วันนี้ผมขอใช้พื้นที่นี้เป็นกระบอกเสียงเพื่อระบายความคับแค้นใจที่แบกรับมานาน งานนี้มีผู้เสียหายกว่า 20 คน แต่คนที่ทำผิดกลับใช้ชีวิตหรูหราติดแกลม เดินทางเที่ยวเมืองนอก กินหรูอยู่สบายบนความทุกข์ของคนอื่น!
.
เรื่องเริ่มตั้งแต่ช่วงสองปีก่อน ผมทำเพจชื่อว่า แพนิคที่รัก ตอนนั้นผมได้ประกาศหาลูกเพจที่เป็นฟรีแลนซ์มาช่วย หนึ่งในนั้นมีคนนึงเป็นทอม สมมุติว่าชื่อ ‘ซ’ เค้ากับแฟนตอนนั้นช่วยทำเพจนี้ได้สามเดือนก่อนที่โปรเจคจะหยุดไป
.
จนเมื่อต้นปีที่แล้วซ.ได้โทรมาหาผมบอกว่าเครียดจนซึมเศร้ากำเริบเพราะกำลังจะเลิกกับแฟน ผมสงสาร จึงรับฟังและให้คำแนะนำเต็มที่ และในจังหวะนั้นผมมีงานพอดี เลยจ้างมาเป็นฟรีแลนซ์เพื่อให้เค้ามีรายได้
.
แต่ใครจะไปคิดว่า...นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ
.
ระหว่างทำงานซ.เริ่มมีปัญหาขอเบิกเงินล่วงหน้า โดยอ้างว่าแม่ป่วยหนักเข้า ICU ผมที่เห็นใจและเชื่อใจ ก็ให้ไปตามคำขอเพราะอยากช่วยเหลือ
.
ช่วงนั้นซ.รับงานฟรีแลนซ์จากบริษัทที่นำเข้าแว่นแบรนด์เนมชื่อดังหลายยี่ห้อ เป็นบริษัทใหญ่น่าเชื่อถือ
.
ซ.ยืมเงินบริษัทผมบ่อยขึ้น อ้างว่าต้องจ่ายเงินมัดจำให้อินฟลูเอนเซอร์รีวิวแว่นหลายงาน แต่ตัวเองไม่มีเงินพอ และไม่อยากพลาดโอกาสทำงานนี้เพราะแม่ก็ยังป่วยอยู่ถ้าได้งานเรื่อยๆคงจะพอช่วยแม่ได้
.
ด้วยความที่ผมและหุ้นส่วนอยากช่วยคนที่กำลังพยายามสร้างตัว ทางหุ้นส่วนผมจึงให้ยืมเงินไป แต่ซ.คืนช้าตลอด เราจึงเสนอว่าให้บริษัทแว่นจ้างบริษัทผมตรงเลยจะดีกว่า และให้ซ.ดูแลโปรเจคในฐานะเซลล์ฟรีแลนซ์
.
ซ.เห็นด้วยจึงขอเอกสารทางบริษัทผมเพื่อไปทำสัญญากับบริษัทแว่น โดยทางผมเซ็นสัญญารับจ้างแล้วทางซ.จะเป็นคนเอาไปให้ทางบริษัทแว่นเซ็นเอง โดยหลังจากที่ซ.บอกว่าทางบริษัทแว่นเซ็นแล้วก็จะส่งไฟล์มาให้ผมเก็บไว้เป็นหลักฐาน
.
พร้อมส่งเลขบัญชี กับบัตรประชาชน ของคนที่ซ.บอกว่าเป็นผู้จัดการอินฟลูฯที่รีวิวแว่นมาให้เพื่อให้บริษัทผมโอนเงินไป รวมๆแล้วทางบริษัทผมโอนเงินไปตามบัญชีเหล่านั้นและบัญชีซินร่วม 700,000 บาท!!
.
แต่ความไว้ใจนั้นถูกทำลายจนหมดสิ้น!
.
พอถึงวันที่บริษัทแว่นต้องจ่ายเงิน กลับไม่มีเงินโอนเข้ามา ซ.บอกว่าบริษัทแว่นจ่ายเงินช้าเป็นปกติ ส่งสลิปปลอมว่าบริษัทแว่นตั้งโอนล่วงแล้วหน้ามาให้ดู หลอกลวงเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า
.
สุดท้ายเมื่อผมจะไปคุยกับบริษัทแว่นเอง ซ.จึงยอมรับว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก! สัญญาที่เอามาให้ผมเซ็นเป็นของปลอม บริษัทแว่นจ้างเค้าโดยตรง ไม่เคยจ้างบริษัทผมเลย ผมจึงบอกซ.ว่าให้สารภาพต่อหน้ากล้องเพื่อที่ผมจะได้อัดคลิปแล้วเอาให้ทางหุ้นส่วนผมดูด้วย
.
หลังจากนั้นผมจึงปรึกษาทนายและส่งเอกสารทั้งหมดให้กับทางตำรวจ และได้คุยกับทางพี่สาวซ.ซึ่งบอกว่าแม่ป่วยจริงแต่ซ.ไม่เคยช่วยที่บ้านเรื่องเงินเลยมีแต่นำความเดือดร้อนมาให้ คนแบบไหนกันเอาเรื่องแม่ป่วยมาหลอกโกงเงินคนอื่น... แถมเรื่องไม่จบแค่นั้น!!
.
ตอนหลังผมได้เข้าไปพูดคุยกับทางบริษัทแว่นจึงได้รู้ว่าหนึ่งในคนที่ซ.หลอกให้ผมโอนเงินไปเป็นพนักงานของบริษัทแว่นเอง!!! สมมุติว่าคนนี้ชื่อ ‘ม.’ ผมมีโอกาสได้คุยกับม. เธออ้างว่ารู้จักซ.เพียงผิวเผินไม่ได้เป็นแฟนกันและเธอเองก็มีแฟนเป็นพยาบาลอยู่แล้ว
.
แต่หลังจากนั้นผมได้รู้จากผู้เสียหายคนอื่นว่าจริงๆแล้ว ‘ม.’ แอบเป็นแฟนกับ ‘ซ.’ มีคนแคปหลักฐานส่งมาให้ และมีการโอนเงินที่รับจากบริษัทผมให้กันด้วย
.
ยังไม่หมดแค่นี้!!!... หลังจากนั้นมีผู้จัดการนักแสดงชื่อดังท่านหนึ่งได้ติดต่อมาหาผมและบอกว่าบริษัทผมได้จ้างนักแสดงในสังกัดเค้าหลายคนเพื่อรีวิวแว่นและไม่จ่ายเงิน พอทางนั้นเปิดเอกสารให้ดูจึงรู้ว่าซ.เอาเอกสารบริษัทผมไปหลอกว่าจ้าง
.
และไม่ใช่แค่บริษัทเดียว มีทั้งหมด 4 คนที่ทักมาหาผม โดยมีสองคนที่เป็นเพื่อนกับซ.สมัยมัธยมและมหาลัยด้วย ขนาดเพื่อนตัวเองยังไม่เว้น!!
.
หนึ่งในนั้นเป็นช่างภาพ โดยซ.หลอกคนนี้ว่ามีงานถ่ายรูปแว่นมาให้ แต่ต้องจ่ายมัดจำค่าแว่น 150,000 เพราะสินค้าที่จะถ่ายมีราคาสูง สุดท้ายโดนบิด ถ่ายงานฟรีไม่พอค่ามัดจำก็ไม่ได้คืน
.
และมีอีกหลายคดีจนตอนนี้ผู้เสียหายรวมกลุ่มกันกว่า 20 คน มูลค่าเสียหายเกิน 2,000,000 บาทไปแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
.
แถมคนที่ทำผิดยังคงใช้ชีวิตแบบไม่สะทกสะท้าน ซ.เที่ยวเล่นอย่างสบายใจ กินหรู ใช้ชีวิตติดแกลม เช่ารถราคาแพงมาขับ ไปเที่ยวต่างประเทศในขณะที่พวกเราต้องมาทนทุกข์กับความเสียหายที่มันสร้างไว้
.
มีคนบอกว่าเมื่อถามซ.เรื่องเงิน มันพูดหน้าตาเฉยว่า “อยากได้เงินคืนก็ไปฟ้องเอาสิ" ไม่กลัวหรอกก็แค่ติดคุก
.
ทุกคนโกรธมาก บางคนแจ้งความแต่ก็ไม่ได้ผล ผมเลยตัดสินใจเล่าเรื่องนี้เพื่อเตือนภัย และเผื่อใครโดนคนนี้หลอกจะได้ออกมารวมตัวทวงถามความยุติธรรมด้วยกัน
.
และใครที่เจอคนแบบนี้ อย่าหลงเชื่อเหมือนพวกเราอีก อยากฝากทุกคนช่วยแชร์เรื่องนี้ด้วยครับ อยากให้คนผิดได้รับโทษไม่ใช่มาหัวเราะสะใจใส่ผู้เสียหายเหมือนตบหน้ากันแบบนี้
เตือนภัยสังคม หลอกจ้างงานแต่ไม่จ่ายเงิน พอทวงถามอ้างหาหมอซึมเศร้า
.
เรื่องเริ่มตั้งแต่ช่วงสองปีก่อน ผมทำเพจชื่อว่า แพนิคที่รัก ตอนนั้นผมได้ประกาศหาลูกเพจที่เป็นฟรีแลนซ์มาช่วย หนึ่งในนั้นมีคนนึงเป็นทอม สมมุติว่าชื่อ ‘ซ’ เค้ากับแฟนตอนนั้นช่วยทำเพจนี้ได้สามเดือนก่อนที่โปรเจคจะหยุดไป
.
จนเมื่อต้นปีที่แล้วซ.ได้โทรมาหาผมบอกว่าเครียดจนซึมเศร้ากำเริบเพราะกำลังจะเลิกกับแฟน ผมสงสาร จึงรับฟังและให้คำแนะนำเต็มที่ และในจังหวะนั้นผมมีงานพอดี เลยจ้างมาเป็นฟรีแลนซ์เพื่อให้เค้ามีรายได้
.
แต่ใครจะไปคิดว่า...นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ
.
ระหว่างทำงานซ.เริ่มมีปัญหาขอเบิกเงินล่วงหน้า โดยอ้างว่าแม่ป่วยหนักเข้า ICU ผมที่เห็นใจและเชื่อใจ ก็ให้ไปตามคำขอเพราะอยากช่วยเหลือ
.
ช่วงนั้นซ.รับงานฟรีแลนซ์จากบริษัทที่นำเข้าแว่นแบรนด์เนมชื่อดังหลายยี่ห้อ เป็นบริษัทใหญ่น่าเชื่อถือ
.
ซ.ยืมเงินบริษัทผมบ่อยขึ้น อ้างว่าต้องจ่ายเงินมัดจำให้อินฟลูเอนเซอร์รีวิวแว่นหลายงาน แต่ตัวเองไม่มีเงินพอ และไม่อยากพลาดโอกาสทำงานนี้เพราะแม่ก็ยังป่วยอยู่ถ้าได้งานเรื่อยๆคงจะพอช่วยแม่ได้
.
ด้วยความที่ผมและหุ้นส่วนอยากช่วยคนที่กำลังพยายามสร้างตัว ทางหุ้นส่วนผมจึงให้ยืมเงินไป แต่ซ.คืนช้าตลอด เราจึงเสนอว่าให้บริษัทแว่นจ้างบริษัทผมตรงเลยจะดีกว่า และให้ซ.ดูแลโปรเจคในฐานะเซลล์ฟรีแลนซ์
.
ซ.เห็นด้วยจึงขอเอกสารทางบริษัทผมเพื่อไปทำสัญญากับบริษัทแว่น โดยทางผมเซ็นสัญญารับจ้างแล้วทางซ.จะเป็นคนเอาไปให้ทางบริษัทแว่นเซ็นเอง โดยหลังจากที่ซ.บอกว่าทางบริษัทแว่นเซ็นแล้วก็จะส่งไฟล์มาให้ผมเก็บไว้เป็นหลักฐาน
.
พร้อมส่งเลขบัญชี กับบัตรประชาชน ของคนที่ซ.บอกว่าเป็นผู้จัดการอินฟลูฯที่รีวิวแว่นมาให้เพื่อให้บริษัทผมโอนเงินไป รวมๆแล้วทางบริษัทผมโอนเงินไปตามบัญชีเหล่านั้นและบัญชีซินร่วม 700,000 บาท!!
.
แต่ความไว้ใจนั้นถูกทำลายจนหมดสิ้น!
.
พอถึงวันที่บริษัทแว่นต้องจ่ายเงิน กลับไม่มีเงินโอนเข้ามา ซ.บอกว่าบริษัทแว่นจ่ายเงินช้าเป็นปกติ ส่งสลิปปลอมว่าบริษัทแว่นตั้งโอนล่วงแล้วหน้ามาให้ดู หลอกลวงเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า
.
สุดท้ายเมื่อผมจะไปคุยกับบริษัทแว่นเอง ซ.จึงยอมรับว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก! สัญญาที่เอามาให้ผมเซ็นเป็นของปลอม บริษัทแว่นจ้างเค้าโดยตรง ไม่เคยจ้างบริษัทผมเลย ผมจึงบอกซ.ว่าให้สารภาพต่อหน้ากล้องเพื่อที่ผมจะได้อัดคลิปแล้วเอาให้ทางหุ้นส่วนผมดูด้วย
.
หลังจากนั้นผมจึงปรึกษาทนายและส่งเอกสารทั้งหมดให้กับทางตำรวจ และได้คุยกับทางพี่สาวซ.ซึ่งบอกว่าแม่ป่วยจริงแต่ซ.ไม่เคยช่วยที่บ้านเรื่องเงินเลยมีแต่นำความเดือดร้อนมาให้ คนแบบไหนกันเอาเรื่องแม่ป่วยมาหลอกโกงเงินคนอื่น... แถมเรื่องไม่จบแค่นั้น!!
.
ตอนหลังผมได้เข้าไปพูดคุยกับทางบริษัทแว่นจึงได้รู้ว่าหนึ่งในคนที่ซ.หลอกให้ผมโอนเงินไปเป็นพนักงานของบริษัทแว่นเอง!!! สมมุติว่าคนนี้ชื่อ ‘ม.’ ผมมีโอกาสได้คุยกับม. เธออ้างว่ารู้จักซ.เพียงผิวเผินไม่ได้เป็นแฟนกันและเธอเองก็มีแฟนเป็นพยาบาลอยู่แล้ว
.
แต่หลังจากนั้นผมได้รู้จากผู้เสียหายคนอื่นว่าจริงๆแล้ว ‘ม.’ แอบเป็นแฟนกับ ‘ซ.’ มีคนแคปหลักฐานส่งมาให้ และมีการโอนเงินที่รับจากบริษัทผมให้กันด้วย
.
ยังไม่หมดแค่นี้!!!... หลังจากนั้นมีผู้จัดการนักแสดงชื่อดังท่านหนึ่งได้ติดต่อมาหาผมและบอกว่าบริษัทผมได้จ้างนักแสดงในสังกัดเค้าหลายคนเพื่อรีวิวแว่นและไม่จ่ายเงิน พอทางนั้นเปิดเอกสารให้ดูจึงรู้ว่าซ.เอาเอกสารบริษัทผมไปหลอกว่าจ้าง
.
และไม่ใช่แค่บริษัทเดียว มีทั้งหมด 4 คนที่ทักมาหาผม โดยมีสองคนที่เป็นเพื่อนกับซ.สมัยมัธยมและมหาลัยด้วย ขนาดเพื่อนตัวเองยังไม่เว้น!!
.
หนึ่งในนั้นเป็นช่างภาพ โดยซ.หลอกคนนี้ว่ามีงานถ่ายรูปแว่นมาให้ แต่ต้องจ่ายมัดจำค่าแว่น 150,000 เพราะสินค้าที่จะถ่ายมีราคาสูง สุดท้ายโดนบิด ถ่ายงานฟรีไม่พอค่ามัดจำก็ไม่ได้คืน
.
และมีอีกหลายคดีจนตอนนี้ผู้เสียหายรวมกลุ่มกันกว่า 20 คน มูลค่าเสียหายเกิน 2,000,000 บาทไปแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
.
แถมคนที่ทำผิดยังคงใช้ชีวิตแบบไม่สะทกสะท้าน ซ.เที่ยวเล่นอย่างสบายใจ กินหรู ใช้ชีวิตติดแกลม เช่ารถราคาแพงมาขับ ไปเที่ยวต่างประเทศในขณะที่พวกเราต้องมาทนทุกข์กับความเสียหายที่มันสร้างไว้
.
มีคนบอกว่าเมื่อถามซ.เรื่องเงิน มันพูดหน้าตาเฉยว่า “อยากได้เงินคืนก็ไปฟ้องเอาสิ" ไม่กลัวหรอกก็แค่ติดคุก
.
ทุกคนโกรธมาก บางคนแจ้งความแต่ก็ไม่ได้ผล ผมเลยตัดสินใจเล่าเรื่องนี้เพื่อเตือนภัย และเผื่อใครโดนคนนี้หลอกจะได้ออกมารวมตัวทวงถามความยุติธรรมด้วยกัน
.
และใครที่เจอคนแบบนี้ อย่าหลงเชื่อเหมือนพวกเราอีก อยากฝากทุกคนช่วยแชร์เรื่องนี้ด้วยครับ อยากให้คนผิดได้รับโทษไม่ใช่มาหัวเราะสะใจใส่ผู้เสียหายเหมือนตบหน้ากันแบบนี้