ความลับหลังขวดน้ำปลา... เรื่องราวร้านของชำไทยร้านดังในบูดาเปสต์ (Thaitown Budapest)

ในกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี มีตลาดจีนซึ่งเป็นศุนย์กลางการค้าขาย แหล่งรวมคนเอเชีย แบบเดียวกับเมืองใหญ่อื่นๆในประเทศตะวันตก ตลาดนี้อยู่ในเขตที่เรียกว่า Józsefváros (โยแจฟวาโรช) บางทีก็เรียกว่า “ตลาดโยแจฟวาโรช” ที่นี่จะเต็มไปด้วยคนจีน เวียดนามและยิปซี

ว่ากันว่า ฮังการีเปรียบเหมือนประเทศชายแดนของกลุ่มเชงเก้น การจะเข้า-ออกในกลุ่มประเทศนี้เพื่อมาทำงาน เข้ามาที่นี่ก่อน จะง่ายกว่าทางอื่น (แต่ตอนนี้มีความเข้มงวดมากขึ้น)

เราไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้กินมันฝรั่ง เนย ชีส หรือใช้เกลือแทนน้ำปลา คนไทยต่างแดนจึงมองหาแหล่งซื้อของกินของใช้ที่ไม่ทำให้เราคิดถึงบ้านจนเกินไป ตลาดโยแจฟวาโรช กลายเป็นแหล่งจับจ่ายชองกลุ่มคนไทยที่มาอยู่บูดาเปสต์ทั้งที่มาตั้งรกรากหรือหลั่งไหลแวะเวียน บางครั้งเดินทางมาจากต่างจังหวัด นอกบูดาเปสต์ก็มี


มีร้านขายของชำร้านหนึ่งในตลาด โด่งดังในหมู่คนไทยและเจ้าของร้านอาหารไทยทั้งหลาย คนไทยส่วนใหญ่ส่วนใหญ่เรียกว่า ‘ร้านลี’ ที่คนชอบไปจับจ่ายซื้อของที่นี่เพราะมีของไทยครบ เป็น one-stop service ทั้งของสด ของแห้ง ผัก ผลไม้ กะปิน้ำปลา หรือแม้แต่อุปกรณ์ทำครัวต่างๆ
เจ้าของร้านเป็นสามีภรรยาชาวเวียดนาม ชื่อ ‘คุณลีกับคุณฮา’  ปกติคุณฮาจะเป็นคนคอยต้อนรับขับสู้ลูกค้า ยิ้มแย้มเป็นมิตร และที่สำคัญ คุณฮา ยังพูดภาษาไทยได้ ครูพักลักจำมาจากเวลาคนไทยมาซื้อของ



ในวันที่นัดคุยกันที่ร้าน ‘ฮา’กลับเวียดนาม  เลยได้คุยกับ ‘ลี’ สามีของเธอ  ลีเป็นผู้ชายตัวเล็กเดินไปเดินมา บางทีไม่ได้สังเกตุเห็นด้วยซ้ำ คนไปใหม่ๆคงนึกว่าเป็นลูกจ้างที่ร้าน  เพราะเขาไม่ทำตัวให้เป็นจุดสนใจมากนัก แต่พอได้คุยกันเลยรู้ว่าคนนี้แหละคือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด

Life and history

ในยุคแรกของคนเวียดนามในฮังการี คนเวียดนามจะถูกว่าจ้างให้มาทำงานในโรงงานที่นี่ พอหมดสัญญาแล้วก็กลับประเทศ คนที่ไม่ยอมกลับ ก็ต้องหาทางดิ้นรนตั้งรกรากกันต่อไป ทุกวันนี้ เฉพาะในบูดาเปสต์ มีคนเวียดนามอาศัยอยู่กว่า 5,000 คน
ลี ซึ่งปัจจุบันอยู่ในวัยสี่สิบกว่า แต่ยังดูเด็กกว่าจริงเกือบสิบปี มาฮังการีเมื่อ 30 ปีก่อน ในฐานะนักเรียนทุนเรียนดีของรัฐบาลเวียดนาม ซึ่งในยุคนั้น ประเทศสังคมนิยมอย่างเวียดนาม นอกจากส่งคนมาทำงาน ก็ยังนิยมส่งนักเรียนมาเรียนที่กลุ่มประเทศสังคมนิยมในยุโรป อย่างเยอรมันนีตะวันออก เชค ฮังการี หรือแม้แต่บัลแกเรียด้วย

เขาได้ทุนมาเรียนปริญญาตรีสาขาอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ฟ้าฝนและอากาศ ที่มหาวิทยาลัยของฮังการี เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมต้องประเทศนี้ ทำไมต้องคณะนี้  เพียงได้ใช้ชีวิตเป็นวัยรุ่น ได้เรียนหนังสือและเรียนดีด้วย แต่ก็ยังไม่ได้มองเห็นเป้าหมายในชีวิตหรือเดินตามความฝันอะไร
พอจบปริญญาตรี ลีเริ่มมีความฝัน เขาอยากกลับไปเป็นนักการเมือง ทำงานด้านกฎหมายที่เวียดนาม จึงสมัครเรียนปริญญาตรีอีกใบ ในสาขากฎหมาย ด้วยน้ำพักน้ำแรง เขาส่งเสียตัวเองจนจบปริญญาตรีใบที่สองในฮังการี



Secrets

-    ฝันเป็นทนาย
แต่บางครั้ง ชีวิตเราอาจไม่ได้เดินตรงไปหาเป้าหมาย หรือความฝันที่วาดไว้ บางคนต้องเดินอ้อมไปทางอื่นก่อน เพื่อเพาะบ่มประสบการณ์บางอย่าง
เขาทำงานมาหลายรูปแบบ เพื่อส่งตัวเองเรียน พอมีครอบครัวก็ต้องส่งเสียเลี้ยงดูภรรยาและลูกๆ ลองผิดลองถูกกับธุรกิจหลายอย่าง จนได้เข้ามาเปิดร้านขายของชำไทย ซึ่งก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ถูกย้ายร้านมาหนึ่งครั้ง ตอนที่รัฐบาลกวาดล้างเรื่องของหนีภาษี โดยเฉพาะที่ตลาดจีน ที่การค้าขายสะพัด แต่เงินไม่ไปถึงรัฐบาล นับจากวันที่เริ่มเปิดร้าน จนถึงทุกวันที่ร้านเป็นที่รู้จัก เขาใช้เวลา 6 ปี
ถามว่าเขาเลิกล้มความคิดการเป็นทนายรึยัง เขาตอบว่ายัง เมื่อธุรกิจวางมือได้  ซักวันนึง วันหนึ่งเขาจะกลับไปทำงานทนายตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งตอนนี้ ก็ได้เริ่มใช้ความรู้ทางกฏหมายช่วยเหลือคนที่นี่บ้างแล้ว

-    ชีวิตกับธรรมะ
‘ภรรยาของผมทำให้ผมเข้าใจธรรมะลึกซึ้งขึ้น’ ลีเอ่ยถึง ‘ฮา’ ภรรยาของเขา ลีเจอฮาที่เมืองฮานอย หลังจากนั้นเธอย้ายตามมาอยู่กับเขาที่บูดาเปสต์ ‘เธอเป็นคนบ้าบิ่นมากที่ยอมทิ้งทุกอย่างมาอยู่ที่นี่กับผม แต่ผมใจเย็นลงมาก ก็เพราะเขา’ ฉันเลยบอกเขาว่าคนไทยเชื่อเรื่องศีลเสมอกัน
ในตอนแรกของการทำธุรกิจ ไม่ใช่แค่ปัญหาทางธุรกิจ แต่เขาสองคนต้องปรับทัศนคติในการทำงานร่วมกันด้วย แต่การที่ได้เปิดใจ ยอมแก้ไขปรับปรุงตัว รู้จักจุดอ่อน จุดแข็งของแต่ละคน ทำให้ทุกอย่างประสบความสำเร็จ
ลีบอกว่าภรรยาของเขาเป็นคนใจเย็น ไม่ขี้หึงหรืออิจฉาริษยาใคร ซึ่งอย่างหลังนี้สำคัญมาก เขาย้ำ และทุกวันนี้เขาก็พยายามนำธรรมะเข้ามาใช้ในการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจ



Influence and thoughts
‘การทำงานหาเงินเป็นเรื่องจำเป็น แต่ก็ควรทำด้วยใจที่มีธรรมะ ไม่ใช่เอาเงินเป็นที่ตั้งอย่างเดียว’ เขาอยากให้ลูกค้าได้ของดี อยากให้ลูกน้องทำงานกับเขาแล้วมีความสุข

เมื่อถามว่าขอลงรูปเขาได้มั้ย เขาบอกว่าเอารูปคุณฮาดีกว่า เพราะคนส่วนใหญ่รู้จักฮา เขาชอบที่จะไม่เป็นจุดเด่นมาก          
ลีเชื่อว่าเขาประสบความสำเร็จ เพราะส่วนหนึ่งมีพุทธองค์นำทาง เหมือนเวลาที่ตกอยู่ในที่มืดแล้วเห็นแสงสว่างขึ้นมา
ระหว่างที่ฉันพูดคุยกับเขา จะมีลูกค้าเขามาซื้อของไม่ขาดสาย ทั้งคนไทย ทั้งคนฮังกาเรียนที่เป็นเจ้าของร้านอาหารไทยหลายๆร้านในบูดาเปสต์  ลีจะคอยแนะนำให้ฉันรู้จักว่าคนนี้เป็นเจ้าของร้านนี้ คนนั้นอยู่ร้านนั้น พูดไป หัวเราะไป

‘เหมือนทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน’ เขาว่า ฉันยืนคุยและคอยสังเกตุเขา ท่าทีที่เป็นมิตร นอบน้อม เบิกบานรักในงานที่ตัวเองทำ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนไทยที่มาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองถึงเลือกที่จะมาร้านนี้ มันได้อารมณ์เหมือนไปซื้อน้ำปลาร้านขายของชำหน้าปากซอยบ้าน นี่เอง.......



เรื่อง : Jaigaya
Facebook: Thaitown Budapest
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่