ห็นว่าร้านนี้มาแรง ไปกินมาสักพักแล้ว ตอนแรกว่าจะไม่เขียน แต่ต้านทานกระแสไม่อยู่จริงๆ
วันที่ไป 18/08/2558
มื้อเย็นเวลา 19:30
ตอนนี้มีแต่คนพูดถึงร้าน steak Arno’s ซึ่งประแสตอบรับดีมากๆ ทุกคนที่ได้ไปกินจะมาเล่าต่อด้วยน้ำเสียงอันตื้นเต้น แบบว่าเธอต้องไป ตัวเบนเองก็ได้ยินมาจากลุงเพราะว่าเพื่อนลุงเป็นเจ้าของ เค้าเล่าว่าร้านนี้ Dry age เนื้อเอง คือ แค่ฟังแค่นี้ก็ต้องไปแล้ว ถ้าใครเคยอ่านเรื่องเก่าๆของเบนก็จะรู้ว่าเบนบ้าเนื้อมากขนาดไหน
https://fovefood.wordpress.com/2013/02/27/ข้อความนี้ส่งตรงถึง-meat-lovers/
https://fovefood.wordpress.com/2013/03/04/meat-lovers-ตอน-2-การย่างเนื้อ/
ด้วยว่าแค่รู้พิกัด เลยไม่ได้จองไปก่อน ไปถึงก็แน่นอน ไม่มีที่นั่ง แต่ด้วยโชค คือเจ้าของร้านนั่งอยู่ แล้วพ่อรู้จัก(ไปทานกับพ่อแม่) เค้าเลยแบ่งโต๊ะให้นั่งด้วย ร้านนี้ตอนนี้มีแค่ไม่กี่โต๊ะ แล้วก็เป็นแบบ outdoor หมด แต่เค้ากำลังต่อเติมห้องแอร์ ตอนนี้เค้าว่าต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยสองถึงสามวัน ที่จอดรถก็จอดในซอยตามโชคของแต่ละบุคคล
เมนูไม่มี แต่ให้เดินเข้าไปเลือกเนื้อ เพราะเดิมเลย ตั้งใจจะทำเป็นร้านขายเนื้ออย่างเดียว
ตัวเชฟเนื้อเป็นคนฝรั่งเศส เป็นคนทำเรื่องบ่มเนื้อ dry age เองทุกอย่าง มีตู้บ่มเนื้ออยู่ที่ร้าน เค้าแนะนำว่าให้กิน T-bone ซึ่ง Dry age 72 วัน แค่ฟังก็ตื่นเต้นสุดๆแล้ว เพราะ dry age อย่างมากส่วนใหญ่ก็แค่ 45 วัน แต่นี่ โอโหหหห 72 วัน จะไม่ลองได้ไง จัดไป
อีกส่วนที่สั่งไม่รู้ส่วนอะไร เพราะเชฟไม่ยอมบอก บอกว่าเป็นความลับ ให้บรรยายภาพว่า Chef’s Cut
เค้าแนะนำอะไรเราก็ว่าตาม จะไปรู้ดีกว่าเค้าได้ไงละ
สั่งเสร็จก็กลับมารอที่โต๊ะ แล้วก็เดากันเองว่าราคา T-bone น่าจะอยู่ที่ 2,200-3,000 บาทต่อชิ้น
ระหว่างรอก็สั่งของอย่างอื่นมาลองทานเล่นๆ
style ประมาณทำทานเองที่บ้าน แต่ไม่ต้องล้างจาน
รอไม่นาน พร้อมสูดกลิ่นจากอาหารในครัวไปด้วย เพราะนั่งหน้าประตูครัว (ไม่บ่นเพราะมีที่นั่งก็บุญแล้ว)
ในที่สุดก็มา เป็นเนื้อบนกระทะร้อน
ด้วยความที่ว่ามีการคาดหวังกับ Dry-age meat ไว้สูงมาก ก็เลยผิดหวังนิดหน่อย เนื่องจากเนื้อไม่ได้หอมหรือมีรสชาติ intense สมกับการที่บอกว่า dry-age มาเท่าไหร คือตัวเบนเอง ย่างเนื้อทานที่บ้านบ่อยมาก อย่างน้อยๆๆต้องอาทิตย์ละครั้ง เพราะว่าเป็นลูกพ่อโดยแท้จริง พ่อชอบย่างเนื้อทาน แล้วก็ทานแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนพ่อเป็นคนเลือกซื้อเนื้อก็ต้องไปกับพ่อตลอด ตอนนี้เบนเป็นคนซื้อเอง ย่างเอง ไปเมืองนอกร้านไหนขึ้นชื่อเรื่องเนื้อย่างต้องไปกิน มี dry-age ยังไงก็ไม่พลาด ต้องจัด
ที่นี่เค้าใช้เนื้อไทย แต่อย่าเข้าใจผิดว่าเนื้อไทยสู้เนื้อต่างชาติไม่ได้นะคะ เนื้อไทยดีดีเยอะมาก ขึ้นอยู่กับว่ารู้แหล่งและเลือกเป็นรึเปล่า รวมถึงต้องมีเส้นด้วยบางที ของดีราคาถูกใครๆก็แย่งกันซื้อ ส่วนเนื้อฝรั่ง เอาจริงๆ ของดีจริงของเค้า เค้าไม่ส่งออกนอกมาให้เราหรอก ที่มาถึงมือบ้านเราก็ของเกรดรองๆลงมา ไม่ใช่ดีที่สุดของเค้า ดีสุดเค้าก็เก็บไว้กินเองสิ
ส่วนเกลือก็มีความสำคัญมาก ที่บ้านเบนมีเกลือสัก 15 ชนิดได้มั้ง แต่ที่นี้มีแค่เกลือเม็ดเล็กแบบทั่วไป คือพูดตามตรง เนื้อเค้าก็ไม่เสียหาย แค่เบนคิดว่าเบนทำทานเองที่บ้านอร่อยกว่า(เพราะเป็น extream meat lover ที่บ้านมีตู้เย็นแช่เนื้อต่างหาก มีเต่าย่าง เกลือนี้ต้องกินกับเนื้อนี้โน่นนี่ จานต้องร้อน ต้องพักเนื้อ etc คือเรื่องมากสุดๆว่างั้น)
พอเชฟเห็นทานเหลือ ก็เดิมมาถามว่าเป็นไง อร่อยป่าว เบนพยายามคิดในหัวว่าจะตอบกลับไปว่าไงดี เลยตอบกลับไปว่า “It’s ok” chef แทบ shock ทำเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง แต่จะให้พูดว่าไงละ ก็ it’s just ok จริงๆอะ it’s not good but it’s not bad
หลังจากนั้นก็เลยให้เค้าคิดเงิน OMG บิลมาเท่านั้นแหละ จากที่พูดว่า it’s ok พอเห็นบิล เปลี่ยนคำพูดเลย IT’S GREAT compare to the price (คือมันยอดเยี่ยมมากเมื่อเทียบกับราคา) มาทานเนื้อแบบนี้ ทั้งหมดในรูป ราคาแค่ 1,500 บาท ตกแล้วคนละ 500 บาท บ้าไปแล้ว ทานที่บ้านยังแพงกว่านี้เลย T-bone ที่ทายไว้ตอนแรกว่าเกือบสามพันบาท ราคาจริงแค่ 650 บาท
คือถ้าใครไม่โปรย่างเนื้อเองที่บ้าน คือร้านนี้มันสุดยอดมากๆ เนื้อเค้าก็ใช้ได้ แต่ที่บ้าไปแล้วคือราคา เมื่อเทียบคุณภาพกับราคา คือมันเกินคุ้ม แล้วก็ได้ยินมาว่าพวกอาหารทะเลหรือแกะเค้าก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่เบนเองยังไม่เคยกิน
[CR] รีวิวร้าน STEAK ARNO’S BUTCHER AND EATERY ราคาแบบบ้าแล้ว
วันที่ไป 18/08/2558
มื้อเย็นเวลา 19:30
ตอนนี้มีแต่คนพูดถึงร้าน steak Arno’s ซึ่งประแสตอบรับดีมากๆ ทุกคนที่ได้ไปกินจะมาเล่าต่อด้วยน้ำเสียงอันตื้นเต้น แบบว่าเธอต้องไป ตัวเบนเองก็ได้ยินมาจากลุงเพราะว่าเพื่อนลุงเป็นเจ้าของ เค้าเล่าว่าร้านนี้ Dry age เนื้อเอง คือ แค่ฟังแค่นี้ก็ต้องไปแล้ว ถ้าใครเคยอ่านเรื่องเก่าๆของเบนก็จะรู้ว่าเบนบ้าเนื้อมากขนาดไหน
https://fovefood.wordpress.com/2013/02/27/ข้อความนี้ส่งตรงถึง-meat-lovers/
https://fovefood.wordpress.com/2013/03/04/meat-lovers-ตอน-2-การย่างเนื้อ/
ด้วยว่าแค่รู้พิกัด เลยไม่ได้จองไปก่อน ไปถึงก็แน่นอน ไม่มีที่นั่ง แต่ด้วยโชค คือเจ้าของร้านนั่งอยู่ แล้วพ่อรู้จัก(ไปทานกับพ่อแม่) เค้าเลยแบ่งโต๊ะให้นั่งด้วย ร้านนี้ตอนนี้มีแค่ไม่กี่โต๊ะ แล้วก็เป็นแบบ outdoor หมด แต่เค้ากำลังต่อเติมห้องแอร์ ตอนนี้เค้าว่าต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยสองถึงสามวัน ที่จอดรถก็จอดในซอยตามโชคของแต่ละบุคคล
เมนูไม่มี แต่ให้เดินเข้าไปเลือกเนื้อ เพราะเดิมเลย ตั้งใจจะทำเป็นร้านขายเนื้ออย่างเดียว
ตัวเชฟเนื้อเป็นคนฝรั่งเศส เป็นคนทำเรื่องบ่มเนื้อ dry age เองทุกอย่าง มีตู้บ่มเนื้ออยู่ที่ร้าน เค้าแนะนำว่าให้กิน T-bone ซึ่ง Dry age 72 วัน แค่ฟังก็ตื่นเต้นสุดๆแล้ว เพราะ dry age อย่างมากส่วนใหญ่ก็แค่ 45 วัน แต่นี่ โอโหหหห 72 วัน จะไม่ลองได้ไง จัดไป
อีกส่วนที่สั่งไม่รู้ส่วนอะไร เพราะเชฟไม่ยอมบอก บอกว่าเป็นความลับ ให้บรรยายภาพว่า Chef’s Cut
เค้าแนะนำอะไรเราก็ว่าตาม จะไปรู้ดีกว่าเค้าได้ไงละ
สั่งเสร็จก็กลับมารอที่โต๊ะ แล้วก็เดากันเองว่าราคา T-bone น่าจะอยู่ที่ 2,200-3,000 บาทต่อชิ้น
ระหว่างรอก็สั่งของอย่างอื่นมาลองทานเล่นๆ
style ประมาณทำทานเองที่บ้าน แต่ไม่ต้องล้างจาน
รอไม่นาน พร้อมสูดกลิ่นจากอาหารในครัวไปด้วย เพราะนั่งหน้าประตูครัว (ไม่บ่นเพราะมีที่นั่งก็บุญแล้ว)
ในที่สุดก็มา เป็นเนื้อบนกระทะร้อน
ด้วยความที่ว่ามีการคาดหวังกับ Dry-age meat ไว้สูงมาก ก็เลยผิดหวังนิดหน่อย เนื่องจากเนื้อไม่ได้หอมหรือมีรสชาติ intense สมกับการที่บอกว่า dry-age มาเท่าไหร คือตัวเบนเอง ย่างเนื้อทานที่บ้านบ่อยมาก อย่างน้อยๆๆต้องอาทิตย์ละครั้ง เพราะว่าเป็นลูกพ่อโดยแท้จริง พ่อชอบย่างเนื้อทาน แล้วก็ทานแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนพ่อเป็นคนเลือกซื้อเนื้อก็ต้องไปกับพ่อตลอด ตอนนี้เบนเป็นคนซื้อเอง ย่างเอง ไปเมืองนอกร้านไหนขึ้นชื่อเรื่องเนื้อย่างต้องไปกิน มี dry-age ยังไงก็ไม่พลาด ต้องจัด
ที่นี่เค้าใช้เนื้อไทย แต่อย่าเข้าใจผิดว่าเนื้อไทยสู้เนื้อต่างชาติไม่ได้นะคะ เนื้อไทยดีดีเยอะมาก ขึ้นอยู่กับว่ารู้แหล่งและเลือกเป็นรึเปล่า รวมถึงต้องมีเส้นด้วยบางที ของดีราคาถูกใครๆก็แย่งกันซื้อ ส่วนเนื้อฝรั่ง เอาจริงๆ ของดีจริงของเค้า เค้าไม่ส่งออกนอกมาให้เราหรอก ที่มาถึงมือบ้านเราก็ของเกรดรองๆลงมา ไม่ใช่ดีที่สุดของเค้า ดีสุดเค้าก็เก็บไว้กินเองสิ
ส่วนเกลือก็มีความสำคัญมาก ที่บ้านเบนมีเกลือสัก 15 ชนิดได้มั้ง แต่ที่นี้มีแค่เกลือเม็ดเล็กแบบทั่วไป คือพูดตามตรง เนื้อเค้าก็ไม่เสียหาย แค่เบนคิดว่าเบนทำทานเองที่บ้านอร่อยกว่า(เพราะเป็น extream meat lover ที่บ้านมีตู้เย็นแช่เนื้อต่างหาก มีเต่าย่าง เกลือนี้ต้องกินกับเนื้อนี้โน่นนี่ จานต้องร้อน ต้องพักเนื้อ etc คือเรื่องมากสุดๆว่างั้น)
พอเชฟเห็นทานเหลือ ก็เดิมมาถามว่าเป็นไง อร่อยป่าว เบนพยายามคิดในหัวว่าจะตอบกลับไปว่าไงดี เลยตอบกลับไปว่า “It’s ok” chef แทบ shock ทำเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง แต่จะให้พูดว่าไงละ ก็ it’s just ok จริงๆอะ it’s not good but it’s not bad
หลังจากนั้นก็เลยให้เค้าคิดเงิน OMG บิลมาเท่านั้นแหละ จากที่พูดว่า it’s ok พอเห็นบิล เปลี่ยนคำพูดเลย IT’S GREAT compare to the price (คือมันยอดเยี่ยมมากเมื่อเทียบกับราคา) มาทานเนื้อแบบนี้ ทั้งหมดในรูป ราคาแค่ 1,500 บาท ตกแล้วคนละ 500 บาท บ้าไปแล้ว ทานที่บ้านยังแพงกว่านี้เลย T-bone ที่ทายไว้ตอนแรกว่าเกือบสามพันบาท ราคาจริงแค่ 650 บาท
คือถ้าใครไม่โปรย่างเนื้อเองที่บ้าน คือร้านนี้มันสุดยอดมากๆ เนื้อเค้าก็ใช้ได้ แต่ที่บ้าไปแล้วคือราคา เมื่อเทียบคุณภาพกับราคา คือมันเกินคุ้ม แล้วก็ได้ยินมาว่าพวกอาหารทะเลหรือแกะเค้าก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่เบนเองยังไม่เคยกิน