ชอบทานองุ่นกันไหมคะ ？
ที่ญี่ปุ่นมีองุ่นหลายพันธุ์ เริ่มทยอยกันวางขายตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน ไปเรื่อยๆจนถึงกลางเดือนตุลาคม
ช่วงพีคของฤดูองุ่น อร่อยสุด มากพันธุ์ก็คือตอนนี้ ที่จขกท.กำลังเขียนอยู่นี่แหละค่ะ คือราวๆช่วงเดือนสิงหาคม-ต้นตุลาคม
จขกท. แม่บ้านไทยประจำเมืองเซนไดซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะญี่ปุ่น อยากเอากลับเมืองไทยไปให้คนที่บ้านได้ทานมั่ง
แต่จนบัดนี้ยังไม่เคยมีโอกาสเสียที แต่ถ้าใครมาเที่ยวเซนไดในระหว่างเดือนดังกล่าวนี้ ก็จะพาไปสวนองุ่นให้เก็บสดๆทานกับต้นกันให้อิ่มหนำสำราญใจ
ทางทิศตะวันตกของเมืองเซนไดนั้นคือจังหวัดยะมะงะตะ เมืองนี้เรียกว่าเป็นอาณาจักรแห่งผลไม้ก็ว่าได้ สวนผลไม้หลายแห่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บทานกันแบบไม่อั้น ในสนนราคาราวๆพันเยนเศษๆต่อ 45 นาที ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่ชนิดขององุ่น เด็กมักเสียเพียงครึ่งราคา
กระทู้นี้ขอแนะนำองุ่นพันธุ์ฮิต ที่ขายดีที่ญี่ปุ่นให้ดูแล้วน้ำลายไหลกัน
พันธุ์แรกที่ไม่ควรพลาดเลย หากได้มาทานคือ "เคียวโฮ่" （巨峰）
ลูกโตไม่มีเมล็ด เปลือกสีม่วงเข้ม เนื้อข้างในสีเขียวๆใสๆ เนื้อแน่นหวานจัด น้ำเยอะ ราคาพวงละ 500 เยนเป็นอย่างต่ำโดยประมาณ
มัสคัต (マスカット) องุ่นพ้นธุ์ที่มีทั้งสีเขียวและพันธุ์ที่ออกสีคล้ำๆดำๆ มีกลิ่นหอมหวาน ทานสดๆ หรือใช้ทำไวน์ ลูกเกต มีการผสมกันเป็นชนิดย่อยๆอีกหลายชนิด
พีโอเน่ （ピオーネ）องุ่นพันธุ์ผสมระหว่างพ้นธุ์เคียวโฮกับพันธุ์มัสคัต ลูกใหญ่สีม่วง มีความหวานผสมที่เจือเปรี้ยวนิดๆกำลังดี เนื้อแน่น ออกช่วงเดือนสค.-ตค. มีแบบชนิดที่มีเมล็ดและไม่มีเมล็ด
ไนอะกะระ （ナイアガラ）องุ่นเขียว กลิ่นหอม ลูกไม่ใหญ่ น้ำเยอะ ออกปลายเดือนสค.
เดลาแวร์ （デラウエア） องุ่นพันธุ์ลูกเล็ก ไม่มีเมล็ด น้ำเยอะ พอบีบลูกเบาๆ ตัวเนื้อองุ่นก็หลุดจากเปลือกพุ่งเข้าปากได้ง่ายๆ จึงเป็นที่นิยมกัน
อร่อยสุดๆราวเดือนกค.-สค. ชื่อของมันก็บอกโจ้งๆเลยว่าเป็นพันธุ์มาจากเมืองเดลาแวร์ ประเทศอเมริกา เข้ามาในญี่ปุ่นสมัย ร.5 นี่เอง
เคล็ดลับวิธีเลือกองุ่นคือ เนื้อเต่งตึง หากยังติดอยู่ที่ต้นให้ดูพวงที่ก้านอวบเขียว แต่ถ้าที่เก็บมาวางขายแล้วแน่นอนก้านจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล องุ่นพันธุ์ที่ออกสีแดงหรือดำนั้นให้เลือกพวงที่สีออกเข้ม ส่วนองุ่นชนิดสีเขียว ให้เลือกที่มีสีเหลืองเจือหน่อยๆ
ผงสีขาวๆที่ลูกองุ่นนั้นไม่ใช่ยาหรือสารเคมีนะคะ แต่มันคือกลไกตามธรรมชาติขององุ่นที่ผลิตสารออกมาเคลือบตัวมัน (เรียกว่า bloom) เพื่อป้องกันน้ำระเหย ไม่เป็นอันตราย องุ่นทีมีผงสีขาวๆเคลือบอยู่โดยรอบ กลับเป็นการรับประกันความสดขององุ่นเสียอีก
จขกท.ลองเสริชดูข้อมูลสวนองุ่นที่เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเก็บทานกันก็พบว่ามีโฮมเพจเหล่านี้
http://www.rurubu.com/season/autumn/mikaku/list.aspx?KenCD=06&sc=1 (ภาษาญี่ปุ่น)
http://www.japanican.com/en/tour/detail/ACT1TTGC8203B&aff=JNTOtour (ภาษาอังกฤษ)
โดยส่วนตัว อยากให้มีข้อมูลเหล่านี้เป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษเยอะๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้เข้าถึงได้ง่ายๆหน่อย
ได้ทราบมาว่าเขาก็กำลังพยายามกันอยู่ คงอีกไม่นานนักหรอกค่ะ
แม่บ้านไทยในเซนไดแนะนำองุ่น ผลไม้อร่อยเดือนสิงหา-ต้นตุลาของญี่ปุ่น
ที่ญี่ปุ่นมีองุ่นหลายพันธุ์ เริ่มทยอยกันวางขายตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน ไปเรื่อยๆจนถึงกลางเดือนตุลาคม
ช่วงพีคของฤดูองุ่น อร่อยสุด มากพันธุ์ก็คือตอนนี้ ที่จขกท.กำลังเขียนอยู่นี่แหละค่ะ คือราวๆช่วงเดือนสิงหาคม-ต้นตุลาคม
จขกท. แม่บ้านไทยประจำเมืองเซนไดซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะญี่ปุ่น อยากเอากลับเมืองไทยไปให้คนที่บ้านได้ทานมั่ง
แต่จนบัดนี้ยังไม่เคยมีโอกาสเสียที แต่ถ้าใครมาเที่ยวเซนไดในระหว่างเดือนดังกล่าวนี้ ก็จะพาไปสวนองุ่นให้เก็บสดๆทานกับต้นกันให้อิ่มหนำสำราญใจ
ทางทิศตะวันตกของเมืองเซนไดนั้นคือจังหวัดยะมะงะตะ เมืองนี้เรียกว่าเป็นอาณาจักรแห่งผลไม้ก็ว่าได้ สวนผลไม้หลายแห่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บทานกันแบบไม่อั้น ในสนนราคาราวๆพันเยนเศษๆต่อ 45 นาที ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่ชนิดขององุ่น เด็กมักเสียเพียงครึ่งราคา
กระทู้นี้ขอแนะนำองุ่นพันธุ์ฮิต ที่ขายดีที่ญี่ปุ่นให้ดูแล้วน้ำลายไหลกัน
พันธุ์แรกที่ไม่ควรพลาดเลย หากได้มาทานคือ "เคียวโฮ่" （巨峰）
ลูกโตไม่มีเมล็ด เปลือกสีม่วงเข้ม เนื้อข้างในสีเขียวๆใสๆ เนื้อแน่นหวานจัด น้ำเยอะ ราคาพวงละ 500 เยนเป็นอย่างต่ำโดยประมาณ
มัสคัต (マスカット) องุ่นพ้นธุ์ที่มีทั้งสีเขียวและพันธุ์ที่ออกสีคล้ำๆดำๆ มีกลิ่นหอมหวาน ทานสดๆ หรือใช้ทำไวน์ ลูกเกต มีการผสมกันเป็นชนิดย่อยๆอีกหลายชนิด
พีโอเน่ （ピオーネ）องุ่นพันธุ์ผสมระหว่างพ้นธุ์เคียวโฮกับพันธุ์มัสคัต ลูกใหญ่สีม่วง มีความหวานผสมที่เจือเปรี้ยวนิดๆกำลังดี เนื้อแน่น ออกช่วงเดือนสค.-ตค. มีแบบชนิดที่มีเมล็ดและไม่มีเมล็ด
ไนอะกะระ （ナイアガラ）องุ่นเขียว กลิ่นหอม ลูกไม่ใหญ่ น้ำเยอะ ออกปลายเดือนสค.
เดลาแวร์ （デラウエア） องุ่นพันธุ์ลูกเล็ก ไม่มีเมล็ด น้ำเยอะ พอบีบลูกเบาๆ ตัวเนื้อองุ่นก็หลุดจากเปลือกพุ่งเข้าปากได้ง่ายๆ จึงเป็นที่นิยมกัน
อร่อยสุดๆราวเดือนกค.-สค. ชื่อของมันก็บอกโจ้งๆเลยว่าเป็นพันธุ์มาจากเมืองเดลาแวร์ ประเทศอเมริกา เข้ามาในญี่ปุ่นสมัย ร.5 นี่เอง
เคล็ดลับวิธีเลือกองุ่นคือ เนื้อเต่งตึง หากยังติดอยู่ที่ต้นให้ดูพวงที่ก้านอวบเขียว แต่ถ้าที่เก็บมาวางขายแล้วแน่นอนก้านจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล องุ่นพันธุ์ที่ออกสีแดงหรือดำนั้นให้เลือกพวงที่สีออกเข้ม ส่วนองุ่นชนิดสีเขียว ให้เลือกที่มีสีเหลืองเจือหน่อยๆ
ผงสีขาวๆที่ลูกองุ่นนั้นไม่ใช่ยาหรือสารเคมีนะคะ แต่มันคือกลไกตามธรรมชาติขององุ่นที่ผลิตสารออกมาเคลือบตัวมัน (เรียกว่า bloom) เพื่อป้องกันน้ำระเหย ไม่เป็นอันตราย องุ่นทีมีผงสีขาวๆเคลือบอยู่โดยรอบ กลับเป็นการรับประกันความสดขององุ่นเสียอีก
จขกท.ลองเสริชดูข้อมูลสวนองุ่นที่เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเก็บทานกันก็พบว่ามีโฮมเพจเหล่านี้
http://www.rurubu.com/season/autumn/mikaku/list.aspx?KenCD=06&sc=1 (ภาษาญี่ปุ่น)
http://www.japanican.com/en/tour/detail/ACT1TTGC8203B&aff=JNTOtour (ภาษาอังกฤษ)
โดยส่วนตัว อยากให้มีข้อมูลเหล่านี้เป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษเยอะๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้เข้าถึงได้ง่ายๆหน่อย
ได้ทราบมาว่าเขาก็กำลังพยายามกันอยู่ คงอีกไม่นานนักหรอกค่ะ