ดิฉันเป็นโจทย์ฟ้องขับไล่ และเรียกค่าเสียหายทั้งหมดตลอดระยะเวลาที่ทำเรื่องรังวัดออกโฉนด จนถึงลำลายรั้ว
ดืฉันฟ้อง ผู้ทำกิน เนืองจากผู้ทำกิน มาขัดขว้างการรังวัดและทำลายรั้วกั้นเขต(ฉันได้ทำสัญญาให้ผู้ทำกิน(ญาติ)ทำกินจนกว่าต้นยางจะกรีดไม่ได้ แต่ต้องเป็นเค้าคนเดียวเท่านั้น ในสัญญาระบุชื่อ เค้าคนเดียวที่ดิฉันให้สิทธิ์ทำกิน)แต่สุดท้ายเค้ากลับเนรคุณ
-ขัดขวางการรังวัดออกโฉนดของดิฉัน(เดิมเป็น นส3ก)และได้ออกเรียบร้อย กว่าจะได้ออก มาเสียเวลากับการทำแผนที่พิพาท นานมากกว่าจะจบ เพราะ จนท ที่ดินก็เหมือนจะเข้าข้างจำเลย แต่ดิฉันมองว่าจำเลยไม่มีสิท แต่ทำไม จนท ให้สิทธิ์โดยไม่ดูที่มา ที่ไป ดิฉันเลยเขียน จม ถึง อธบดี กรมที่ดิน เลยจบปิ้ง ในส่วนของ จนท ที่ทำผิดกฎระเบียบ
แต่มาเสียเวลากับผู้ทำกินที่มาก่อกวน อ้างว่าที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง และทั้งๆที่เอกสารสิทธิ์ก็ไม่มี มีแต่สัญญาที้เราให้เค้าทำกิน ซึ่ง จนท ที่ดิน บอกเค้าไปว่า เค้าไม่มีสิทธิ์ค้าน เพราะไม่ใช่ข้างเรียง(กว่าจะได้ออกโฉนด นับว่า เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพราะที่ดินไม่ได้อยู่ในจังหวัดที่ดิฉันทำงาน กระบวนการรังวัดจบ เพื่มเติม แถมผู้ทำกินยังเอาไม้มาทำรั้วของตัวเองที่ทำกินว่าทำกินแค่ใหน ซึ่งปักตรงกลางที่ของดิฉันเลย(ดิฉันไม่เอาออก เพราะเดียวจะมีปัญหา ว่าไปเอาไม้เค้าออกทำไม แต่ที่จริงแล้วมันเป็นสิทของดิฉันถ้าจะเอาออก แต่ดิฉันรอ วันที่มันมาพังรั้งดิฉัน เพือให้เห้นเจตนาชัดเจนว่าเค้าจะแย้งสิทธิ์ สุดท้ายมันก็ทำ ดิฉันเลยฟ้องทันที
ขอเล่าย้อนไปก่อนนะคะ
-หลังจากรังวัดเสร๊จ จนท รังวัด ลงหมุดเรียบร้อยดิฉันก็ทำรั้วเพื่อแสดงขอบเขตที่ดิน และข้างเคียงแต่ละด้านก็ไม่มีใครมีปัญหา และไม่มีใครคัดค้านเรื่องรั้วที่ทำ และดิฉันก็ให้เค้าทำกินปกติ แต่เค้ากลับเอาคนอื่นมาทำแทนเค้า โดยอ้างว่าไม่สบาย แต่ไม่เคยขออนุญาตดิฉันเลย คือ จะให้เค้าเข้าไปก็ได้ในสวนของดิฉัน (มีคลิปเสียง ที่เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้ทำกินเอง แต่จ้างคนอื่นมาทำ ณ วันไปหาตำรวจ เค้าหลุดปากออกมา )
-ดิฉันทำรั้ว ตุลาคม 61 ต่อมาผู้ทำกินมาพังรั้วดิฉันตอน กรกฎาคม 62 ซึ่งระยะเวลา 10 เดือนนั้น ดิฉันก็ไม่ได้ขัดขวางการทำกินอะไรทั้งสิ้น แต่ ณ วันที่เราฟ้อง เค้ายื่นสู้ด้วยสัญญาทำกิน
และในสำนวนของจำเลยได้อ้างว่า
1.จำเลยได้ให้ที่ดินแกดิฉัน และตกลงกันว่สให้ที่ดิน และให้ทำกินตลอดจนยางตัดไม่ได้=>หลักฐานการให้ หรือโอนที่ดินไม่มีเพราะจำเลยไม่มีที่ดินและเอกสารเป็นขื่อตัวเอง แค่อ้างว่ามาทำกินและจะโมเมเแาที่ดิน แล้วมาอ้างว่าให้
2.จำเลยอ้างว่า ดิฉันทำรั้วล้ำไปที่จำเลย คำว่าล้ำ หมาวถึงล้ำไปที่ตรงไหน เพราะจำเลยไม่มีที่ และข้างเคียงก็ไม่มีใครมาค้านหรือมาขัดขวางการทำรั้ว
3.จำเลยอ้างว่า ดิฉันเจตนาทุจจริตทำรั้วโดยไม่ขออนุญาติจำเลย (ณ วันทำรั้ว มาโวยวาย ดิฉันพาตำรวจมา รีบวิ่งหนี้)
4.จำเลยอ้างว่า ดิฉันไม่มีสืทธิ์ไปทำรั้ว เพราะจะขัดขวางการทำประโยขน์ของจำเลย แต่ ระยะเวลา9 เดือน จำเลยก็เข้ามาทำกินปกติ แถมให้คนอื่นมาทำแทน(ผิดสัญญา)และการทำรั้วก็เป้นสทธิ์ของเจ้าของดิน แต่นำมาอ้างในชั้นศาล
5.อ้างว่าที่ทำลายรั้วเพราะขัดขวางการทำกิน และปกป้องสิทธิ์บองจำเลย
เลยงง ว่า ถ้าขัดขวาง ไม่จำเป็นต้องเอาเสาปูนที่ปักอยู่และลวดหนามดึงออกหด จนเกิดความเสียหายทั้งหมด รั้ว 20 ตัน ดึงออกหมดเลย แทนที่จะมาบอกว่าเข้าไม่ได้ แต่เชื่อว่าเป็นข้ออ้างต่อศาล และเจตนาที่ทำไปก่อนหน้านี่จะแย้งสิทธิ์ เพราะคิดว่าดิฉันจะไม่ฟ้อง
6.ทนายจำเลย ขอไกล่เกลี่ยโดยการ ให้ จนท รังวักมารังวัดใหม่ แต่ต้องเป็นแนวเดิม และให้จำเลยซื้อเสาร์ปูนและลวดหนามมาทำให้เป็นสภาพเดิม ณ วันรังวัด เพื่อจะช่วยลดหย่อนโทษ แต่จำเลยกลับไปประกาศที่บ้านว่า เค้าชนะ เพราะได้ทำกินต่อ(อันนี้ไม่เถียง เพราะดิฉันให้เค้าทำกินตลอดจนอายุยางตัดไม่ได่ แต่เค้าเองที่เอาสัญญามาอ้าง เพื่อจะสู้ทางแพ่ง แต่เค้าก็ทำผิดสัญญาที่ให้คนอื่นมาทำแทนเค้า ทนายเค้าก็อ้าง ว่า ญาตพี่น้องตัดได้ และดิฉันได้แย้งไปว่า ในเมื่อคุณ ยึดสัญญา ดิฉันก็ขอยึดตามสัญญาเช่นกัน ทีระบุว่า จำเลย เข้าได้คนเดียว)
7.ศาลให้ไกล้เกลี่ยโดยการ ให้ทำการรังวัดใหม่ แต่ต้องเปฺนจุดเดิม เพราะเคยวัดมาแล้ว แต่เพื่อความสบายใจของทั้ง2ฝ่าย จะให้ จนท รังวัด อยู่ ณ พื้นที่ ตอนจำเลยชดเชยรั้วใหม่ ที่อ้างว่า ทำลายเพราะล้ำ
จนท รังวัด งงกับคำสั้งนี้ เพราะที่ทำรั้วก็ชัดเจนแล้ว มาวัดกี่ครั้งก็เท่าเดิม แต่มันจะยื้อ หรือให้โทษลดลงไมค่ะ ที่มันทำแบบนี้
ศาลนัดไกล่เกลียหลังเอาผลรังวัดไปพิจารณาอีกที 2/12/62 ค่ะ
ณ วันที่ 2/12/62 ดิฉันไม่ไกล่เกลี่ยแล้วค่ะ ไม่ยอม ขอต่อคดีอาญา เพราะไม่งั้นเค้าจะไม่หลาบจำ และกลับมาทำแบบเดิมอีก
ณ วัน ที่ 2/12/62 เราจะแย้งสำนวนที่เค้าสู้มาด้วยสัญญาได้ไมค่ะ เพราะสำนวนที่ส่งให้ศาลดู เป็นเหตุการณ์เท็จทั้งหมด และไม่มีหลักฐาน แบบนี่ไปต่ออาญา ไม่ขอไกล่เกลี่ย ศาลจะเข้าใจไมค่ะ
เพราะศาลชอบให้ไกล่เกลี่ยค่ะ
รู้สึกกังวล เพราะกลัวศาลมองว่าคดีไม่ได้ร้ายแรง แต่ลองมาเป็นดิฉัน ถ้าโค้นยางออกไปได้ โค้นเดียวนี้เลย เพราะมันก่อกวน และถือว่า มันยังทำประโยชน์ได้อีก แบบนี้ต้องเล่นแบบไหนค่ะ
จะยกเลิกสัญญาก็ไม่ได้ ทั้งๆที่มันผิดสัญญาเอง
จะไปโค้นยางมันออกไปก็ไม่ได้
พลาดมากๆ ที่ทำสัญญามำกิน 1 ไร่ ให้ญาติทรยศ คำว่า 1 ไร่ ไม่ได้มากมาย แต่ความรู่สึกที่เสียไปมันเกินบรรยายเลยค่ะ
ขึ้นศาลครั้งแรก ฟ้องขับไล่
ดืฉันฟ้อง ผู้ทำกิน เนืองจากผู้ทำกิน มาขัดขว้างการรังวัดและทำลายรั้วกั้นเขต(ฉันได้ทำสัญญาให้ผู้ทำกิน(ญาติ)ทำกินจนกว่าต้นยางจะกรีดไม่ได้ แต่ต้องเป็นเค้าคนเดียวเท่านั้น ในสัญญาระบุชื่อ เค้าคนเดียวที่ดิฉันให้สิทธิ์ทำกิน)แต่สุดท้ายเค้ากลับเนรคุณ
-ขัดขวางการรังวัดออกโฉนดของดิฉัน(เดิมเป็น นส3ก)และได้ออกเรียบร้อย กว่าจะได้ออก มาเสียเวลากับการทำแผนที่พิพาท นานมากกว่าจะจบ เพราะ จนท ที่ดินก็เหมือนจะเข้าข้างจำเลย แต่ดิฉันมองว่าจำเลยไม่มีสิท แต่ทำไม จนท ให้สิทธิ์โดยไม่ดูที่มา ที่ไป ดิฉันเลยเขียน จม ถึง อธบดี กรมที่ดิน เลยจบปิ้ง ในส่วนของ จนท ที่ทำผิดกฎระเบียบ
แต่มาเสียเวลากับผู้ทำกินที่มาก่อกวน อ้างว่าที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง และทั้งๆที่เอกสารสิทธิ์ก็ไม่มี มีแต่สัญญาที้เราให้เค้าทำกิน ซึ่ง จนท ที่ดิน บอกเค้าไปว่า เค้าไม่มีสิทธิ์ค้าน เพราะไม่ใช่ข้างเรียง(กว่าจะได้ออกโฉนด นับว่า เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพราะที่ดินไม่ได้อยู่ในจังหวัดที่ดิฉันทำงาน กระบวนการรังวัดจบ เพื่มเติม แถมผู้ทำกินยังเอาไม้มาทำรั้วของตัวเองที่ทำกินว่าทำกินแค่ใหน ซึ่งปักตรงกลางที่ของดิฉันเลย(ดิฉันไม่เอาออก เพราะเดียวจะมีปัญหา ว่าไปเอาไม้เค้าออกทำไม แต่ที่จริงแล้วมันเป็นสิทของดิฉันถ้าจะเอาออก แต่ดิฉันรอ วันที่มันมาพังรั้งดิฉัน เพือให้เห้นเจตนาชัดเจนว่าเค้าจะแย้งสิทธิ์ สุดท้ายมันก็ทำ ดิฉันเลยฟ้องทันที
ขอเล่าย้อนไปก่อนนะคะ
-หลังจากรังวัดเสร๊จ จนท รังวัด ลงหมุดเรียบร้อยดิฉันก็ทำรั้วเพื่อแสดงขอบเขตที่ดิน และข้างเคียงแต่ละด้านก็ไม่มีใครมีปัญหา และไม่มีใครคัดค้านเรื่องรั้วที่ทำ และดิฉันก็ให้เค้าทำกินปกติ แต่เค้ากลับเอาคนอื่นมาทำแทนเค้า โดยอ้างว่าไม่สบาย แต่ไม่เคยขออนุญาตดิฉันเลย คือ จะให้เค้าเข้าไปก็ได้ในสวนของดิฉัน (มีคลิปเสียง ที่เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้ทำกินเอง แต่จ้างคนอื่นมาทำ ณ วันไปหาตำรวจ เค้าหลุดปากออกมา )
-ดิฉันทำรั้ว ตุลาคม 61 ต่อมาผู้ทำกินมาพังรั้วดิฉันตอน กรกฎาคม 62 ซึ่งระยะเวลา 10 เดือนนั้น ดิฉันก็ไม่ได้ขัดขวางการทำกินอะไรทั้งสิ้น แต่ ณ วันที่เราฟ้อง เค้ายื่นสู้ด้วยสัญญาทำกิน
และในสำนวนของจำเลยได้อ้างว่า
1.จำเลยได้ให้ที่ดินแกดิฉัน และตกลงกันว่สให้ที่ดิน และให้ทำกินตลอดจนยางตัดไม่ได้=>หลักฐานการให้ หรือโอนที่ดินไม่มีเพราะจำเลยไม่มีที่ดินและเอกสารเป็นขื่อตัวเอง แค่อ้างว่ามาทำกินและจะโมเมเแาที่ดิน แล้วมาอ้างว่าให้
2.จำเลยอ้างว่า ดิฉันทำรั้วล้ำไปที่จำเลย คำว่าล้ำ หมาวถึงล้ำไปที่ตรงไหน เพราะจำเลยไม่มีที่ และข้างเคียงก็ไม่มีใครมาค้านหรือมาขัดขวางการทำรั้ว
3.จำเลยอ้างว่า ดิฉันเจตนาทุจจริตทำรั้วโดยไม่ขออนุญาติจำเลย (ณ วันทำรั้ว มาโวยวาย ดิฉันพาตำรวจมา รีบวิ่งหนี้)
4.จำเลยอ้างว่า ดิฉันไม่มีสืทธิ์ไปทำรั้ว เพราะจะขัดขวางการทำประโยขน์ของจำเลย แต่ ระยะเวลา9 เดือน จำเลยก็เข้ามาทำกินปกติ แถมให้คนอื่นมาทำแทน(ผิดสัญญา)และการทำรั้วก็เป้นสทธิ์ของเจ้าของดิน แต่นำมาอ้างในชั้นศาล
5.อ้างว่าที่ทำลายรั้วเพราะขัดขวางการทำกิน และปกป้องสิทธิ์บองจำเลย
เลยงง ว่า ถ้าขัดขวาง ไม่จำเป็นต้องเอาเสาปูนที่ปักอยู่และลวดหนามดึงออกหด จนเกิดความเสียหายทั้งหมด รั้ว 20 ตัน ดึงออกหมดเลย แทนที่จะมาบอกว่าเข้าไม่ได้ แต่เชื่อว่าเป็นข้ออ้างต่อศาล และเจตนาที่ทำไปก่อนหน้านี่จะแย้งสิทธิ์ เพราะคิดว่าดิฉันจะไม่ฟ้อง
6.ทนายจำเลย ขอไกล่เกลี่ยโดยการ ให้ จนท รังวักมารังวัดใหม่ แต่ต้องเป็นแนวเดิม และให้จำเลยซื้อเสาร์ปูนและลวดหนามมาทำให้เป็นสภาพเดิม ณ วันรังวัด เพื่อจะช่วยลดหย่อนโทษ แต่จำเลยกลับไปประกาศที่บ้านว่า เค้าชนะ เพราะได้ทำกินต่อ(อันนี้ไม่เถียง เพราะดิฉันให้เค้าทำกินตลอดจนอายุยางตัดไม่ได่ แต่เค้าเองที่เอาสัญญามาอ้าง เพื่อจะสู้ทางแพ่ง แต่เค้าก็ทำผิดสัญญาที่ให้คนอื่นมาทำแทนเค้า ทนายเค้าก็อ้าง ว่า ญาตพี่น้องตัดได้ และดิฉันได้แย้งไปว่า ในเมื่อคุณ ยึดสัญญา ดิฉันก็ขอยึดตามสัญญาเช่นกัน ทีระบุว่า จำเลย เข้าได้คนเดียว)
7.ศาลให้ไกล้เกลี่ยโดยการ ให้ทำการรังวัดใหม่ แต่ต้องเปฺนจุดเดิม เพราะเคยวัดมาแล้ว แต่เพื่อความสบายใจของทั้ง2ฝ่าย จะให้ จนท รังวัด อยู่ ณ พื้นที่ ตอนจำเลยชดเชยรั้วใหม่ ที่อ้างว่า ทำลายเพราะล้ำ
จนท รังวัด งงกับคำสั้งนี้ เพราะที่ทำรั้วก็ชัดเจนแล้ว มาวัดกี่ครั้งก็เท่าเดิม แต่มันจะยื้อ หรือให้โทษลดลงไมค่ะ ที่มันทำแบบนี้
ศาลนัดไกล่เกลียหลังเอาผลรังวัดไปพิจารณาอีกที 2/12/62 ค่ะ
ณ วันที่ 2/12/62 ดิฉันไม่ไกล่เกลี่ยแล้วค่ะ ไม่ยอม ขอต่อคดีอาญา เพราะไม่งั้นเค้าจะไม่หลาบจำ และกลับมาทำแบบเดิมอีก
ณ วัน ที่ 2/12/62 เราจะแย้งสำนวนที่เค้าสู้มาด้วยสัญญาได้ไมค่ะ เพราะสำนวนที่ส่งให้ศาลดู เป็นเหตุการณ์เท็จทั้งหมด และไม่มีหลักฐาน แบบนี่ไปต่ออาญา ไม่ขอไกล่เกลี่ย ศาลจะเข้าใจไมค่ะ
เพราะศาลชอบให้ไกล่เกลี่ยค่ะ
รู้สึกกังวล เพราะกลัวศาลมองว่าคดีไม่ได้ร้ายแรง แต่ลองมาเป็นดิฉัน ถ้าโค้นยางออกไปได้ โค้นเดียวนี้เลย เพราะมันก่อกวน และถือว่า มันยังทำประโยชน์ได้อีก แบบนี้ต้องเล่นแบบไหนค่ะ
จะยกเลิกสัญญาก็ไม่ได้ ทั้งๆที่มันผิดสัญญาเอง
จะไปโค้นยางมันออกไปก็ไม่ได้
พลาดมากๆ ที่ทำสัญญามำกิน 1 ไร่ ให้ญาติทรยศ คำว่า 1 ไร่ ไม่ได้มากมาย แต่ความรู่สึกที่เสียไปมันเกินบรรยายเลยค่ะ