[CR] กิน Steak ร้านไหนดี

เมื่อวันก่อนตอนเที่ยงไปกินอาหารอิตาเลี่ยนเพื่อทำ research กับ team แล้วก็อิ่มมากจากมื้อกลางวัน ทุกคนที่ไปกินด้วยกันตัดสินใจว่าไม่กินข้าวเย็นแล้วแน่นอน ซึ่งเบนก็เหมือนกัน ขนาดสามทุ่มกว่าแล้วไม่มีความหิวเลย แล้วก็ไม่ได้กินทั้งบ่าย แล้วก็ตัดสินใจที่จะอาบน้ำ ล้างเครื่องสำอางเสร็จ(ความสวยหลอกลวง) ญาตินักกินตัวแม่ โทรมาบอกว่าให้ออกมากินเนื้อด้วยกันบัดเดี๊ยวนี้ที่อโศก ส่งคนรถมารับถึงบ้าน แล้วให้นั่ง BTS ต่อ เพราะจะได้เร็วๆ ซึ่งแน่นอนว่ามาถึงเรื่องกิน โดยเฉพาะเนื้อ เบนไม่มี say NO แน่นอน รีบแต่งตัวใหม่ออกจากบ้านแทบจะไม่ทัน

ร้านนี้อยู่ต้นซอยวัฒนา(สุขุมวิท19) ร้านสังเกตได้ไม่ยาก ดูหน้าตาคล้ายๆบาร์ขนาดใหญ่ มีที่นั่งข้างนอก แล้วก็เป็นร้านสองชั้น คนเต็มร้านเลย เดินเข้าไปหนุ่มๆ 3 คนก็นั่งรออยู่แล้วพร้อมไวน์ แต่หลังจากยกมือไหว้ ไม่มีการพูดคุย เดินตรงไปที่ตู้โชว์เนื้อทันที



แล้วก็ถามโน้นถามนี่คนขายใหญ่เลย เนื้อมาจากไหน วัวกินไร โน้นนี่นั้น ทุกคนเงียบ ไม่มีใครตอบ แล้วทำหน้างงๆ ชี้ไปที่เจ้าของร้านซึ่งเป็นฝรั่ง แล้วบอกว่า Please talk to him. He is the expert. สรุปคือพนักงานที่นี้ไม่มีใครพูดภาษาไทยได้เลย มีพนักงานทั้งหมดเกือบ 50 คน มีคนพูดภาษาไทยได้คนเดียว คืนนี้ก็ต้องเว้าภาษาปะกิดกันไป

ดูที่ตู้เนื้อสะดุดตามากกับ Ribeye เพราะว่ามีขอบด้านข้างซึ่งเป็นส่วนอร่อยที่สุดเยอะมาก แบบว่ายังไงวันนี้ต้องสั่งให้ได้ ซึ่งเจ้าของร้านก็บอกว่าวันนี้แนะนำตัวนี้ เพราะเนื้อแต่ละล็อตที่เข้ามา ก็จะไม่เหมือนกัน ก็ต้องแล้วแต่ว่าแต่ละครั้งสวยขนาดไหน ซึ่งเกือบจะอดสั่งแล้วเพราะเจ้ามืออยากกิน Prime Rib มากกว่า กว่าจะ convince ให้สั่ง Ribeye ได้ใช้เวลาหลายอยู่ (สรุปคือสั่งทั้งสอง)



หลังจากรวมพลครบคนแล้ว ก็ขึ้นไปชั้นสองซึ่งเป็นส่วนของร้านอาหาร ชั้นล่างจะเป็น Bar แล้วก็มีเตาย่าง คนเต็มร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งกับญี่ปุ่น แต่ก็มีคนไทยนิดหน่อย ร้านนี้เหมือนอีกหลายร้านที่เบนชอบคือ เจ้าของร้านมาเดินดูความเรียบร้อยและบริการลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ถึงตอนสั่ง ก็ยกให้หนุ่มๆทั้งหลายสั่งกันไปเพราะว่าเบนไม่หิวเลย ขอแค่ Ribeye ตัวนั้นก็พอใจแล้ว ที่เหลือสั่งมาเหอะ ชิมด้วยหมด


คนเต็มร้านแต่ว่าอาหารเค้าค่อยข้างเร็วเลยทีเดียวคะ อาจจะเป็นเพราะว่าคนอื่นกินกันเสร็จไปหมดแล้วก็เป็นได้ แล้วความจริงมีสั่ง Pasta Olio ไปด้วยอีกตัวแต่ไม่มีรูป รสชาติเค้าเข้มข้นเลยทีเดียว แต่เส้นเละไปหน่อยเท่านั้นเอง

แล้วที่นี้ก็กลับมาถึง Main Course ซึ่งก็คือเนื้อย่าง ที่นี้เค้าย่างด้วยเตาถ่าน เลือกความสุกตามต้องการ ซึ่งสามคนในโต๊ะเลือก Medium rare แต่หนุ่มนักธุรกิจคนนี้ ที่กำลังติด Candy Crush งอมแงม ชอบแบบ Madium well ที่เค้าเน้นว่าเนื้อสีชมพู เลือกที่จะสั่ง New York Striploin พอเจ้าของเห็น Order แทบจะวิ่งมาดูหน้าคนสั่งไม่ทันว่าใครที่สั่งแบบ Medium well 55555 งานนี้รู้กันสำหรับคอเนื้อ

ไม่แน่ใจว่าถ้าสั่งคนเดียวแล้วเค้าจะเสิร์ฟยังไง แต่ว่าโต๊ะเราสั่งทุกอย่างมาแชร์กัน เค้าจะให้จานร้อนแต่ละคน แล้วเสิร์ฟเนื้อมาบนกระทะร้อนอีกที ซึ่งจะให้เค้าตัดให้เลยก็ได้ การเสิร์ฟบนกระทะร้อนแบบนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือเนื้อนั้นจะร้อนอยู่ตลอดและไม่ขึ้นไข แต่ข้อเสียคือมันจะสุกไปเรื่อยๆ(แบบเร็วมาก) ก็ต้องรีบกินเนื้อแบบสุดๆ หรือไม่งั้นก็เอาออกมาไว้ให้จาน ยอมกินแบบร้อนน้อยหน่อย





เครื่องเคียงที่นี้ต้องสั่งเพิ่มพิเศษ แต่อยากบอกว่าอร่อยแทบทุกอย่าง สั่ง Potato Gratin, Mashed Potato (I like this one), Cream Spinach (like) and Sauteed Onions รสชาติดีทุกอย่างคะ

Sauce ที่นี้เค้าต้องสั่งแยกต่างหากไม่มีมาให้ แต่ปกติแล้วเบนจะไม่ค่อยกินสเต็กกับซอสเท่าไหร แค่โรยเกลืออย่างเดียว ซึ่งที่นี้ย่างมา เค้าโรยเกลือมาให้แล้วด้วยคะ ไม่ต้องปรุงอะไรเลย แต่เค้าสั่งซอสมา 4 อย่าง ซึ่งเบนได้ชิม แต่ไม่ได้กินกับเนื้อ เพราะถ้าสั่งเนื้อที่เกรดต่ำลงมาหน่อย กินกับซอสก็คงไม่เสียหาย Pepper sauce, Wild Mushroom sauce (so good), Blue cheese sauce (like) and Red wine sauce


ขนมเค้าก็น่ากิน แต่หลังจาก 4 คนยัดเนื้อกันเข้าไป กิโลกว่า ตั้งแต่ก่อนสี่ทุ่ม จนห้าทุ่มกว่า ขนมคงจะต้องขอบายเป็นครั้งหน้า เพราะร้านนี้ต้องชวนพ่อกลับมากินด้วยอีกเร็วๆนี้แน่ แล้วก็ขอยกความดีให้กับหนุ่มคนสุดท้าย ที่สั่งไวน์ตัวนี้ปิดท้ายหลังมื้อแทนขนม เพราะไวน์ตัวนี้ออกหวานเล็กน้อย แถมช่วยแก้เลี้ยนได้ดีมาก

โฉมหน้านักกินในครั้งนี้

ส่วนเรื่องของราคาลองดูกันใน Menu ละกันนะค่า เพราะแต่ละคนไปสั่งก็ไม่เหมือนกัน เนื้อก็สั่งเกรดได้หลายแบบ รวมไวน์ ไม่รวมไวน์ เบนคงกะราคาให้ไม่ถูก เลยเอาทั้งเมนูมาให้ดูกันเองเลย ครั้งหน้าถ้าบังเอิญไปเจอกันร้านไหนก็เดินเข้ามาทักทายกันได้เลยนะคะ เลี้ยงข้าวด้วยก็จะดีมากเลย 555555 ไม่ได้ล้อเล่น






ว่าจะทำ Restaurant Review แบบจริงจังแล้ว เพราะฉะนั้นก็ต้องมีบรรยากาศของร้านมาให้ดูด้วย รวมถึงแผนที่ร้าน



ขอบคุณที่ติตามอ่านกันนะคะ ยิ่งคนที่ตามมาจากกระทู้เก่าๆนี่ซึ้งจริงจัง แล้วก็ขอบคุณสำหรับคนที่มาเขียนให้กำลังใจตลอดค่ะ ยิ้ม ก็ไม่แน่ใจว่าเทียบ review ร้านอาหารกับของคนอื่นแล้วเป็นอย่างไร เพราะปกติเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือเท่าไหร 555 หวังว่าพอจะให้ข้อมูลที่ทุกคนอยากทราบได้นะคะ หรือถ้าใครคิดว่ามีส่วนไหนขาดตกบกพร่อง ก็ฝากบอกกันหน่อยนะคะ
ชื่อสินค้า:   El Gaucho
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่