[CR] ร้านผ้าม่านในงานแฟร์ ... เหนื่อยใจ เพราะเลือกร้านผิด

สวัสดีค่ะ สำหรับกระทู้นี้เกิดขึ้นเพราะว่า จขกท เจอร้านผ้าม่านในงานแฟร์แห่งหนึ่งทำให้รู้สึกแย่จนอยากจะนำประสบการณ์มาเล่าให้เพื่อนๆ ที่กำลังจะเลือกร้านผ้าม่านให้เลือกให้ดีๆ อาจจะเจอเรื่องเหนื่อยใจแบบเราก็ได้

จขกท เริ่มรีโนเวทบ้านทาวน์เฮ้าส์สองชั้นอยู่เองตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เริ่มตกแต่งประมาณกลางปี จึงหาข้อมูลงานเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เพื่อเป็นไอเดีย ก่อนหน้านั้น จขกท กับสามีก็เดินสำรวจตามร้านเฟอร์นิเจอร์ทั้งที่มีแบรนด์ และไม่มีแบรนด์มาหลายที่แล้ว ก็พอมีไอเดียว่าจะแต่งบ้านแบบไหน

จนเมื่อกลางปีที่ผ่านมา มีงานลดราคาสินค้าหลายประเภท รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่อิมแพ็ค ก็เลยชวนสามีไปเดินดู โดยเป้าหมาย คือ ร้านผ้าม่าน โซฟา และชั้นวางทีวี

ก่อนไปงาน จขกท ก็รีวิวร้านผ้าม่านใน pantip ก็ได้อ่านกระทู้ที่มีคนเตือนเรื่องการเลือกซื้อผ้าม่านในงานแฟร์ และแนะนำให้เลือกร้านใกล้บ้าน จขกท จึงพยายามเลือกอย่างระมัดระวัง จนมาถึงร้านที่จะเล่านี้ ซึ่งเป็นร้านที่ตัดสินใจวางมัดจำด้วย

ผ้าม่านและผลงานของร้านนี้ก็ดูเหมื่อนร้านอื่นๆ ในงาน คุณภาพงานที่โชว์ก็ดูพอๆ กัน เราก็เอาขนาดของประตูและหน้าต่างที่จะทำม่านไปให้ตีราคา ซึ่งคนที่มาตีราคาให้เราเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ที่น่าจะเป็นเจ้าของร้าน เพราะว่าเป็นคนตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในร้าน และพนักงานในร้านคนอื่นๆ ก็ต้องมาถามข้อมูลเพิ่มเติมจากคนนี้ ตอนแรกที่เรายังไม่ได้มัดจำพี่ผู้หญิงคนนี้พูดดีมาก เราถามอะไรก็ตอบและให้ข้อมูลดี

เราเอารูปประตูหน้าบ้านเราไปให้ดู เนื่องจากมีปัญหาว่าเราติดแอร์ที่เหนือประตูทางเข้า ทำให้มีพื้นที่แคบสำหรับติดม่าน แต่เราชอบม่านตาไก่ มากกว่าม่านจีบ เราก็เลยถามว่าพื้นที่แค่นี้สามารถติดม่านตาไก่ได้หรือไม่ (ร้านก่อนหน้าที่เราถามมาบอกว่าติดไม่ได้หมดเลย แต่เราลองถามไปเรื่อยๆ อยากเปรียบเทียบราคาหลายๆ ร้านด้วย ในตอนนั้นก็คิดว่าถ้าติดไม่ได้ก็คงต้องติดม่านจีบนั่นแหละ ก็ไม่ได้จะเรื่องมากอะไร ในเมื่อทำไม่ได้ก็ไม่ได้) ตอนนั้นเราวัดระยะที่เหลือจากประตูถึงแอร์ไปให้ที่ร้านเรียบร้อยแล้วด้วย

ตอนเราพูดถึงปัญหานี้กับเจ้าของร้านนี้ พี่ผู้หญิงคนนั้นก็บอกเราว่า ระยะประมาณนี้ติดม่านตาไก่ได้แน่นอน เราเลยบอกว่า เราถามมา 3-4 ร้าน ทุกร้านบอกว่าไม่ได้หมดเลยนะคะ แน่ใจหรือเปล่าว่าติดได้ แล้วมันจะบังแอร์มั้ย เรากลัวว่าม่านมันจะไปบังแอร์ทำให้แอร์ตกอยู่แค่ที่หน้าประตู เค้าก็ยังยืนยันว่า "ติดได้ไม่มีปัญหาแน่นอน"

พี่เค้าถามสถานที่บ้านเรา เราก็บอกว่าแถวลาดพร้าว เราก็เลยถามเรื่องที่ตั้งของร้านด้วย (เพราะอย่างที่บอกว่าอยากได้ร้านใกล้บ้าน แล้วเราก็เล็งร้านในงานร้านอื่นที่อยู่ใกล้บ้านไว้ ถ้าหาร้านที่ถูกใจกว่าไม่ได้ก็จะเลือกร้านนั้นไว้แล้ว) ซึ่งพี่เค้าบอกว่าอยู่แถวบางบัวทอง เราก็เลยบอกว่าไกลจัง ช่างคงลำบากที่จะมาติด (ในใจเราก็คิดว่าถ้าไกลขนาดนั้นน่าจะตามยาก) แต่พี่เจ้าของร้านยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า "ไม่ไกล ไปได้ สะดวกด้วย" และมีลูกค้าแถวนั้นอยู่เรื่อยๆ ไม่มีปัญหา

ตอนนั้นที่เราไปคือ เดือนกรกฎาคม เราก็เลยบอกว่าเราจะขึ้นบ้านใหม่กลางเดือนสิงหาคม มีเวลาแค่ 1 เดือนจะทันหรือเปล่า ซึ่งเค้ารีบปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าทันแน่นอน

หลังจากนั้นเราก็เดินดูอีกสองสามร้าน แล้วก็ตกลงใจกับสามีว่าจะเลือกร้านนี้ เหตุผลเพราะ พี่เจ้าของร้านดูอัธยาศัยดีมาก แล้วก็ให้ข้อมูลดี เรื่องราคาพอๆ กับเจ้าอื่น จะมีข้อเสียที่ลังเลคือ ไกล ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่าไปวัดให้เราได้ ไม่มีปัญหา เรากับสามีก็เลยเดินกลับไปร้านเดิม พี่เจ้าของร้านต้อนรับลูกค้าท่านอื่นอยู่ เราก็เลยคุยกับพนักงานอีกคนแทน แต่พี่เจ้าของร้านก็ยังจำได้ แล้วเอาใบเสนอราคาใบเดิมมาให้ เรากับสามีก็เลือกผ้า ซึ่งมีสองสียังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกสีไหน พี่เจ้าของร้านก็เลยบอกว่าจะเอาไปเลือกให้หน้างาน ตอนนั้นเราก็ถามย้ำว่าจะทันวันขึ้นบ้านใหม่แน่ๆ ใช่มั้ย และสามารถไปได้แน่ๆ ไม่ไกลไปใช่มั้ย เค้าก็รับปากอย่างดี จนเรากับสามีตัดสินใจเลือกร้านนี้และวางมัดจำ ประมาณ 5000 บาท โดยมูลค่ารวมของผ้าม่านประมาณเกือบ 20000 บาท

พอเราวางมัดจำเสร็จเรียบร้อย เราก็ถามเรื่องวัดงาน ว่าจะเข้าไปวัดได้วันไหน ก็เริ่มมีข้ออ้างเข้ามา บอกว่ายังกำหนดแน่นอนไม่ได้ เพราะว่างานแฟร์จะเสร็จอาทิตย์หน้า ต้องไปหลังงานเสร็จเพราะบ้านน้องอยู่ไกล (ตะกี้บอกไปได้ สะดวก) ตอนนั้นเองที่เราเริ่มรู้สึกทะยิ้มนิดๆ แต่ยังมองโลกในแง่ดีอยู่ ก็ถามว่าถ้าวัดหลังงานแฟร์มีเวลาประมาณสี่สัปดาห์ ทันแน่ๆ ใช่มั้ย พี่เค้าบอกว่าทัน ... ก็เลยพยายามไม่คิดมาก (อยากจะเขกหัวตัวเองนักว่าทำไมถึงรู้สึกตัวช้าเหลือเกิน ใครจะว่าเราโง่ก็ยอม เพราะเราก็ยังคิดว่าตัวเองโง่จนถึงทุกวันนี้)

เราก็รอๆๆๆๆๆ รอจนจบงานแฟร์ รอการติดต่อมาจากร้าน แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีการติดต่อมา จนผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ (ใจเย็นชะมัดเลย) ก็เลยโทรไปถามที่ร้าน โทรไปเจอเจ้าของร้าน เราก็แนะนำตัว บอกว่าติดต่อเรื่องผ้าม่านที่จองในงาน บอกวันที่ เลขที่ใบเสร็จที่มัดจำและถามเรื่องจะเข้ามาวัดหน้างาน ตอนนั้นเหมือนเค้าจะยุ่งๆ เค้าเลยบอกเราเสียงห้วนๆ ว่า "ถือสายรอก่อน" ผ่านซักพักเกือบสิบนาทีจนเราเกือบจะวางอยู่แล้วก็มีเสียงผู้หญิงคนเดิมบอกว่า "เดี๋ยวให้ช่างโทรกลับนะ" แล้วก็วางไปเลยโดนที่เราไม่ได้พูดอะไรเลยซักคำ ... เราเริ่มไม่ค่อยชอบใจ แต่ก็เอาว่ะ คิดในแง่ดี อาจจะยุ่งๆ รอช่างโทรมาแล้วกัน

... รอไปอีกเกือบหมดอาทิตย์ (โทรครั้งแรกวันจันทร์) แล้วพอวันเสาร์ก็เริ่มเซ็ง เลยคุยกับสามีว่า เราน่าจะเลือกร้านผิดล่ะ งั้นโทรไปคุยกับเค้ามั้ย ถ้าเค้ายุ่งมากทำงานให้เราไม่ได้ เราขอมัดจำคืน แล้วไปหาร้านใหม่แถวนี้กัน ไม่ได้คิดจะหาเรื่องหรืออะไร แค่ว่าราจะได้ทำอย่างอื่นต่อ ไม่ต้องมานั่งรอแบบไม่รู้เมื่อไหร่จะเสร็จแบบนี้ สามีก็โทรไปหาเจ้าของร้าน และบอกว่า ถ้าไม่สามารถเข้ามาวัดงานได้หรือไม่ว่าง เราจะขอมัดจำคืน ... เจ้าของร้านบอกว่าจะเข้ามาวัดให้วันนั้นเลย ... เรากับสามีก็แอบอึ้งหน่อยๆ ใจจริงๆ อยากเปลี่ยนร้านแล้ว เพราะรู้สึกไม่ดีแล้ว แต่สามีบอกว่าเค้าบอกจะมาแล้ว ก็ลองให้โอกาสเค้าหน่อยแล้วกัน สรุปเค้าเข้ามาวันนั้นตอนเย็นนั่ง taxi มาคนเดียว เราก็เอาน้ำไปต้อนรับทั้งพี่ taxi และพี่เจ้าของร้าน พอมาดูหน้างาน พี่เค้าก็บอกว่าม่านตรงประตูติดม่านตาไก่ไม่ได้ (อ้าว ก็ในงานบอกว่าได้แน่นอน ขนาดระยะห่างที่วัดก็เท่ากับที่เราบอกตั้งแต่แรก) ก็เซ็งนิดหน่อย แต่ช่างมันก็ทำใจแล้ว แค่เซ็งว่าแล้วบอกว่าได้ตั้งแต่แรกทำไม ถ้ารู้อยู่แล้วว่าไม่ได้ สรุปว่าก็เลยต้องเป็นม่านจีบทั้งบ้าน

ตอนวันที่มาวัด เราเพิ่มม่านสองชั้นในห้องนอนกับมูลี่เข้าไปด้วยราคาก็จะประมาณ 20000 ต้นๆ ตอนนั้นเหลืออีกสองสัปดาห์กว่าๆ จะถึงวันขึ้นบ้านใหม่ ซึ่งพี่เค้าบอกว่าทันแน่นอน น่าจะเสร็จก่อน (จริงๆ เราขึ้นบ้านใหม่วันที่ 14 แต่เราบอกเค้าว่าวันที่ 10 เพราะเราอยากให้ทุกอย่างเสร็จก่อนวันงาน ซึ่งมีเวลาอีกประมาณเกือบสามสัปดาห์ก่อนวันที่ 10) พี่เค้าบอกว่าใช้เวลาเย็บประมาณ 10 วัน

หลังจากวันที่มาวัดม่าน แล้วเค้าก็หายเงียบไป ...... จนเหลือเวลาอีกอาทิตย์กว่าๆ เกือบสองอาทิตย์ เราก็ให้สามีโทรไปตามงาน (เราไม่อยากคุย) พี่เจ้าของร้านบอกว่า เดี๋ยวโทรนัดช่างให้แล้วจะโทรมาบอก แล้วก็หายเงียบไปอีก .... ซึ่งช่วงสัปดาห์ก่อนวันงาน เราเคลียร์งาน แล้วเอางานมาทำที่บ้าน ก็เลยว่างตั้งแต่วันที่ 10-12 เพื่อเตรียมตัวรับของที่จะมาลงที่บ้าน ทั้งเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านต่างๆ ซึ่งของเจ้าอื่นไม่มีปัญหาเลย แต่วันที่ 13 เรามีประชุมไม่สามารถลาได้เลยจริงๆ ดังนั้นของทุกอย่างจะมาลงวันที่ 10-12 ส่วนสามีเราว่างวันที่ 8-9 ซึ่งเราก็ให้สามีบอกกับเจ้าของร้านไป

สามีเราโทรเช้า โทรเย็น พี่เค้าบอกว่าไม่ทันวันที่ 10 ช่างไม่ว่าง สามีเราเลยบอกว่างั้นก่อนวันที่ 14 แล้วกัน พี่เค้าเงียบหายไปครึ่งวัน โทรมาอีกทีตอนเย็น บอกว่าจะให้ช่างเข้าไปวันที่ 13 (ที่ไม่มีใครอยู่บ้าน) แล้วตัดสายไปทันที เรากับสามีอึ้งไป คือ ทำไมร้านนี้ไม่เคยโทรหาลูกค้าก่อน แถมพอพูดเสร็จก็ตัดสายตลอด ไม่ได้ถามเลยว่าเราสะดวกมั้ย ... เรากับสามีก็เลยคุยกันว่า ต้องขอต่อรองเปลี่ยนวัน ถ้าช่วงวันที่เราว่างเค้าเข้ามาไม่ได้ ก็เข้ามาวันที่ 14 เลยก็แล้วกัน สามีเราก็โทรกลับไปอีกรอบ คราวนี้พี่เค้าให้เบอร์ช่างมา บอกว่าไปคุยกับช่างเอง ซึ่งตัวช่างคุยง่ายมาก แต่ว่าเค้าสามารถมาได้วันที่ 14 เราก็เลยโอเค 14 ก็ได้ น่าจะพอมีเวลามาดูได้ เราคิดว่ามันจะจบ ... แค่นี้ก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่กับร้านนี้

มาถึงวันที่ 14 เรากับสามีแอบวุ่นๆ รับแขก แม้ว่าแขกมีเฉพาะญาติสนิทไม่กี่คนแต่ก็ไม่ได้มีเวลาไปดูรายละเอียดปลีกย่อยมากนัก สรุปว่าช่างมากันตอนเที่ยง เข้ามาแล้วก็ติดม่าน ใช้เวลาค่อนข้างรวดเร็ว ม่านก็สวยสมราคา แต่ก็มีปัญหาไม่น้อย

อันนี้เป็นรูปตรงหน้าบ้าน


ม่านตรงหน้าบ้านมีปัญหา เพราะเราทำม่านสองชั้น (ตอนแรกเจ้าของร้านบอกว่าไม่มีปัญหาเรื่องกั้นแอร์ พอติดเสร็จ (โชคดีเราให้ติดหน้าบ้านอันแรก) เราลองเปิดแอร์ สรุปว่าแอร์ตกลงในม่านหมดเลย ไม่เข้ามาในห้องเลย เลยต้องเรียกช่างมาแก้ใหม่ เอาม่านโปร่งออก เหลือม่านทึบอย่างเดียว

ปัญหาที่สอง คือ ตัดหน้าต่างชั้นสองมาผิดขนาด 1 ชุด โชคดีว่าเป็นม่านตรงตำแหน่งที่เป็นห้องว่าง ก็เลยไม่กระทบมาก

ตอนนั้นสามีเราก็โทรไปหาพี่เจ้าของร้าน เค้าก็บอกว่าจะทำให้ใหม่ภายในวันหรือสองวัน แล้วจะเอาเข้ามาติดให้ แล้วก็ลบราคาม่านโปร่งออกไป ตอนนั้นเราก็จ่ายเงินไปไม่เต็มราคา ค้างไว้สองพัน รอให้เค้าเอาม่านที่ผิดมาติดให้ก่อน

ตอนนั้นเราก็นึกว่าปัญหาจะจบ แต่สามีเราเพิ่งสังเกตว่าช่างขามู่ลี่ทับมุ้งลวดเรา ทำให้เราไม่สามารถเปิดมุ้งลวดได้ (ตอนแรกที่ตรวจรับหน้างาน ก็เช็คแค่ว่าม่ลี่ใช้ได้ตามปกติมั้ย แต่ลืมดูตำแหน่งที่ติด อันนี้เป็นความผิดพลาดของเราสองคนเองส่วนหนึ่งด้วย)  ตามรูป



ซึ่งบอกตามตรงว่าเรากับสามีเองไม่ได้ดูตรงนั้นละเอียดตั้งแต่วันที่เค้ามาติดเพราะว่าคิดว่าไม่น่าจะเกิดแบบนี้ได้ ก็เลยโทรไปหาช่าง เค้าก็บอกว่ากลับบ้านต่างจังหวัด มาสัปดาห์หน้า ... เราก็รอ จนผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ติดต่อช่างไม่ได้ เลยโทรหาเจ้าของร้านอีกครั้ง เค้าก็บอกว่า "นึกว่าทำเสร็จไปแล้ว" แล้วก็ตามช่างอีกคนให้

ผ่านไปเกือบสองอาทิตย์ ช่างอีกคนก็มาแก้ตรงขามู่ลี่ให้ ซึ่งก็แค่ย้ายตำแหน่งขา แทนที่จะวางบนมุ้งลวดก็ไปวางระหว่างหน้าต่างแทน เพื่อไม่ให้ทับมุ้งลวด แต่ช่างก็ดันทำสปริงที่ขามู่ลี่หัก ก็เลยต้องเข้ามาเปลี่ยนอันใหม่วันหลัง วันนั้นก็เอาผ้าม่านมาติดให้ แต่ลืมสายรัดผ้าม่านอีก สรุปว่างานก็ยังไม่เสร็จ เราเลยยังไม่จ่ายเงินส่วนที่เหลืออีกสองพันบาท หลังจากนั้นช่างก็หายไป และมู่ลี่เราก็ไม่สามารถปิดเปิดได้ เพราะขามันหักอยู่ กลัวมันจะตกลงมาถ้าไปดึง

สามีเราโทรตามสองสามรอบ เค้าบอกว่าจะติดต่อกลับมา .... ตอนนี้เราอยู่บ้านนี้มาเดือนครึ่งแล้ว ยังไม่ได้รับการติดต่อจากเจ้าของร้านอีกเลย ... เรากับสามีเลยตัดสินใจว่า สายรัดม่าน เราทำเองก็ได้ ส่วนขามู่ลี่สามีเราจะไปหามาเปลี่ยนเอง จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับร้านผ้าม่านนี้อีกแล้ว

เราอยากฝากถึงเจ้าของร้านผ้าม่านคนอื่นๆ แม้ว่าจะเป็นของที่เรียกใช้ครั้งเดียว ทำครั้งเดียวแล้วจบ คุณก็ควรจะใส่ใจลูกค้ามากกว่านี้ ถ้าคุณได้ใจลูกค้าไป ให้ราคาสูงกว่าคนอื่น ลูกค้าก็อยากบอกต่อ แต่ถ้าทำแบบร้านนี้ เราคงไม่ใช้บริการอีก และคงบอกคนอื่นๆ ไม่ให้ใช้บริการด้วย

สำหรับคนที่กำลังมองหาร้านผ้าม่าน เราอยากจะแนะนำว่าเลือกร้านใกล้บ้านดีที่สุดจริงๆ เวลามีปัญหาอะไรจะได้คอยตามงานได้ ถ้าช่างไม่ว่าง เราไปเอาของที่ร้านก็ยังได้ ปัญหาเรายังเป็นปัญหาเล็กๆ อย่างน้อยเค้าก็ไม่ได้โกง แค่มีปัญหาเรื่องบริการที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยใจ

กระทู้นี้ไม่ได้ต้องการจะดิสเครดิตใคร เพียงแต่ต้องการแชร์ประสบการณ์ไม่ดีที่เจอมาเท่านั้น เพื่อให้ผู้บริโภคท่านอื่นๆ ได้ระวัง  ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ

**แก้รูปค่ะ**
ชื่อสินค้า:   ผ้าม่าน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่