สวัสดีค่ะ แนะนำตัวกันก่อนนะคะ เราเป็นคุณแม่มือใหม่ ท้องแรก
อายุครรภ์ ณ วันที่ไปเจาะน้ำคร่ำ 18 weeks 3 days ค่ะ ส่วนอายุแม่ ก็ 35 กว่าๆแล้วค่ะ

เราเลือกฝากท้องกับคุณหมอสายฝน ที่ รพ. พญาไท 3
ปรึกษากับคุณหมอตั้งแต่ฝากท้องแรกๆแล้วว่า เราเลือกคัดกรองดาวน์ซินโดรมด้วยการเจาะน้ำคร่ำค่ะ
เนื่องจาก ผลลวงในการตรวจน้อยกว่า แล้วสามารถรู้ผลดาวน์ได้มากกว่าการตรวจคัดกรองในแบบอื่น (อันนี้ คุณหมอบอกมา)
สำคัญที่สุด คือ ถูกค่ะ 55555+ เราสู้ราคา nifty ไม่ไหว 2 หมื่นเหนะ
ก็ได้สอบถามคุณหมอเรื่องอัตราการเสี่ยงในการแท้ง คุณหมอตอบแบบเบาๆ สบายๆ ว่า หมอเจาะมานับไม่ถ้วน ไม่เคยมีใครมีมีปัญหานะคะ

มาถึงวันเจาะกันเลยดีกว่านะคะ

ไปถึงที่เค้าเตอร์ก็ ชั่งนน. วัดความดันปกติ
เราก็แจ้งพยาบาลไว้ก่อนเลย
เรา : "พยาบาลคะ ตอนเจาะน้ำคร่ำ ขอฉีดยาชานะคะ ไม่อยากลุ้นอ่ะค่ะ"
พยาบาล : "เอ่อ หมอสายฝน ไม่ใช้ยาชาค่ะ"
เรา : "อ้าว ยาชา ไม่ขึ้นอยู่กับหนูเหรอคะ ขึ้นอยู่กับหมอเหรอคะ"
พยาบาล : "ค่ะ หมอสายฝนมือเบานะคะ ไม่ต้องกลัว"
แล้วนางก็เดินจากไป อย่างไม่มีเยื่อใยต่อกัน T___T

มาถึงคิวตรวจ ก็ถูกอันเชิญเข้าห้องอัลตราซาวด์ค่ะ

พยาบาลก็จัดการเปิดพุง เม้มผ้าสีเขียวๆ เข้ากับขอบกางเกงใน บอกว่า กกน. จะได้ไม่เลอะเบนตาดีนนะคะคุณแม่

คุณหมอสายฝนมาถึง ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงค่ะ
ลงมือ อัลตราซาวด์ทันที
คุณหมอใจเย็นมากค่ะ ค่อยซาวด์ที่ละส่วน
เริ่มจากหัว กระดูกสันหลัง หัวใจ ไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงปลายเท้า
ผ่านแต่ละส่วน คุณหมอก็จะอธิบายรายละเอียด และขนาด ว่าปกติดี มีขนาดเท่าไหร่บ้าง สมส่วนมั้ย
เพศอะไร (เราได้ผู้ชายค่ะ) สมองแบ่งส่วนชัดเจนดี มีน้ำในสมองปกติ ลิ้นหัวใจไม่รั่วนะคะ ฯลฯ

พอซาวด์เสร็จสิ้น คุณหมอก็จะเชิญคุณพ่อออกจากห้องตรวจค่ะ
จากนั้น เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งเข็ม(ขนาดโตประมาณเข็มเจาะเลือด แต่ยาวประมาณ 10 ซมได้มั้งคะ) เบตาดีน สำลี พลาสเตอร์ยา
เตรียมพร้อมปุ๊ป คุณหมอจะซาวด์อีกที เพื่อดูบริเวณที่ถุงน้ำคร่ำว่างๆ ไม่ติดรก และตัวลูกค่ะ
ขั้นตอนนี้ หมอสายฝน ใช้เวลาไม่ถึงนาทีในการซาวด์ค่ะ ซาวด์ปุ๊ป พอคุณหมอรู้บริเวณที่จะเจาะ
คุณหมอก็บอกว่า จะเจาะแล้วนะคะ ไม่ต้องกลัวนะคะ เจ็บนิดนึง อย่าเอามือลง (หมอให้เอามือวางไว้เหนือหัวทั้ง 2 ข้างค่ะ) อย่าขยับนะคะ
แล้วก็จิ้มลงไปเล่ยยยยยยยยยยย

อ๊ากกกกกกกกกกกกกก ไม่เจ็บอย่างที่กังวลแหะ เหมือนเจาะเลือดแหะ แต่มันจะเสียวๆพุงไปด้วย
พอเจาะปุ๊ป ระหว่างเอาไซริงค์เสียบที่เข็ม คุณหมอก็ชวนคุยค่ะ ถามเรื่องยา ว่าเหลืออะไรบ้าง
หมอก็คุยไป ดูดน้ำคร่ำไป เอาไป 2 หลอด แป๊ปเดียว ไม่ถึง 2 นาทีมั้งค่ะ ก็เป็นอันเรียบร้อย
หมอเอาเข็มออก เอาสำลีกดไว้ครู่นึง แล้วก็เปลี่ยนเป็นพลาสเตอร์ยา
กำชับเบาๆว่า คุณแม่กดไว้สัก 5 นาทีนะคะ ผิวจะได้ไม่ช้ำ แล้วก็นอนพักสักครู่
รอฟังผลเดือนหน้านะคะ วันที่ 18/10 เจอกันค่ะ

หลังจากนี้ คุณแม่ก็สังเกตุดูว่า ลูกดิ้นปกติมั้ย ถ้าไม่ดิ้นเหมือนเดิม หรือปวดท้อง มีเลือดออก ให้รีบมาหาหมอนะคะ
กลับบ้านวันนี้ ก็พักผ่อน เดินเหินได้ตามปกติ แต่อย่ายกของหนัก อย่าออกแรงเยอะค่ะ พรุ่งนี้ก็ไปทำงานได้ตามปกติค่ะ
แล้ว หมอก็จากไป ตรวจคนไข้รายต่อไป ทิ้งเราไว้กับพยาบาล 2 ต่อ 2

ตานี้ พยาบาลก็มาเอาหลอดน้ำคร่ำมาให้ตรวจชื่อ นามสกุล แล้วก็ดูว่า น้ำคร่ำเหลืองใสดี(สีเหมือนฉี่เลยค่ะ) ไม่มีสีเลือดปนนะคะ
พร้อมกับบอกเวลา ว่าให้เรานอนพักได้อีก 5 นาที จากนั้น ไปจ่ายตังค์ได้ แล้วเจอกันเดือนหน้าค่ะ

หลังเจาะเสร็จแล้วจะแสบๆที่แผลค่ะ เจ็บนิดหน่อย แต่จะแสบมากกว่า
ก็จ่ายตังค์ กลับบ้าน พักผ่อน
มันจะหน่วงๆ แสบๆ จิ๊ดที่แผลค่ะ แต่ไม่ได้มากมายอะไรให้ถึงขั้นต้องกังวล
ไม่มีเลือดออก ไม่มีรอยบวมค่ะ แต่เรานอนตะแคงไม่ได้ มันจะเจ็บค่ะ
เราเลยถือโอกาสนอนอยู่บ้าน 2 วัน พยายามลุกเดินให้นอนที่สุด ส่วนใหญ่จะนอนอย่างเดียวเลย
บอกตรงๆ กลัวค่ะ กลัวถุงน้ำคร่ำรั่ว กลัวลูกเป็นอะไร เลยเลือกนอนดีกว่า คิดว่าปลอดภัยสุด

อาการแสบๆ ที่แผล ก็หายไปภายในวันนั้นค่ะ
แต่อาการเจ็บจิ๊ดๆ เวลาพลิกตัว งอตัว หรือไปสัมผัสโดน จะดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วหายไปในวันที่ 3 ค่ะ

ที่เล่าทั้งหมด อยากจะบอกว่า เจาะน้ำคร่ำ ไม่ได้น่ากลัว ไม่ได้เจ็บอย่างที่คิดนะคะ
อยู่ที่ตัวคุณแม่ ต้องพยายามอยู่นิ่งๆเวลาเจาะ และอย่าเกร็งท้องค่ะ
เราบอกคุณลูกก่อนเจาะเลย don't move na ka. เราเชื่อค่ะ ว่าลูกเข้าใจ

ใครที่กังวลใจเรื่องเจาะน้ำคร่ำอยู่ หวังว่า รีวิวของเรา คงจะช่วยให้เห็นภาพ และมีส่วนช่วยในการตัดสินใจได้มากขึ้นนะคะ

ขอให้แม่ๆ และ ลูกๆ ทุกคนแข็งแรง ปลอดภัย ไร้กังวลนะคะ

จุ๊บๆ