เมื่อ 2-3 วันก่อน มีลูกนกเขาวัยหัดบินมาเกาะอยู่หน้าบ้าน ขนขึ้นเต็มแล้ว เลยแปลกว่าทำไมไม่บินหนี พอเข้าไปดูใกล้ๆ ก็บินได้เตี้ยๆ จึงจับมาดู พบว่าอาการค่อนข้างหมดแรง เลยเอามาจะป้อนอาหาร แต่เมื่ออ้าปากนก สังเกตเห็นว่าในช่องคอมีสีเหลืองคล้ายหมากฝรั่งติดอยู่ ก็ลองเอาก้านสำสีเขี่ยเบาๆก็ไม่หลุดออกมา จึงหาข้อมูลใน google จึงทราบว่านกเป็นโรคแคงเกอร์หรือเรียกว่าโรคคอดอก (อ่านว่า คอ ดอก) ก็เพิ่งเคยรู้จักวันนี้เอง เมื่อก่อนเคยนึกสงสัยเห็นนกในธรรมชาติดูซึมๆ เป็นโรคอะไร  คราวนี้จึงรีบพานกไปหาหมอนก หมอตรวจเชื้อดูบอกว่าเป็นโปรโตซัว ตัวอ้วนมากๆ  แล้วจัดยาปฏิชีวนะสำหรับโรคคอดอก  พอกลับมาถึงบ้าน เจอนกเขาวัยเดียวกันอีกตัวอยู่หน้าบ้าน บินไม่ได้เหมือนกัน  ก็นึกสงสัยเลยจับอ้าปากดู อาการเดียวกันเลยค่ะ แต่หนักกว่าตัวเดิม มีอาการคอแข็งเหมือนมีจุกก็อกติดอยู่  ก็พยายามให้ยาทั้ง 2 ตัว ส่วนเรื่องอาหารต้องสอดท่อเข้าทางปาก ซึ่งทุกครั้งนกจะทรมานมากค่ะ เพราะลำคออักเสบจากอาการของโรคอยู่แล้วด้วย  พอวันที่ 2 เริ่มสอดท่อไม่เข้า ไม่รู้ว่าติดอะไร แต่เราไม่กล้าดันท่อลงไปเพราะกลัวนกเจ็บเกินไป จึงพยายามให้อาหารเหลวทางปาก  หลังจากป้อนแค่ 5 นาทีนกหายใจไม่ออกจนแน่นิ่งไป ไม่รู้จะช่วยยังไงทันเลยค่ะ สงสารนกมาก  
ใครเคยมีประสบการณ์บ้างคะ อยากทราบว่า นกที่เป็นโรคนี้เราจะให้อาหารได้อย่างไรเพราะคออักเสบรุนแรงกลืนอาหารลำบาก แต่จะไม่ให้อาหาร ให้แต่เกลือแร่ นกก็คงอยู่ไม่ได้ใช่ไหมคะ  เคยได้อ่านข้อมูลใน net บอกว่า คนเลี้ยงไก่ที่ไก่เป็นโรคนี้ เขาเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์ป้ายในช่องคอ ทำได้จริงหรือเปล่าคะแต่เราไม่กล้าทำเพราะไม่แน่ใจ   ควรทำวิธีไหนจะช่วยให้นกรอดได้คะ ถ้าเจออีกจะได้ไม่พลาด ขอบคุณค่ะ