*************************************************
ขอบคุณทุกโหวต ทุกถูกใจ จากนักอ่านทุกท่านนะคะ
**********************************************
005
เนียฟ แห่งรูสส์
ที่นครแห่งแสง ระหว่างสิบปีที่ผ่านมา มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย นับตั้งแต่เจ้าอาคมขอทดสอบความจริง เกี่ยวกับชาติกำเนิดพระราชินี การมีมังกรน้ำขึ้นมาทำให้เกิดอุทกภัยใหญ่หลวง รวมทั้งการหายตัวไปของราชธิดาพระองค์เดียวของพระราชา เหล่านั้นถูกเล่าขานกันต่อๆ มา
ฝ่ายสนับสนุนยังค้นหา...
ฝ่ายอยากทำร้ายก็เช่นกัน
หญิงสาวคนหนึ่ง เป็นชนเผ่ารูสส์ ชำนาญเวทมนตร์คาถา ครอบครัวตั้งแต่ครั้งปู่ย่าได้เข้ามารับใช้พระราชา ณ นครแห่งแสง ตัวหล่อนตามมาอยู่ในพระราชวังตั้งแต่เป็นเด็ก มักอยู่ไม่สุข และชวนซีรินซ์องค์หญิงแห่งนคร ซุกซนไปด้วยกันเสมอ
หล่อนชื่อเนียฟ และจนถึงบัดนี้ ยังผูกพันกับซีรินซ์ไว้ด้วยเส้นด้ายวิเศษ
สิบปีที่ผ่านมา หล่อนและมารดาคือเรฟฟ์ รอคอยสัญญาณจากเส้นด้ายไร้สัมผัสนั้นมาโดยตลอด และก็เพิ่งสำเร็จในวันนี้
เนียฟกำลังเพลิดเพลินอยู่ริมฝั่งน้ำ ซึ่งทุ่งดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง หล่อนอารมณ์ดีเสมอ เมื่ออยู่ๆ นิ้วนางข้างขวาเกิดกระดิกระรัวขึ้น หล่อนก็ดีใจถึงกับกระโดดโลดเต้น
“องค์หญิง... องค์หญิงซีรินซ์...”
ความหลังครั้งเก่าพรั่งพรู ความผูกพันหวนย้อนกลับคืน
เมื่อหล่อนยังเยาว์วัย แต่งกายด้วยผ้าฝ้ายพื้นดำปักลวดลาย ประดับเครื่องกระพรวนเงินดังกรุ๋งกริ๋ง เป็นที่รู้กันในพระราชวังเวลาหล่อนไปซุกซนที่ไหน รวมทั้งเจ้าหญิงซีรินซ์เอง ก็รอคอยเสียงเล็กๆ นี้อยู่เสมอเช่นกัน
“เนียฟ... ออกมาเถอะ”
“องค์หญิงรู้ได้อย่างไร...”
หล่อนเคยแกล้งถาม
“แล้วหากเนียฟไม่มีกระพรวนพวกนี้ หรืออยู่ไกลกันมากกว่านี้ องค์หญิงจะรู้ได้อย่างไรเพคะ”
ธิดาชนเผ่าเจ้าเวทย์อาคม มักถามเองตอบเองเช่นนี้เสมอ
“เนียฟออกมาได้แล้วหรือ นึกว่าต้องเรียนอยู่กับป้าเรฟฟ์”
“ก็มันน่าเบื่อนี่นา วันๆ เอาแต่ปรุงยาอะไรก็ไม่รู้ นี่ๆ... นี้เนียฟมีของสนุกๆ มาฝาก”
เด็กหญิงจอมซน เปลี่ยนเรื่องได้ฉับไวเช่นนั้นเป็นประจำ
และองค์หญิงซึ่งมีเพื่อนน้อยคน ก็มักหลงกลคำชักชวนซุกซนของอีกฝ่ายเสมอ
“อะไรล่ะที่ว่าสนุกๆ”
“รับปากมาก่อน”
“รับปากว่าอะไร”
“ต้องรักษาความลับ”
องค์หญิงรีบพยักหน้าตกลง จากนั้นเนียฟก็ล้วงด้ายแดงสายหนึ่ง ออกจากกระเป๋าเสื้อ
“นี้ยังไงล่ะ...”
“นี่คือ...”
เพราะหน้าตาของมันไม่ได้น่าสนุกตรงไหน จนซีรินซ์ถึงกับเกาศีรษะ
“นี่คือ... สิ่งที่ข้าขโมยแม่มาไงล่ะ แต่เรื่องขโมยองค์หญิงคงไม่สนุก เท่ากับรู้ว่า นี้คือด้ายไร้สัมผัส”
“ด้ายไร้สัมผัส?”
แทนการตอบความสงสัย เนียฟผูกปลายด้ายแต่ละด้าน กับนิ้วนางข้างขวาของทั้งสองฝ่าย ดูว่าแน่นหนาดีแล้ว ก็เป่าลงเบาๆ แล้วเส้นด้ายก็หายวับไป
สิ่งที่เกิดขึ้น สร้างความประหลาดใจไม่น้อย และยิ่งแปลกใจเมื่อยังรู้สึกว่า ด้ายเส้นน้อยนั้น ยังผูกพันอยู่กับข้อนิ้วนางของตนเอง
พอเนียฟกระดิกนิ้ว ซีรินซ์ก็รู้สึกว่า นิ้วตนเองกระดิกตาม
“ดีใช่ไหมล่ะ”
เด็กหญิงชนเผ่ายิ้มรื่น
“วันหน้า ถ้าข้าขยับนิ้วนางนี้ องค์หญิงก็จะรู้ได้ว่า ข้าเรียกหา หากอยู่ไกล อาจยากสักหน่อย แต่ถ้ายิ่งใกล้ ก็จะยิ่งสัมผัสกันได้ง่ายขึ้น”
“แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ”
ซีรินซ์ยังสงสัย
“ก็...” เนียฟชูนิ้วหัวแม่มือข้างขวาให้ดูสิ่งที่มองไม่เห็น “อย่างนิ้วนี้ แม่เรฟฟ์ผูกด้ายไร้สัมผัสเอาไว้ ถ้านิ้วนี้กระดิก ก็แสดงว่าแม่เรฟฟ์เรียกหายังไงล่ะ”
“นั่นก็ดี แต่เนียฟเอามาผูกข้าทำไม”
“ก็เอาไว้นัดกันหนีไปเล่นข้างนอก”
“ไม่ได้สิ แม่เฒ่าโอราลล์บอกข้างนอกมีแต่คนไม่ดี... อย่าง... พวกบูชารัตติกาล...”
“แต่องค์หญิงมีเนียฟคุ้มครองอยู่ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
“จริงๆ เหรอ”
“ข้ารับรอง ข้าเนียฟแห่งรูสส์ จะเป็นพี่สาวองค์หญิงซีรินซ์ คอยปกป้องคุ้มครององค์หญิงตลอดไป...”
ตลอดสิบปีผ่านไป ความห่างไกลทำให้ยากจะจับสัญญาณ กระทั่งวันนี้ ความอยากพบเจอกันต้องรุนแรง เนียฟซึ่งเติบโตเป็นหญิงสาว และยังอาศัยอยู่ในพระราชวังแห่งแสง จึงรับรู้ได้
หล่อนรีบกลับมาหาเรฟฟ์ บอกเล่าเรื่องนี้ด้วยความตื่นเต้น
“เจ้าอาคม มันจะกลับมาในวันนี้ นครแห่งแสงจะกลับมาวุ่นวายอีกแน่ๆ”
เรฟฟ์ซึ่งตั้งตัวเป็นฝ่ายตรงข้าม กับลัทธิเทพรัตติกาลของเจ้าอาคม กำลังประชุมเคร่งเครียดกับสมาชิกชาวเผ่า
“พวกเจ้าจำไว้ เราต้องคุ้มกันอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เจ้าอาคมทำอะไรร้ายๆ ได้อีก”
“แม่เรฟฟ์ แม่เรฟฟ์...”
แม้การประชุมจะเคร่งเครียดขนาดไหน แต่เนียฟเข้ามาแทรกได้เสมอ
“เนียฟ แม่บอกกี่ครั้ง เวลาอย่างนี้ จะต้องรอ”
“รอไม่ได้เจ้าค่ะแม่เรฟฟ์ คือองค์หญิงไงคะ มีข่าวองค์หญิงแล้วละ”
หล่อนยังหอบ เพราะวิ่งมาไม่ได้หยุด
นางเรฟฟ์ตาโต ทั้งประหลาดใจทั้งดีใจ
“ข่าว... มีข่าวจากองค์หญิงซีรินซ์เหรอ”
“ใช่ค่ะ ข้าได้รับสัญญาณจากองค์หญิงอีกแล้วละ จากด้ายไร้สัมผัส แต่นี่...”
หล่อนชูนิ้วนางขวาให้มารดาดู นิ้วยังขยับระรัว
“แต่คราวนี้มันรุนแรง และดึงพลัง...”
พูดไม่ทันจบ เนียฟก็หมดแรง ล้มพับลงไปเฉยๆ
“เนียฟ อะไร... ยังไง...”
“คือ... องค์หญิงกำลังกลัวอะไรสักอย่าง หวาดกลัวมาก เหมือนกำลังเจอเรื่องน่ากลัวที่ไม่เคยเจอที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน ไม่ได้แล้วละเรฟฟ์ เราต้องรีบไปค้นหาตัวองค์หญิง!”
เนียฟพูดเหมือนจับต้นชนปลายไม่ถูก สีหน้าหล่อนทุกข์ร้อนเป็นที่สุด
นี้เป็นขณะเดียวกับที่ซีรินซ์ กำลังเชิญกับพวกลัทธิเทพรัตติกาลบนเกาะแก้วมรกต หล่อนดึงกำลังส่วนหนึ่งของเนียฟ กระแทกสามคนชุดแดง กระเด็นไปคนละทิศทาง วิ่งตรงมาทรุดตัว กอดประคองแม่เฒ่าโอราลล์ขึ้นถามอาการ
“แม่เฒ่า... แม่เฒ่าเป็นอย่างไรบ้าง”
ซีรินซ์ร้องไห้สะอึกสะอื้น จนคนบาดเจ็บเจียนตายต้องยิ้มปลอบ
“เด็กน้อย... อย่าร้อง... อย่าร้องไห้ซีจ๊ะ”
“แต่... แต่ว่า...”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก ทำใจดีๆ”
“แต่แม่เฒ่าบาดเจ็บ...”
“ไม่ต้องกลัว... แม่เฒ่าบอกแล้วว่าไม่ต้องกลัว”
หญิงชราพยายามฝืนยิ้ม แต่สายตาที่มองข้ามไหล่หญิงสาว หลอกหล่อนไม่ได้
ซีรินซ์หันขวับ พวกสามวายร้ายย่างสามขุมเข้ามาแล้ว
ถึงตรงนี้ เนียฟ ณ นครแห่งแสง ก็ถึงกับเป็นลมล้มพับไป
(มีต่อ)
ราอูลล์ มหาเวทย์ป่วนฟ้า (แฟนตาซี) ตอนที่ 5 เนียฟ แห่งรูสส์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณทุกโหวต ทุกถูกใจ จากนักอ่านทุกท่านนะคะ
**********************************************
เนียฟ แห่งรูสส์
ที่นครแห่งแสง ระหว่างสิบปีที่ผ่านมา มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย นับตั้งแต่เจ้าอาคมขอทดสอบความจริง เกี่ยวกับชาติกำเนิดพระราชินี การมีมังกรน้ำขึ้นมาทำให้เกิดอุทกภัยใหญ่หลวง รวมทั้งการหายตัวไปของราชธิดาพระองค์เดียวของพระราชา เหล่านั้นถูกเล่าขานกันต่อๆ มา
ฝ่ายสนับสนุนยังค้นหา...
ฝ่ายอยากทำร้ายก็เช่นกัน
หญิงสาวคนหนึ่ง เป็นชนเผ่ารูสส์ ชำนาญเวทมนตร์คาถา ครอบครัวตั้งแต่ครั้งปู่ย่าได้เข้ามารับใช้พระราชา ณ นครแห่งแสง ตัวหล่อนตามมาอยู่ในพระราชวังตั้งแต่เป็นเด็ก มักอยู่ไม่สุข และชวนซีรินซ์องค์หญิงแห่งนคร ซุกซนไปด้วยกันเสมอ
หล่อนชื่อเนียฟ และจนถึงบัดนี้ ยังผูกพันกับซีรินซ์ไว้ด้วยเส้นด้ายวิเศษ
สิบปีที่ผ่านมา หล่อนและมารดาคือเรฟฟ์ รอคอยสัญญาณจากเส้นด้ายไร้สัมผัสนั้นมาโดยตลอด และก็เพิ่งสำเร็จในวันนี้
เนียฟกำลังเพลิดเพลินอยู่ริมฝั่งน้ำ ซึ่งทุ่งดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง หล่อนอารมณ์ดีเสมอ เมื่ออยู่ๆ นิ้วนางข้างขวาเกิดกระดิกระรัวขึ้น หล่อนก็ดีใจถึงกับกระโดดโลดเต้น
“องค์หญิง... องค์หญิงซีรินซ์...”
ความหลังครั้งเก่าพรั่งพรู ความผูกพันหวนย้อนกลับคืน
เมื่อหล่อนยังเยาว์วัย แต่งกายด้วยผ้าฝ้ายพื้นดำปักลวดลาย ประดับเครื่องกระพรวนเงินดังกรุ๋งกริ๋ง เป็นที่รู้กันในพระราชวังเวลาหล่อนไปซุกซนที่ไหน รวมทั้งเจ้าหญิงซีรินซ์เอง ก็รอคอยเสียงเล็กๆ นี้อยู่เสมอเช่นกัน
“เนียฟ... ออกมาเถอะ”
“องค์หญิงรู้ได้อย่างไร...”
หล่อนเคยแกล้งถาม
“แล้วหากเนียฟไม่มีกระพรวนพวกนี้ หรืออยู่ไกลกันมากกว่านี้ องค์หญิงจะรู้ได้อย่างไรเพคะ”
ธิดาชนเผ่าเจ้าเวทย์อาคม มักถามเองตอบเองเช่นนี้เสมอ
“เนียฟออกมาได้แล้วหรือ นึกว่าต้องเรียนอยู่กับป้าเรฟฟ์”
“ก็มันน่าเบื่อนี่นา วันๆ เอาแต่ปรุงยาอะไรก็ไม่รู้ นี่ๆ... นี้เนียฟมีของสนุกๆ มาฝาก”
เด็กหญิงจอมซน เปลี่ยนเรื่องได้ฉับไวเช่นนั้นเป็นประจำ
และองค์หญิงซึ่งมีเพื่อนน้อยคน ก็มักหลงกลคำชักชวนซุกซนของอีกฝ่ายเสมอ
“อะไรล่ะที่ว่าสนุกๆ”
“รับปากมาก่อน”
“รับปากว่าอะไร”
“ต้องรักษาความลับ”
องค์หญิงรีบพยักหน้าตกลง จากนั้นเนียฟก็ล้วงด้ายแดงสายหนึ่ง ออกจากกระเป๋าเสื้อ
“นี้ยังไงล่ะ...”
“นี่คือ...”
เพราะหน้าตาของมันไม่ได้น่าสนุกตรงไหน จนซีรินซ์ถึงกับเกาศีรษะ
“นี่คือ... สิ่งที่ข้าขโมยแม่มาไงล่ะ แต่เรื่องขโมยองค์หญิงคงไม่สนุก เท่ากับรู้ว่า นี้คือด้ายไร้สัมผัส”
“ด้ายไร้สัมผัส?”
แทนการตอบความสงสัย เนียฟผูกปลายด้ายแต่ละด้าน กับนิ้วนางข้างขวาของทั้งสองฝ่าย ดูว่าแน่นหนาดีแล้ว ก็เป่าลงเบาๆ แล้วเส้นด้ายก็หายวับไป
สิ่งที่เกิดขึ้น สร้างความประหลาดใจไม่น้อย และยิ่งแปลกใจเมื่อยังรู้สึกว่า ด้ายเส้นน้อยนั้น ยังผูกพันอยู่กับข้อนิ้วนางของตนเอง
พอเนียฟกระดิกนิ้ว ซีรินซ์ก็รู้สึกว่า นิ้วตนเองกระดิกตาม
“ดีใช่ไหมล่ะ”
เด็กหญิงชนเผ่ายิ้มรื่น
“วันหน้า ถ้าข้าขยับนิ้วนางนี้ องค์หญิงก็จะรู้ได้ว่า ข้าเรียกหา หากอยู่ไกล อาจยากสักหน่อย แต่ถ้ายิ่งใกล้ ก็จะยิ่งสัมผัสกันได้ง่ายขึ้น”
“แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ”
ซีรินซ์ยังสงสัย
“ก็...” เนียฟชูนิ้วหัวแม่มือข้างขวาให้ดูสิ่งที่มองไม่เห็น “อย่างนิ้วนี้ แม่เรฟฟ์ผูกด้ายไร้สัมผัสเอาไว้ ถ้านิ้วนี้กระดิก ก็แสดงว่าแม่เรฟฟ์เรียกหายังไงล่ะ”
“นั่นก็ดี แต่เนียฟเอามาผูกข้าทำไม”
“ก็เอาไว้นัดกันหนีไปเล่นข้างนอก”
“ไม่ได้สิ แม่เฒ่าโอราลล์บอกข้างนอกมีแต่คนไม่ดี... อย่าง... พวกบูชารัตติกาล...”
“แต่องค์หญิงมีเนียฟคุ้มครองอยู่ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
“จริงๆ เหรอ”
“ข้ารับรอง ข้าเนียฟแห่งรูสส์ จะเป็นพี่สาวองค์หญิงซีรินซ์ คอยปกป้องคุ้มครององค์หญิงตลอดไป...”
ตลอดสิบปีผ่านไป ความห่างไกลทำให้ยากจะจับสัญญาณ กระทั่งวันนี้ ความอยากพบเจอกันต้องรุนแรง เนียฟซึ่งเติบโตเป็นหญิงสาว และยังอาศัยอยู่ในพระราชวังแห่งแสง จึงรับรู้ได้
หล่อนรีบกลับมาหาเรฟฟ์ บอกเล่าเรื่องนี้ด้วยความตื่นเต้น
“เจ้าอาคม มันจะกลับมาในวันนี้ นครแห่งแสงจะกลับมาวุ่นวายอีกแน่ๆ”
เรฟฟ์ซึ่งตั้งตัวเป็นฝ่ายตรงข้าม กับลัทธิเทพรัตติกาลของเจ้าอาคม กำลังประชุมเคร่งเครียดกับสมาชิกชาวเผ่า
“พวกเจ้าจำไว้ เราต้องคุ้มกันอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เจ้าอาคมทำอะไรร้ายๆ ได้อีก”
“แม่เรฟฟ์ แม่เรฟฟ์...”
แม้การประชุมจะเคร่งเครียดขนาดไหน แต่เนียฟเข้ามาแทรกได้เสมอ
“เนียฟ แม่บอกกี่ครั้ง เวลาอย่างนี้ จะต้องรอ”
“รอไม่ได้เจ้าค่ะแม่เรฟฟ์ คือองค์หญิงไงคะ มีข่าวองค์หญิงแล้วละ”
หล่อนยังหอบ เพราะวิ่งมาไม่ได้หยุด
นางเรฟฟ์ตาโต ทั้งประหลาดใจทั้งดีใจ
“ข่าว... มีข่าวจากองค์หญิงซีรินซ์เหรอ”
“ใช่ค่ะ ข้าได้รับสัญญาณจากองค์หญิงอีกแล้วละ จากด้ายไร้สัมผัส แต่นี่...”
หล่อนชูนิ้วนางขวาให้มารดาดู นิ้วยังขยับระรัว
“แต่คราวนี้มันรุนแรง และดึงพลัง...”
พูดไม่ทันจบ เนียฟก็หมดแรง ล้มพับลงไปเฉยๆ
“เนียฟ อะไร... ยังไง...”
“คือ... องค์หญิงกำลังกลัวอะไรสักอย่าง หวาดกลัวมาก เหมือนกำลังเจอเรื่องน่ากลัวที่ไม่เคยเจอที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน ไม่ได้แล้วละเรฟฟ์ เราต้องรีบไปค้นหาตัวองค์หญิง!”
เนียฟพูดเหมือนจับต้นชนปลายไม่ถูก สีหน้าหล่อนทุกข์ร้อนเป็นที่สุด
นี้เป็นขณะเดียวกับที่ซีรินซ์ กำลังเชิญกับพวกลัทธิเทพรัตติกาลบนเกาะแก้วมรกต หล่อนดึงกำลังส่วนหนึ่งของเนียฟ กระแทกสามคนชุดแดง กระเด็นไปคนละทิศทาง วิ่งตรงมาทรุดตัว กอดประคองแม่เฒ่าโอราลล์ขึ้นถามอาการ
“แม่เฒ่า... แม่เฒ่าเป็นอย่างไรบ้าง”
ซีรินซ์ร้องไห้สะอึกสะอื้น จนคนบาดเจ็บเจียนตายต้องยิ้มปลอบ
“เด็กน้อย... อย่าร้อง... อย่าร้องไห้ซีจ๊ะ”
“แต่... แต่ว่า...”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก ทำใจดีๆ”
“แต่แม่เฒ่าบาดเจ็บ...”
“ไม่ต้องกลัว... แม่เฒ่าบอกแล้วว่าไม่ต้องกลัว”
หญิงชราพยายามฝืนยิ้ม แต่สายตาที่มองข้ามไหล่หญิงสาว หลอกหล่อนไม่ได้
ซีรินซ์หันขวับ พวกสามวายร้ายย่างสามขุมเข้ามาแล้ว
ถึงตรงนี้ เนียฟ ณ นครแห่งแสง ก็ถึงกับเป็นลมล้มพับไป
(มีต่อ)