*ใครเคยติดคุกบ้างคะ มันเป็นยังไง*

อยากทราบคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ในคุก!!!

  อดีต รปภ.ของตึก พี่เขาเคยติดคุกข้อหาฆ่าคนตาย....โดยเจตนา
พอพ้นโทษมาก็มาทำงานให้เจ้านายโดยรับหน้าที่ดูแลเฝ้าตึกที่กำลังสร้าง ยาวจนถึง ตึกเสร็จพนักงานย้ายเข้าทำงาน แกถึงลาออกไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด ติดประมาณ แปดปี ปฎิบัติตัวดี เป็นนักโทษชั้นดีตลอดจนพ้นวาระ
   ผมมีโอกาสได้นั่งคุยกับแกในช่วงเย็นๆตอนย้ายข้าวของมาออฟฟิศใหม่ๆ
ถามอย่างที่เจ้าของกระทู้ถามนั่นแหล่ะ ได้ความดังนี้......(เป็นคำบอกเล่าของอดีตนักโทษน่ะครับ เท่าที่ผมพอจะจำได้)
  
....วันแรกที่ศาลพิพากษาเสร็จสิ้น ก็ต้อง ไปเข้าเรือนจำทันที ปลดทุกอย่างออก แก้ผ้าเปลือยเปล่า เพื่อตรวจหาสารเสพติด ตรวจทุกตารางนิ้ว ไม่เว้นแม้แต่รูทวาร...จากนั้นรับชุดนักโทษส่งเข้าแดนขังแรกรับ มีนักโทษจำนวนมากในนั้น แกก็ระแวงระวังหวาดกลัวเช่นกัน แต่ก็ใจชื้นอยู่หน่อยตรงที่แกเป็นทหารมาก่อน เสธฯท่านหนึ่งจึงฝากฝังแกไว้กับนักโทษเด็ดขาดคนหนึ่ง ที่มีอิทธิพลพอสมควรในบางขวาง ให้ช่วยดูแลด้วย แกจึงผ่านพ้นพิธีรับน้องเฟรซชี่ แบบหวุดหวิด โดนก็แค่สถานเบา หากใครไม่มีคนคุ้มครอง ก็จะเป็นเหมือนสิ่งของชิ้นหนึ่งที่ขาใหญ่แต่ล่ะคนต้องการมาครองเป็นสมุน เป็นลูกน้อง เพื่อ!!!   ถ้านักโทษหน้าใหม่ใสปิ๊ง ขาวหล่อ เสร็จแน่ๆ แตกเนื้อสาวอย่างแน่นอน  ถ้ามีญาติมาเยี่ยม ของเยี่ยมเพียง 5 เปอร์เซนต์จากร้อยเท่านั้น ที่เจ้าของจะได้รับจริงๆที่เหลือขาใหญ่ต้นสังกัดจัดการ!

.... หลังจากแดนแรกรับ ประมาณ 3 เดือนแกก็ถูกส่งเข้าไปแดน ที่แกจะต้องอยู่ตามโทษฐานที่แกได้รับจริงๆเสียที ....ทุกอย่างในแดนนี้
แกค่อนข้างสบายกว่าคนอื่นๆอยู่บ้างตรงที่ ขาใหญ่ที่รับฝากแกมา คุ้มกะลาหัวอยู่แกจึงใช้ชีวิต น.ช. ได้ค่อนข้างราบรื่น แต่ก็ยังลำบากกว่าโลกอิสระภาพภายนอกเป็นร้อยเป็นพันเท่า!!!  
  ....ชีวิตประจำวัน ในแต่ล่ะวันไม่มีอะไรมากนอกเสียจากต่อสู้กับจิตใจตัวเอง ที่อ้างว้างหว้าเหว่ สะกดกลั้นความคิดถึงลูกเมีย แม่พ่อ....ข้าวได้กินครบสามมื้อ สารอาหารครบไหม???มะเขือ 1 ไร่ ไก่หนึ่งตัว ต่อนักโทษห้าร้อยหกร้อยคน ลองคิดดู!
รสชาติน่ะเหรอ...อย่าได้สนใจน้ำประปาใสๆยังน่ากินกว่า.......กินไม่ได้ก็ต้องกิน! ทนไม่ได้ก็ต้องทน!
ภายนอกเวลา 24 ชั่วโมง มันแป๊บๆ แต่ในแดนสนธยาแห่งนี้ เวลาแค่ 10 นาที ยังให้ความรู้สึกราวกับนานเป็นชั่วโมง!
อันตรายในแดนมีอยู่ทุกอณู พื้นที่ว่างๆอย่าได้ทะเล่อทะล่าเข้าไปเด็ดขาดเพราะมันมีโฉนดกรรมสิทธ์ของขาใหญ่เขาอยู่ อาจเจ็บตัวฟรีๆข้อหามีตาแต่หามีแววไม่!!!   บุหรี่ยาสูบยาเส้น เซเว่นยังอาย ขายเป็นม้วนครับ ม้วนล่ะ 100ถึงสองร้อยบาทเชียวน่ะครับ....ของหวาน นานๆจะได้กินที คือข้าวแห้งก้นหม้อโรยด้วยนมข้นตรามะลิ นี่หล่ะของดีสินค้า โอทอปเลยเชียวหล่ะ  

....แต่กิจกรรมนันทนาการ ก็มีอยู่ ใช่ว่าจะหงอยเหงาซะเมื่อไหร่ กีฬาเชื่อมใจเชื่อมสัมพันธ์แดนก็มีอยู่เช่น  แข่งตะกร้อ ซะเป็นส่วนใหญ่ พี่ยามของผม แกเล่นได้และเล่นดีเป็นที่ถูกอกถูกใจของขาใหญ่ จึงมีงานอดิเรกทำคือซ้อมตะกร้อ ซ้อมทุกวัน ซ้อมชนิดที่ทีมชาติยังอาย เช้าสายบ่ายคล้อย ก็ยังซ้อมเดาะตะกร้อ ถ้าไม่ซ้อม ก็จะกลายเป็นลูกตะกร้อถูกซ้อมเสียเอง เลือกเอา!
  ตอนเข้านอน ที่ใครจุดไหนจำให้แม่น เพราะพื้นที่ในการขยับตัวของท่านมีเพียง! ครึ่งเซน!ซ้ายขวาหน้าหลังเท่านั้น!
ถ้าใครนอนกรน  ท่านก็จะได้รับรอยจูบ จุมพิตที่ปลายคาง แบบประทับใจสนั่น ฟันร่วงกันเลยที่เดียว ด้วยบาทา!

........พี้นที่ส่วนตัว เช่นที่เก็บข้าวของเสื้อผ้าจำพวกนี้มีไหม? แกบอกว่ามี! อยู่แถวๆใต้ถุนเรือนนอน เรียกอย่างหรูว่าคอนโด ซึ่งอันที่จริงมันก็คือล็อกเกอร์เก่าๆ บ้าง ประดิษฐ์มาจากปี๊บบ้างให้พอใช้เก็บของได้ ดีหน่อยก็มีกุญแจล็อก  แต่ผู้ที่จะได้สิทธ์ใช้งานนั้นก็ขึ้นอยู่กับ จำนวนปี จำนวนโทษ และขนาดของขา (ขาใหญ่นี่ได้เปรียบเพื่อนฝูงจัง) อย่างแกเองก็มี เพราะได้รับมรดกจากรุ่นพี่มาตอนที่รับโทษผ่านไปแล้ว 5 ปี ถึงได้คอนโดโปรโมชั่นหลังหนึ่งมาใช้ น่าภูมิใจมาก ส่วนใครที่ได้สิทธ์แต่ไม่อยากใช้ ก็ปล่อยเช่าสบายครับ บุหรี่1ซอง ต่อเดือนต่อปีก็ว่ากันไป
      
....แกบอกว่าเป็นอยู่อย่างนี้จนใกล้ถึงวันสุดท้าย ก็เริ่มนับวันถอยหลังรอ แกบอกตื่นเต้นมาก และก็กลัวมากเช่นกัน
เรื่องที่กลัว เรื่องแรกก็คือ ....กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อันมีเหตุให้ต้องอยู่ต่อไป คล้ายๆความวิตกของคนเข้าวัยเบญจเพสน่ะครับ
ประมาณนั้น  คือกลัวโดนอยู่ต่อหากมีเรื่องมีราวในคุกขึ้นมาอีก!

เรื่องที่สอง คือ กลัวว่าโลกภายนอกจะไม่ย่อมรับแก  กลัวสังคมรังเกียจ กลัวญาติสนิทมิตรสหายทอดทิ้ง กลัวไม่มีงานทำ กลัวสารพัดเท่าที่จะนึกกลัวได้แต่ก็ยังดีที่ขาใหญ่ที่คุ้มครองแก และเสธ เจ้านายเก่าแกยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะฝากฝังหางานให้ทำเมื่อเข้าสู่โลกอิสระภาพอันศิวิไลท์
จนวันที่ก้าวออกมาจากเรือนจำ ครอบครัวแกไม่ทิ้งแก เพื่อนฝูงไม่ทิ้งแก แกก็เลยปรับตัวได้และมีชีวิตอย่างคนทั่วไปจนมาพบกับผม และได้เล่าเรื่องราวที่เล่ามานี้ให้ผมฟัง
...สุดท้ายแกยังสอนผมด้วยว่า ความใจถึง ความนักเลง เลี่ยงได้ให้เลี่ยง หลบได้ให้หลบ
อย่าทำให้ตัวเองต้องเข้าสู่ชะตากรรมแบบที่แกเป็นเลย..........มันคือที่สุดแห่งความทรมานทั้งทางกายและจิตใจ!

ครับ เรื่องที่เขียนเล่ามาทั้งหมดนี้ คอนเฟร์มว่าเป็นเรื่องจริงที่ออกจากปากนักโทษคนหนึ่ง ที่ติดคุกบางขวางมาแปดปีเต็ม!
.ปล. ผมแอบเช็คประวัติอาชญากรรมของแกผ่านทางเลขไอดี 13 หลัก พร้อมข่าวสารย้อนหลัง ที่เกี่ยวกับแก ก็พบว่าแกมีประวัติติดคุกมาจริงๆ

จบแล้วครับ............

ความคิดเห็นที่ 22
อยู่ที่นี่เราก็ยังใจร้อน ไม่ยอมคนเหมือนเดิม แต่เราไม่ทำใครก่อน หลายครั้งเกือบแย่ละ
ระงับอารมณ์ไม่ได้ เอเอวิน พยายามห้ามและเตือนสติเราตลอด
ครั้งนึงพวกคนดำตัวใหญ่ๆ มาแย่งของ บอกเรา ถ้าไม่ให้มันจะตบหน้า เราทำหน้าเฉย จ้องตามัน
แล้วบอกมันเรียบๆว่า อย่าคิดว่ามีแค่มันที่มีมือ มีตีน อยากทรมาณตัวเองให้นานขึ้น ด้วยการอยู่ในนี้ให้นานๆ
เราก็ยินดีนะ แต่คนเลือกคือตัวเค้าเอง หลังจากนั้นมันกลายมาเป็นกลุ่มของเรา คุยกันจึงรู้ว่า
มาอยู่ในนี้เพราะขนยาเสพติด คนที่อยู่ในนี้ไม่มีเงินลำบากมาก มีคนแก่คนนึงหกสิบได้
มาขอขนมปังเรากิน หลังจากที่ขอใครๆ แล้วไม่มีคนให้ เรานั่งมองแกมาสองวันล่ะ แกมาขอเรา
เราให้แกกิน แกเอาไปกินแล้วร้องไห้ แกไม่ได้กินขนมปังมานาน แกเล่าให้เราฟังว่าแกมาติดแทนลูกคดียาเสพติด
เราฟังผ่านๆ ไม่รู้จริงหรือไม่ และแกไม่มีใครมาเยี่ยมนานมากแล้ว วันถัดมาแกเอากล้วยน้ำว้ามาให้เพื่อตอบแทนเรา

เพื่อนเราเอาเอกสารมาให้เราเซนต์เพื่อยื่นประกันตัว ขอพบเรา จนท จะให้เราคุยโทรศัพท์ แล้วก็มีกระจกกั้น
ที่บ้านเราไม่ทราบเรื่อง เพื่อนเราร้องไห้ ร้องไห้มากๆมันเป็นห่วงเรา กลัวเราโดนรังแก กลัวเราเครียด สารพัด
เราเห็นน้ำตาเพื่อน เราสำนึกทันที เราไม่ค่อยห่วง. ไม่ค่อยรักตัวเอง แต่เรามีหลายๆคนที่รักเรา
เราอาจจะไม่ทุกข์ ร้อนใจมาก แต่คนที่รักเรา เขาทรมานมาก เพื่อนเราร้องไห้ เสียใจ ที่ยื่นเอกสารประกันตัวให้เรา
ไม่ทันก่อนเสาร์ อาทิตย์ เราบอกอย่าเสียใจเลย เราโอเค ฝากช่วยดูแลหมาแทนเราด้วยนะ

จริงๆมีเรื่องที่เราเรียนรู้จากประสบการณ์ครั้งนี้อีกเยอะ คงเล่ายาวแน่ๆ แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่ ที่เหมาะแก่การพักร้อนแน่นอน

ปล.  เรานอนข้างๆกับคนที่มีข่าวดังว่าฆ่า หั่นศพ สามีพิการยัดใส่กระเป๋าเดินทางเมื่อหลายปีก่อนด้วย
เนื่องจากว่าเราไม่ค่อยดูข่าว เราจึงไม่รู้ แต่เพื่อนผิวดำในนั้นเล่าให้ฟัง แต่ออกมาแล้วมาดูในเนตใช่จริงๆด้วย

เขาดูปกติมากๆนะ นอกจากนี้เรายังเจอนักโทษคนดังอย่างดา ตอปิโดด้วย เขาจะชอบพูดคนเดียวประจำๆ

ส่วนขาใหญ่ที่นอนห้องเดียวกัน คุยกันไม่กี่ประโยค มันก็ไม่มายุ่ง วุ่นวายกับเราอีกเลย
ความคิดเห็นที่ 18
บางคนที่คิดว่าคุกนี่ ข้าวฟรี น้ำฟรี ไฟฟรี ที่อยู่ฟรี สบายต้องคิดอีกครั้งนะคะ ที่นี่ไม่สบาย กฎระเบียบ เข้มงวดมาก ที่สำคัญคนที่แวดล้อมตัวคุณ
สังคมทั่วไปๆ ที่ว่าร้อยพ่อ พันแม่ ยังมีคนดี ปกติส่วนใหญ่ แต่ที่นี่มีแต่คนที่ทำผิด บางคนเข้าออกคุกจนชิน บางคนผ่านคดีแรงๆมาอย่างฆ่า หั่น ศพเงี้ย
อย่างดีหน่อยก็พวกที่คาบเกี่ยวศาลยังไม่ตัดสิน ส่งตัวมาฝากขัง คิดดูจะอยู่ยังไง ถ้าใจคุณไม่แข็งแรงพอ. โดนรังแก รับน้องไม่ต้องกลัว เจอแน่ๆค่ะ

สิ่งที่เราติดตัวเข้าไปได้คือชุดชั้นใน กางกางใน สวมผ้าถุงสีน้าตาลและเสื้อผ้าฝ้ายตัวใหญ่ๆ เท้าเปล่า.
และเอกสารติดตัวเล็กๆน้อยๆ (ชุดชั้นในต้องเป็นชุดชั้นในปกตินะคะ แบบคอเส็ต คือแบบที่มีโครงเข้าไม่ได้ ก็คือต้องโล่งๆไปค่ะ)
ในระหว่างนั่งรอ คนใหม่ก็จะคุยกัน แนะนำตัว มาเรื่องอะไร ยังไง ปลอบใจ ให้กำลังใจกันไป
เราก็นั่งฟัง และทำตามขั้นตอนที่ จนท สั่ง คือรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน แต่หลายๆคน แย่ล่ะ ร้องไห้ฟูมฟาย.
ตรงนี้ส่วนใหญ่คนที่มาใหม่ก็จะพยายามรวมกลุ่มกัน เมื่อทุกๆคนพร้อมเขาก็จะให้เข้าแถวเดินไปข้างในสุด เรียกว่าแดนแรกรับค่ะ
คือในนั้นมันจะแบ่งเป็นหลายๆแดน มีหลายตึก แล้วก็ไปนั่งใต้ตึกเพื่อรอแถวอาบน้ำ และแบ่งขึ้นห้องนอน
เวลาอาบน้ำสำหรับวันแรกๆ เขาจะปราณี ยังไม่นับแต่มีเวลาให้ไม่เกินห้านาที
(อาบน้ำ. สระผม. แปรงฟัน จบภายในนับหนึ่งถึงสิบ เป็นเวลาปกติ ดังนั้นจะไม่ค่อยมีใครใส่ใจกันเท่าไหร่ เพราะทุกคนต้องทำธุระให้จบภายในเวลาที่กำหนด)
ที่อาบน้ำ จะมีคล้ายกับท่อประปาเจาะรู อยู่สูงกว่าเรา ให้เราไปยืนข้างใต้ แล้วเขาจะปล่อยน้ำมา ตรงนี้ต้องแย่งค่ะ
คนมีเป็นร้อย ขนาดแบ่งรอบแล้วก็ตาม อีกที่จะมีบ่อแล้วให้เราไปยืนตัก อันนี้ต้องมีขัน

ห้องที่เขาจัดไว้ให้นอน ห้องพัดลม ห้องน้ำในตัว ใครทำธุระ อะไรยังไง ก็ไม่ต้องสงสัยกัน เพราะมันเป็นแค่ปูนก่อสูงมาประมาณหน้าอกเวลานั่งยองๆเท่านั้น
เขาจะมีผ้าห่มกะหมอนให้แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ได้ หมดก่อนก็หมดกัน และที่นี่ไม่แยกเชื้อชาติ ลาว เวียดนาม พม่า คนผิวดำ เกาหลี จีน
รวมอัดกันนอนประมาณหก เจ็ดสิบคน คือมีพื้นที่ให้ตะแคงตัวเท่านั้นแหละ จะมีพี่เลี้ยงสองคนเป็นแม่ห้อง คอยเช็คชื่อและดูแลระเบียบภายในเรือนนอน
รับน้องคืนแรกเนี่ยแหละ เพราะแย่งที่กันนอน คนเก่าที่เป็นขาใหญ่หน่อย จะคอยแสดงอำนาจ คนไหนข่มได้ มันจะกดหนัก จะสุมแกงค์กันอยู่กลางห้อง
ไกลๆจากผู้คุม และแม่ห้อง พอได้รับที่นอนแล้วก็ต้องหาที่ซุก คนนึงที่มาพร้อมเรา เขาเป็นพม่า โดนตบหน้าเสียงดังมาก
เราหันไปดู แล้วถามคนตบว่าทำไมต้องทำเขา บอกไม่ชอบ พูดไทยไม่ชัด เราเลยเปลี่ยนที่กับคนพม่า แล้วไปอยู่ไกล้พวกนี้แทน
มันถามเราว่ามาด้วยกันรึเปล่า เราทำหน้าเฉยๆ บอกเราไม่สู้คน แต่อย่ามายุ่งกับเรา มันให้คนไปถามหน้าห้องว่า เรามาคดีอะไร ยังไง

มาต่อพรุ่งนี้นะ ง่วงล่ะ
ความคิดเห็นที่ 17
สำหรับผู้ต้องหาหญิง เราขึ้นศาลไปรายงานตัว พออัยการรับฟ้อง เราจะโดนกักตัวอยู่ใต้ถุนศาล
เราพลาดไปคนเดียว ไม่มีคนยื่นเอกสารในการประกันตัวให้. เพราะ จนท จะไม่ให้เราออกมาค่ะ

เราก็จะโดนกักตัวรวมกับผู้ต้องหาและนักโทษที่มาศาลคนอื่นๆ
โดยใต้ถุนศาล ตอนแรกเราจะรออยู่ห้องนึงก่อนมีเก้าอี้ให้นั่งมีแอร์เพื่อรอการพิจารณา
ว่าศาลรับฟ้องหรือไม่ ถ้าศาลรับฟ้องแล้ว เราจะถูกส่งไปขังในห้องขัง โดยแบ่งเป็นห้องขังแยกชาย-หญิง
ตรงนี้มีเพียงโต๊ะยาวหนึ่งตัว ไม่มีพนัก ตู้น้ำดื่ม และห้องน้ำ ไม่ใช่ห้องน้ำแบบทั่วๆไปนะ ถ้าพนักมีคนนั่งเต็มแล้ว นั่งพื้น
เป็นห้องน้ำที่ค่อนข้างเปิดเลยค่ะ แต่ยังเปิดน้อยกว่าเรือนจำ ตรงนี้เราจะพบคนที่เป็นผู้ต้องหารอการประกันตัวเหมือนกัน
หรือผู้ต้องหาที่ไม่ได้ประกันตัว(มีทั้งแบบไม่หลักทรัพย์ประกันตัวและแบบศาลไม่ให้ประกันตัว)
และนักโทษที่มาขึ้นศาล ส่วนใหญ่ที่เราเจอที่นี่มาจากคดียาเสพติด แทบจะเก้าสิบเก้าเปอร์เซนต์ (เค้าเรียกคดี "แมต")
คนนึงทั้งเสพทั้งขายท้องได้หกเดือนคุยกันบอกเลย เลิกไม่ได้ มีคดีลักทรัพย์คนนึง
วันที่เราไปนี่ คนไม่เยอะ 5-6 คน ส่วนเราเป็นคดีทำร้ายร่างกายค่ะ ศาลรับฟ้อง
เราไปคนเดียว เลยไม่มีใครช่วยยื่นเอกสารเพื่อประกันตัว บริเวณนี้ใช้โทรศัพท์ได้นะคะ

ประมาณห้าโมงเย็น ถ้าเราจำไม่ผิดนะ เขาจะมีรถไปส่งเราที่เรือนจำ มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์แยกชาย หญิงนั่งไปส่งด้วย
ไปถึงเขาก็จะให้เราฝากของ ต้องฝากทั้งหมด โทรศัพท์ สร้อยคอ แหวน ต่างหู โดยทำรายการสิ่งของ
พอเราออกมาเขาจะคืนให้. สิ่งที่ติดตัวไปได้คือเสื้อผ้าและรองเท้า. เขาจะค้นตัวอย่างเข้มงวด
ตรงนี้คนจะเยอะหน่อย เพราะจะมีคนที่มาจากหลายศาลรวมกัน. จบขั้นตอนเขาจะให้เดินเรียงแถวเข้าไปข้างในค่ะ

ไปถึงเป็นอาคารพยาบาลให้นั่งรอ รวมๆกัน เพื่อทำประวัติ สัมภาษณ์ เพื่อใช้สิทธิ์สามสิบบาทและอื่นๆ ขั้นตอนเยอะอ่ะ
เขาจะแจกชุดผ้าถุงสีน้ำตาลเข้ม และเสื้อเป็นผ้าฝ้ายตัวใหญ่ๆให้ 1 ชุดเพื่อให้เราเปลี่ยน เขาจะให้เราตัดเล็บ
และตรวจภายในเผื่อใครจะยัดยาเข้ามา วันที่เราไปเจอทั้งคนยัดยา และคนที่ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย
เจ้าหน้าที่น้อย เขาจะให้นักโทษที่อยู่มานานแต่มีความประพฤติดีมาช่วยในขั้นตอนนี้
คนที่เขาขัดขืน จนท และผู้ต้องหาที่มาช่วยงาน เขาไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าไปข้างใน ถูกจำกัดอิสระภาพค่ะ
เพราะเขายืนยันว่าเขาไม่ผิด ทั้ง จิกกัด ถีบตบ เราชะเง้อมองมีคนรุมเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเขาเกือบสิบคน
ตรงนี้แหละที่เขาเรียกว่ารับน้อง เขาขัดขืน เลยมีฝากจัดต่อไป ตอนที่เขาเข้าไปข้างในด้วย
คนที่มาใหม่ในรอบวันนั้นเกือบห้าสิบคน ทุกๆคนต้องรอให้เรียบร้อย แล้วถึงจะเดินเรียงแถวเข้าไปในแดนแรกรับพร้อมๆกัน
มองไปรอบๆบรรยากาศตึงเครียดมาก คนที่มาใหม่เริ่มร้องไห้ ตาแดง บางคนก็เงียบ ไม่พูด บางคนก็ท่าทางยังไม่สร่างจากยา
สลบและกองๆที่พื้น นักโทษที่มาช่วยงานก็จะช่วยถอดเสื้อเปลี่ยนผ้าให้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่