[CR] รีวิวการใช้บริการ ตำรวจ ทนาย อัยการ ศาล คดีแพ่งและอาญา

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมรอที่จะรีวิวนี้มาเกือบ 4 ปี จนวันนี้คิดว่าทุกอย่างน่าจะจบแล้วเลย ตั้งใจมานั่งเรียบเรียง หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับคนอื่น เพราะตอนผมมีปัญหา ก็มาค้นกระทู้ในนี้ ผมไม่ใช่คนรวย และไม่มีความรู้ทางกฏหมาย เพราะฉะนั้น ใครก็ตาม ก็สามารถนำบางอย่างที่คิดว่ามีประโยชน์ไปใช้ได้

คดีของผมเป็นคดี แพ่ง ผมเป็นโจกท ฝ้องผิดสัญญาจ้างกับผู้รับเหมา โดยใช้บริการทนาย จากนั้นผมเป็นโจกท อีกครั้งฟ้องร้อง คดีอาญา โกงเจ้าหนี้ โดยใช้บริการตำรวจและอัยการ ศาล ถึงจะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้อง ขึ้นศาล แต่ก็ทำให้ผมเห็นบางอย่างของ กระบวนการยุติธรรม ของประเทศไทย

ผมจะเล่า เป็นลำดับ เหตการณ์ ซึ่งเขียนจาก ลำดับเหตการณ์ที่ผมเล่าให้ทนายและอัยการ ซึ่งเกือบ 80% อยู่ในคำฟ้องที่ได้ตัดสินไปแล้ว ที่เหลือ ทนายและอัยการตัดออกเพราะเห็นว่าไม่ใช่ประเด้นสำคัญนัก จากนั้น ผมจะขอรีวิวด้วยความรู้สึกส่วนตัวจากการใช้บริการที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้ ข้อเท็จจริงกับความรู้สึกปนกัน

เริ่มเดือน ม.ค. 2557     ผมอาศัยอยู่ที่ xxxx จ.นครปฐม และคุณแม่ มีที่ดินอยู่ที่  จ.สระบุรี ตัดสินใจจะร่วมเงินกัน คนละครึ่ง เพื่อสร้างบ้านชั้นเดียวไว้ให้คนเช่าอาศัย ได้มีเพื่อนที่จังหวัดสระบุรี แนะนำให้รู้จัก นาย xxxx จำเลย จากนั้นได้เดินทางมาพบจำเลยที่ xxxxx    เพื่อให้ทำการประเมินราคาก่อสร้าง และได้ขอให้จำเลยพาไปดูผลงานการก่อสร้าง จำเลยได้พาไปดูอาคารพานิช 3 ชั้นที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ โดยอ้างว่าเป็นผลงานของตนเอง ทำให้เชื่อว่า จำเลยจะสามารถก่อสร้างบ้านชั้นเดียว ให้กับผมได้

วันที่ 12 ก.พ. 2557        ตัดสินใจตกลงทำสัญญาจ้าง จำเลยก่อสร้างบ้านชั้นเดียว มูลค่า 930,000 บาท โดยแบ่งชำระ 5 งวด รายละเอียดตามเอกสาร สัญญาจ้าง โดยให้จำเลย ดำเนินการทันที จากนั้นเดินทางกลับ หลังจากนั้น จำเลยได้ขอให้ โอนเงินจำนวน 93,000 บาท หลังจากที่ดำเนินงานไปเพียงแค่ เช่าบ้านพักคนงานและ ตีผัง โดยอ้างว่าจะนำเงินไป เป็นทุนดำเนินการส่วนที่เหลือ และขอให้ช่วยเหลือแค่ครั้งนี้ จึงตัดสินใจโอนเงินดังกล่าวไปในวันนั้น และตกลงว่างานในส่วนที่เหลือ จะตรวจร่วมกับงานในงวดที่ 2

วันที่ 2 มี.ค. 2557        ได้รับการติดต่อจากจำเลย ให้เข้าตรวจงาน จึงเดินทางจาก นครปฐม ไปยัง สระบุรีเพื่อตรวจงาน พบว่า มีหลายอย่างไม่เป็นไปตามแบบและที่ได้พูดคุยกันเช่น ส่วนฐานราก จำเลยไม่ได้ถ่ายรูปการผูกเหล็กเอาไว้ และที่หน้างานได้กลบดินไปหมดแล้ว ไม่สามารถตรวจงานได้ ส่วนเสาตอหม้อ ได้ใช้ท่อใยหินแทนการใช้ไม้แบบ และส่วนของคานใช้แผ่นยิบซั่มแทนใช้ไม้แบบ พบเห็นเหล็กเส้นในรูคาน คานคดเลื้อยไปเลื้อยมา หลังคานไม่ได้ระดับ สอบถามจำเลย จำเลยยืนยันว่าสามารถใช้แทนกันได้มีความปลอดภัย ขณะนั้นยังไม่มีความรู้ด้านการก่อสร้าง ไม่สามารถตัดสินใจได้ว่า การก่อสร้างนั้นเป็นที่ยอมรับได้หรือไม่ จึงได้ถ่ายรูปเพื่อนำไปปรึกษากับที่บ้านและค้นข้อมูลทางอินเตอร์เนทก็มาตั้งกระทู้ถามในนี้แหละ

วันที่ 5 มี.ค. 2557        จำเลยโทรมาขอเบิกเงินล่วงหน้า จำนวน 186,000 บาท ทั้งที่ยังทำงานในงวดที่ 2 ไม่เสร็จ โดยอ้างว่า ไม่มีเงินพอจะซื้ออุปกรณ์มาดำเนินการ หากไม่ให้อาจทำให้งานล่าช้า ผมเห็นว่าหากให้เงินไปจะเป็นการยอมรับงวดงานในส่วนที่ยังสงสัย แต่ก็กังวลว่าจำเลยจะทิ้งงาน จึงเจรจาโอนเงินไปจำนวน 100,000 บาทและขอให้จำเลยส่งหลักฐานการแก้ไข ในส่วนคานที่เป็นรู

วันที่ 6 มี.ค. 2557        จำเลยส่งหลักฐานทางอิเล็คโทรนิค มาให้ แต่พบว่า แก้ไขเฉพาะบริเวณที่ผมตรวจพบ บริเวณอื่นที่กลบดินไปแล้ว ไม่ได้เปิดออกทำการแก้ไข จึงทำให้ไม่มั่นใจว่าจำเลยมีความตั้งใจจะสร้างให้เป็นไปตามแบบและมีความปลอดภัย จึงเริ่มค้นหาผผู้รับตรวจงานก่อสร้าง

วันที่ 21 มี.ค. 2557        ได้นำวิศวกร ผู้มีใบรับรองวิชาชีพ เข้าไปตรวจหน้างาน โดยนัด จำเลยมาดูด้วย พบว่า มีสิ่งที่ต้องแก้ไขหลายจุด เช่น เสาที่โยกได้ด้วยมือเปล่า เสาล้มดิ่ง เสาเยื้องศูนย์ คานล้นแนวก่อ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ขนาดของคานและพื้นที่สร้างผิดแบบ วิศวกรได้แจ้งให้จำเลยทราบ ส่วนการแก้ไขคานและพื้น ทางวิศวกรจะขอกลับไปคำนวนน้ำหนักที่รับได้อีกครั้ง

วันที่ 29 มี.ค. 2557        วิศวกรส่งรายงานสิ่งที่ต้องแก้ไขมาให้ผมทางจดหมายอิเล็คทรอนิค ซึ่งมีส่วนของคานและพื้นที่ต้องทุบทำใหม่ และส่วนของเสาตอหม้ออาจต้องทุบทำใหม่ด้วย

วันที่ 30 มี.ค. 2557        ผมส่งรายการฉบับดังกล่าวให้จำเลย และได้โทรพูดคุยกัน จำเลยจะนำไปพิจารณา

วันที่ 3 เม.ย. 2557        จำเลยโทรแจ้งว่าได้ได้ดำเนินการแก้ไขเสร็จสิ้นแล้วให้เข้ามาตรวจงาน ผมเดินทางจาก นครปฐม เข้าไปตรวจงาน พบว่ายังไม่มีการแก้ไขในส่วนของคานและพื้น ส่วนเสาก็ยังโยกได้ด้วย มือเปล่าอยู่ จึงปฏิเสธที่จะจ่ายเงิน

วันที่ 5 เม.ย.2557        ภรรยาจำเลยโทรมาขอเบิกเงินล่วงหน้า โดยอ้างว่า จะนำเงินส่วนที่เหลือ 86,000 บาท ไปดำเนินการแก้ไขให้เสร็จสิ้น ผมเห็นว่า หากให้เงินไป จะเป็นการยอมรับการตรวจงานงวดดังกล่าว ประกอบกับได้ช่วยเหลือไปแล้ว 2 ครั้ง จึงปฏิเสธ และให้ทำการแก้ไขให้เสร็จสิ้นก่อน จากนั้นได้มีการพูดคุยถึง ความรู้ความสามารถของ วิศวกร

วันที่ 7 เม.ย. 2557        ผมได้ตัดสินใจทำหนังสือ ไปขอความอนุเคราะห์จากทางเทศบาลเมือง สระบุรี ฝ่ายโยธาจังหวัด เพื่อให้เข้าตรวจ การก่อสร้างบ้านของผมว่าเป็นไปตามแบบ ที่ขออนุญาตก่อสร้างหรือไม่ จากนั้นรอคำตอบจากทางเทศบาล

วันที่ 10 เม.ย. 2557        ยังไม่ได้รับแจ้งความก้าวหน้าจากทางจำเลย จึงเดินทางมาสระบุรี เพื่อตรวจสอบหน้างาน พบว่าคนงานที่อาศัยในบ้านพักที่ทางจำเลยเช่าไว้ ได้ออกไปหมดแล้ว อุปกรณ์ในการก่อสร้างได้ถูกเก็บไปแล้ว เหลือแต่แผ่นเหล็กกันดินไม่กี่แผ่น ทำให้เข้าใจว่า จำเลยต้องการทิ้งงาน และระยะเวลาที่ต้องดำเนินการแก้ไขให้เสร็จเมื่อพบข้อบกพร่องก็ครบกำหนดตามสัญญาแล้ว รวมทั้งเห็นว่าจำเลยไม่มีความรู้ความสมารถที่จะสร้างได้ตามแบบแปลน จึงได้โทรบอกเลิกจำเลยทันที และขอให้จำเลยชดใช้เงิน 100,000 บาท และรื้อถอนสิ่งที่จำเลยทำไว้ออกทั้งหมด เพราะใช้ไม่ได้ จากนั้นแจ้งบอกเลิกไปทางจดหมายอิเล็คทรอนิคส์อีกครั้ง จพเลยรับจะไปคิดดูก่อน

วันที่ 22 เม.ย. 2557        เทศบาลเมืองสระบุรี ได้ทำหนังสือแจ้งกลับมา ว่าการก่อสร้างของผู้รับเหมาไม่เป็นไปตามแบบ ไม่ปลอดภัย ให้ทำการแก้ไข

วันที่ 1 พ.ค. 2557        ตัดสินใจฟ้องร้อง โดยเดินทางไปสระบุรี เพื่อแจ้งความตำรวจ บันทึกไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นไปศาลเพื่อขอคำแนะนำในการฟ้องร้อง ศาลได้ให้ตำแนะนำว่า ให้ดำเนินการไกล่เกลี่ยก่อน เนื่องจากศาลมีโครงการลดคดีความ โดยศาลจะเป็นตัวกลางในการเจรจาให้ หากไม่สามารตกลงกันได้จึงให้ดำเนินการขั้นต่อไป โดยศาลจะนัดไกล่เกลี่ยวันที่ 27 พ.ค. 2557 จากนั้นบันทึกคำร้องไว้เป็นหลักฐาน

วันที่ 27 พ.ค. 2557        ได้พบกับจำเลย โดยต่างฝ่ายตั้งให้ข้อมูล เจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยได้ มีความเห็นว่าจำเลยควรชดใช้ แต่เรื่องจำนวนเงินให้ผมลดลง เนื่องจากจำเลยเองก็ได้ซื้อของมาทำด้วย ผมจึงให้จำเลยไปคิดแยกรายการของและแรงมาเพื่อ เจรจาอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ขอให้เสร็จภายใน 7 วัน จำเลย ยังไม่รับปาก

วันที่ 3 พ.ค. 2557        ได้โทรไปสอบถาม เจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ย พบว่าจำเลยไม่ได้ติดต่อมา ให้ผมดำเนินการขั้นต่อไปได้เลย โดยแนะนำว่าให้หาทนาย
  
เดือน มิ.ย. 2557        ได้เข้าปรึกษาทนาย ทนายแนะนำให้ ทุบสิ่งที่ไม่ใช้ก่อน เพื่อนำค่าใช้จ่ายส่วนนี้มาเป็นหลักฐานในการเรียกร้องค่าเสียหายด้วย

วันที่ 11 ก.ค. 2557        ว่าจ้างนาย MMMM ทุบรื้อ สิ่งก่อสร้างของจำเลย เพื่อเตรียมพื้นที่ก่อสร้าง แต่ พบว่ามีคานหนึ่งเส้นด้านหน้ายาวประมาณ 4 เมตร ไม่มีเหล็กเส้น และฐานราก เทปูนไม่หุ้มเหล็ก ไม่ได้ขนาดตามแบบ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการรับน้ำหนักบ้าน

วันที่ 9 ม.ค. 2558        เนื่องจากได้หลักฐานครบถ้วนแล้ว จึงมอบหมายให้ทนายฟ้องร้อง เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 311,800 บาท (เป็นเงินที่จ่ายไป+ค่าทุบ+ค่าจ้างวิศวกรตรวจงาน+ค่าเสียโอกาศ)

วันที่ 27 เม.ย. 2558        ศาลนัดไกล่เกลี่ย แต่ไม่สามารถตกลงกันได้

วันที่ 15 พ.ค. 2558        จำเลยมาศาล แต่ไม่ได้แต่งตั้งทนาย ศาลจึงเรียกมาไกล่เกลี่ยหน้าบัลลง แต่ไม่สามรถตกลงกันได้ จึงให้เวลาไปแต่งตั้งทนายและนัดอีกทีวันที่ 29 พ.ค. 2558

วันที่ 29 พ.ค. 2558        จำเลยไม่มาศาล มอบหมายให้ทนายมาแทน ทนายขอเลื่อนคดีเนื่องจาก เพิ่งได้รับมอบหมาย แต่ศาลไม่ให้เลื่อนจึงพิจารณาคดี ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 227,500 พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี รวมค่าทนาย 5,000 บาท
ต่อ
ชื่อสินค้า:   กระบวนการยุติธรรม
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่