ประสบการณ์จริงในเรือนจำ 1 ปี 5 เดือน(มันไม่สบายอย่างที่คิด)

จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้มาจากความที่อยากลอง อยากได้เงินมาใช้โดยไม่ต้องเหนื่อย
ด้วยความที่ผมเป็นคนที่คลุกคลีกีบยาเสพติดตั้งแต่เด็ก แถวบ้านเก่าผมยาเยอะเลยทำให้ผมไม่ตื่นเต้นนักเมื่อเห็นมัน
ก่อนที่ผมจะโดนจับผมขายยาเสพติดเริ่มต้นจากยาบ้า ขายให้ลูกค้าไม่มากนัก 1-10 เม็ด
จนขยับมาเป็นถุง(200เม็ด)และยาไอซ์ หรือ ศัพท์ในวงการเรียกว่าน้ำแข็ง ผมขายยาบ้ามากสุดคือครั้งละ 10 ถุง(2000เม็ด)
วันที่ผมโดนจับครั้งแรกในชีวิตคือวันที่ 23 มิย  ด้วยข้อหา ครอบครองเพื่อจำหน่าย และ พยายามจำหน่ายเมตแอมแฟตามีน จำนวน 396เม็ด (2ถุง) ผมถูกตำรวจจับไปพร้อมกับแฟนผมตอนนั้นผมอายุ 20 แฟนผม 17 ตำรวจพาไปทำแผนจับกุมที่ บชน 1
แล้วจากนั้นส่งตัวให้ท้องที่ผมอยู่กับแฟนคนละห้องเนื่องจากแฟนเป็นเยาวชนต้องแยกตางหากเช้าวันต่อมา
ตำรวจก็พาแฟนผมไปสอบสวนแล้วส่งตัวไปศาสเยาวชน(เยาวชนขังที่ สน.ไม่เกิน 24 ชม.)ผมไม่ได้คุยกับแฟนเลยวัน
นั้นพอตกเย็นมาตำรวจก็สอบปากคำผมแต่ผมปฎิเสธวันต่อมาคือ 25 มิ.ย ผมถูกส่งไปศาลอาญาเพื่อฝากขังในเรือนจำทาง
ฝั่งแม่แฟนก็ประกันผมโดยเช่าโฉนดที่ดิน 2ล้าน ในราคา 2แสนบาท
แต่ตำรวจคัดค้านการประกันตัว จนเวลา 18.00น.รถบัสขนนักโทษก็ออกจากศาลไปสู่เรือนจำคลองเปรม....

ครั้งแรกกับเรือนจำ

**ภาพตัวอย่างทางเดินไปยังแดนต่างๆ
พอถึงเรือนจำผู้คุมก็ให้ลงจากรถเดินเรียงหนึ่งไปตามทางเดิน ผ่านประตูระบบไฟฟ้า2-3ประตูความรู้สึกแรกมันชาไปหมดรู้สึกหน้าร้อนๆ
พอเข้ามาถึงลานกว้างก็ทำการตรวจร่างกายริบอุปกรณ์ที่ต้องห้ามฝากไว้ที่เรือนจำทุกคนถอดเสื้อผ้าหมดไม่เหลือซักชิ้น
ใช้เครื่องตรวจหาวัตถุตรวจทุกส่วนของร่างกาย นักโทษใหม่จะอยู่แดน3 ผมเข้าไปในแดนต้องสอบประวัติก่อนพอสอบเสร็จ
น่าจะประมาณ 1ทุ้มกว่าๆผู้คุมก็ให้อาบน้ำและกินข้าวแต่ช้อนไม่พอผมเลยใช้มือกินแทนช้อน ผมจำเมนูวันนั้นได้แม่นต้มปลาทู
ทำภาระกิจส่วนตัวเสร็จก็ขึ้นเรือนนอน นักโทษมรทั้งหมด 80คนนอนอัดกันในห้องที่จุคนได้เต็มที่ไม่ถึง 75คนทุกคนนอนตะแคง
หันหน้าไปทางเดียวกันแล้วเอาขาซ้อนกัน ใครลุกไปเข้าห้องน้ำเสร็จครับกลับมาไม่มีที่ลงแน่เพราะผมโดนมากับตัวนั่งหลับจนเช้า
วันที่26 เช้าลงมาจากเรือนนอนผมทำอะไรไม่ถูไม่รู้จะไปทางไหนดีมีคนเต็มไปหมด มีคนชวนผมว่าให้ไปอยู่บ้านเดียวกัน
ผมงงคืออะไร(หาคนที่อยู่ในท้องที่เดียวกันไปอยู่ด้วยกันถ้าเกิดญาติซื้อของให้ก็แบ่งของให้คนในกลุ่มใช่ร่วมกัน แต่ก็มีคนดูแลกลุ่ม)
แต่ผมปฎิเสธ แล้วผมก็เดินไปทำธุระส่วนตัวก็ได้เสียงผู้ช่วยเหลือ(นักโทษช่วยงานผู้คุม)ประกาศเรียกนักโทษใหม่มารวม
ผมเข้าไปในห้องจำแนกรอซักประวัติอีกรอบและตัดผมถ่ายรูป จนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยผมก็นั่งๆนอนๆไป 1อาทิตย์
อาทิตย์ที่ 2ผมก็มีรายชื่อเข้ากองงานเป็นงานหวีขนม้าเขาเรียกอย่างนั้น(เอามาทำแปรงทาสี) แต่ผมก็ตัดยอดโดยแลกกับบุหรี่ 6 ซอง
จะได้ไม่ต้องทำงาน ส่วนคนที่ไม่มีญาติซื้อให้หรอครับหวีไปเหอะทั้งวันครับ แล้วเรื่องการกินนี้ผมกินอะไรไม่ได้เลยอาทิตย์แรก
กับข้าวรสชาติสุดๆแทบกลืนไม่ลง เวลากินข้าวก็ต้องต่อแถวเพื่อจะนั่งบนโต๊ะอาหาร ถ้าใครเกินก็หาที่กินเอาเอง
ผมอยู่แดน 3เป็นเวลา 1เดือนและต้องจำแนกแดนเพื่อระบายนักโทษผมได้ไปอยู่แดน 4เป็นแดนวัยรุ่น

**หน้าประตูแดน 4
ผมมาแดนนี้ไม่เคว้งเท่าไหร่เพราะพอมีเพื่อนสนิทที่เข้ามาก่อนอยู่ 2คนผมก็เลยไปเข้ากลุ่มกีบเขาเรียกว่า บ้านรามคำแหง
ซึ่งจะรวมคนที่อยู่แถวรามคำแหงแต่ผมคนเดียวที่อยู่ต่างถิ่นแฟนผมก็มาเยียมบ่อยๆ(แฟนประกันตัว) แต่เรื่องการเป็นอยู่มันก็ลำบาก
ไม่มากเท่าแดน 3เพราะที่นี่มีการจัด เวรซักผ้า เวรล้างจาน เวรตากและเก็บผ้า พอถึงเวรผมๆต้องมนั่งซักผ้าให้ทุกคน(ซักมือ)
ยิ่งตอนนั้นยาเสพติดระบาดมากในแดนมีปัญหาบ่อยมาก ถ้าใครมีเรื่องชกต่อยก็จะโดนผู้คุมเอาไปตีทั่งคู่(ไม่ได้ตีเอาเป็นเอาตายนะ)
เรื่องโทรศัพท์ก็มีจับได้ย้ายแดนและริบไปตรวจสอบเบอร์อีก ถ้ามีการสั่งยากันก็โดน ปปส.ครับ

**ความเป็นอยู่ในแดน 4
**ต่อจากเมื่อวาน
ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในเรือนจำมีอยู่อย่างนึงที่ผมไม่ค่อยชอบคือการปลดทุกข์ แบบว่าไม่มีอะไรปิดเลย
แบบว่าเดินผ่านเห็นเลยล่ะครับว่าอึอยู่ ยิ่งเวลากินข้าวนี่นั่งมองหน้ากันเลยผมจะเข้าห้องน้ำเวลาทานข้าว
ถ้าหลังจากนั้นเต็มหมดทุกบล็อก(ที่เรียกว่าบล็อกเพราะลักษณะเป็นปูนก่อเป็นบล็อกๆไม่มีประตูมีแค่ปูนก่อขึ้นมาแค่เข่า)
การกินที่นี่ไม่เหมือนแดนแรกรับ(แดน3)ที่จะมีคนเตรียมไว้ให้ที่โต๊ะ ที่นี่จะต้องให้ตัวแทนแค่ละบ้านไปต่อแถว
รอแกงและข้าวโดยถือชามไปนั่งรอ กินก็ต้องแบ่งกันถ้าจานไม่พอก็ใช้ขันอาบน้ำแทนจาน ช้อนไม่พอก็ต้องเวียนกัน
การอาบน้ำไม่เท่าไหร่ยังรับได้เป็นอ่างยาวๆอาบกันที่เป็นร้อยคนยาวจนสุดอ่าง แต่อ้าแรกอาบไม่ค่อยได้เพราะล้างจาน
จะตักอ่างแรกแล้วมันก็มีเศษอาหารเต็มอ่าง และจะเป็นโรคระบาดคือโรคหิด(ตุ่มน้ำใสๆคันและอักเสบจนเป็นหนองเจ็บมาก)
ด้านหลังจะเป็นล็อกเกอร์เก็บของใช้ต่างๆ กิจวัตรประจำวันของทุกคนคือตื่นนอน 6โมงเช้าข้าวมา 7โมงเคารพธงชาติ กินข้าว 8โมง
หลังจากนั้นเข้ากองงาน คนที่เข้ากองงานต้องร่วมกิจกรรมชุมชนบำบัดก่อน 3เดือนกองงานก็มีพับถุงกระดาษ(ของห้างเดอะมอล์)
กองงานไฟฟ้าคือประกอบจุกไฟใส่และกล่องยอดวันละ 200ชิ้น/ใบ งานจะต้องเสร็จให้ทันเทียงหรือบ่ายเพราะข้าวเที่ยงมาประมาณเที่ยงครึ่ง
ข้าวเย็นมา 2โมงกินข้าวอาบน้ำเสร็จราวๆ 3โมงครึ่งตั้งแถวนับยอดขึ้นเรือนนอน ก่อนขึ้นเรือนนอนต้องตั้งแถวตรวจค้นสิ่งเสพติด
ถ้าใครโดนก็ไปพบ ผอ.แดน ทำเรื่องต่อคดีถ้าของกลางไม่มากก็ริบแล้วตักเตือน นักโทษจะอยู่บนเรือนนอนตั้งแต่ 4โมงเย็นถึง 6โมงเช้า
บนเรือนนอนแบ่งออกเป็น 10ห้องห้องละ 75-80คนอยู่ที่จำนวนนักโทษมีเข้ามาเยอะไหม การนอนก็หันหัวไปทางกำแพงทั่งสองฝั่ง
ตรงกลางแถวนอนหันหัวสลับกันถ้าใครแจ็คพอตก็หัวไปอยู่ตรงเท้าคนนอนริมกำแพง ได้นอนคุยโทรศัพท์ทั้งคืน(เท้าแนบอยู่ที่หน้า)
มีห้องน้ำ 1ห้องอันนี้ดีหน่อยทำประตูปิดเอาเองมีโยธาห้องทำความสะอาดโทรทัศน์จะเปิดเวลา 5โมงเย็นถึง 3ทุ่มจะเปิดรายการทั่วไปไม่ได้โทรทัศเป็นสายกลางดูหมือนกันหมดทั่งเรือนจำและห้ามปิดไฟนอน ผมอยู่ในเรือนจำจนครอบกำหนอดฝากขัง(8ฝากฝากละ 12วัน) การฝากขังสมัยก่อนต้องออกไปศาลแต่ปัจจุบันใช้วีดีโอคอลได้เลย เวลาไปฝากขั้งต้องไปแดน พบ.(พยาบาล) จะมีนักโทษที่เป็นวัณโรคและกระเทยที่แปลงเพศและศัลยกรรมจนเหมือนผู้หญิงอยู่แต่แยกออกจากคนป่วย

**ภาพทางเดินบนเรือนนอน
ระยะเวลานับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาก็ครบ 8ฝากหรือ 96วันศาลยังไม่มีคำสั่งเรียกออกไปตัดสินจนวันรุ่งขึ้นเวลา 6โมงผู้ช่วยเหลือประกาศ
รายชื่อคนที่ต้องออกศาลวันนี้และก็มีชื่อผม การที่ได้ออกไปเห็นโลกภายนอกอีกครั้งมันเป็นอะไรที่หาไม่ได้บ่อยๆในเรือนจำ
ศาลเรียกผมตัดสินซึ่งผมสู้คดีอยู่เลย ปฏิเสธ ศาลเพื่อสู้คดีต่อไปผมได้เจอแม่-แฟน-ญาติๆที่มาเยี่ยมที่ศาลผมรู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตามันไหลออกมาที่ไม่ทอดทื้งผมส่วนเวลากลับเรือนจำจะมีอยู่ 2รอบคือ บ่าย 3โมงและ 6โมงเย็นก่อนเข้าในแดนก็จะตรวจสิ่งของด้วยอุปกรณ์ตรวจวัตถุเหมือนตอนเข้าครั้งแรก

**ภาพภายในห้องนอน
กิจกรรมภายในแดนวันเสาร์-อาทิตย์ ก็เปิดหนังซีดีดูทั้งวันใครอยากไปนอนก็ในห้องประชุมเอาที่นอนลงมาปูนอน(เฉพาะวันหยุด)
บางคนก็เขียนจดหมายหาญาติ วันหยุดนี่ผมไม่ชอบเลยอยากให้เวลาผ่านไปไวๆเพราะมันหน้าเบื่อมากๆจะมองไปทางไหนก็มีแต่คนเต็มไปหมด
อยู่ในเรือนจำมีอะไรแปลกๆที่ผมไม่เคยเห็นหลายอย่าง การฝังมุก นี่เป็นอะไรที่ลืมไม่ลงเลยครับผมว่ามันน่ากลัวมากๆ
การทำคือเหลาด้ามแปรงสีฟันให้แหลมแลัวเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางดึงที่หัวเพศชาย ให้ตึงๆแล้วแทงเข้าไปเอาลูกแก้วที่ฝนจนเป้นรูปที่ต้องการ
ยัดเข้าไปเลือดนี่ไหลน่ากลัวมากครับ ยาก็หายากผมเคยคิดทำแต่เห็นแล้วถอดใจเลยครับกลัวแผลเน่าขนาดคนที่ทำหน้ายังซีดเลยครับ
แล้วยังมีการ ฉีดอวัยวะเพศ คืนเอาวาสลีนแช่ในน้ำร้อนให้ละลายตัวเอาเข็มดูดแล้วฉีดเข้าไปบ้างคนหนังพองเลยเพราะความร้อน
แล้วก็ต้องรีบปั้นให้เป็นรูปไม่งั้นเดวมันคืนตัวแก้ยาก ผมเห็นแล้วเจ็บปวดแทนเลยขนาดโดนน้ำร้อนนิดเดียวยังสะดุ้ง
ส่วนเรื่องร่วมเพศก็ห้ามร่วมเพศส่วนใหญ่แล้วก็จะแอบๆทำใต้ราวผ้า หรือสลับห้องมานอน(จะต้องหาหรือจ้างคนมาสลับเพื่อให้ยอดครบ)
ไม่มีถุงยางหรือการป้องกันอะไรเลย หลายคนอาจคิดว่าน้องใหม่ต้องโดนแทงข้างหลังทุกคนที่จริงแล้วเขาดูหน้าอ่อนๆ ว่าใช่กระเทยไหม
ถ้าใช้ก็จะเข้าไปคุยด้วยแบบนั้น คนที่คบกับกระเทยนี่ต้องเลี้ยงกระเทยด้วย มีของให้กินประมาณนี้ถ้าอยู่ต่างแดนต้องส่งของไปให้
กระเทยส่วนใหญ่จะมีหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทุกคน พอมีอะไรสำคัญพวกนี้จะรู้ก่อนเพราะอยู่ใกล้ผู้คุมที่สำคัญหยิ่งมากๆ
พอพูดเรื่องเพศการที่ผู้ชายติดคุกนานๆก็ต้องมีการปลดปล่อยกันมั่งคือช่วยตัวเอง(หรือศัพท์เรียกว่าไปเที่ยว) ส่วนใหญ่ก็จะทำในห้องน้ำบนเรือนนอน แต่ต้องรอให้คนที่ต่อคิวอาบน้ำให้หมดก่อนถ้าใครทนไม่ไหวก็ต้องไวๆเวลาเที่ยวส่วนใหญ่ก็ 4-5ทุ่มขึ้นไปบางทีไปด้วยกัน 2คน
แต่ก็มีรูปโป๊ผู้คุมบางคนก็เอามาให้โดยมาทางแฟลชไดฟ์แล้วปริ๊นท์รูปเอา ห้องที่ผมนอนเป็นอัลบั้มเลยและมีสับเปลี่ยนแลกกันดูแต่ละห้อง

**ภาพบริเวณอ่างอาบน้ำ
ขณะนั้นยาเสพติดเกลือนเรือนจำมากมีทั้ง ยาไอซ์ ผงขาว ยาเค ขายก็หลอดนมไวตามิล 2ซม. 2000บาทโดยให้ญาติโอนเงินเข้าบัญชีคนขาย
การนำเข้ามายังไงนั้นมีหลายทางส่วนใหญ่มาจากกองนอก คือยัดก้นเข้ามาแต่รายได้นี่คุ้มสุดๆบางคนเก็บเงินได้เป็นแสนออกไปมีเงินใช้เลย
เมื่อมียามากปัญหาก็มากตามคนที่ซื้อยาแล้วไม่ยอมโอนเงินก็มีจ่ายยอด อย่างเพื่อนผมโดนคือตบหน้าแบบอยู่คนละห้องจะต้องได้ยินชัดๆ
ผมเคยรับยามาขายจากแดน 1ซึ่งตอนนั้นผมหุ้นกับเพื่อนคนละ 4000บาทโอนเงินไปซื้อมมา 2เส้น(เส้นละ 8ซม.)แต่ขาดทุ่นเพื่อนอีกคน
เอายาไปใช้หนีที่ติดอยู่และแบ่งเสพจนหมดแต่ผมก็ยังได้เงินคืน อีกอย่างที่ผมแปลกใจที่สุดคือมีบุหรี่ขายแต่ไมามีไฟแช็กขาย
ราคาไฟแช็กแล้วแต่มีมากหรือน้อยถ้ามีน้อยก็บุหรี่ 5-10ซองต่ออัน ถ้ามีเยอะก็ 3ซองต่ออัน เท่ากับไฟแช็กอันละ 180-600 บาท
ส่วนโทรศัพท์นั้นศัพท์เรียกว่านกราคาเครื่องอยู่ที่ 50000บาทต่อ1เครื่อง(เครื่องราคา 10000บาทรวมค่านำเข้า)ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมี
ไว้ใช้เพราะจะมีผู้คุมบางคนลักลอบเอาเข้ามา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะขนาดผู้คุมยังเคยโดนจับได้เลย

**ผมและเพื่อนๆ(เซ็นเซอร์ภาพแล้วนะครับ)
การที่เข้ามาอยู่ข้างในนี้ผมว่ามันเป็นอีกโลกนึงก็ว่าได้คือถึงเวลาเดือดร้อนจริงๆไม่มีใครช่วยใคร ต่างคนต่างเอาตัวรอดไว้ก่อน
เพื่อนแท้หายากมากในนี้ถ้ายอมก้มหัวให้ใครแล้วก็จะเป็นรองเขาไปตลอด พอพูดถึงเพื่อนผมนึกถึงเพื่อนคนนึงบ้านอยู่แถวบางซื่อ
เพื่อนผมคนนี้นิสัยก็พอใช้โทษตัดสินมา 8ปีแต่รอยื่นอุธรณ์วันนั้นศาลเรียกตัวไปฟังอุธรณ์พอเขากลับมาสีหน้าไม่ค่อยดี
ผมก็ไม่กล้าถามแต่สังเกตุว่าเขาเสพผงขาวหนักมาก(โดยการฉีด) จนป่วยแต่ก็ยังไม่หยุดผ่านมาได้ 1อาทิตย์อาการก็แย่ลง
คืนนั้นตอนประมาณเที่ยงคืนเพื่อนอีกคนก็เอาไม้เคาะกรงเหล็ก ผมสะดุ้งตกใจตื่นขึ้นมาเห็นเพื่อนคนนั้นนอนร้องโอดโอย(นอนตรงข้ามผม)
ผู้คุมเดินขึ้นมาดูและไปตามหมอมา แต่หมอให้ยาแก้ปวดมาประมาณ 4เม็ดเพื่อนผมเลยตะโกนว่าจะเลี้ยวแล้วเนี่ย(จะตาย)ก็ให้กินยาไป
เพื่อนผมบอกทนไม่ไหวขอยาหน่อยเข็มสุดท้าย พอฉีดไปซักพักก็เดินไปอวกที่ห้องน้ำ(เป็นเลือด)เช้ามาต้องหามไป พบ.ทั้งที่นอน
วันต่อมาผมได้ข่าวว่าเสียชีวิต แล้วทางแดนก็ได้ประกาศปล่อยตัวผู้เสียชีวิต

***ต่อตอนที่2ครับ http://ppantip.com/topic/31633065
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่