ก่อนอื่นทักทายเพื่อนๆพี่ๆน้องทุกคนที่แวะเข้ามาดูกระทู้นี่ของเรานะคะ ขอบคุณมากเลย เพิ่งเขียนกระทู้เป็นครั้งแรก อะไรที่ไม่โอเค หรือผิดพลาดอย่างไร ก็ขออภัยกันไว้ตรงนี้เลยนะคะ
ก่อนที่เราจะไปถึงอาหารต่างๆที่เคยทำ ขอเล่าการเดินทางในการลดน้ำหนัก และดูแลสุขภาพ มาให้เข้าใจก่อนว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
เริ่มแรก น้ำหนัก 58 kg. ย้อนไป 3 ปีที่แล้ว แบบใส่เสื้อผ้าเดิมมันแน่นทั้งที่ยังไม่ได้กินอะไรมาก จึงคิดว่าเฮ้ย ไม่ได้แหละ ลดน้ำหนักด่วน ปฏิบัติ!!!
เอารูปตอนตัวบวม กับตอนปัจจุบันมาให้ชมกันเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย ฮี่ (ขอเบลอหน้านิดนึงนะ เขิลเบาๆ นี่มันรูป suicide ชัดๆ 55+)
วิธีการลดน้ำหนักที่ผ่านมาค่ะ
วิธีแรก : งดข้าวเย็น และทานแป้งน้อยที่สุด โดยมื้อเย็นทานแต่ผลไม้ และมื้ออื่นๆก็จะทานแป้งให้น้อยที่สุด
ผล : น้ำหนักเริ่มลงมาเรื่อยๆ จาก 58 kg. มาอยู่ที่ 52 kg.แต่โหย เพลียอยู่ตลอด ไม่ค่อยมีแรง มีบางวันกินกระจายเพราะเหมือนมันอดมานาน
วิธีที่ 2 : งดข้าวเย็น และทานแป้งน้อยที่สุด และเพิ่มออกกำลังกายมาด้วย โดยการวิ่ง วันละ 1 ชั่วโมง
ผล : น้ำหนักลงอีกหลังจากนิ่งมานาน จาก 52 kg. เหลือ 47 kg. รู้สึกดีมากค่ะ แต่ก็มีเหตุให้ต้องหยุดวิ่งไประยะหนึ่ง เพราะเจ็บเอ็นที่หัวเข่า ประกอบกับงานเข้าช่วงพีคเลยหยุดยาวไป 1 ปี
ช่วงหยุดเกิดความชะล่าใจค่ะ เห็นน้ำหนักได้ตามที่ต้องการแหละ เลยไม่ได้คุมเรื่องอาหารกินปกติ ไม่ได้งดข้าวเย็น หรือตัดแป้งแล้ว ช่วง 3 -4 เดือนแรกที่หยุดออกกำลังกายและคุมอาหารเนี่ย น้ำหนักขึ้นบ้างนิดหน่อย แต่พอไปสักพักมันเริ่มขึ้นมา จาก 47 kg. มาเป็น 51 kg. เจอภาวะ “โยโย่” เข้าแล้วค่า
วิธีที่ 3 : Clean eating + ออกกำลังกายโดยการวิ่ง วันละ 1 ชั่วโมง
ผล : ผ่านไป 3 เดือนน้ำหนักลงค่ะ ลงมา อยู่ที่ 49 แล้วก็นิ่งไป 1 เดือน คือตั้งเป้าไว้อยากอยู่ที่ 48 แล้วแบบพอมันแค่อีก 1 โลทำไมไม่ยอมลงเกิดอาการ ทิงนองนอยด์ สิคะ ตอนนั้นเริ่มตามหาข้อมูลเรื่องออกกำลังกายมาขึ้น ทั้งจากเพจ สุขภาพ instagram นู้นนี้นั่นมากมาย (เดี๋ยวจะเอาลิงค์ข้อมูลที่ใช้ศึกษามาแปะไว้ข้างล่างให้นะคะ)
วิธีที่ 4 : (ที่ยังใช้อยู่ในปัจจุบัน) Healthy + Clean eating (Macro nutrition count) + Cardio + Body weight /Weight training
จะคำนวณพลังงานที่ร่ายกายต้องในแต่ละวันก็จะมาจัดสรรอีกทีว่าควรทานคาร์บ ไขมัน โปรตีน เท่าไหร่ ให้เพียงพอ มีสมดุลมากขึ้น และเปลี่ยนการออกกำลังกายจากเดิมที่แค่วิ่งมาเป็นพวก weight training สร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อควบคู่ไปด้วย ระบบเผาพลาญก็กลับมาดีขึ้น มีวันที่ทานอาหารปกติบ้างเพื่อฟื้นฟูระบบเผาพลาญ
ใช้วิธีนี้ผ่านไป 3 เดือนแรก ชีวิตดีขึ้นมากเลยค่ะ อาหารการกินก็ทานได้ปกติ แถมเหมือนจะทานดีและมากกว่าเดิมด้วย 555 เพียงแต่ต้องใส่ใจในเรื่องข้อมูลโภชนาการมากขึ้น ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำไม่ว่าจะตั้งใจลดน้ำหนัก หรือไม่ก็ตามเพราะเราควรเลือกสิ่งดีให้กับร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดีและไม่เจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บต่างที่อาจจะมากับอาหาร ออกกำลังกายก็สนุกมากขึ้น รู้สึกเลยว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น กล้ามเนื้อเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
จนมาถึงวันนี้เกือบจะครบปี ที่ใช้วิธีนี้แล้วค่ะ รู้สึกสบายมากๆ ไม่ต้องฝืนอะไรเลย เป็นวิธีที่ทำได้โดยไม่อึดอัด
น้ำหนักหรอค่ะ ก็อยู่ที่ 48-49 kg. นี่แหละ คงงงอ่าวก็ไม่ลดนี่หว่า แหม พูดมาซะยาว แต่ตอนนี้รู้แล้วค่ะว่าตัวเลขบนตาชั่งไม่ได้บอก สุขภาพหรือความแข็งแรงไปมากกว่าร่างกายที่แสดงออกมาให้เห็นเลยค่ะ เราเคยวัดสัดส่วนของร่ายกายไว้ก่อนใช้วิธีนี้ ตอนนี้ลดลงไปอย่างชัดเจน เสื้อผ้ากระโปรงกางเกง (รวมถึงเสื้อชั้นใน T_T ซึ่งไม่อยากให้หลวมเลย) หลวมขึ้นหมด หุ่นเฟิร์มขึ้นมีแต่คนทักว่าผอมลงไปเยอะเลย หุ่นดีหุ่นเฟิร์มขึ้นนะ ทั้งที่น้ำหนักไม่ได้ลงไปเลยค่ะ ยิ้มไป 5 วันเลยค่ะ 5555
จากที่เล่ามาทั้งหมด ได้ข้อสรุปกับตัวเองว่า
- สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีความหมายมากกว่าเลขที่อยู่บนหน้าปัดตราชั่งมากมายนัก แค่ชั่งให้พอรู้มวลของตัวเองก็พอ อย่าเอามายึดติดจนลืมความสำคัญของสุขภาพและความแข็งแรง
- ร่างกายเราเป็นสิ่งเดียวที่เราเป็นเจ้าของตราบที่ยังมีชีวิตอยู่ ดูแลเค้าให้ดีแล้วเค้าจะให้อะไรดีๆกับเรามากมายเลยค่ะ
- สุขภาพดีไม่ได้สร้างกันได้ภายในไม่กี่วัน ถ้าที่ผ่านมาไม่เคยใส่ใจเค้าเลยจริงๆ ต้องใช้เวลาหน่อย เชื่อเถอะค่ะ ว่าเวลาที่เราให้ไปจะอยู่กับเราได้ถาวรจริงๆ
- หาสมดุลที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงและมีความสุขไปพร้อมกัน มันไม่มีความหมายที่ต้องทำสิ่งที่ดีต่อร่างกายแต่จิตใจเราไม่มีความสุขไปด้วย หาสมดุลที่ทำได้ทั้งสองอย่างแล้วคุณจะอยู่กับมันไปได้นาน
อันนี้เป็นรูป before – after ก่อนจะใช้วิธีที่ 4 กับหลังใช้วิธีที่ 4 ค่ะ อาจจะไม่เปลี่ยนมากมาย แต่มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีก็ถือว่ามาถูกทางแล้วค่ะ
ด้านหน้า (ไม่ได้ถ่ายที่เดิมแล้ว แต่ทำให้รูปคล้ายๆกันที่สุดค่ะ)
ด้านข้าง
ด้านหลัง (ไม่เคยถ่ายตอนก่อนไว้เลยมีแต่รูปล่าสุดค่ะ)
แหล่งค้นคว้าข้อมูลของเราค่ะ ขอขอบคุณแอดมินทุกคนที่สรรหาข้อมูลดีๆมาแชร์ และคอยตอบคำถามข้อสงสัยเป็นอย่างดีค่ะ
https://www.facebook.com/eatcleanbaby?fref=ts
https://www.facebook.com/strongbyscience?fref=ts
https://www.facebook.com/fitfactfun?fref=ts
https://www.facebook.com/trainhardlookhotbynattie?fref=ts
https://www.facebook.com/fitjunctions?fref=ts
เอาหล่ะ เข้าเรื่อง มาดูเรื่องอาหารการกินเหมือนที่ตั้งหัวกระทู้กันเลยดีกว่า ส่วนใหญ่ก็เป็นเมนูง่าย ทำตามกันได้สบายๆเลยค่ะ จะใช้วัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ โดยดัดแปลงเอาจากแบบปกติ พยายามอ่านข้อมูลโภชนการในการเลือกวัตถุดิบต่างๆ รสชาติอาจไม่เป๊ะ แต่ก็ใกล้เคียง หวังว่าจะช่วยเป็นไอเดียในการทำอาหารกับทุกคนนะคะ (รูปมาลงบางส่วนนะคะ เยอะมากจีจี ตามไปดูกันต่อได้ที่ IG : Lethealthywithme_izzy ค่ะ ในนั้นจะมีคำนวณแคลไว้บ้าง ถ้ามีเวลา)
อกไก่ ผักสลัด ราดน้ำสลัดงาญี่ปุ่น และขนมปังโฮลวีททาเนยถั่ว
ขนมปังโฮลวีทกับ กรีกโยเกิร์ต และโอ๊ตมีล (ชอบโอ๊ตมีล เลยทำบ่อยหน่อย)
บันโฮลวีท สลัดผัก ไข่หวาน(อันนี้มาไกล ไปได้มาจากญี่ปุ่นค่ะ) และกล้วยหอม
สลัดคีนวา (เหมือนกินข้าวเลย เผื่อเบื่อข้าวกันเนาะ)
ออมเล็ตยัดไส้ ทูน่า ผักโขม พริกหยวก
แซนด์วิชไก่งวง ไก่งวงรสชาติใกล้ๆแฮมเลย เมนูแซนด์วิชนี่ก็ทำบ่อยค่ะ เร็วดี
โจ๊กไข่ขาวแซลมอน โรยธัญพืช มีอะไรใส่ๆไปเลยค่ะ
ซุปฟักทอง อันนี้ก็โปรด เป็นมนุษย์ฟักทอง 55
ตอร์ติญ่า สลัดไข่ต้ม
โฮลวีทปิ้งทา ครีมชีส แฟตฟรี โปะอโวคาโด และกล้วย (ง่ายแท้)
ยังคงโฮลวีทปิ้งทา ครีมชีส แฟตฟรี และกล้วย แอบมีขนมจากญี่ปุ่นมาเพิ่มความหวานนิดหน่อย
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซูกีนี่ชีส และอกไก่ย่าง
ข้าวไรซ์เบอร์รรี่ และอกไก่ผัดซอสกระเทียม
แซลมอนย่างกับคีนัวผัดกระเทียมและเห็ด
ตอร์ติญ่า ยัดไส้ผักโขม เห็ด และหัวหอมคาราเมล
แซนด์วิชทูน่า และกล้วยหอมคาราเมล
พิซซ่า คีนวา
แซนด์วิชชีสย่างไก่งวงและไข่ดาว เยิ้มๆ
ซุปมันฝรั่ง ใส่ไก่งวง
whey chocolate pudding
กราโนล่าใส่นม แฟตฟรี
เครปไข่ อกไก่กับซอสครีมดอกกะหล่ำ
แซนด์วิชชีสย่าง ไก่งวงและอโวคาโด
แซนด์วิชหน้าเปิด ไก่และบล็คโคลี่ผัดผงกะหรี่
โอ๊ตมีลฟักทองกล้วยหอม กับชาหอมๆ
แซนด์วิชอโวคาโด มะม่วง ดูไม่น่าเข้ากันแต่มันอร่อยเลยค่ะ
แกงกะหร่ญี่ปุ่นอกไก่
ทอร์เทลินี่ในซอสเพสโต้และไข่ดาวน้ำ
แซนด์วิชไก่งวง ซอสเพสโต้
ไก่อบซอสน้ำผึ้งกระเทียม
พิซซ่าฮาวายเอี้ยน (ใช้แป้งตอร์ติญ่า โลว์คาร์บเป็นฐาน)
เดี๋ยวมาลงเพิ่มอีกนะคะ ติดตามตอนต่อไป
// U R What you EAT ? // รวบรวมอาหารที่ทำมาเกือบ 1 ปี (Healthy + Clean) แค่เปลี่ยนการกิน ไม่ได้อดกินแม้แต่น้อย
ก่อนที่เราจะไปถึงอาหารต่างๆที่เคยทำ ขอเล่าการเดินทางในการลดน้ำหนัก และดูแลสุขภาพ มาให้เข้าใจก่อนว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
เริ่มแรก น้ำหนัก 58 kg. ย้อนไป 3 ปีที่แล้ว แบบใส่เสื้อผ้าเดิมมันแน่นทั้งที่ยังไม่ได้กินอะไรมาก จึงคิดว่าเฮ้ย ไม่ได้แหละ ลดน้ำหนักด่วน ปฏิบัติ!!!
เอารูปตอนตัวบวม กับตอนปัจจุบันมาให้ชมกันเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย ฮี่ (ขอเบลอหน้านิดนึงนะ เขิลเบาๆ นี่มันรูป suicide ชัดๆ 55+)
วิธีการลดน้ำหนักที่ผ่านมาค่ะ
วิธีแรก : งดข้าวเย็น และทานแป้งน้อยที่สุด โดยมื้อเย็นทานแต่ผลไม้ และมื้ออื่นๆก็จะทานแป้งให้น้อยที่สุด
ผล : น้ำหนักเริ่มลงมาเรื่อยๆ จาก 58 kg. มาอยู่ที่ 52 kg.แต่โหย เพลียอยู่ตลอด ไม่ค่อยมีแรง มีบางวันกินกระจายเพราะเหมือนมันอดมานาน
วิธีที่ 2 : งดข้าวเย็น และทานแป้งน้อยที่สุด และเพิ่มออกกำลังกายมาด้วย โดยการวิ่ง วันละ 1 ชั่วโมง
ผล : น้ำหนักลงอีกหลังจากนิ่งมานาน จาก 52 kg. เหลือ 47 kg. รู้สึกดีมากค่ะ แต่ก็มีเหตุให้ต้องหยุดวิ่งไประยะหนึ่ง เพราะเจ็บเอ็นที่หัวเข่า ประกอบกับงานเข้าช่วงพีคเลยหยุดยาวไป 1 ปี
ช่วงหยุดเกิดความชะล่าใจค่ะ เห็นน้ำหนักได้ตามที่ต้องการแหละ เลยไม่ได้คุมเรื่องอาหารกินปกติ ไม่ได้งดข้าวเย็น หรือตัดแป้งแล้ว ช่วง 3 -4 เดือนแรกที่หยุดออกกำลังกายและคุมอาหารเนี่ย น้ำหนักขึ้นบ้างนิดหน่อย แต่พอไปสักพักมันเริ่มขึ้นมา จาก 47 kg. มาเป็น 51 kg. เจอภาวะ “โยโย่” เข้าแล้วค่า
วิธีที่ 3 : Clean eating + ออกกำลังกายโดยการวิ่ง วันละ 1 ชั่วโมง
ผล : ผ่านไป 3 เดือนน้ำหนักลงค่ะ ลงมา อยู่ที่ 49 แล้วก็นิ่งไป 1 เดือน คือตั้งเป้าไว้อยากอยู่ที่ 48 แล้วแบบพอมันแค่อีก 1 โลทำไมไม่ยอมลงเกิดอาการ ทิงนองนอยด์ สิคะ ตอนนั้นเริ่มตามหาข้อมูลเรื่องออกกำลังกายมาขึ้น ทั้งจากเพจ สุขภาพ instagram นู้นนี้นั่นมากมาย (เดี๋ยวจะเอาลิงค์ข้อมูลที่ใช้ศึกษามาแปะไว้ข้างล่างให้นะคะ)
วิธีที่ 4 : (ที่ยังใช้อยู่ในปัจจุบัน) Healthy + Clean eating (Macro nutrition count) + Cardio + Body weight /Weight training
จะคำนวณพลังงานที่ร่ายกายต้องในแต่ละวันก็จะมาจัดสรรอีกทีว่าควรทานคาร์บ ไขมัน โปรตีน เท่าไหร่ ให้เพียงพอ มีสมดุลมากขึ้น และเปลี่ยนการออกกำลังกายจากเดิมที่แค่วิ่งมาเป็นพวก weight training สร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อควบคู่ไปด้วย ระบบเผาพลาญก็กลับมาดีขึ้น มีวันที่ทานอาหารปกติบ้างเพื่อฟื้นฟูระบบเผาพลาญ
ใช้วิธีนี้ผ่านไป 3 เดือนแรก ชีวิตดีขึ้นมากเลยค่ะ อาหารการกินก็ทานได้ปกติ แถมเหมือนจะทานดีและมากกว่าเดิมด้วย 555 เพียงแต่ต้องใส่ใจในเรื่องข้อมูลโภชนาการมากขึ้น ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำไม่ว่าจะตั้งใจลดน้ำหนัก หรือไม่ก็ตามเพราะเราควรเลือกสิ่งดีให้กับร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดีและไม่เจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บต่างที่อาจจะมากับอาหาร ออกกำลังกายก็สนุกมากขึ้น รู้สึกเลยว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น กล้ามเนื้อเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
จนมาถึงวันนี้เกือบจะครบปี ที่ใช้วิธีนี้แล้วค่ะ รู้สึกสบายมากๆ ไม่ต้องฝืนอะไรเลย เป็นวิธีที่ทำได้โดยไม่อึดอัด
น้ำหนักหรอค่ะ ก็อยู่ที่ 48-49 kg. นี่แหละ คงงงอ่าวก็ไม่ลดนี่หว่า แหม พูดมาซะยาว แต่ตอนนี้รู้แล้วค่ะว่าตัวเลขบนตาชั่งไม่ได้บอก สุขภาพหรือความแข็งแรงไปมากกว่าร่างกายที่แสดงออกมาให้เห็นเลยค่ะ เราเคยวัดสัดส่วนของร่ายกายไว้ก่อนใช้วิธีนี้ ตอนนี้ลดลงไปอย่างชัดเจน เสื้อผ้ากระโปรงกางเกง (รวมถึงเสื้อชั้นใน T_T ซึ่งไม่อยากให้หลวมเลย) หลวมขึ้นหมด หุ่นเฟิร์มขึ้นมีแต่คนทักว่าผอมลงไปเยอะเลย หุ่นดีหุ่นเฟิร์มขึ้นนะ ทั้งที่น้ำหนักไม่ได้ลงไปเลยค่ะ ยิ้มไป 5 วันเลยค่ะ 5555
จากที่เล่ามาทั้งหมด ได้ข้อสรุปกับตัวเองว่า
- สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีความหมายมากกว่าเลขที่อยู่บนหน้าปัดตราชั่งมากมายนัก แค่ชั่งให้พอรู้มวลของตัวเองก็พอ อย่าเอามายึดติดจนลืมความสำคัญของสุขภาพและความแข็งแรง
- ร่างกายเราเป็นสิ่งเดียวที่เราเป็นเจ้าของตราบที่ยังมีชีวิตอยู่ ดูแลเค้าให้ดีแล้วเค้าจะให้อะไรดีๆกับเรามากมายเลยค่ะ
- สุขภาพดีไม่ได้สร้างกันได้ภายในไม่กี่วัน ถ้าที่ผ่านมาไม่เคยใส่ใจเค้าเลยจริงๆ ต้องใช้เวลาหน่อย เชื่อเถอะค่ะ ว่าเวลาที่เราให้ไปจะอยู่กับเราได้ถาวรจริงๆ
- หาสมดุลที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงและมีความสุขไปพร้อมกัน มันไม่มีความหมายที่ต้องทำสิ่งที่ดีต่อร่างกายแต่จิตใจเราไม่มีความสุขไปด้วย หาสมดุลที่ทำได้ทั้งสองอย่างแล้วคุณจะอยู่กับมันไปได้นาน
อันนี้เป็นรูป before – after ก่อนจะใช้วิธีที่ 4 กับหลังใช้วิธีที่ 4 ค่ะ อาจจะไม่เปลี่ยนมากมาย แต่มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีก็ถือว่ามาถูกทางแล้วค่ะ
ด้านหน้า (ไม่ได้ถ่ายที่เดิมแล้ว แต่ทำให้รูปคล้ายๆกันที่สุดค่ะ)
ด้านข้าง
ด้านหลัง (ไม่เคยถ่ายตอนก่อนไว้เลยมีแต่รูปล่าสุดค่ะ)
แหล่งค้นคว้าข้อมูลของเราค่ะ ขอขอบคุณแอดมินทุกคนที่สรรหาข้อมูลดีๆมาแชร์ และคอยตอบคำถามข้อสงสัยเป็นอย่างดีค่ะ
https://www.facebook.com/eatcleanbaby?fref=ts
https://www.facebook.com/strongbyscience?fref=ts
https://www.facebook.com/fitfactfun?fref=ts
https://www.facebook.com/trainhardlookhotbynattie?fref=ts
https://www.facebook.com/fitjunctions?fref=ts
เอาหล่ะ เข้าเรื่อง มาดูเรื่องอาหารการกินเหมือนที่ตั้งหัวกระทู้กันเลยดีกว่า ส่วนใหญ่ก็เป็นเมนูง่าย ทำตามกันได้สบายๆเลยค่ะ จะใช้วัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ โดยดัดแปลงเอาจากแบบปกติ พยายามอ่านข้อมูลโภชนการในการเลือกวัตถุดิบต่างๆ รสชาติอาจไม่เป๊ะ แต่ก็ใกล้เคียง หวังว่าจะช่วยเป็นไอเดียในการทำอาหารกับทุกคนนะคะ (รูปมาลงบางส่วนนะคะ เยอะมากจีจี ตามไปดูกันต่อได้ที่ IG : Lethealthywithme_izzy ค่ะ ในนั้นจะมีคำนวณแคลไว้บ้าง ถ้ามีเวลา)
อกไก่ ผักสลัด ราดน้ำสลัดงาญี่ปุ่น และขนมปังโฮลวีททาเนยถั่ว
ขนมปังโฮลวีทกับ กรีกโยเกิร์ต และโอ๊ตมีล (ชอบโอ๊ตมีล เลยทำบ่อยหน่อย)
บันโฮลวีท สลัดผัก ไข่หวาน(อันนี้มาไกล ไปได้มาจากญี่ปุ่นค่ะ) และกล้วยหอม
สลัดคีนวา (เหมือนกินข้าวเลย เผื่อเบื่อข้าวกันเนาะ)
ออมเล็ตยัดไส้ ทูน่า ผักโขม พริกหยวก
แซนด์วิชไก่งวง ไก่งวงรสชาติใกล้ๆแฮมเลย เมนูแซนด์วิชนี่ก็ทำบ่อยค่ะ เร็วดี
โจ๊กไข่ขาวแซลมอน โรยธัญพืช มีอะไรใส่ๆไปเลยค่ะ
ซุปฟักทอง อันนี้ก็โปรด เป็นมนุษย์ฟักทอง 55
ตอร์ติญ่า สลัดไข่ต้ม
โฮลวีทปิ้งทา ครีมชีส แฟตฟรี โปะอโวคาโด และกล้วย (ง่ายแท้)
ยังคงโฮลวีทปิ้งทา ครีมชีส แฟตฟรี และกล้วย แอบมีขนมจากญี่ปุ่นมาเพิ่มความหวานนิดหน่อย
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซูกีนี่ชีส และอกไก่ย่าง
ข้าวไรซ์เบอร์รรี่ และอกไก่ผัดซอสกระเทียม
แซลมอนย่างกับคีนัวผัดกระเทียมและเห็ด
ตอร์ติญ่า ยัดไส้ผักโขม เห็ด และหัวหอมคาราเมล
แซนด์วิชทูน่า และกล้วยหอมคาราเมล
พิซซ่า คีนวา
แซนด์วิชชีสย่างไก่งวงและไข่ดาว เยิ้มๆ
ซุปมันฝรั่ง ใส่ไก่งวง
whey chocolate pudding
กราโนล่าใส่นม แฟตฟรี
เครปไข่ อกไก่กับซอสครีมดอกกะหล่ำ
แซนด์วิชชีสย่าง ไก่งวงและอโวคาโด
แซนด์วิชหน้าเปิด ไก่และบล็คโคลี่ผัดผงกะหรี่
โอ๊ตมีลฟักทองกล้วยหอม กับชาหอมๆ
แซนด์วิชอโวคาโด มะม่วง ดูไม่น่าเข้ากันแต่มันอร่อยเลยค่ะ
แกงกะหร่ญี่ปุ่นอกไก่
ทอร์เทลินี่ในซอสเพสโต้และไข่ดาวน้ำ
แซนด์วิชไก่งวง ซอสเพสโต้
ไก่อบซอสน้ำผึ้งกระเทียม
พิซซ่าฮาวายเอี้ยน (ใช้แป้งตอร์ติญ่า โลว์คาร์บเป็นฐาน)
เดี๋ยวมาลงเพิ่มอีกนะคะ ติดตามตอนต่อไป