ขอออกตัวก่อนนะคะนี่เป็นกระทู้แรกที่เขียน หากผิดห้อง ผิดพลาดอะไรขออภัยด้วยนะคะ
เรื่องของเรื่องเกินจาก คุณแม่จ้างทนายเพื่อยื่นฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายกรณีที่นาข้างเคียงรุ้งล้ำที่นาเรา
โดยมีการดำเนินกระบวนการรังวัดที่ดินตามคำสั่งศาล เมื่อรังวัดเสร็จที่สำนักงานที่ดินออกเอกสารการรังวัดแนวเขตใหม่โดยผลจากดารรังวัดปรากฎว่าที่ดินข้างเคียงรุกล้ำที่ดินเรามา 2 งาน โดยศาลนัดไกล่เกลีายรอบแรกวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งในชั้นไกล่เกลี่ยนั้นจำลยไม่ยินยอม จึงต้องส่งเรื่องต่อให้ผู้พิพากษาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยโดยผู้พิพากษาให้รังวัดที่ดินใหม่อีกครั้งเพื่อความสบายใจของจำเลยโดยค่าใช่จ่ายในการรังวัดคนละครึ่ง จากรอบแรกฝ่ายเราเป็นผู้ออกฝ่ายเดียว และเราให้ทนายเรียกค่าเสียหายต่างๆเป็นเงิน 34,4000 บาท ทนายก็ทำคำรองเพิ่มเติมโดยศาลสั่งให้มีการวางเงินค่าธรรมเนียมศาลร้อยละ 2 ของทุนทรัพย์ทยื่นไป และนัดพิจารณามนวันที่ 7 กันยายน ที่มา จุดสำคัญของความทุกข์ใจของเราเกินในวันนี้แหละ ตามที่ จขกท.แจ้งไปแล้วว่าวันนี้นัดพิจารณาไม่มีการไกล่เกลี่ยใดๆทั้งสิ้นซึ่งทางทนายความก็แจ้งคุณแม่มาแบบนี้ ท่าเลยชล่าไปไปดำเนินการเอง โดยในวันนั้นกลายเป็นว่ามีการไกล่เกลี่ยอีกรอบโดยเปลี่ยนณะผู้ประณีประนอมยอมความใหม่ ในขั้นตอนการไกล่เกลี่ยคุณแม่ยืนยันไปว่าเราจะไม่ยอมย้ายหลักเขตแดน จะขอตามหลักเขตแดนเดิม ซึ่งมีการถกเทียงต่างๆนาๆ คุณแม่เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่าทนายความไม่ได้ช่วยไรคุณแม่เลย คุณแม่พูดคนเดียว พอจะเถียงทนายก็ไม่ให้พูด โดยในชั้นไกล่เกลี่ยคุณแม่ยืนยันไปว่าฝ่ายจำเลยต้องออกจากที่ดินและจ่ายค่าเสียหายตามที่เรียกไปโดยค่าเสียหายดังกล่าวเราคำนวนจากความเสียหายจริง ไม่ได้เรียกร้องอะไรเพิ่มเติมเลย ใายจำเลยก็ต่อรองต่างๆคุณแม่ขอค่าปรับดินคืน 20,000 บาท ท่านผู้ประนอมบอกให้ได้แค่ 10,000 บาท ซึ่งดินฉันไม่เข้าใจว่าท่านผู้ประนอมมีสิทธิตัดสินใจแทนคู่กรณีด้วยหรือ เมื่อคุณพ่อเถียงกลับไปก็บอกว่สอย่าเถียงถ้าเถียงจะให้ตำรวจข้อหาหมิ่นศาลทำให้ทั้งพ่อและแม่เกิดความกลัว ในขณะที่ยังตกลงกันทนายเดินเข้ามาบอกแม่ว่าเอาตามนี้นะเอาตามนี้มั๊ยแม่ถามกลับไปว่าถ้ายอมแล้วจะเนียกค่าเสียหายต่างๆที่ขอไปให้ด้วยใช่มั๊ย ทนายก็แจ้งจะเรียกให้ โดยให้คุณแม่เซ็นเอกสารสัญญายอม คุณพ่อ และแม่ดิฉันจบ ป.4 อ่านหนังสือไม่คล่อง และทนายก็ไม่ได้ชี้แจงใดๆเพิ่มเติม เมื่อคุณแม่เห็นค่าเสียหายในเอกสารก็แจ้งทนายว่าทำไมมีแค่นี้ เพราะในเอกสารแจ้งว่าเราได้รับค่าปรับดินคืน 10,000 บาท และค่าเสียหายที่จำเลยตัดต้นไม้ 4 ต้น เป็นเงิน 2500 บาท และต้องยอมขยับเสาเขตแดนให้จำเลย 40 ตารางวา แม่ถามทนาย ทนายแจ้งว่าก็ได้ที่ดินคืน คือทุกท่านที่ดินที่ได้คืนมามันก็ของเรา แล้วเรายังต้องเสียที่ดินให้จำเลยอีก 40 ตารางวา มันถูกต้องหรือไม่ จากนั้นทนายให้กดดันให้แม่เราเซ็นเอกสาร โดยไม่ได้ชี้แจงเลยว่สเราจะได้รับความเสียหายใหๆบ้าง เมื่แม่ถามถึงค่าเสียหายก็บอกว่สจะเรียกให้แต่ให้เซ็นเอกสารก่อน ซึ่งแม่ก็ยินยอมเซ็นเอกสารให้ไป้พราะคิดว่าจะได้ที่ดินและค่าเสียหายคืนจากจำเลย
ดิฉันขอถามผู้รู้คะว่าในกรณีนี้สามารถแก้ไขอะไรได้บ้าง ครอบครัวเราทุกข์ใจมากค่ะ
ทำยังดีคะ???? แม่เซ็นสัญญาสัญญายอม โดยทนายที่จ้างว่าความหลอกให้เซ็น
เรื่องของเรื่องเกินจาก คุณแม่จ้างทนายเพื่อยื่นฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายกรณีที่นาข้างเคียงรุ้งล้ำที่นาเรา
โดยมีการดำเนินกระบวนการรังวัดที่ดินตามคำสั่งศาล เมื่อรังวัดเสร็จที่สำนักงานที่ดินออกเอกสารการรังวัดแนวเขตใหม่โดยผลจากดารรังวัดปรากฎว่าที่ดินข้างเคียงรุกล้ำที่ดินเรามา 2 งาน โดยศาลนัดไกล่เกลีายรอบแรกวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งในชั้นไกล่เกลี่ยนั้นจำลยไม่ยินยอม จึงต้องส่งเรื่องต่อให้ผู้พิพากษาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยโดยผู้พิพากษาให้รังวัดที่ดินใหม่อีกครั้งเพื่อความสบายใจของจำเลยโดยค่าใช่จ่ายในการรังวัดคนละครึ่ง จากรอบแรกฝ่ายเราเป็นผู้ออกฝ่ายเดียว และเราให้ทนายเรียกค่าเสียหายต่างๆเป็นเงิน 34,4000 บาท ทนายก็ทำคำรองเพิ่มเติมโดยศาลสั่งให้มีการวางเงินค่าธรรมเนียมศาลร้อยละ 2 ของทุนทรัพย์ทยื่นไป และนัดพิจารณามนวันที่ 7 กันยายน ที่มา จุดสำคัญของความทุกข์ใจของเราเกินในวันนี้แหละ ตามที่ จขกท.แจ้งไปแล้วว่าวันนี้นัดพิจารณาไม่มีการไกล่เกลี่ยใดๆทั้งสิ้นซึ่งทางทนายความก็แจ้งคุณแม่มาแบบนี้ ท่าเลยชล่าไปไปดำเนินการเอง โดยในวันนั้นกลายเป็นว่ามีการไกล่เกลี่ยอีกรอบโดยเปลี่ยนณะผู้ประณีประนอมยอมความใหม่ ในขั้นตอนการไกล่เกลี่ยคุณแม่ยืนยันไปว่าเราจะไม่ยอมย้ายหลักเขตแดน จะขอตามหลักเขตแดนเดิม ซึ่งมีการถกเทียงต่างๆนาๆ คุณแม่เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่าทนายความไม่ได้ช่วยไรคุณแม่เลย คุณแม่พูดคนเดียว พอจะเถียงทนายก็ไม่ให้พูด โดยในชั้นไกล่เกลี่ยคุณแม่ยืนยันไปว่าฝ่ายจำเลยต้องออกจากที่ดินและจ่ายค่าเสียหายตามที่เรียกไปโดยค่าเสียหายดังกล่าวเราคำนวนจากความเสียหายจริง ไม่ได้เรียกร้องอะไรเพิ่มเติมเลย ใายจำเลยก็ต่อรองต่างๆคุณแม่ขอค่าปรับดินคืน 20,000 บาท ท่านผู้ประนอมบอกให้ได้แค่ 10,000 บาท ซึ่งดินฉันไม่เข้าใจว่าท่านผู้ประนอมมีสิทธิตัดสินใจแทนคู่กรณีด้วยหรือ เมื่อคุณพ่อเถียงกลับไปก็บอกว่สอย่าเถียงถ้าเถียงจะให้ตำรวจข้อหาหมิ่นศาลทำให้ทั้งพ่อและแม่เกิดความกลัว ในขณะที่ยังตกลงกันทนายเดินเข้ามาบอกแม่ว่าเอาตามนี้นะเอาตามนี้มั๊ยแม่ถามกลับไปว่าถ้ายอมแล้วจะเนียกค่าเสียหายต่างๆที่ขอไปให้ด้วยใช่มั๊ย ทนายก็แจ้งจะเรียกให้ โดยให้คุณแม่เซ็นเอกสารสัญญายอม คุณพ่อ และแม่ดิฉันจบ ป.4 อ่านหนังสือไม่คล่อง และทนายก็ไม่ได้ชี้แจงใดๆเพิ่มเติม เมื่อคุณแม่เห็นค่าเสียหายในเอกสารก็แจ้งทนายว่าทำไมมีแค่นี้ เพราะในเอกสารแจ้งว่าเราได้รับค่าปรับดินคืน 10,000 บาท และค่าเสียหายที่จำเลยตัดต้นไม้ 4 ต้น เป็นเงิน 2500 บาท และต้องยอมขยับเสาเขตแดนให้จำเลย 40 ตารางวา แม่ถามทนาย ทนายแจ้งว่าก็ได้ที่ดินคืน คือทุกท่านที่ดินที่ได้คืนมามันก็ของเรา แล้วเรายังต้องเสียที่ดินให้จำเลยอีก 40 ตารางวา มันถูกต้องหรือไม่ จากนั้นทนายให้กดดันให้แม่เราเซ็นเอกสาร โดยไม่ได้ชี้แจงเลยว่สเราจะได้รับความเสียหายใหๆบ้าง เมื่แม่ถามถึงค่าเสียหายก็บอกว่สจะเรียกให้แต่ให้เซ็นเอกสารก่อน ซึ่งแม่ก็ยินยอมเซ็นเอกสารให้ไป้พราะคิดว่าจะได้ที่ดินและค่าเสียหายคืนจากจำเลย
ดิฉันขอถามผู้รู้คะว่าในกรณีนี้สามารถแก้ไขอะไรได้บ้าง ครอบครัวเราทุกข์ใจมากค่ะ