ตามกระทู้ด้านบนเลยค่ะ ครอบครัวของเราทีสมาชิกด้วยกัน 5 คน พี่คนโตแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วแต่ไม่ได้แยกบ้านไป (ขอเท้าความก่อนนะ) เนื่องจาก ก่อนหน้านี้พี่คนโตได้แยกบ้านไปแล้ว และอยู่มาวันหนึ่งเรา(น้องสุดท้อง) ติดโควิด ทางบ้านฝ่ายสามีของพี่สาวเราก็กลัวเป็นโควิดกัน เลยไล่ให้พี่สาวเรากลับมาอยู่บ้านตัวเองซึ่งบอกก่อนนะว่าเรากับพี่สาวเราไม่ได้ติดต่อกัน พบเจอกันตอนเป็นโควิด + กับช่วงนั้นพี่สาวเราพึ่งคลอดลูกคนที่2 ได้ไม่เกิน 1 เดือน ถูกทางบ้านฝ่ายชายไล่ออกจากบ้าน ส่วนเราพอรู้ตัวว่าเป็นก็ย้ายออกไปอยู่บ้านอีกหลังที่พี่สาวเราซื้อทิ้งไว้ไม่ใครอยู่เพื่อกักตัว (ทางฟังดูแล้วเหมือนครอบครัวเราโอเคใช่มั้ย) บอกเลยว่าไม่ค่ะ แม่ฟังให้ฉันโทรไปขอโทษพี่สาวที่ทำให้เขาต้องโดนไล่ออกจากบ้าน พี่สาวฉันต้องร้องไห้เพราะโดนไล่ออกจากบ้าน ส่วนฉันที่ติดโควิดเพราะฉันทำงานและไม่เคยไปเที่ยวที่ไหนเลย ติดเพราะพี่ที่ทำงานเป็นโควิดและไม่ยอมหยุดทำให้ฉันติด สุดท้ายใช่ค่ะฉันต้องขอโทษ ความรู้สึกตอนนั้นมันหดหู่มากเลยนะ เป็นโควิดมาเกทองอาทิตย์ โรงบาลก็ยังไม่ได้เข้ารักษาแถมค่ายาก็หาซื้อเอง ขับรถไปซื้อยาเองไรเอง และต้องเป็นตัวปัญหาให้กับครอบครัว
...พอหลังจากที่ฉันหายเป็นโควิด ฉันก็กลับมาอยู่บ้าน ซึ่งในบ้านก็มีฉัน พ่อแม่ พี่สาวและพี่เขยและหลาน อยู่มาคืนนึง ฉันอาบน้ำอยู่และห้องน้ำที่บ้านมันติดกัน มันสามารถส่งของให้กันและกันได้ (ห้องน้ำแบบบ้านๆเลยค่ะ) คืนแรก ฉันอาบน้ำและจู่ๆก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้าห้องน้ำ แต่ไม่กดชักโครก ฉันก็รู้สึกแปลกๆ แต่ในใจคิดว่าน้ำคงไม่ไหล // คืนที่ 2 เวลาเดิมตอนฉันอาบน้ำ ก็มีคนเข้าห้องน้ำและไม่กดชักโครกเสียงฉี่อะไรก็ไม่มี แถมเข้ามาเงียบๆ คือเราก็เริ่มรู้สึกว่า
มันแปลกๆ จนวันที่ 3,4,5 มันก็เป็นแบบเดิม เวลาเดิม ซึ่งเราเริ่มรู้ตัวและ พอเราได้ยินเราจะหลบและคอยมองว่ามีใครเอาอะไรยื่นขึ้นมาบนกำแพงหรือแอบดูเราหรือป่าวซึ่งไม่มี ...อยู่มาคืนหนึ่ง คืนที่พ่อฉันไม่อยู่ อยู่แต่แม่ และพี่สาว ฉันอาบน้ำอยู่ ก็มีคนเดิม เดินเข้ามาในห้องน้ำ ใช่ค่ะ !! คืนนั้นมันเอาโทรศัพท์ถ่ายฉันตอนอาบน้ำซึ่งฉันรู้ตัวเพราะยืนมองดูอยู่ว่าจะมีอะไรโผล่มามั้ย พอฉันเห็นฉันกรี๊ด และไอ้ตัว
นั้นมันก็รีบวิ่งออกไปเลย ด้วยความโชคดีของฉันคือหลานฉันคนโต มันตะโกนถามพ่อทำไรน้า พ่อแอบถ่ายน้าทำไม ซึ่งมันทำให้ไอ้ตัว
มันหนีไม่พ้นในสิ่งที่มันทำ และคือมันคนในเครื่องแบบด้วยไง มันอ้างว่ามันจะถ่ายเมียมัน แต่ก่อนหน้าที่มันจะเข้าห้องน้ำมันก็คุยโทรศัพท์กับเมียมันและมันรู้ว่าเมียมันอาบน้ำแล้ว พอฉันรู้ตัวฉันก็รีบแต่งตัวและรีบเดินไปหาแม่ซึ่งแม่นอนอยู่ข้างๆห้องอาบน้ำ (ห้องนอนกับห้องน้ำติดกัน) ในตอนที่เกิดเรื่อง เราก็คิดว่าแม่ต้องเข้าข้างเขาเราแน่ๆ แม่ต้องจัดการให้เรา แต่ทุกคนรู้มั้ย วินาทีแรกที่เราเข้าไปในห้องนอนแม่ แม่เรานอนเฉยๆ พอเราพูดว่าเกิดไรขึ้นแม่เรานิ่ง ไม่ทำไรเลยสักอย่าง เราร้องไห้อย่างหนัก คือเราไม่คิดว่าจะโดนถ่ายตอนอาบน้ำ และคืนวันนั้นพ่อเราก็ไม่อยู่เราก็โทรหาพ่อ พ่อได้แต่บอกให้ใจเย็นๆ ย้ายไปอยู่กับพี่คนกลางที่บ้านอีกหลังนึงก่อนเดี้ยวพ่อกับไปเดี้ยวคุยให้ เราก็ย้ายออก เพราะรู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยกับเราจริงๆ บ้านที่อยู่มาตั้งแต่เกิด แต่เป็นบ้านที่เราไม่สามารถทำไรเลย... พอวันถัดมาเราเข้ามาเคลียร์เรารู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่ายังไงก็คงเป็นเราที่ต้องย้ายออก แต่ความรู้สึกของเราที่มันจุกอยู่ในอก คือพี่คนโตมีบ้านเป็นของตัวเองอยู่แล้ว มีบ้านไอ้ตัว
(สามี)อยู่แล้ว พี่คนกลางมีบ้านของตัวเอง ส่วนฉันไม่มีบ้านซึ่งบ้านจริงๆคือบ้านที่เกิดเรื่อง แต่ในวันที่ฉันมีปัญหาทั้งๆที่ฉันไม่ได้ก่อ ฉันกับต้องขนของย้ายออกโดนที่ถ้าไม่มีพี่คนกลางฉันก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ไม่มีที่ให้นอน ถ้านอนในบ้านก็ต้องอยู่รวมกับพี่เขยเพราะพ่อแม่ฉันไม่จัดการให้ เขาให้เหตุผลที่ว่าหลานพึ่งคลอดไม่มีคนดูแต่หลานที่คลอดไม่ใช่หลานคนแรกมันคือหลานคนที่2 จะให้ไปแจ้งความจับก็ไม่ไปแจ้งอายชาวบ้าน แถมคนก่อเหตุเป็นยศใหญ่โต เราเลยถามคำถามเดียวกับแม่ว่า เราผิดหรอเรื่องนี้ เราต้องเป็นคนออกไปหรอ ทั้งที่ๆเราไม่ได้ก่อเหตุ มันมาแอบดูเราอาบน้ำ แอบถ่ายเราอาบน้ำ ขนาดนั้น แม่ยังให้มันอยู่ในบ้านหลังเดียวกับเราอีกหรอ ... คำตอบที่ได้คือ ให้กูทำยังไงอีกแทบก็หลานอีกแทบก็ลูก พอเขาพูดมาแบบนี้เราก็รู้คำตอบแล้วว่าเราต้องไป
... ทุกคนเชื่อมั้ย เราจุกอยู่ในอก เราทำเพื่อพ่อแม่มาตลอด เรามีรวามฝันนะว่าทำงานที่มันตรงกับสายที่เราเรียนมา แต่พ่อแม่เราอยากไห้เราเข้าราชการ เราไม่เคยรั้นเลยแม้แต่ฝึกงานเราก็ฝึกตามใจเขาไม่เคยได้เลือกสายที่อยากทำ ผิดกับพี่2 คนที่ได้เลือกชีวิตตัวเอง พอในวันที่จะเลือกทางเดินตัวเอง พ่อแม่เราเข้าโรงบาล และเราที่กำลังจะเรียนจบ พี่คนโตกับพูดกับเราว่าขอได้มั้ยสอบเข้าราชการให้เขาหน่อย พ่อแม่ได้สบาย เราเลยได้แต่ถามทำไมต้องเป็นเราทั้งที่ทุกคนได้เลือกทางเดินชีวิตตัวเอง แต่เราต้องเดินตามทางที่เราไม่อยากเดิน ... คำตอบที่ได้ "อยากเห็นพ่อแม่นอนรักษาตัวในโรงบาลแบบนี้หรอ เรียนพิเศษก็เยอะ(เราเป็นคนเดียวที่เลือกเรียนสาย 4-6 พี่2คนเรียนสายอาชีพ) ซึ่งเรายอมรับว่าเราเรียนกวดวิชาเราขอเขาเรียน แต่ทุกคนเชื่อมั้ย เราคือคนเดียวที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ปิดเทอมก็เข้าโรงงานหาตังจ่ายค่าเทอมส่งตัวเองเรียน พี่2 คนไม่เคยทำแบบนี้เลย มีเราทำคนเดียว แต่สิ่งที่ครอบครัวเรามองกับมาคือเราต้องเป็นคนเสียสละ เพื่อครอบครัว... หลายๆคนมักคิดว่าลูกคนเล็กต้องสบาย แต่เราไม่เคยสบายเลย เครียด เครียดจนถึงขั้นล้มหัวฟาดพื้นและหมอบอกว่าให้ระวังเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งสิ่งที่เราเครียดก็มีแต่ครอบครัว ความกดดันจากครอบครัว ในวันที่เราลงสอบเราสอบไม่ติด เราอ่านหนังสือ ประมาณ 1 เดือนกว่ากลับจากงานก็อ่าน ตื่นตี3 อ่าน จน7 โมงเป็นเวลา 1 เดือน ความพยายามเราสูญเปร่ากับคำพูดพ่อและพี่สาวเรา ว่าไม่อ่านถึงไม่ติด เขาไม่เคยรู้เลยว่าเราพยายามทำในสิ่งที่เขาต้องการและทิ้งรอยแผลไว้กับคำพูด การกระทำ ในตัวเราไว้มากมาย
เราจึงอยากถาม ถ้าคุณเป็นแม่คน และในวันที่ลูกคุณโดนลูกเขยแอบถ่ายตอนอาบน้ำ คุณจะเลือกปกป้องใคร ลูกในไส้ที่ไม่มีแม้แต่ที่นอน ไปอาศัยคนอื่นอยู่ กับหลานที่พึ่งเกิดมาแต่ไอ้คนทำคือพ่อของหลาน และครอบครัวเขามีคบทุกอย่าง
***ถ้าเราคิดมากไปบอกเราได้นะ มันคือกระทู้แรก จริงๆมันมีเรื่องราวเยอะมากมายที่เกิดขึ้น แต่เราไม่สามารถบอกกับใครได้ เราใช้เวลาเป็นปีกว่าจะตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ท้ายสุดแล้วเราอยากเห็นเวรกรรมตามทันไอ้ตัว
นี้ เราอยากให้มันทรมานใจ ทรมานกาย และตายอย่างช้าๆ กับบาดแผลที่มันทิ้งไว้ให้เรา และมันก็ทำให้เรารู้ว่า "บางครั้งเจ้ากรรมนายเวรเราก็มาในรูปแบบครอบครัว"
ระหว่างลูกในไส้กับหลานที่พึ่งคลอด คนเป็นแม่จะเลือกใคร
...พอหลังจากที่ฉันหายเป็นโควิด ฉันก็กลับมาอยู่บ้าน ซึ่งในบ้านก็มีฉัน พ่อแม่ พี่สาวและพี่เขยและหลาน อยู่มาคืนนึง ฉันอาบน้ำอยู่และห้องน้ำที่บ้านมันติดกัน มันสามารถส่งของให้กันและกันได้ (ห้องน้ำแบบบ้านๆเลยค่ะ) คืนแรก ฉันอาบน้ำและจู่ๆก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้าห้องน้ำ แต่ไม่กดชักโครก ฉันก็รู้สึกแปลกๆ แต่ในใจคิดว่าน้ำคงไม่ไหล // คืนที่ 2 เวลาเดิมตอนฉันอาบน้ำ ก็มีคนเข้าห้องน้ำและไม่กดชักโครกเสียงฉี่อะไรก็ไม่มี แถมเข้ามาเงียบๆ คือเราก็เริ่มรู้สึกว่ามันแปลกๆ จนวันที่ 3,4,5 มันก็เป็นแบบเดิม เวลาเดิม ซึ่งเราเริ่มรู้ตัวและ พอเราได้ยินเราจะหลบและคอยมองว่ามีใครเอาอะไรยื่นขึ้นมาบนกำแพงหรือแอบดูเราหรือป่าวซึ่งไม่มี ...อยู่มาคืนหนึ่ง คืนที่พ่อฉันไม่อยู่ อยู่แต่แม่ และพี่สาว ฉันอาบน้ำอยู่ ก็มีคนเดิม เดินเข้ามาในห้องน้ำ ใช่ค่ะ !! คืนนั้นมันเอาโทรศัพท์ถ่ายฉันตอนอาบน้ำซึ่งฉันรู้ตัวเพราะยืนมองดูอยู่ว่าจะมีอะไรโผล่มามั้ย พอฉันเห็นฉันกรี๊ด และไอ้ตัวนั้นมันก็รีบวิ่งออกไปเลย ด้วยความโชคดีของฉันคือหลานฉันคนโต มันตะโกนถามพ่อทำไรน้า พ่อแอบถ่ายน้าทำไม ซึ่งมันทำให้ไอ้ตัวมันหนีไม่พ้นในสิ่งที่มันทำ และคือมันคนในเครื่องแบบด้วยไง มันอ้างว่ามันจะถ่ายเมียมัน แต่ก่อนหน้าที่มันจะเข้าห้องน้ำมันก็คุยโทรศัพท์กับเมียมันและมันรู้ว่าเมียมันอาบน้ำแล้ว พอฉันรู้ตัวฉันก็รีบแต่งตัวและรีบเดินไปหาแม่ซึ่งแม่นอนอยู่ข้างๆห้องอาบน้ำ (ห้องนอนกับห้องน้ำติดกัน) ในตอนที่เกิดเรื่อง เราก็คิดว่าแม่ต้องเข้าข้างเขาเราแน่ๆ แม่ต้องจัดการให้เรา แต่ทุกคนรู้มั้ย วินาทีแรกที่เราเข้าไปในห้องนอนแม่ แม่เรานอนเฉยๆ พอเราพูดว่าเกิดไรขึ้นแม่เรานิ่ง ไม่ทำไรเลยสักอย่าง เราร้องไห้อย่างหนัก คือเราไม่คิดว่าจะโดนถ่ายตอนอาบน้ำ และคืนวันนั้นพ่อเราก็ไม่อยู่เราก็โทรหาพ่อ พ่อได้แต่บอกให้ใจเย็นๆ ย้ายไปอยู่กับพี่คนกลางที่บ้านอีกหลังนึงก่อนเดี้ยวพ่อกับไปเดี้ยวคุยให้ เราก็ย้ายออก เพราะรู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยกับเราจริงๆ บ้านที่อยู่มาตั้งแต่เกิด แต่เป็นบ้านที่เราไม่สามารถทำไรเลย... พอวันถัดมาเราเข้ามาเคลียร์เรารู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่ายังไงก็คงเป็นเราที่ต้องย้ายออก แต่ความรู้สึกของเราที่มันจุกอยู่ในอก คือพี่คนโตมีบ้านเป็นของตัวเองอยู่แล้ว มีบ้านไอ้ตัว (สามี)อยู่แล้ว พี่คนกลางมีบ้านของตัวเอง ส่วนฉันไม่มีบ้านซึ่งบ้านจริงๆคือบ้านที่เกิดเรื่อง แต่ในวันที่ฉันมีปัญหาทั้งๆที่ฉันไม่ได้ก่อ ฉันกับต้องขนของย้ายออกโดนที่ถ้าไม่มีพี่คนกลางฉันก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ไม่มีที่ให้นอน ถ้านอนในบ้านก็ต้องอยู่รวมกับพี่เขยเพราะพ่อแม่ฉันไม่จัดการให้ เขาให้เหตุผลที่ว่าหลานพึ่งคลอดไม่มีคนดูแต่หลานที่คลอดไม่ใช่หลานคนแรกมันคือหลานคนที่2 จะให้ไปแจ้งความจับก็ไม่ไปแจ้งอายชาวบ้าน แถมคนก่อเหตุเป็นยศใหญ่โต เราเลยถามคำถามเดียวกับแม่ว่า เราผิดหรอเรื่องนี้ เราต้องเป็นคนออกไปหรอ ทั้งที่ๆเราไม่ได้ก่อเหตุ มันมาแอบดูเราอาบน้ำ แอบถ่ายเราอาบน้ำ ขนาดนั้น แม่ยังให้มันอยู่ในบ้านหลังเดียวกับเราอีกหรอ ... คำตอบที่ได้คือ ให้กูทำยังไงอีกแทบก็หลานอีกแทบก็ลูก พอเขาพูดมาแบบนี้เราก็รู้คำตอบแล้วว่าเราต้องไป
... ทุกคนเชื่อมั้ย เราจุกอยู่ในอก เราทำเพื่อพ่อแม่มาตลอด เรามีรวามฝันนะว่าทำงานที่มันตรงกับสายที่เราเรียนมา แต่พ่อแม่เราอยากไห้เราเข้าราชการ เราไม่เคยรั้นเลยแม้แต่ฝึกงานเราก็ฝึกตามใจเขาไม่เคยได้เลือกสายที่อยากทำ ผิดกับพี่2 คนที่ได้เลือกชีวิตตัวเอง พอในวันที่จะเลือกทางเดินตัวเอง พ่อแม่เราเข้าโรงบาล และเราที่กำลังจะเรียนจบ พี่คนโตกับพูดกับเราว่าขอได้มั้ยสอบเข้าราชการให้เขาหน่อย พ่อแม่ได้สบาย เราเลยได้แต่ถามทำไมต้องเป็นเราทั้งที่ทุกคนได้เลือกทางเดินชีวิตตัวเอง แต่เราต้องเดินตามทางที่เราไม่อยากเดิน ... คำตอบที่ได้ "อยากเห็นพ่อแม่นอนรักษาตัวในโรงบาลแบบนี้หรอ เรียนพิเศษก็เยอะ(เราเป็นคนเดียวที่เลือกเรียนสาย 4-6 พี่2คนเรียนสายอาชีพ) ซึ่งเรายอมรับว่าเราเรียนกวดวิชาเราขอเขาเรียน แต่ทุกคนเชื่อมั้ย เราคือคนเดียวที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ปิดเทอมก็เข้าโรงงานหาตังจ่ายค่าเทอมส่งตัวเองเรียน พี่2 คนไม่เคยทำแบบนี้เลย มีเราทำคนเดียว แต่สิ่งที่ครอบครัวเรามองกับมาคือเราต้องเป็นคนเสียสละ เพื่อครอบครัว... หลายๆคนมักคิดว่าลูกคนเล็กต้องสบาย แต่เราไม่เคยสบายเลย เครียด เครียดจนถึงขั้นล้มหัวฟาดพื้นและหมอบอกว่าให้ระวังเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งสิ่งที่เราเครียดก็มีแต่ครอบครัว ความกดดันจากครอบครัว ในวันที่เราลงสอบเราสอบไม่ติด เราอ่านหนังสือ ประมาณ 1 เดือนกว่ากลับจากงานก็อ่าน ตื่นตี3 อ่าน จน7 โมงเป็นเวลา 1 เดือน ความพยายามเราสูญเปร่ากับคำพูดพ่อและพี่สาวเรา ว่าไม่อ่านถึงไม่ติด เขาไม่เคยรู้เลยว่าเราพยายามทำในสิ่งที่เขาต้องการและทิ้งรอยแผลไว้กับคำพูด การกระทำ ในตัวเราไว้มากมาย
เราจึงอยากถาม ถ้าคุณเป็นแม่คน และในวันที่ลูกคุณโดนลูกเขยแอบถ่ายตอนอาบน้ำ คุณจะเลือกปกป้องใคร ลูกในไส้ที่ไม่มีแม้แต่ที่นอน ไปอาศัยคนอื่นอยู่ กับหลานที่พึ่งเกิดมาแต่ไอ้คนทำคือพ่อของหลาน และครอบครัวเขามีคบทุกอย่าง
***ถ้าเราคิดมากไปบอกเราได้นะ มันคือกระทู้แรก จริงๆมันมีเรื่องราวเยอะมากมายที่เกิดขึ้น แต่เราไม่สามารถบอกกับใครได้ เราใช้เวลาเป็นปีกว่าจะตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ท้ายสุดแล้วเราอยากเห็นเวรกรรมตามทันไอ้ตัวนี้ เราอยากให้มันทรมานใจ ทรมานกาย และตายอย่างช้าๆ กับบาดแผลที่มันทิ้งไว้ให้เรา และมันก็ทำให้เรารู้ว่า "บางครั้งเจ้ากรรมนายเวรเราก็มาในรูปแบบครอบครัว"