จากกระทู้
http://ppantip.com/topic/34142387 นะครับ
จากกระทู้เรื่องลดน้ำหนักของผมนะครับ กระทู้นี้คือปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างลดน้ำหนักของผมซึ่งทำให้ผมท้อใจมากๆถ้าผมไม่มีเป้าหมายชัดเจน ผมก็คงท้อและถอดใจแล้วก็ยอมแพ้ไปแล้ว ดังนั้นผมจึงบอกว่าการตั้งเป้าหมายนี้สำคัญที่สุดสำคัญมากๆ เพราะไม่ว่าคุณจะกินอะไรถ้านึกถึงเป้าหมายคุณก็จะมีแรงฮึดในการที่จะไม่กินมัน เอาล่ะครับ ผมจะอธิบายอย่างง่ายๆนะครับ
คำเตือนสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดเป็นหลักการง่ายๆที่คิดเอาเองที่ทดลองกับตัวเอง คุณจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่คุณนะครับ
มันมีอยู่ว่า ในร่างกายของเรา ตอนเราอ้วน
ย่ำนะครับอธิบายง่ายๆถูกไม่ถูกไม่รู้นะครับฮ่าๆๆ คือคิดเอาเองนะครับเชื่อไม่เชื่อ คุณจะเห็นชั้นไขมันที่เหลืองตามดังรูปนะครับ
ไขมันตรงส่วนนั้นลดง่ายครับ ไขมันที่ไม่ได้ติดฝังแน่นกับกล้ามเนื้อไขมันส่วนนี้ทำลายมันง่ายครับ จึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าช่วงแรกๆของการลดน้ำหนักเราลดได้ไวนัก
ส่วนไขมันที่ติดกับกล้ามเนื้อทำลายมันยากมากครับต้องใช้ความพยายามสูงมากถึงจะทำให้หายไปได้ ที่คนส่วนใหญ่พูดว่ากินเยอะกินให้อ้วนแล้วออกกำลังกายเปลี่ยนจากไขมันเป็นกล้ามเนื้อ ขอบอกไว้เลยนะครับ ไอ้ที่เปลี่ยนจริงๆคือไขมันที่เกาะติดกับกล้ามเนื้อครับส่วนที่ไม่ได้เกาะติดก็จะสลายไป การที่จะทำให้เป็นไขมันที่เกาะติดกล้ามเนื้อนั้นมีวิธีทำอยู่นะครับ แต่ไม่แนะนำนะครับกินเยอะนั้นแหละครับ แต่ต้องทำเป็นปีๆเพื่อให้ไขมันไปเกาะติดกับกล้ามเนื้อเกาะฝังแน่นต้องใช้เวลา ลองคิดดูนะครับกว่าเราจะอ้วนได้ขนาดนี้ต้องใช้เวลากี่ปีกี่เดือน
เอาล่ะ ช่วงแรกที่น้ำหนักลดเร็วๆเกิดจากไขมันถูกทำลายไปอาจจะบวกกับกล้ามเนื้ออันนี้ไม่แน่ใจนะครับ
ช่วงนี้น้ำหนักจะลดไวมากในช่วงแรกๆ พอลดได้ระดับหนึ่ง มันจะคงที่ เพราะอะไรนั้นหรอ? เพราะร่างกายกำลังปรับให้ลดในช่วงต่อไปคือกำลังปรับสมดุลในร่างกายนั้นแหละครับคุณลองคิดเล่นๆดูสิครับถ้าลดน้ำหนักไม่มีปัญหาอะไรเลยทุกๆคนในโลกนี้ก็ไม่อ้วนแล้วล่ะครับ ฮ่าๆๆ
ร่างกายกำลังปรับสมดุลในร่างกายช่วงนี้ก็ลดน้ำหนักปกติเลยครับอย่าท้อเด็ดขาด คิดดูนะครับถ้าเรากินน้อยแล้วร่างกายเราใช้พลังงานมากกว่าที่เรากินเข้าไปส่วนที่เหลื่อร่างกายจะไปเอาพลังงานจากที่ไหนมาใช้หล่ะครับ
ก็ต้องต้องเป็นพลังงานที่สะสมในร่างกายนี้แหละมันอาจจะช้าหน่อยแต่ผมรับลองว่ามันต้องลด ผมเคยคงที่ 3 อาทิตย์ ท้อมากคิดว่ามันคงไม่ลดละ แต่พอนึกถึงเป้าหมายผมก็ใช้แรงใจนี้แหละเอาชนะมันมาได้ผมคิดว่า เอาสิลองทำซักเดือนสิ ถ้ายังไม่ลงก็ทำซัก 2 เดือนสิ หรือเรากินมากไป ก็ลดปริมาณอาหารดู ผมมีความเชื่อว่ามันต้องลงได้อีก และสุดท้ายมันก็ลงจริงๆ อธิบายอีกอย่างง่ายๆนะครับ ไขมันเราก็เหมือนถ่านไฟฉาย ไขมันที่ไม่ติดกับกล้ามเนื้อคือน้ำที่อยู่ทั่วตัวเราส่วนไขมันที่ติดกับกล้ามเนื้อคือถ่านไฟฉายเป็นก้อนๆ ไขมันที่ไม่ติดกล้ามเนื้อทำลายได้ง่ายแต่ไขมันที่ติดกล้ามเนื้อ เป็นถ่านไฟฉาย ต้องใช้พลังงานค่าหนึ่งที่จะเปลี่ยนถ่ายไฟฉายเป็นก่อนๆให้เป็นน้ำๆเช่น การทำลายถ่านไฟฉายหรือไขมันติดกล้ามเนื้อ ต้องใช้พลังงาน 10000 แคล เป็นต้น มันจึงทำให้น้ำหนักเราคงที่เป็นอาทิตย์ แต่พอเราทำลายถ่านไฟฉายได้แล้วมันเปลี่ยนเป็นน้ำๆแล้วน้ำหนักก็จะลงง่ายเองนั้นแหละครับ แต่พอเราเริ่มผอมหรือหุ่นดีแล้วการคงที่ของน้ำหนักจะถี่ขึ้นเพราะเราใช้พลังงานในแต่ละวันลดลงนั้นเองและไขมันในร่างกายก็มีน้อยลงด้วย
สุดท้ายนี้พยายามเข้าครับไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหรอกครับ อะไรที่ได้มาง่ายๆเราก็จะมองไม่เห็นคุณค่าของมัน
จำไว้เสมอเราทำได้เราต้องลดน้ำหนักได้ เราจะต้องหล่อสวยไปด้วยกัน ฮ่าๆๆ
กินน้อยแต่น้ำหนักไม่ยอมลง คงที่เป็นอาทิตย์ 2 อาทิตย์หรือเป็น 3 อาทิตย์ก็มี
จากกระทู้เรื่องลดน้ำหนักของผมนะครับ กระทู้นี้คือปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างลดน้ำหนักของผมซึ่งทำให้ผมท้อใจมากๆถ้าผมไม่มีเป้าหมายชัดเจน ผมก็คงท้อและถอดใจแล้วก็ยอมแพ้ไปแล้ว ดังนั้นผมจึงบอกว่าการตั้งเป้าหมายนี้สำคัญที่สุดสำคัญมากๆ เพราะไม่ว่าคุณจะกินอะไรถ้านึกถึงเป้าหมายคุณก็จะมีแรงฮึดในการที่จะไม่กินมัน เอาล่ะครับ ผมจะอธิบายอย่างง่ายๆนะครับ
คำเตือนสิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดเป็นหลักการง่ายๆที่คิดเอาเองที่ทดลองกับตัวเอง คุณจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่คุณนะครับ
มันมีอยู่ว่า ในร่างกายของเรา ตอนเราอ้วน
ย่ำนะครับอธิบายง่ายๆถูกไม่ถูกไม่รู้นะครับฮ่าๆๆ คือคิดเอาเองนะครับเชื่อไม่เชื่อ คุณจะเห็นชั้นไขมันที่เหลืองตามดังรูปนะครับ
ไขมันตรงส่วนนั้นลดง่ายครับ ไขมันที่ไม่ได้ติดฝังแน่นกับกล้ามเนื้อไขมันส่วนนี้ทำลายมันง่ายครับ จึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าช่วงแรกๆของการลดน้ำหนักเราลดได้ไวนัก
ส่วนไขมันที่ติดกับกล้ามเนื้อทำลายมันยากมากครับต้องใช้ความพยายามสูงมากถึงจะทำให้หายไปได้ ที่คนส่วนใหญ่พูดว่ากินเยอะกินให้อ้วนแล้วออกกำลังกายเปลี่ยนจากไขมันเป็นกล้ามเนื้อ ขอบอกไว้เลยนะครับ ไอ้ที่เปลี่ยนจริงๆคือไขมันที่เกาะติดกับกล้ามเนื้อครับส่วนที่ไม่ได้เกาะติดก็จะสลายไป การที่จะทำให้เป็นไขมันที่เกาะติดกล้ามเนื้อนั้นมีวิธีทำอยู่นะครับ แต่ไม่แนะนำนะครับกินเยอะนั้นแหละครับ แต่ต้องทำเป็นปีๆเพื่อให้ไขมันไปเกาะติดกับกล้ามเนื้อเกาะฝังแน่นต้องใช้เวลา ลองคิดดูนะครับกว่าเราจะอ้วนได้ขนาดนี้ต้องใช้เวลากี่ปีกี่เดือน
เอาล่ะ ช่วงแรกที่น้ำหนักลดเร็วๆเกิดจากไขมันถูกทำลายไปอาจจะบวกกับกล้ามเนื้ออันนี้ไม่แน่ใจนะครับ
ช่วงนี้น้ำหนักจะลดไวมากในช่วงแรกๆ พอลดได้ระดับหนึ่ง มันจะคงที่ เพราะอะไรนั้นหรอ? เพราะร่างกายกำลังปรับให้ลดในช่วงต่อไปคือกำลังปรับสมดุลในร่างกายนั้นแหละครับคุณลองคิดเล่นๆดูสิครับถ้าลดน้ำหนักไม่มีปัญหาอะไรเลยทุกๆคนในโลกนี้ก็ไม่อ้วนแล้วล่ะครับ ฮ่าๆๆ
ร่างกายกำลังปรับสมดุลในร่างกายช่วงนี้ก็ลดน้ำหนักปกติเลยครับอย่าท้อเด็ดขาด คิดดูนะครับถ้าเรากินน้อยแล้วร่างกายเราใช้พลังงานมากกว่าที่เรากินเข้าไปส่วนที่เหลื่อร่างกายจะไปเอาพลังงานจากที่ไหนมาใช้หล่ะครับ
ก็ต้องต้องเป็นพลังงานที่สะสมในร่างกายนี้แหละมันอาจจะช้าหน่อยแต่ผมรับลองว่ามันต้องลด ผมเคยคงที่ 3 อาทิตย์ ท้อมากคิดว่ามันคงไม่ลดละ แต่พอนึกถึงเป้าหมายผมก็ใช้แรงใจนี้แหละเอาชนะมันมาได้ผมคิดว่า เอาสิลองทำซักเดือนสิ ถ้ายังไม่ลงก็ทำซัก 2 เดือนสิ หรือเรากินมากไป ก็ลดปริมาณอาหารดู ผมมีความเชื่อว่ามันต้องลงได้อีก และสุดท้ายมันก็ลงจริงๆ อธิบายอีกอย่างง่ายๆนะครับ ไขมันเราก็เหมือนถ่านไฟฉาย ไขมันที่ไม่ติดกับกล้ามเนื้อคือน้ำที่อยู่ทั่วตัวเราส่วนไขมันที่ติดกับกล้ามเนื้อคือถ่านไฟฉายเป็นก้อนๆ ไขมันที่ไม่ติดกล้ามเนื้อทำลายได้ง่ายแต่ไขมันที่ติดกล้ามเนื้อ เป็นถ่านไฟฉาย ต้องใช้พลังงานค่าหนึ่งที่จะเปลี่ยนถ่ายไฟฉายเป็นก่อนๆให้เป็นน้ำๆเช่น การทำลายถ่านไฟฉายหรือไขมันติดกล้ามเนื้อ ต้องใช้พลังงาน 10000 แคล เป็นต้น มันจึงทำให้น้ำหนักเราคงที่เป็นอาทิตย์ แต่พอเราทำลายถ่านไฟฉายได้แล้วมันเปลี่ยนเป็นน้ำๆแล้วน้ำหนักก็จะลงง่ายเองนั้นแหละครับ แต่พอเราเริ่มผอมหรือหุ่นดีแล้วการคงที่ของน้ำหนักจะถี่ขึ้นเพราะเราใช้พลังงานในแต่ละวันลดลงนั้นเองและไขมันในร่างกายก็มีน้อยลงด้วย
สุดท้ายนี้พยายามเข้าครับไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหรอกครับ อะไรที่ได้มาง่ายๆเราก็จะมองไม่เห็นคุณค่าของมัน
จำไว้เสมอเราทำได้เราต้องลดน้ำหนักได้ เราจะต้องหล่อสวยไปด้วยกัน ฮ่าๆๆ