อยากจะขอให้ผู้ที่กำลังหาร้านผ้าม่าน ระวังร้านผ้าม่านร้านนี้ค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 20 ธันวาคม 2558 มีงานเฟอร์นิเจอร์ ที่ไบเทคบางนา ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ไปเดินงานนี้เพื่อหาซื้อของเข้าคอนโดใหม่ เเต่ด้วยความที่ตอนนั้นได้เดินก็ประมาณเกือบทุ่มเเล้ว เห็นร้านผ้าม่านร้านเเรกก็เข้าไปดูเลยค่ะ ตอนเเรกกะจะดูเป็นผ้าผืนๆไปติดเองเเต่ด้วยความที่ไม่มีขนาด จึงลองสอบถามว่าถ้าตัดราคาเท่าไหร่ ตอนนั้นพี่คนขายก็ถามรายละเอียดว่าขนาดประมาณเท่าไหร่อยากได้เเบบไหน จึงบอกไปว่า ขนาดสูง 2.50 ม. กว้าง 1.8 ม. อยากได้เเบบมีผ้าโปร่งกับผ้าทึบ คนขายก็บอกว่าราคา 12,000 บาท ซึ่งก็เห็นว่าราคาจุดละ 6,000 บาท รับได้จึงเข้าไปดูผ้าในร้าน พี่คนขายก็น่ารัก พูดจาดีมากๆ จนในที่สุดเราก็ตกลงทำ โดยจ่ายเงินมัดจำไป 2,000 บาท โดยนัดมาวัดวันที่ 10 ม.ค. 59
หลังจากนั้น ก็ได้มานั่งหาข้อมูลดูเล่นๆจากการหาชื่อร้าน ก็ปรากฎว่ามาเจอกระทู้ๆหนึ่งเข้า ที่ร่ายวีรกรรมของร้านนี้ไว้อย่างละเอียดคือที่หัวบิลคนละชื่อกัน เเต่นามบัตรนี่ใช่เลย ยอมรับว่าตอนนั้นหวั่นใจอยู่ เเต่ก็คิดในใจว่าของเราอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเเล้วก็ได้ คือ เค้าคงปรับปรุงมาตารฐานในการดูเเลลูกค้าดีเเล้วก็ได้
พอถึงวันนัด เราก็โทรไปหาทางร้าน (คือก่อนหน้าที่จะถึงวันนัดทางร้านไม่ติดต่อเรามาเลยเราก็เลยโทรไปหาทางร้านก่อนว่าวันนี้เรามีนัดกานนะ)
ปรากฎว่า คุณอุ้ยรับโทรศัพท์เเล้วก็บอกว่า 10.00 โมงไปไม่ทันหรอกเพราะช่างติดงานอีกที่หนึ่งของเลื่อนเป็นเที่ยงเเล้วกัน เราก็โอเครไม่เป็นไร พอเที่ยงก็ยังไม่มาเเล้วก็ให้ช่างโทรมาเลื่อนเราเป็นบ่ายกว่าๆเลื่อนไปเลื่อนมา สรุปว่าวันนั้นได้มาวัดผ้าม่านให้เราตอน บ่ายสามโมง - - " เราก็รู้สึกอารมย์เสียนิดหนึ่งละคือเราเองก็มีธุระที่อื่นเหมือนกันทำให้เราเสียเวลาทั้งวัน เเถมมาวัดก็ใช้เวลาเเปปเดียว (เจ้าใหม่มาวัดละเอียดมาก วัดละเอียดขนาดรู้ว่ากล่องผ้าม่านสองข้างลึกไม่เท่ากันหนึ่งเซ็นติเมตร) เเล้วเราก็ได้บอกกับช่างว่าช่วยเร่งงานให้นิดหนึ่งนะขอให้มาติดให้วันที่ 16 เนื่องจากวันที่ 17 ม.ค. เราต้องบินไปทำงานตจวนานเลย เนื่องจากตอนตกลงวันจองทางร้านบอกว่าหลังจากวันวัดเเล้ว 7 วันจะมาติดให้
ต่อมาก็เงียบหายไป จนดิฉันโทรไปหาทางร้านอีกเป็นคุณเเจ๊ครับสายก็เเจ้งเลขที่บิล เเละบอกรายละเอียดว่าจะขอให้มาติดในวันที่ 16 มกราคม ขอให้คุณเเจ๊คเเจ้งเวลามาได้เลย คุณเเจ๊คบอกพรุ่งนี้ 10.00 โมงจะโทรหาดิฉันเเจ้งเรื่องเวลาอีกที ก็โอเครค่ะวางสายไป
พอวันรุ่งขึ้น 10.00 โมงก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับใดๆทั้งสิ้น รอจนตอนเย็นที่ดิฉันเลิกงานจึงโทรไปหาทางร้านอีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นคุณเเจ๊ครับสาย ก็เเจ้างเลขที่บิลบอกรายละเอียดเเละถามว่าวันที่ 16 จะสามารถมาติดให้เวลาประมาณกี่โมงค่ะ คุณเเจ๊คบอกว่าไม่เกินบ่ายสาม ดิฉันก็โอเครค่ะ ขอบคุณค่ะ
สุดท้ายพอถึงนัดวันติดผ้าม่านจิงๆปรากฎว่าก็เงียบหายอีกเช่นเคย จนดิฉันต้องโทรไปที่ร้านอีกเเต่เป็นคุณอุ้ยรับสาย ก็เเจ้งเลขที่บิลปกติเเละสอบถามว่าวันนี้มีนัดติดผ้าม่านให้ดิฉัน เเต่ปรากฎว่าคุณอุ้ยบอกว่าลงวันนัดเป็นวันที่ 17 ดิฉันก็งงสิค่ะ ไม่เคยบอกวันที่ 17 เลย โทรไปหาทางร้านตั้งสองรอบกว่าจะคอนเฟิ์รมกันได้ จนเป็นคนขายให้ดิฉันโทรมาหาบอกว่าเป็นความผิดของทางร้านเองทั้งคุณเเจ๊คเเละคุณอุ้ยสื่อสารเรื่องวันกันผิดพลาด ดิฉันก็บอกว่าไม่เป็นไรมีเวลาติดถึง 5 โมงเย็นที่ทางนิติจะห้ามเจาะขอให้มาติดวันนี้ได้ไหม? เพราะดิฉันต้องบินไปต่างจังหวัดสองอาทิตย์ พอกลับมาเฟอร์นิเจอร์ก็มาส่งเข้าห้องเเล้ว เนื่องจากดิฉันคิดวางเเผนทุกสิ้นทุกอย่างไว้หมดเเล้ว นัดไว้หมดเเล้ว ถ้าไม่งั้นคงไม่รีบซื้อผ้าม่านหรอกเพราะวางเเผนว่าต้องติดผ้าม่านก่อนที่เฟอร์นิเจอร์อื่นๆจะเข้าห้อง ปรากฎว่าคำตอบที่ได้กลับมา คือ "ผ้ายังตัดไม่เสร็จ" ยิ่งทำให้ดิฉันรู้สึกเสียความรู้สึกมากขึ้นไปอีก ร้านค้าที่ไปออกบูทถึงไบเทคดูน่าจะเชื่อถือได้ ไม่ใช่เลยพอรับเงินมัดจำไปเเล้ว ไม่มีการติดต่อหาลูกค้า นัดไม่เป็นนัด ทำตามคำพูดตัวเองก็ไม่ได้ ตอนนั้นในใจดิฉันเสียความรู้สึกมากเลยจึงบอกว่าขอไม่เอาเเล้ว เนื่องจากเสียความรู้สึกมาก พี่คนขายก็เอาเเต่พูดคำว่าขอโทษๆๆ (พี่คนขายพูดจาดีมากๆๆ) ทางร้านบอกว่าจะไม่คืนเงินประกันเเละขอโอกาสให้ได้เอาผ้าม่านมาติดเถอะเนื่องจากลงมือตัดไปเเล้ว ในใจเรายังคิดว่านี่เป็นความผิดเราหรอ? สุดท้ายก็ใจอ่อนเพราะพี่คนขายย้ำว่าพี่คนขายจิงๆ เพราะเจ้าของร้านชอบวางโทรศัพท์ใส่ เเต่ดิฉันมีเงื่อนไขว่างานที่นำมาติดต้องเรียบร้อยจิงๆ เหมือนของมือหนึ่ง สวยงามตามที่ตกลงกันในวันวางเงินมัดจำ ถ้ามีอะไรผิดพลาดดิฉันจะไม่ให้โอกาสเเล้ว เพราะเนื่องจากได้ให้โอกาสไปเเล้ว เเละไม่สามารถรับได้อีกเเล้วทั้งเสียเวลา เสียความรู้สึก จึงนัดกันใหม่เป็นวันศุกร์ที่ 5 ก.พ. ตอนเย็น เพราะเสาร์วันที่ 6 เฟอร์นิเจอร์เข้าเเล้ว
พอถึงวันที่ 5 ก.พ. บ่ายโมงก็มีเบอร์เเปลกๆโทรมาปรากฎว่าเป็นเบอร์ช่างที่จะมาติดผ้าม่านบอกถึงคอนโดเเล้วดิฉันถึงคอนโดรึยัง? ปรี๊ดสิค่ะงานนี้คนนั่งทำงานอยู่บอกนัด 4 โมงเย็น ดิฉันจึงถามไปว่าพี่เค้าไม่บอกหรอว่านัดกี่โมง?
ช่างตอบว่ารู้ เเต่ว่ามาถึงเเล้วไง เเล้วเเถวนั้นรถก็ติดถ้าไปที่อื่นก่อนเดี๋ยวมาไม่ทัน ร้อนก็ร้อน บราๆๆ
ดิฉันบอกว่าตามเวลานัดค่ะ คนทำงานอยู่จะให้ลางานไปเสียงานเสียกานเพื่อไปเปิดห้องให้คุณที่มาไม่ตรงเวลานัดมาติดผ้าม่านก็คงไม่ใช่ค่ะ
เมื่อไปถึงก็พาช่างขึ้นไป เปิดเเอร์ให้ด้วยกลัวร้อน ช่างก็เริ่มเจาะเลยค่ะโดยดิฉันก็สังเกตุดูอยู่ไม่มีการนำกระดาษมารองพื้นเเต่อย่างใดการเจาะฝุ่นขี้ไม้ร่วงกราวเต็มพื้นเลยค่ะ ดิฉันก็เดินไปดูรางอลูมิเนียมปรากฎว่ามันมีรอยขูดขีดเป็นทางยางดิฉันก็ถามว่ามีอันใหม่ไหม อันนี้มานมีรอย ? ทางช่างก็ตอบว่าไม่มีเพราะทางร้านจัดมาเเบบนี้ ดิฉันก็อะไม่เป็นไรเพราะติดไปคงมองไม่เห็นอะไร พอถึงตอนติดผ้าม่านปรากฎว่าผ้าม่านยับมาก จีบไม่เป็นจีบเลย จึงได้โทรหาคนขายก่อนเลยค่ะ ทางพี่คนขายบอกว่าเดี๋ยวช่างจะมีเตารีดมารีดให้หน้างาน ดิฉันก็ถามช่างไป ปรากฎว่าช่างบอกว่าไม่มี มีซะที่ไหน ดิฉันจึงถามช่างว่าตั้งเเต่ไปติดผ้าม่านมาเป็นเเบบนี้หรอ? ช่างตอบว่าไม่เคยเหมือนกันไม่เคยเห็นผ้าม่านยับขนาดนี้เเละพยายามโทรหาช่างที่ตัดเย็บผ้าม่านให้ดิฉันเเต่ก็ไม่เป็นผล จึงโทรกลับไปทางร้านเมื่อคุยกะทางเจ้าของร้าน (ช่างคุยกับเจ้าของร้าน) เจ้าของร้านบอกว่ามีสองทางเลือกคือ 1. ให้ทางร้านมารีดให้วันหลัง 2. ให้หักเงินกับทางร้านไว้ 1,000 บาท คือดิฉันต้องจ่ายเงินอีก 9,000 บาท ดิฉันคิดดูเเล้วถ้าจะให้ทางร้านมารีดให้วันหลังก็ไม่รู้ว่าหลังขนาดไหน เพราะขนาดยังไม่ได้รับเงินยังทำกับดิฉันขนาดนี้ ถ้าจะให้จ่าย อีก 9,000 บาท ซึ่งรวมทั้งหมด 11,000 บาท เเต่ได้ของเเบบนี้ก็ไม่ไหวนะ เนื่องจากเราต้องเห็นผ้าม่านทุกวันที่เราอยู่ในห้องพอเปิดประตูเข้ามาก็ต้องเห็นกับผ้าม่านเเบบนี้จึงตัดสินใจบอกว่าให้ถอดทั้งหมดกลับเลยค่ะ เนื่องจากทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามสัญญาเลย บอกงานเรียบร้อยเเต่สิ่งที่เห็นมันไม่ใช่โอกาสดิฉันก็ให้คุณเเล้วเเต่คุณก็ยังทำกับดิฉันเเบบนี้ หลังจากช่างกลับไปดิฉันก็ได้โทรไปหาทางพี่คนขายอีกครั้งหนึ่งว่าทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้นเเล้วใช่ไหม? พี่บอกทราบเเล้วค่ะเเล้วจะไปคุยกับทางเจ้าของร้านให้ ให้คืนเงินมัดจำกับดิฉันบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะโทรหาดิฉันก็โอเครค่ะ
พอวันรุ่งขึ้นพี่คนขายก็เงียบไป ดิฉันจึงโทรไปหาพี่คนขายบอกยังไม่ได้คุยเลยงานยุ่งๆ เดี๋ยวโทรให้เเล้วจะเเจ้ง หลังจากนั้นอีกวันสองวันดิฉันโทรไปหาพี่คนขายอีกปรากฎว่าโทรไปหลายสายพี่เค้าก็ไม่รับโทรศัพท์ ดิฉันจึงต้องโทรไปหาเจ้าของร้านเองก็บอกเลขที่บิลอีกเช่นเคยเเต่พี่คนขายบอกว่าอยู่ข้างนอกต้องเช็คเลขที่บิลอีกทีตอนกลับให้ดิฉันส่งเลขที่บิลกับหน้า Bookbank ไปให้เเละจะโอนเงินให้ภายใน 7 วัน
สุดท้ายพอครบ 7 วันดิฉันก็โทรไปหาทางร้านอีกว่าโอนเงินให้ดิฉันหรือยัง?คำตอบที่ได้คือบอกว่าช่างเล่าให้ฟังว่าดิฉันพูดจาไม่ดี ผ้าตัดไปเเล้ว ไม่คิดว่าดิฉันจะเลือกมากขนาดนี้ เเค่ผ้ายับก็ไม่ยอมให้ติด พอดิฉันถามถึงเรื่องเตารีด ทางร้านก็ชี้เเจงด้วยเหตุผลที่ว่าเตารีดมีเพียงอันเดียว สรุปคือ ไม่คืนตังค์เเละตามเคยว่าโทรศัพท์ใส่ หลังจากนั้นดิฉันจึงโทรไปหาคนขายอีกคราวนี้รับโทรศัพท์เเละบอกว่าพี่เจ้าของมาบอกว่าดิฉันพูดจาไม่ดีพี่คนขายยังบอกว่าใช่หรอ? ไม่น่าใช่ พี่เป็นคนกลางไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกาน เเละตอนนี้เเม่พี่ก็ป่วยอยู่ ให้พรุ่งนี้ดิฉันโทรไปหาใหม่
สุดท้ายจึงอยากจะฝากเตือนใครที่กำลังหาร้านผ้านอยู่ก่อนตัดสินใจให้หาข้อมูลเกี่ยวกับร้านนั้นๆ ไม่อยากให้เจอเหมือนเหตุการณ์อย่างที่ดิฉันเจอเเบบนี้อีกค่ะ
[CR] ภัยของร้านผ้าม่าน
เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 20 ธันวาคม 2558 มีงานเฟอร์นิเจอร์ ที่ไบเทคบางนา ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ไปเดินงานนี้เพื่อหาซื้อของเข้าคอนโดใหม่ เเต่ด้วยความที่ตอนนั้นได้เดินก็ประมาณเกือบทุ่มเเล้ว เห็นร้านผ้าม่านร้านเเรกก็เข้าไปดูเลยค่ะ ตอนเเรกกะจะดูเป็นผ้าผืนๆไปติดเองเเต่ด้วยความที่ไม่มีขนาด จึงลองสอบถามว่าถ้าตัดราคาเท่าไหร่ ตอนนั้นพี่คนขายก็ถามรายละเอียดว่าขนาดประมาณเท่าไหร่อยากได้เเบบไหน จึงบอกไปว่า ขนาดสูง 2.50 ม. กว้าง 1.8 ม. อยากได้เเบบมีผ้าโปร่งกับผ้าทึบ คนขายก็บอกว่าราคา 12,000 บาท ซึ่งก็เห็นว่าราคาจุดละ 6,000 บาท รับได้จึงเข้าไปดูผ้าในร้าน พี่คนขายก็น่ารัก พูดจาดีมากๆ จนในที่สุดเราก็ตกลงทำ โดยจ่ายเงินมัดจำไป 2,000 บาท โดยนัดมาวัดวันที่ 10 ม.ค. 59
หลังจากนั้น ก็ได้มานั่งหาข้อมูลดูเล่นๆจากการหาชื่อร้าน ก็ปรากฎว่ามาเจอกระทู้ๆหนึ่งเข้า ที่ร่ายวีรกรรมของร้านนี้ไว้อย่างละเอียดคือที่หัวบิลคนละชื่อกัน เเต่นามบัตรนี่ใช่เลย ยอมรับว่าตอนนั้นหวั่นใจอยู่ เเต่ก็คิดในใจว่าของเราอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นเเล้วก็ได้ คือ เค้าคงปรับปรุงมาตารฐานในการดูเเลลูกค้าดีเเล้วก็ได้
พอถึงวันนัด เราก็โทรไปหาทางร้าน (คือก่อนหน้าที่จะถึงวันนัดทางร้านไม่ติดต่อเรามาเลยเราก็เลยโทรไปหาทางร้านก่อนว่าวันนี้เรามีนัดกานนะ)
ปรากฎว่า คุณอุ้ยรับโทรศัพท์เเล้วก็บอกว่า 10.00 โมงไปไม่ทันหรอกเพราะช่างติดงานอีกที่หนึ่งของเลื่อนเป็นเที่ยงเเล้วกัน เราก็โอเครไม่เป็นไร พอเที่ยงก็ยังไม่มาเเล้วก็ให้ช่างโทรมาเลื่อนเราเป็นบ่ายกว่าๆเลื่อนไปเลื่อนมา สรุปว่าวันนั้นได้มาวัดผ้าม่านให้เราตอน บ่ายสามโมง - - " เราก็รู้สึกอารมย์เสียนิดหนึ่งละคือเราเองก็มีธุระที่อื่นเหมือนกันทำให้เราเสียเวลาทั้งวัน เเถมมาวัดก็ใช้เวลาเเปปเดียว (เจ้าใหม่มาวัดละเอียดมาก วัดละเอียดขนาดรู้ว่ากล่องผ้าม่านสองข้างลึกไม่เท่ากันหนึ่งเซ็นติเมตร) เเล้วเราก็ได้บอกกับช่างว่าช่วยเร่งงานให้นิดหนึ่งนะขอให้มาติดให้วันที่ 16 เนื่องจากวันที่ 17 ม.ค. เราต้องบินไปทำงานตจวนานเลย เนื่องจากตอนตกลงวันจองทางร้านบอกว่าหลังจากวันวัดเเล้ว 7 วันจะมาติดให้
ต่อมาก็เงียบหายไป จนดิฉันโทรไปหาทางร้านอีกเป็นคุณเเจ๊ครับสายก็เเจ้งเลขที่บิล เเละบอกรายละเอียดว่าจะขอให้มาติดในวันที่ 16 มกราคม ขอให้คุณเเจ๊คเเจ้งเวลามาได้เลย คุณเเจ๊คบอกพรุ่งนี้ 10.00 โมงจะโทรหาดิฉันเเจ้งเรื่องเวลาอีกที ก็โอเครค่ะวางสายไป
พอวันรุ่งขึ้น 10.00 โมงก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับใดๆทั้งสิ้น รอจนตอนเย็นที่ดิฉันเลิกงานจึงโทรไปหาทางร้านอีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นคุณเเจ๊ครับสาย ก็เเจ้างเลขที่บิลบอกรายละเอียดเเละถามว่าวันที่ 16 จะสามารถมาติดให้เวลาประมาณกี่โมงค่ะ คุณเเจ๊คบอกว่าไม่เกินบ่ายสาม ดิฉันก็โอเครค่ะ ขอบคุณค่ะ
สุดท้ายพอถึงนัดวันติดผ้าม่านจิงๆปรากฎว่าก็เงียบหายอีกเช่นเคย จนดิฉันต้องโทรไปที่ร้านอีกเเต่เป็นคุณอุ้ยรับสาย ก็เเจ้งเลขที่บิลปกติเเละสอบถามว่าวันนี้มีนัดติดผ้าม่านให้ดิฉัน เเต่ปรากฎว่าคุณอุ้ยบอกว่าลงวันนัดเป็นวันที่ 17 ดิฉันก็งงสิค่ะ ไม่เคยบอกวันที่ 17 เลย โทรไปหาทางร้านตั้งสองรอบกว่าจะคอนเฟิ์รมกันได้ จนเป็นคนขายให้ดิฉันโทรมาหาบอกว่าเป็นความผิดของทางร้านเองทั้งคุณเเจ๊คเเละคุณอุ้ยสื่อสารเรื่องวันกันผิดพลาด ดิฉันก็บอกว่าไม่เป็นไรมีเวลาติดถึง 5 โมงเย็นที่ทางนิติจะห้ามเจาะขอให้มาติดวันนี้ได้ไหม? เพราะดิฉันต้องบินไปต่างจังหวัดสองอาทิตย์ พอกลับมาเฟอร์นิเจอร์ก็มาส่งเข้าห้องเเล้ว เนื่องจากดิฉันคิดวางเเผนทุกสิ้นทุกอย่างไว้หมดเเล้ว นัดไว้หมดเเล้ว ถ้าไม่งั้นคงไม่รีบซื้อผ้าม่านหรอกเพราะวางเเผนว่าต้องติดผ้าม่านก่อนที่เฟอร์นิเจอร์อื่นๆจะเข้าห้อง ปรากฎว่าคำตอบที่ได้กลับมา คือ "ผ้ายังตัดไม่เสร็จ" ยิ่งทำให้ดิฉันรู้สึกเสียความรู้สึกมากขึ้นไปอีก ร้านค้าที่ไปออกบูทถึงไบเทคดูน่าจะเชื่อถือได้ ไม่ใช่เลยพอรับเงินมัดจำไปเเล้ว ไม่มีการติดต่อหาลูกค้า นัดไม่เป็นนัด ทำตามคำพูดตัวเองก็ไม่ได้ ตอนนั้นในใจดิฉันเสียความรู้สึกมากเลยจึงบอกว่าขอไม่เอาเเล้ว เนื่องจากเสียความรู้สึกมาก พี่คนขายก็เอาเเต่พูดคำว่าขอโทษๆๆ (พี่คนขายพูดจาดีมากๆๆ) ทางร้านบอกว่าจะไม่คืนเงินประกันเเละขอโอกาสให้ได้เอาผ้าม่านมาติดเถอะเนื่องจากลงมือตัดไปเเล้ว ในใจเรายังคิดว่านี่เป็นความผิดเราหรอ? สุดท้ายก็ใจอ่อนเพราะพี่คนขายย้ำว่าพี่คนขายจิงๆ เพราะเจ้าของร้านชอบวางโทรศัพท์ใส่ เเต่ดิฉันมีเงื่อนไขว่างานที่นำมาติดต้องเรียบร้อยจิงๆ เหมือนของมือหนึ่ง สวยงามตามที่ตกลงกันในวันวางเงินมัดจำ ถ้ามีอะไรผิดพลาดดิฉันจะไม่ให้โอกาสเเล้ว เพราะเนื่องจากได้ให้โอกาสไปเเล้ว เเละไม่สามารถรับได้อีกเเล้วทั้งเสียเวลา เสียความรู้สึก จึงนัดกันใหม่เป็นวันศุกร์ที่ 5 ก.พ. ตอนเย็น เพราะเสาร์วันที่ 6 เฟอร์นิเจอร์เข้าเเล้ว
พอถึงวันที่ 5 ก.พ. บ่ายโมงก็มีเบอร์เเปลกๆโทรมาปรากฎว่าเป็นเบอร์ช่างที่จะมาติดผ้าม่านบอกถึงคอนโดเเล้วดิฉันถึงคอนโดรึยัง? ปรี๊ดสิค่ะงานนี้คนนั่งทำงานอยู่บอกนัด 4 โมงเย็น ดิฉันจึงถามไปว่าพี่เค้าไม่บอกหรอว่านัดกี่โมง?
ช่างตอบว่ารู้ เเต่ว่ามาถึงเเล้วไง เเล้วเเถวนั้นรถก็ติดถ้าไปที่อื่นก่อนเดี๋ยวมาไม่ทัน ร้อนก็ร้อน บราๆๆ
ดิฉันบอกว่าตามเวลานัดค่ะ คนทำงานอยู่จะให้ลางานไปเสียงานเสียกานเพื่อไปเปิดห้องให้คุณที่มาไม่ตรงเวลานัดมาติดผ้าม่านก็คงไม่ใช่ค่ะ
เมื่อไปถึงก็พาช่างขึ้นไป เปิดเเอร์ให้ด้วยกลัวร้อน ช่างก็เริ่มเจาะเลยค่ะโดยดิฉันก็สังเกตุดูอยู่ไม่มีการนำกระดาษมารองพื้นเเต่อย่างใดการเจาะฝุ่นขี้ไม้ร่วงกราวเต็มพื้นเลยค่ะ ดิฉันก็เดินไปดูรางอลูมิเนียมปรากฎว่ามันมีรอยขูดขีดเป็นทางยางดิฉันก็ถามว่ามีอันใหม่ไหม อันนี้มานมีรอย ? ทางช่างก็ตอบว่าไม่มีเพราะทางร้านจัดมาเเบบนี้ ดิฉันก็อะไม่เป็นไรเพราะติดไปคงมองไม่เห็นอะไร พอถึงตอนติดผ้าม่านปรากฎว่าผ้าม่านยับมาก จีบไม่เป็นจีบเลย จึงได้โทรหาคนขายก่อนเลยค่ะ ทางพี่คนขายบอกว่าเดี๋ยวช่างจะมีเตารีดมารีดให้หน้างาน ดิฉันก็ถามช่างไป ปรากฎว่าช่างบอกว่าไม่มี มีซะที่ไหน ดิฉันจึงถามช่างว่าตั้งเเต่ไปติดผ้าม่านมาเป็นเเบบนี้หรอ? ช่างตอบว่าไม่เคยเหมือนกันไม่เคยเห็นผ้าม่านยับขนาดนี้เเละพยายามโทรหาช่างที่ตัดเย็บผ้าม่านให้ดิฉันเเต่ก็ไม่เป็นผล จึงโทรกลับไปทางร้านเมื่อคุยกะทางเจ้าของร้าน (ช่างคุยกับเจ้าของร้าน) เจ้าของร้านบอกว่ามีสองทางเลือกคือ 1. ให้ทางร้านมารีดให้วันหลัง 2. ให้หักเงินกับทางร้านไว้ 1,000 บาท คือดิฉันต้องจ่ายเงินอีก 9,000 บาท ดิฉันคิดดูเเล้วถ้าจะให้ทางร้านมารีดให้วันหลังก็ไม่รู้ว่าหลังขนาดไหน เพราะขนาดยังไม่ได้รับเงินยังทำกับดิฉันขนาดนี้ ถ้าจะให้จ่าย อีก 9,000 บาท ซึ่งรวมทั้งหมด 11,000 บาท เเต่ได้ของเเบบนี้ก็ไม่ไหวนะ เนื่องจากเราต้องเห็นผ้าม่านทุกวันที่เราอยู่ในห้องพอเปิดประตูเข้ามาก็ต้องเห็นกับผ้าม่านเเบบนี้จึงตัดสินใจบอกว่าให้ถอดทั้งหมดกลับเลยค่ะ เนื่องจากทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามสัญญาเลย บอกงานเรียบร้อยเเต่สิ่งที่เห็นมันไม่ใช่โอกาสดิฉันก็ให้คุณเเล้วเเต่คุณก็ยังทำกับดิฉันเเบบนี้ หลังจากช่างกลับไปดิฉันก็ได้โทรไปหาทางพี่คนขายอีกครั้งหนึ่งว่าทราบรายละเอียดที่เกิดขึ้นเเล้วใช่ไหม? พี่บอกทราบเเล้วค่ะเเล้วจะไปคุยกับทางเจ้าของร้านให้ ให้คืนเงินมัดจำกับดิฉันบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะโทรหาดิฉันก็โอเครค่ะ
พอวันรุ่งขึ้นพี่คนขายก็เงียบไป ดิฉันจึงโทรไปหาพี่คนขายบอกยังไม่ได้คุยเลยงานยุ่งๆ เดี๋ยวโทรให้เเล้วจะเเจ้ง หลังจากนั้นอีกวันสองวันดิฉันโทรไปหาพี่คนขายอีกปรากฎว่าโทรไปหลายสายพี่เค้าก็ไม่รับโทรศัพท์ ดิฉันจึงต้องโทรไปหาเจ้าของร้านเองก็บอกเลขที่บิลอีกเช่นเคยเเต่พี่คนขายบอกว่าอยู่ข้างนอกต้องเช็คเลขที่บิลอีกทีตอนกลับให้ดิฉันส่งเลขที่บิลกับหน้า Bookbank ไปให้เเละจะโอนเงินให้ภายใน 7 วัน
สุดท้ายพอครบ 7 วันดิฉันก็โทรไปหาทางร้านอีกว่าโอนเงินให้ดิฉันหรือยัง?คำตอบที่ได้คือบอกว่าช่างเล่าให้ฟังว่าดิฉันพูดจาไม่ดี ผ้าตัดไปเเล้ว ไม่คิดว่าดิฉันจะเลือกมากขนาดนี้ เเค่ผ้ายับก็ไม่ยอมให้ติด พอดิฉันถามถึงเรื่องเตารีด ทางร้านก็ชี้เเจงด้วยเหตุผลที่ว่าเตารีดมีเพียงอันเดียว สรุปคือ ไม่คืนตังค์เเละตามเคยว่าโทรศัพท์ใส่ หลังจากนั้นดิฉันจึงโทรไปหาคนขายอีกคราวนี้รับโทรศัพท์เเละบอกว่าพี่เจ้าของมาบอกว่าดิฉันพูดจาไม่ดีพี่คนขายยังบอกว่าใช่หรอ? ไม่น่าใช่ พี่เป็นคนกลางไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกาน เเละตอนนี้เเม่พี่ก็ป่วยอยู่ ให้พรุ่งนี้ดิฉันโทรไปหาใหม่
สุดท้ายจึงอยากจะฝากเตือนใครที่กำลังหาร้านผ้านอยู่ก่อนตัดสินใจให้หาข้อมูลเกี่ยวกับร้านนั้นๆ ไม่อยากให้เจอเหมือนเหตุการณ์อย่างที่ดิฉันเจอเเบบนี้อีกค่ะ