จากกระทู้
http://ppantip.com/topic/34142387 นะครับ
เป็นคำถามที่ผมเจอมาตลอดในระหว่างลดน้ำหนัก ฮ่าๆๆ
ผมก็มั้นใจและตอบไปดังๆว่า มีบ้างครับถ้าเราทำอะไรหักโหมเกินไปก็ก็หน้ามืดได้เช่นกัน
เช่น วันนี้ผมตื่นเช้าไปวิ่งออกกำลังกายแล้วผมก็กินอาหาร ตอนเช้า 200 แคล พอถึงเที้ยง กินอีก 200 แคล ตกเย็น ไปวิ่งออกกำลังกาย(ที่ผมวิ่งอะวิ่งประมาณ 2 กิโลเมตรนะครับไปกลับก็ 4 กิโล ) และกินอีก 200 แคล จะเห็นได้ว่าผมหักโหมมากแค่ไหน แค่ตอนเช้าวิ่งก็เผาผลาญพลังงานในร่างกายไป 600 แคลแล้ว กินสามมื้อ 600 แคล ตอนเย็นเผาผลาญอีก 600 พลังงานที่ร่างกายเผาผลาญในแต่ละวันอีก 2000แคล รวมวันนี้ พลังงานที่ผมได้รับเข้าไป 0 แต่เผาผลาญออกไป 2600 กิโลแคล
ซึ่งไม่ว่าคุณจะไปถามใคร เขาก็ตอบคุณว่าทำแบบนี้โง่มากๆ เดียวจะซ๊อคตายเอาหรอก ผมเองก็ไม่แนะนำให้ทำเหมือนผมหรอกนะครับ เพราะเป็นการทรมานร่างกายตัวเองอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้น ไม่ควรออกกำลังกาย(แค่ช่วงที่ลดน้ำหนักนะครับย้ำมากๆ) ไม่ควรออกไปเทียวที่ไหน ควรอยู่บ้านที่มีคนคอยดูแล เพื่อเราเป็นลม ฮ่าๆๆพูดเล่นนะครับ แต่จริงๆนะครับตั้งแต่ผมลดน้ำหนักมา ถ้าไม่ออกกำลังกายก็ไม่มีปัญหาเรื่องหน้ามืดเลยครับ สบายๆ แยกให้ออกระหว่างหน้ามืดจริงๆ กับหน้ามืดหลอกๆ ซึ่งหน้ามืดหลอกๆก็คือ การที่ร่างกายต้องการอาหารที่เรากินแบบเก่าๆ แต่จู่ๆเราก็ไม่กินหรือกินน้อยร่างกายก็พยายามบอกตัวเราให้กลับไปกินแบบเดิมเหอะ อิ่มด้วยและอร่อยด้วยนะ ฮ่าๆๆ แล้วเราก็ทนไม่ไหวแล้วก็อ้างเรื่องหน้ามืด กินน้อยไป สุดท้ายก็กินมากกว่าเดิม โยโย่ครับ ฮ่าๆๆๆ
สรุปนะครับ ถ้าคุณรู้ตัวว่าคุณรู้สึกหน้ามืด อย่าฝืนตัวเองเลยครับอันตราย กินได้ครับแต่ให้พอดีไม่ควรเกิน 2000 เป็นพอ ทุกอย่างอยู่ที่การกินของตัวคุณเอง กินมาก อ้วน กินน้อย ไม่อ้วนหุ่นดีสุขภาพดี เลือกเอาครับตัวคุณเป็นคนเลือกเอง
ลดแบบนี้จะหน้ามืดไหมครับ
เป็นคำถามที่ผมเจอมาตลอดในระหว่างลดน้ำหนัก ฮ่าๆๆ
ผมก็มั้นใจและตอบไปดังๆว่า มีบ้างครับถ้าเราทำอะไรหักโหมเกินไปก็ก็หน้ามืดได้เช่นกัน
เช่น วันนี้ผมตื่นเช้าไปวิ่งออกกำลังกายแล้วผมก็กินอาหาร ตอนเช้า 200 แคล พอถึงเที้ยง กินอีก 200 แคล ตกเย็น ไปวิ่งออกกำลังกาย(ที่ผมวิ่งอะวิ่งประมาณ 2 กิโลเมตรนะครับไปกลับก็ 4 กิโล ) และกินอีก 200 แคล จะเห็นได้ว่าผมหักโหมมากแค่ไหน แค่ตอนเช้าวิ่งก็เผาผลาญพลังงานในร่างกายไป 600 แคลแล้ว กินสามมื้อ 600 แคล ตอนเย็นเผาผลาญอีก 600 พลังงานที่ร่างกายเผาผลาญในแต่ละวันอีก 2000แคล รวมวันนี้ พลังงานที่ผมได้รับเข้าไป 0 แต่เผาผลาญออกไป 2600 กิโลแคล
ซึ่งไม่ว่าคุณจะไปถามใคร เขาก็ตอบคุณว่าทำแบบนี้โง่มากๆ เดียวจะซ๊อคตายเอาหรอก ผมเองก็ไม่แนะนำให้ทำเหมือนผมหรอกนะครับ เพราะเป็นการทรมานร่างกายตัวเองอาจจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้น ไม่ควรออกกำลังกาย(แค่ช่วงที่ลดน้ำหนักนะครับย้ำมากๆ) ไม่ควรออกไปเทียวที่ไหน ควรอยู่บ้านที่มีคนคอยดูแล เพื่อเราเป็นลม ฮ่าๆๆพูดเล่นนะครับ แต่จริงๆนะครับตั้งแต่ผมลดน้ำหนักมา ถ้าไม่ออกกำลังกายก็ไม่มีปัญหาเรื่องหน้ามืดเลยครับ สบายๆ แยกให้ออกระหว่างหน้ามืดจริงๆ กับหน้ามืดหลอกๆ ซึ่งหน้ามืดหลอกๆก็คือ การที่ร่างกายต้องการอาหารที่เรากินแบบเก่าๆ แต่จู่ๆเราก็ไม่กินหรือกินน้อยร่างกายก็พยายามบอกตัวเราให้กลับไปกินแบบเดิมเหอะ อิ่มด้วยและอร่อยด้วยนะ ฮ่าๆๆ แล้วเราก็ทนไม่ไหวแล้วก็อ้างเรื่องหน้ามืด กินน้อยไป สุดท้ายก็กินมากกว่าเดิม โยโย่ครับ ฮ่าๆๆๆ
สรุปนะครับ ถ้าคุณรู้ตัวว่าคุณรู้สึกหน้ามืด อย่าฝืนตัวเองเลยครับอันตราย กินได้ครับแต่ให้พอดีไม่ควรเกิน 2000 เป็นพอ ทุกอย่างอยู่ที่การกินของตัวคุณเอง กินมาก อ้วน กินน้อย ไม่อ้วนหุ่นดีสุขภาพดี เลือกเอาครับตัวคุณเป็นคนเลือกเอง