ใครอยู่แดนไหนก็นั่งรวมกัน แล้วจะมีคนพาเราไปส่งถึงที่หน้าแดนใหม่กันเลย
การจำแนกแดน คือการแบ่งคนให้เหมาะสมตามการดูแลของเรือนจำ ส่วนมากเรือนจำแบ่งตามลักษณะคดี คดีที่อัตราโทษสูงก็จะอยู่รวมที่แดนนึง เรียกว่าแดนความมั่นคงสูง ส่วนคดีอัตราโทษไม่มากก็อยู่ด้วยกันอีกแดนนึง แต่บางเรือนจำมีการซอยแดนเยอะก็อาจมีรายละเอียดในการจำแนกได้มากขึ้น ก็อาจจะแดนมีวัยรุ่นเพิ่มมา แดนนี้จะเป็นคนที่อายุไม่เกิน 25 ปี หรือแดนเกษตร ไว้ปลูกผักเลี้ยงปลาใช้เป็นอาหารให้เรือนจำ แดนต่างๆมีการใช้งานต่างกัน เอาหล่ะครับมาทำความรู้จักกันว่าแต่ละแดนเป็นอย่างไร เอาที่หลักๆแล้วกันนะครับ
1. แดนแรกรับ สำหรับคนใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามา(รายละเอียดในตอนที่ 2)
2. แดนพยาบาล
ใช้ตรวจรักษาคนทั้งเรือนจำให้บริการ วันจันทร์-ศุกร์ ตามเวลาราชการ นอกเวลานี้หากมีกรณีฉุกเฉินก็ตามแพทย์มาดูอาการได้ เวลาปกติก็จะมีแพทย์มาเข้าเวรคอยตรวจรักษาให้ ถ้าเป็นเรือนจำใหญ่ๆ ก็จะมีเป็นโรงพยาบาลเลย รองรับเคสหนักถึงขั้นผ่าตัดได้เลยทีเดียว การได้รับการรักษาพยาบาลเป็นหนึ่งในสิทธิ์ที่คนคุกทุกคนจะได้รับ
การที่คนคุกจะมาใช้บริการที่แดนนี้ได้ไม่ใช่ตามใจฉันนะครับ ต้องลงชื่อและแจ้งด้วยว่าเป็นอะไรก่อน 8 โมง ไปแจ้งที่ทำการแดน และต้องแจ้งหัวหน้ากองงานที่เราสังกัดด้วย พอเคารพธงชาติเสร็จก็จะประกาศให้คนที่ลงชื่อไว้มาเข้าแถวรอ แล้วจะมีคนมาพาไปแดนพยาบาลครับ แล้วไม่ใช่ว่าจะไปได้บ่อยๆนะครับเพราะต้องมีอาการจริงๆ ไม่งั้นจะโดนแพทย์ท่านว่าได้ มาทำไมบ่อยๆ ให้คนอื่นมาบ้าง
การจ่ายยาที่นี่ก็เป็นที่รู้กันดีครับ เค้าจะไม่ค่อยให้เยอะ กินได้ 2-3 วัน ถ้าเป็นไข้เล็กๆน้อยๆ แล้วยังไม่หายดี ที่เหลือต้องพึ่งร่างกายให้หายเองหล่ะครับ แต่ถ้าเคสหนักจริงๆหรือโรคที่ต้องรักษาต่อเนื่องอย่างวัณโรค ก็ต้องมีลายเซนต์แพทย์ให้มารับยาได้ทุกวัน
ผมเข้าใจนะครับ เ พราะคนคุกมันรู้มาก แกล้งป่วยมาเอายา แล้วก็กักตุนยากันเก็บไว้ขายกันเอง และยิ่งยาบางตัวมีผลมึนเมาด้วยหล่ะก็ยิ่งได้ราคาดีเลย ถึงขนาดคนคุกที่มีหน้าที่ทำงานในแดนนี้ทำเป็นธุรกิจ แอบยักยอกยาไปขายเลยก็มี
ส่วนคนที่มีโรคประจำตัวก็ให้ญาติเอายามาฝากหน้าเรือนจำ รอแพทย์ประจำเรือนจำตรวจสอบก่อนนำให้เราครับ ยุ่งยากนิดหน่อยแต่ก็จำเป็นครับ ป้องกันการรั่วไหลของยาเสพติดเข้ามาที่เรือนจำ
แดนนี้ปกติคนคุกที่จะได้อยู่และนอนที่นี่โดยไม่มีหน้าที่อะไรก็ต้องเป็นคนป่วยอาการหนัก คนที่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง บางเรือนจำก็อาจเอากระเทยมาอยู่และทำงานที่นี่ คอยเป็นลูกมือแพทย์ ทำแผล จ่ายยา และนี่คงเป็นอีกเหตุผลนึง ที่มีคนคุกอยากมาแดนนี้บ่อยๆ ก็มีทั้งยาและกระเทย
3. แดนการศึกษา
แดนนี้ปกติจะถูกใช้งานเฉพาะตอนกลางวัน ก็จะมีคนคุกที่มีหน้าที่มาประจำที่นี่ เช่นดูแลห้องสมุด คอยพิมพ์ข้อมูล คอยอำนวยความสะดวก เก็บกวาด ช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่ประจำแดนนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นคนคุกเหลือโทษจำคุกไม่มากเพราะแดนนี้นอกจากจะใช้เรียนแล้วยังเป็นที่อบรมวิชาชีพ เช่น ช่างตัดผม ช่างซ่อมโทรศัพท์ ฯลฯ ซึ่งก็จะมีบุคคลภายนอกเข้าออกเป็นประจำ ทั้งอาจารย์และวิทยากร ส่วนคนคุกทั่วไปที่ทำเรื่องเรียน กศน.ก็จะมาใช้เรียน แบ่งวันกันไป ประถม ม.ต้น และ ม.ปลาย
การกรองคนคุกที่จะมาเรียนนั้น น่าจะวัดจากโทษด้วย คงไม่สามารถเรียนได้เลยหากโทษเยอะๆ อาจต้องรอให้เหลือน้อยหน่อย ถึงจะลงเรียนได้ ส่วนเรียนระดับ ป.ตรี ก็ต้องเรียนเองทางไปรษณีย์กับมหาวิทยาลัยที่เค้าเปิดบริการครับ ติดคุกทั้งทีได้วุฒิ ได้ปริญญาสักใบก็ดีนะครับ เพราะตอนอยู่ข้างนอกไม่ค่อยคิดจะเรียนสักเท่าไหร่ เอ้ย !! ไม่ใช่ๆพูดผิด ไม่ค่อยจะมีเวลาเท่าไหร่
4. แดนสูทกรรม (โรงครัว)
แดนนี้ก็เป็นอีกแดนที่ใช้ทำงานเท่านั้น แต่บางเรือนจำอาจให้คนคุกที่ได้รับโอกาศไปทำงานภายนอกเรือนจำ หรือกองงานสาธารณะ เข้าใจง่ายๆคือ พวกที่ได้ออกไปลอกท่อข้างนอก มานอนที่นี่เพื่อจะได้กินข้าวก่อนแล้วออกไปทำงานได้แต่เช้า งานที่นี่กะแรกจะเริ่มตอนตี 4 ครับ ต้องมาทำอาหารเลี้ยงคนทั้งเรือนจำ ให้ไปถึงทุกแดนก่อน 7 โมง งานหนักพอสมควร หั่นผัก หั่นปลา หุงข้าว ทำทีละจำนวนมากๆ เลี้ยงคนทั้งเรือนจำ คนคุกที่จะมาทำงานที่นี่ได้ต้องขยัน อดทน มากพอสมควรเพราะงานต้องทำทุกวัน ไม่มีวันหยุดเหมือนงานอื่น การคัดคนมาที่นี่ก็ไม่ง่ายครับ ต้องเป็นพวกที่มีความประพฤติดี ดูสะอาด ไม่มีรอยสักและส่วนมากจะเอาพวกที่ติดคุกรอบแรก เพราะยังไม่ค่อยรู้มาก และเหลือโทษจำคุกไม่มากนัก
คนคุกที่ทำงานที่นี้ก็มีข้อดีที่แลกกับความขยัน อดทน คือ กินดีกว่าคนอื่น เนื้อสัตว์เน้นๆ รสชาติที่ปรุงเองตามใจ ทำเมนูตามใจตัวเองได้หากวัตถุดิบเอื้ออำนวย เรียกได้ว่ากินดีทุกมื้อเลย มีบางทีอาจหารายได้พิเศษด้วยการแอบทอดปลา ทอดไก่ (ไม่ต้องลงทุนด้วย) ขายตามออร์เดอร์ แล้วแอบใส่ถังข้าวส่งตามแดน แต่ต้องดูให้ดีนะโดนจับได้ โดนทำโทษ แล้วย้ายงานเลยหล่ะ
5. แดนโทษสูง (แดนความมั่นคงสูง)
ต้องยอมรับโดยดีเลยครับว่า แดนนี้ผมไม่มีบุญได้เข้าไปเหยียบครับเพราะต้องมีโทษหลัก 10 ปีขึ้นไป แต่พอมีข้อมูลนิดหน่อยจากปากคนที่เคยอยู่ เอาด้านสังคมก่อนนะครับ ที่นี่คนคุกทุกคนจะไม่ค่อยอยากกระทบกระทั่งกันสักเท่าไหร่ เพราะแต่ละคนโทษหนักๆกันทั้งนั้น จะพูดจากันดี น่าจะเนื่องด้วยจาก คนที่ทำคดีหนักๆได้ต้องเป็นคนจริงพอสมควร อย่างพ่อค้ายารายใหญ่ คดีปล้น หรือคดีฆ่า ไม่ค่อยมีพวกขี้ยาขาเสพ พวกลักขโมยปลายแถวสักเท่าไหร่ ที่นี่เลยจะมีแต่ขาใหญ่ คนจริงกันทั้งนั้น
อีกเหตุผลนึงที่แดนนี้ไม่ค่อยมีปัญหาทะเลาะกันคือ เพราะหากมีตีกันจนถึงตาย ก็จะโดนต่อคดีแค่ 5 ปี ไม่สะพรึงเค้าเลย คดีที่มีอยู่ก็เยอะหล่ะ หากถึงจุดเดือดจะต้องเพิ่มอีก 5ปี ไม่เท่าไหร่มั้ง เรื่องระเบียบที่นี้อาจจะเข้มงวดเรื่องการตวจค้น เวลาเข้าออก หรือกลับจากศาล แต่ระเบียบเล็กๆน้อยๆ จะไม่ค่อยเท่าไหร่ คือไม่กดดันเรื่องเล็ก แต่จะรัดกุมเรื่องใหญ่มากกว่า
มาที่กองงาน ก็จะเน้นงานที่ใช้ทักษะ ฝึกทำกันนานๆ ออกไปก็ใช้หากินได้เลย อย่าง ช่างไม้ ช่างเชื่อม ช่างหนัง หรือใช้จักรเย็บผ้า ทางด้านจิตใจของคนคุกในแดนนี้ ต้องเรียกได้ว่าต้องการกำลังใจที่ดีและจิตใจเข้มแข็งมากๆ เนื่องจากโทษจำคุกที่หนักอึ้งที่คอยกัดกร่อนจิตใจเค้าอยู่ทุกวี่วัน หากมัวแต่คิดสลดหดหู่ คงอยู่ไม่ถึงวันพ้นโทษเป็นแน่ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่จะประจำแดนนี้ก็คงต้องได้รับการอบรมเป็นพิเศษในเรื่องจิตวิทยาที่จะใช้กับคุนคุกแดนโทษสูงมาพอสมควร ต้องขออภัยนะครับข้อมูลไม่มาก ไม่อาจเอื้อมที่จะได้เข้าไปครับ
6.แดนคดีทั่วๆไป
พูดกันง่ายๆเลยแดนนี้รวมสารพัดผู้คน สารพัดคดี ตั้งแต่คดีเล็กๆ จนถึงคดีใหญ่ๆดังๆ ขี้ยา ขี้เมา ขี้ขโมย ขี้โกง ข่มขืน นักเลง นักฆ่า มีหมดครับ แดนนี้จะเป็นแดนที่เราต้องอยู่แบบถาวรตามคำตัดสินแล้วครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของเรือนจำแต่ละที่ แต่ละแดนหล่ะครับ ว่าขีดความสามารถการป้องกันได้ถึงโทษกี่ปี ถ้าเราไม่เกินก็ต้องอยู่ที่แดนนี้ จนพ้นโทษหล่ะครับ (หากเรือนจำคนเยอะมากเกิน อาจย้ายไปเรือนจำปิดที่อื่นได้นะครับ อ่อ เรือนจำปิดคือเรือนจำที่มีแต่คนคุกที่ตัดสินเรียบร้อยแล้วครับ )
พอย่างก้าวเข้าสู่แดนนี้จะยิ่งวุ่นวายมากกว่าแดนแรกรับมากนัก เพราะมีคนเยอะมาก บางที่หลักพันเลย ทั้งยังมีกองงาน ร้านค้า สนามบอล เรือนนอน ทำเอาตื่นตาตื่นใจพอสมควรเลย พอกลุ่มคนใหม่เข้ามาถึง จะมีคนคุกหลากหลาย เดินมาวนมาเวียนดู ว่ามีคนที่มันรู้จักไหม หรือถ้าใครมีลักษณะอ่อนโลก ให้พอจะหาหลอกกินได้ไหม ตอนนี้หล่ะครับ เราต้องพยายาม นิ่งๆไว้ครับ อย่าแสดงอาการตื่นคุกให้มากไป “ ตื่นตัว แต่อย่าตื่นเต้นครับ” และยังคงเจอคำถามเดิมๆ โดนคดีอะไรมา บ้านอยู่แถวไหน เมื่อยปากตอบกันอีกสักพักเลยหล่ะ
ต่อมาก็เป็นช่วงที่เราต้องนั่งรอให้คนคุกที่ทำหน้าที่แบ่งเราลงห้องหรือเรียกว่า เสมียนแดน เพราะที่นี่จะมีห้องนอนเยอะครับ เค้าต้องไปดูห้องไหนว่า พอว่างเอาคนใหม่ลงได้ กระจายๆกันไป ถ้าบางคนที่เจอเพื่อนที่แดนนี้ ก็อาจจะเสียค่าธรรมเนียมให้เสมียนแดนนิดนึง เพื่อจะให้ไปนอนห้องเดียวกันครับ ราคาก็บุหรี่ซอง หรือ 2 ซองก็ว่ากันไป ส่วนคนไม่เจอใครก็ตามยถากรรมครับ ห้องไหนก็คุกเหมือนกันครับ
เสร็จแล้วก็จะได้รับแจกตู้ล๊อคเกอร์ไว้เก็บของส่วนตัว เสื้อผ้า ของใช้ ให้เราครับ เราก็เอาของไปเก็บ แล้วค่อยหาซื้อกุญแจมาล๊อคเอาครับ เสร็จจากนี้ก็ปล่อยตัวใครตัวมันหล่ะ คนมีเพื่อนจริงๆ เน้นนะครับ เพื่อนจริงก็ไปกับเพื่อนมัน ส่วนคนมีเพื่อนไม่ค่อยจริง ก็จะโดนเพื่อนไม่ค่อยจริง พาไปหล่ะครับ อย่าเพิ่งตกใจไปครับ มันแค่พาไปเอาของไปเก็บกับมัน เอาเข้าบ้านมัน ไปแนะนำคนในบ้าน ยังไม่มีไรเกินเลยครับ ยังอยู่ในขั้นหยั่งเชิงกัน
ส่วนเราถ้าไม่มีคนดึงไป ไม่มีคนรู้จัก หรือไม่อยากไปกับใครก็ตาม ก็ดูๆเอาครับว่าเค้าทำอะไรกัน ถึงตอนนี้น่าจะใกล้เวลากินข้าวเย็นแล้ว อ่อ ลืมบอกเรื่องสำคัญไปเลย ที่แดนนี้ไม่มีช้อนกับขันอาบน้ำให้เรานะครับ แดนแรกรับอาจมีให้คนใหม่ใช้ แต่แดนนี้ดูแลตัวเองครับ หาซื้อเอาที่ร้านค้าก่อนเลยครับ แล้วก็ไปเข้าแถวรอกินข้าวกัน คนคุกที่แดนนี้จะเข้าแถวกินข้าวกันเป็นกลุ่มๆ เป็นบ้านๆครับ เพราะเค้าจะได้ร่วมโต๊ะเดียวกัน เราอาจจะต้องไปยืนอยู่ท้ายๆแถวหน่อย ไม่มีคู่ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวคนที่ไม่มีคู่เหมือนกันก็จะมาเข้าคู่กินข้าวกับเราเอง มีเยอะครับคนที่อยู่ในคุกคนเดียว
เมื่อกินข้าวเสร็จก็ไปเข้าแถวอาบน้ำต่อหล่ะครับ ในแดนนี้คนเยอะมากครับทำทุกอย่างต้องเข้าแถวกัน ระหว่างรอเราอาจจะได้ยินเสียงโซ่กระทบกันดัง กรุ๊งกริ๊งๆ อยู่ทั่วไปในเวลานี้ มันเป็นเสียงของการทำความสะอาดโซ่ตรวน โซ่ตรวนจะเป็นห่วงเหล็กหนา 2 ห่วงที่สวมไว้ที่ข้อเท้าของเรา ข้างละห่วงและถูกร้อยด้วยโซ่ยาวพอให้ก้าวขาได้ แต่ไม่สะดวกนัก สำหรับคนที่ใส่โซ่ตรวน จะได้อภิสิทธ์ในการอาบน้ำก่อนใคร เพราะเค้าต้องนั่งขัด ถู เช็ดทำความสะอาดมันอีก ไม่งั้นโซ่ตรวนที่เป็นสนิท อาจทำให้ขาเน่าได้
ส่วนคนที่โชคดีที่ได้ใส่นั้นก็มีหลายกรณีครับ แบบแรกเลยจะมีกลุ่มคดีที่ต้องใส่โซ่ตรวน เช่น ปล้น ฆ่า หรือจำหน่ายยาเสพติดจำนวนมากๆ พวกนี้จะได้ใส่กันนานหล่ะครับ เป็นเดือนเลย ต้องกินนอนกับโซ่ตรวนเลยหล่ะ และอีกกลุ่มคือทำผิดกฎเรือนจำ ทะเลาะวิวาท การพนัน ยาเสพติด ฯลฯ พวกนี้อาจไม่นานถ้าไม่ร้ายแรงจริงๆ อาทิตย์สองอาทิตย์ประมาณนั้น
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย กินข้าว อาบน้ำ กันเสร็จสิ้นทั้งแดน ก็จะมีเสียงกริ่งเรียกรวมแถวขึ้นเรือนนอนกันหล่ะครับ เราก็อาจจะถูกเรียกรวม แล้วจะมีหัวหน้าห้องมารับเราไปที่แถวประจำห้อง การตรวจค้นก่อนขึ้นเรือนนอนก็จะให้เราเดินถอดเสื้อ เรียงแถวเข้ารับการค้น จาก ผชล. (ผู้ช่วยเหลือ) ก็คือคนคุกที่เข้ารับการอบรม การฝึกแบบพิเศษเพื่อคอยช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ครับเพราะแดนนี้คนเยอะ ลำพังแค่เจ้าหน้าที่คงไม่พอ ดูแลไม่ทั่วถึงครับ