สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ผิดที่คุณเต็มๆค่ะ คุณเป็นคนกลาง แต่คุณสร้างเรื่องให้กลายเป็น 2 บ้านทะเลาะกัน จริงๆเรื่องของผัวเมียน่าจะค่อยๆคุยกัน 2 คน นี่อะไร ประชดด่าผัวต่อหน้าแม่ แม่ก็ไปว่าลูกเขยสิ ทีนี้พอผัวโทรมาระบาย แทนที่จะเงียบจะค่อยๆคุยกัน ดันไปทำให้บานปลายโดยการโทรไปถามแม่อีก ไม่แปลกหรอกที่จะทะเลาะกัน ทีนี้ก็มองหน้ากันไม่ติดละค่ะ ได้ทางเดียว แยกบ้านมาอยู่กัน 2 คน
ความคิดเห็นที่ 8
แม่คุณพูดทั้งหมดด้วยความเป็นห่วงหลาน เป็นห่วงคุณ และอยากช่วยจัดการ
แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำ มันก้าวก่ายชีวิตครอบครัวคุณกับสามีและลูกๆ ซึ่งทำให้ครอบครัวคุณ (ไม่ใช่ครอบครัวแม่) ไม่มีความสุข
แม่คุณอาจจะเป็นคนอายุมาก? หรือหัวโบราณ? รึเปล่าไม่รู้ แต่ที่เจอมาส่วนใหญ่ ถ้าผู้ใหญ่หัวโบราณมักจะเป็นแบบนี้ เขาไม่เข้าใจเทคโนโลยี และวิถีชีวิตสมัยใหม่หรอก เขาอยู่ของเขา เขาก็คิดว่าคนอื่นต้องเป็นอย่างเขา (แต่ไม่ใช่ผู้ใหญ่ทุกคนที่เป็นแบบนี้)
ถ้าคุณมีเงินพอ น่าจะย้ายออกมาอยู่เอง
คุณทำถูก ที่เวลาแม่มาพูดอะไร ก็โทรถามสามี แต่คุณต้องรู้จักแสดงความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจเรื่อง เข้าใจนิสัยแม่ตัวเอง เข้าใจสถานการณ์สามี หาวิธีพูด หาวิธีถาม และต้องอยู่เคียงข้างสามี ต้องเข้าใจสามี (ถ้ายังอยากเป็นผัวเมียกัน) เพราะบางทีเวลาแม่คุณคุยกับสามี อาจจะไม่เหมือนกับเวลาเล่าให้คุณฟังก็ได้ แล้วไม่รู้ว่าเวลาสามีอยู๋บ้านกับแม่ สามีต้องเจออะไรอีกนอกจากนี้ ... แต่ส่วนมาก ผู้ชายเป็นเพศที่อึดทนนาน จนกว่าจะหมดความอดทน
แม่คุณก้าวก่ายและยุ่มย่ามกับชีวิตมากไป (แม่หลายๆคนเป็นแบบนี้ โดยเฉพาะคนที่อายุมากๆ และหัวโบราณ)... คุณต้องยอมรับ เพราะถ้าแม่คุณเป็นแบบนี้ และคุณยังอยู่บ้านแม่ คุณกับสามีก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้ไปตลอดชีวิต
สามีคุณคงสุดจะทนแล้ว ถึงบอกว่า ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปไม่ได้หรอก
คุณต้องไม่บังคับให้เขากลับมา (แต่ต้องทำยังไงก็ได้ ตะล่อมให้กลับมา ไม่งั้นเขาจะไม่กลับมาอีก) คุณต้องเข้าใจและรับฟังเขาให้มากๆ ทางที่ดี คุณอาจจะลองไปอยู่บ้านสามีคุณดูสักพัก แล้วสักพักค่อยกลับมาบ้านเดิม เพราะถ้าเขาไปนานแล้ว ระวังเขาจะไม่กลับ ... หรือไม่ ก็ต้องบอกให้เขากลับมาที่เดิม คุณต้องเข้าใจเขา คุณต้องแสดงออกว่าคุณเข้าใจและเป็นพวกเดียวกับเขา (เพราะสามีคุณไปอยู่บ้านแม่คุณ มีคุณคนเดียวที่เขาสนิทใจที่สุด ในขณะที่ต้องรับผิดกับแม่ที่จุกจิก ถ้าคุณเข้าใจเขาจะดีมาก) อย่าปล่อยให้สามีออกจากบ้านครั้งแรก เพราะครั้งที่สองจะมีอีก ถ้าคุณยังอยากอยู่บ้านคุณกับแม่คุณ คุณต้องทำยังไงก็ได้ให้สามีคุณกลับมา แล้วทำให้เขาสบายใจที่จะอยู่ที่นั่น ไม่อย่างนั้น ต่อไปเขาก็ไปอีก ถ้าเป็นแบบนั้นเมื่อไรจะไม่มีความสุขเลย
ซึ่งถ้าแม่คุณเป็นคนแก่หัวโบราณที่คนอื่นว่า-ติไม่ได้ เอาแต่สั่งสอนคนอื่น จ้ำจี้จ้ำไช มองคนอื่นเป็นเด็กตลอดเวลา (ต่อให้คนๆนั้นโตมีครอบครัวแล้ว) และคิดว่า ชีวิตคนอื่นต้องเป็นเหมือนชีวิตแม่คุณ ไม่เปิดใจ ไม่เปิดรับ แฟนคุณก็จะอึดอัดเหมือนเดิม ... เรื่องแม่ผัว/ลูกเขย - แม่ผัว/ลูกสะใภ้ มักจะทำให้คู่สามีภรรยาอยู่อย่างไม่มีความสุข บอกเลยว่าเครียด ...
คนที่มาอยู่กับแม่และครอบครัวคนอื่น เขาต้องปรับตัวเยอะ แล้วอึดอัดด้วย คุณเป็นลูก คุณพูดกับแม่คุณได้ โมโหแม่คุณได้ แต่คนเป็นลูกเขย/ลูกสะใภ้ มันทำไม่ได้ ... สามีคุณไม่อยากมีปัญหา ด่าว่าแม่คุณ เขาเลยเลือกออกมาเอง .... สามีคุณจะลำบากถ้าแม่คุณไม่หยุดกดดัน ไม่หยุดพูดเรื่องเครียด ไม่หยุดจับผิด และไม่เห็นใจ .... ลองคิดดูบ้างว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นคุณ ไปอยู่บ้านสามี แล้วแม่สามีทำแบบนี้กับคุณ คุณจะรู้สึกยังไง จะอยากอยู๋มั้ย อยู่แล้วมีความสุขมั้ย
เราแต่งงาน สามีมาอยู่บ้านเรา แม่เราไม่ว่า ไม่สั่งสอน แต่พ่อแม่สามีเราตรงกันข้ามมาก ขนาดลูกเขามาอยู่บ้านเรา พ่อแม่เขายังโทรมาหาแม่เรา หรือ ตามมาที่บ้าน บอกให้สั่งสอน อย่าปล่อย ฯลฯ ทั้งๆที่ลูกเขาหน้าที่การงานมีวุฒิภาวะดีมาก แก่แล้วด้วย ... แต่มันเป็นตัวอย่างของ พ่อแม่หัวโบราณ (แล้วเป็นข้าราชาการ กับเป็นครูอีกต่างหาก) ที่ไม่ไว้ใจใคร จ้ำจี้จ้ำไช ชอบบังคับลูก จะเอาอะไรตามใจตัวเอง ไม่ปล่อยให้คนอื่นมีชีวิตเป็นของตัวเอง คิดว่าชีวิตของคนอื่นมันต้องเป็นเหมือนตัวเอง....
แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำ มันก้าวก่ายชีวิตครอบครัวคุณกับสามีและลูกๆ ซึ่งทำให้ครอบครัวคุณ (ไม่ใช่ครอบครัวแม่) ไม่มีความสุข
แม่คุณอาจจะเป็นคนอายุมาก? หรือหัวโบราณ? รึเปล่าไม่รู้ แต่ที่เจอมาส่วนใหญ่ ถ้าผู้ใหญ่หัวโบราณมักจะเป็นแบบนี้ เขาไม่เข้าใจเทคโนโลยี และวิถีชีวิตสมัยใหม่หรอก เขาอยู่ของเขา เขาก็คิดว่าคนอื่นต้องเป็นอย่างเขา (แต่ไม่ใช่ผู้ใหญ่ทุกคนที่เป็นแบบนี้)
ถ้าคุณมีเงินพอ น่าจะย้ายออกมาอยู่เอง
คุณทำถูก ที่เวลาแม่มาพูดอะไร ก็โทรถามสามี แต่คุณต้องรู้จักแสดงความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจเรื่อง เข้าใจนิสัยแม่ตัวเอง เข้าใจสถานการณ์สามี หาวิธีพูด หาวิธีถาม และต้องอยู่เคียงข้างสามี ต้องเข้าใจสามี (ถ้ายังอยากเป็นผัวเมียกัน) เพราะบางทีเวลาแม่คุณคุยกับสามี อาจจะไม่เหมือนกับเวลาเล่าให้คุณฟังก็ได้ แล้วไม่รู้ว่าเวลาสามีอยู๋บ้านกับแม่ สามีต้องเจออะไรอีกนอกจากนี้ ... แต่ส่วนมาก ผู้ชายเป็นเพศที่อึดทนนาน จนกว่าจะหมดความอดทน
แม่คุณก้าวก่ายและยุ่มย่ามกับชีวิตมากไป (แม่หลายๆคนเป็นแบบนี้ โดยเฉพาะคนที่อายุมากๆ และหัวโบราณ)... คุณต้องยอมรับ เพราะถ้าแม่คุณเป็นแบบนี้ และคุณยังอยู่บ้านแม่ คุณกับสามีก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้ไปตลอดชีวิต
สามีคุณคงสุดจะทนแล้ว ถึงบอกว่า ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปไม่ได้หรอก
คุณต้องไม่บังคับให้เขากลับมา (แต่ต้องทำยังไงก็ได้ ตะล่อมให้กลับมา ไม่งั้นเขาจะไม่กลับมาอีก) คุณต้องเข้าใจและรับฟังเขาให้มากๆ ทางที่ดี คุณอาจจะลองไปอยู่บ้านสามีคุณดูสักพัก แล้วสักพักค่อยกลับมาบ้านเดิม เพราะถ้าเขาไปนานแล้ว ระวังเขาจะไม่กลับ ... หรือไม่ ก็ต้องบอกให้เขากลับมาที่เดิม คุณต้องเข้าใจเขา คุณต้องแสดงออกว่าคุณเข้าใจและเป็นพวกเดียวกับเขา (เพราะสามีคุณไปอยู่บ้านแม่คุณ มีคุณคนเดียวที่เขาสนิทใจที่สุด ในขณะที่ต้องรับผิดกับแม่ที่จุกจิก ถ้าคุณเข้าใจเขาจะดีมาก) อย่าปล่อยให้สามีออกจากบ้านครั้งแรก เพราะครั้งที่สองจะมีอีก ถ้าคุณยังอยากอยู่บ้านคุณกับแม่คุณ คุณต้องทำยังไงก็ได้ให้สามีคุณกลับมา แล้วทำให้เขาสบายใจที่จะอยู่ที่นั่น ไม่อย่างนั้น ต่อไปเขาก็ไปอีก ถ้าเป็นแบบนั้นเมื่อไรจะไม่มีความสุขเลย
ซึ่งถ้าแม่คุณเป็นคนแก่หัวโบราณที่คนอื่นว่า-ติไม่ได้ เอาแต่สั่งสอนคนอื่น จ้ำจี้จ้ำไช มองคนอื่นเป็นเด็กตลอดเวลา (ต่อให้คนๆนั้นโตมีครอบครัวแล้ว) และคิดว่า ชีวิตคนอื่นต้องเป็นเหมือนชีวิตแม่คุณ ไม่เปิดใจ ไม่เปิดรับ แฟนคุณก็จะอึดอัดเหมือนเดิม ... เรื่องแม่ผัว/ลูกเขย - แม่ผัว/ลูกสะใภ้ มักจะทำให้คู่สามีภรรยาอยู่อย่างไม่มีความสุข บอกเลยว่าเครียด ...
คนที่มาอยู่กับแม่และครอบครัวคนอื่น เขาต้องปรับตัวเยอะ แล้วอึดอัดด้วย คุณเป็นลูก คุณพูดกับแม่คุณได้ โมโหแม่คุณได้ แต่คนเป็นลูกเขย/ลูกสะใภ้ มันทำไม่ได้ ... สามีคุณไม่อยากมีปัญหา ด่าว่าแม่คุณ เขาเลยเลือกออกมาเอง .... สามีคุณจะลำบากถ้าแม่คุณไม่หยุดกดดัน ไม่หยุดพูดเรื่องเครียด ไม่หยุดจับผิด และไม่เห็นใจ .... ลองคิดดูบ้างว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นคุณ ไปอยู่บ้านสามี แล้วแม่สามีทำแบบนี้กับคุณ คุณจะรู้สึกยังไง จะอยากอยู๋มั้ย อยู่แล้วมีความสุขมั้ย
ถ้าเปลี่ยนแม่ไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนบ้าน
-------------------------
เราแต่งงาน สามีมาอยู่บ้านเรา แม่เราไม่ว่า ไม่สั่งสอน แต่พ่อแม่สามีเราตรงกันข้ามมาก ขนาดลูกเขามาอยู่บ้านเรา พ่อแม่เขายังโทรมาหาแม่เรา หรือ ตามมาที่บ้าน บอกให้สั่งสอน อย่าปล่อย ฯลฯ ทั้งๆที่ลูกเขาหน้าที่การงานมีวุฒิภาวะดีมาก แก่แล้วด้วย ... แต่มันเป็นตัวอย่างของ พ่อแม่หัวโบราณ (แล้วเป็นข้าราชาการ กับเป็นครูอีกต่างหาก) ที่ไม่ไว้ใจใคร จ้ำจี้จ้ำไช ชอบบังคับลูก จะเอาอะไรตามใจตัวเอง ไม่ปล่อยให้คนอื่นมีชีวิตเป็นของตัวเอง คิดว่าชีวิตของคนอื่นมันต้องเป็นเหมือนตัวเอง....
แสดงความคิดเห็น
จะทำตัวยังไงถ้าสามีบอกว่า"กูเกลียดแม่ แม่ชักจะเยอะกับกูเกินไปแล้ว"
เช้าวันหนึ่ง แม่ฉันบ่นว่า ทำไมหลานกลับบ้านมาทีไรเท้าด๊ำดำ
ฉันเห็นสามีกำลังจะเดินมาเลยพูดดังๆใส่ไปว่า "ก็ไม่มีใครกวาดถูร้านนี่ กลับมาก็เหนื่อยแล้ว"
หลังจากฉันไปทำงาน แม่เลยพูดกับสามีว่า "อยู่ร้านก็ให้ช่วยฉันกวาดถูบ้าง"
สามีโทรมาหาฉันเลยค่ะบอกว่าไม่ไหวแล้ว จบ พอกันที
ฉันเลยโทรไปถามแม่ว่าไปว่าอะไรเค้า
แม่ยิ่งโมโห หาว่าสามีทำไมต้องมาฟ้องฉัน ทีนี้พอแม่สามีไปรับหลานที่บ้านฉัน เพื่อจะพามาที่ร้าน
แม่ฉันก็บ่นกับแม่สามี ประมาณว่า ให้บอกสามีฉันหน่อยว่าให้ช่วยบ้างปีนึงทำงานแค่4-5วัน...
เป็นเรื่องเลย สามีโทรมาอีก บอกว่าบ้านเธอกับบ้านฉันขาดกัน
โอ๊ยยย ทำไงดี ตอนนี้มีลูกด้วยกัน สองคน สองขวบครึ่ง กับสองเดือน
วันนั้นสามีก็ประชดโดยการไม่ให้ลูกคนโตกลับบ้านเอาไปนอนบ้านย่า
วันต่อมา แม่ฉันบอกว่า "แม่จะไม่ว่าแล้ว ส่งสารสามี"
อีกวันนึงฉันก็ไปบอกสามีว่าให้มานอนที่บ้านเถอะแม่บอกว่าอย่างงี้ๆนะ เค้าก็บอกว่าเปลี่ยนความรู้สึกไม่ได้หรอก
(สามีทำงานเป็นจ๊อบๆไปอยู่แต่กับคอม ที่ร้านช่วยขายของไปด้วย ส่วนฉันทำงานนอกบ้านค่ะ ที่แม่บอกว่าปีนึงทำงานแค่ 4-5วันเพราะแม่ก็ไม่รู้ว่าทำงานจริงๆยังไง แม่แค่พูดเปรียบขึ้นมาเหมือนกับว่า ก็ทำงานหน้าคอมไม่ได้ทำตลอดเวลาก็น่าจะว่างมาปัดกวาดเช็ดถูร้านบ้าง
แต่สามีกับแม่สามีไม่เข้าใจ)
ทำไงต่อไปดีคะ