การเซ็นใบสำคัญรับเงิน_เหมือนจะโดนเบี้ยวค่าจ้างจากมหาวิทยาลัย

อิชั้นเป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งค่ะ ซึ่งมีสัญญา 1 ปี
และมีค่าจ้างต่อเดือนเป็นเงิน เดือนละ หนึ่งหมื่นบาท
แต่ว่านี่ครบปีแล้ว ยังไม่ได้เงินค่าจ้างเลยค่ะ จึงส่งหนังสือทวงถาม
ก่อนหน้านี้ใช้วิธี โทร ถามตลอด แต่ก็จะมีเหตุผล ติดโน่น ติดนี่ตลอดเวลา ผัดมาเรื่อย
หลังจากส่งหนังสือทวงถามแล้ว
ทางมหาฯลัย บอกว่า ต้องเซ็นใบสำคัญรับเงินก่อน แล้วถึงจะทำเรื่องเบิกเงินมาได้
ทั้งๆที่หลักฐานมีครบ นั่นคือ สัญญาการจ้างงาน มีบัญชีธนาคารที่สามารถจ่ายค่าจ้างได้

และเนื้อหาในใบสำคัญรับเงิน เขียนว่า

"ข้าพเจ้า...ชื่อ ตำแหน่ง อาจารย์
ได้รับค่าจ้าง/เดือน เดือนละ 10,000 บาท สังกัด คณะ xxx
อยู่บ้านเลขที่ xx จังหวัด xxx

จากนั้นเป็นตารางแจ้งว่า เป็นค่าจ้าง จำนวนหนึ่งหมื่นบาท ต่อเดือน เดือนนั้น

ลงชื่อ.... (ต้องเป็นลายเซ็นอิชั้น)...ผู้รับเงิน
ลงชื่อ.......................................ผู้จ่ายเงิน

และมีคำรับรองของคณบดี ของคณะ xxx นี้
ลงชื่อ.................... (ผอ./คณบดี)

------------
แต่ยังไม่มีใครเซ็นค่ะ แล้วอิชั้นก็ไม่กล้าเซ็น เพราะเนื้อหาในใบสำคัญรับเงินนี้ คือเพื่อลงนามว่าเรารับเงินไปแล้ว (ทั้งๆที่ยังไม่ได้ค่าตอบแทนใดๆเลย)
แล้วก็ไม่มีลายเซ็น คณบดี หรือผู้จ่ายเงิน ใดๆทั้งสิ้นด้วย

จึงทำการแย้งไปกับทางคณบดี..ก็ได้รับคำยืนยันทางโทรศัพท์ว่า นี่เป็นกระบวนการปกติ ถ้าไม่เซ็น ก็ไม่ได้รับเงิน

เลยอยากทราบว่า จริงๆ ขั้นตอนมันควรจะเป็นยังไงคะ
ถ้าเอกสารนี้เขียนด้วยคำสำคัญว่า..."ใบเบิกค่าจ้าง" เพื่อให้จ่ายค่าจ้าง ก็น่าลงนามอยู่
แต่นี่มันเป็นการลงนามว่าเราได้รับเงินไปแล้วหนิ

แล้วโดยปกติ เวลาทำงาน ได้รับเงินเดือน นายจ้างก็ต้องจ่ายค่าจ้างก่อนสิ แค่โอน หรือจ่ายเช็คก็จบแล้ว
แล้วหลักฐานการโอน หรือการจ่ายเช็ค หรือแม้กระทั่งเซ็นรับเงิน ก็ต้องเกิดทีหลังสิ

อิชั้นเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ ขอคำแนะนำหน่อย

เพราะเกรงว่า นี่โดนเบี้ยวค่าจ้างมาครบปีนึงแล้ว ถ้ายอมเซ็นใบสำคัญรับเงินนี้ ก็เท่ากับยอมรับสภาพว่าได้รับเงินไปแล้วมีหลักฐานเป็นเอกสาร
แต่จริงๆไม่ได้เงิน ต่อไปก็เรียกร้องเอาสิทธิ์ส่วนนี้ไม่ได้  รึเปล่าคะ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่