Elizabeth Holmes “เศรษฐีนี ที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก” ที่นอกจากจะรวย อายุน้อย และหน้าตาน่ารักแล้ว(อันนี้ชอบส่วนตัว) ยังมีสิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น นั่นคือเรื่องของ “ทัศนคติ และวิสัยทัศน์” ของคุณ Elizabeth Holmes นั่นเอง
ปัจจุบัน Elizabeth Holmes นั้นเป็นผู้ก่อตั้ง และผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท Theranos บริษัทที่คิดค้นเทคโนโลยีการเจาะเลือดที่ลดต้นทุนจากวิธีเดิมได้ถึง 90% แถมไวกว่าหลายเท่า จากเดิมเจาะเลือดไปตรวจโรคต้องใช้เลือดหลายหลอด และเวลาหลายวันกว่าจะทราบผล ซึ่งทำให้เทคโนโลยีนี้ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ปฏิวัติวงการแพทย์ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของ Elizabeth Holmes นั้นเริ่มมาจากเหตุการณ์นึงในชีวิตเธอ
ตอนเด็ก Elizabeth จะสนิทกับคุณลุงเป็นพิเศษ แต่ก็ต้องจากกันไปเนื่องจากลุงป่วยเป็นโรคมะเร็ง โดยสาเหตุสำคัญก็คือการที่หมอไม่สามารถตรวจรักษาโรคได้ทันการณ์ จุดนี้ถือเป็น Turning Point สำคัญของ Elizabeth ... ซึ่งทำให้เธอตัดสินใจออกจากมหาวิทยาลัย Stanford ตอนปี 2 (อายุ 19 ปี) โดยใช้เงินทุนการศึกษา เป็นทุนในการก่อตั้งบริษัท (จริงๆ มีผู้สนับสนุนทุนอีกหลายราย)
Elizabeth (ปัจจุบันอายุ 30 ปี) ใช้เวลาเพียง 10 ปี ... ผลักดันตนเองมาสู่จุดที่เป็นมากกว่าฝันของเด็กวัย 19 ... ปัจจุบัน Theranos มีมูลค่าบริษัทร่วมๆ 9,000 ล้านดอลลาร์ (Elizabeth ถือหุ้นอยู่ 50%) นั่นทำให้เธอกลายเป็นเศรษฐีอายุน้อย ที่น่าจับตามากที่สุดคนนึง
------------------------------------------------------------------------------
ถึงตรงนี้ ประเด็นที่น่าสนใจที่ผมอยากจะบอกคือ
1. ปริญญา ... ไม่ได้การันตีความสำเร็จ
ไม่ว่าจะเป็น Steve Jobs , Mark หรือ Bill Gates ต่างก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ที่ไร้ใบปริญญา ... แต่ไม่ใช่ว่าเราจะหยิบยกเอาบุคคลเหล่านี้มาเป็นข้ออ้างที่จะไม่ตั้งใจเรียนได้นะครับ เพราะใช่ว่าบุคคลเหล่านี้จะขี้เกียจเรียนนะ แต่เขาเลือกที่จะหยุดเรียนในห้องเรียน ออกมาเรียนรู้ในโลกความเป็นจริงแทน และออกมาทำตามความฝันของตัวเองอย่าง "จริงจัง" ด้วย
2. ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ
ประเด็นสำคัญอีกอย่างนึง คือรู้ว่าเราชอบอะไร หรือรักที่จะทำอะไร เพราะเมื่อเราได้ทำแล้ว เราจะมีความสุขกับมัน และอยู่กับมันได้นานขึ้น แม้ในวันที่เจอปัญหา เราก็จะตั้งใจหาหนทางแก้ไขได้ดีกว่าเรื่องที่เราไม่ชอบ
3. ความมั่นใจ และกล้าที่จะเสี่ยง
"ถ้าคุณอายุ 19 เรียนปี 2 ในมหาลัยระดับโลก คุณกล้าที่จะลาออกไปทำสิ่งที่คุณชอบไหม?" ... นี่คือสิ่งที่เราต้องกลับไปคิดต่อนะครับ เพราะอย่าง Elizabeth เขากล้าเอาอนาคตของตัวเองมาเดิมพัน การตัดสินใจของเธอในวันนั้นก็เหมือนกับการลงทุน ที่แม้มีความเสี่ยง (High Risk) แต่ผลของมันสามารถพลิกชีวิตคุณได้ (High Return)
อีกอย่างหนึ่ง (แถมให้) ผมมองว่าวิธีคิดของเรากับฝรั่งต่างกันชัดเจนเรื่องนึง คือเรามักจะได้ยินอยู่เสมอว่า "ตั้งใจเรียนไว้ จบไปจะได้ทำงานกับบริษัทดีๆ" แทนที่จริงๆควรจะพูดว่า "ตั้งใจเรียนไว้ อนาคตจะได้เป็นเจ้าของกิจการ"
อ้างอิง
http://www.businessinsider.com/10-things-to-know-about-americas-youngest-female-billionaire-2015-2
http://www.forbes.com/profile/elizabeth-holmes/
http://www.cnbc.com/2015/04/27/worlds-youngest-female-billionaire-next-steve-jobs.html
-----------------------------------------------------------------------
อ่านเพิ่มเติมได้ที่...
https://www.facebook.com/clevplan/
ผมจะทยอยแบ่งปันมุมมองที่น่าสนใจ ลองติดตามดูครับ
------------------------------------------------------------------
แก้ไข - เพิ่มรูปภาพ
"Elizabeth Holmes" เศรษฐีนี ที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก
ปัจจุบัน Elizabeth Holmes นั้นเป็นผู้ก่อตั้ง และผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท Theranos บริษัทที่คิดค้นเทคโนโลยีการเจาะเลือดที่ลดต้นทุนจากวิธีเดิมได้ถึง 90% แถมไวกว่าหลายเท่า จากเดิมเจาะเลือดไปตรวจโรคต้องใช้เลือดหลายหลอด และเวลาหลายวันกว่าจะทราบผล ซึ่งทำให้เทคโนโลยีนี้ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ปฏิวัติวงการแพทย์ในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของ Elizabeth Holmes นั้นเริ่มมาจากเหตุการณ์นึงในชีวิตเธอ
ตอนเด็ก Elizabeth จะสนิทกับคุณลุงเป็นพิเศษ แต่ก็ต้องจากกันไปเนื่องจากลุงป่วยเป็นโรคมะเร็ง โดยสาเหตุสำคัญก็คือการที่หมอไม่สามารถตรวจรักษาโรคได้ทันการณ์ จุดนี้ถือเป็น Turning Point สำคัญของ Elizabeth ... ซึ่งทำให้เธอตัดสินใจออกจากมหาวิทยาลัย Stanford ตอนปี 2 (อายุ 19 ปี) โดยใช้เงินทุนการศึกษา เป็นทุนในการก่อตั้งบริษัท (จริงๆ มีผู้สนับสนุนทุนอีกหลายราย)
Elizabeth (ปัจจุบันอายุ 30 ปี) ใช้เวลาเพียง 10 ปี ... ผลักดันตนเองมาสู่จุดที่เป็นมากกว่าฝันของเด็กวัย 19 ... ปัจจุบัน Theranos มีมูลค่าบริษัทร่วมๆ 9,000 ล้านดอลลาร์ (Elizabeth ถือหุ้นอยู่ 50%) นั่นทำให้เธอกลายเป็นเศรษฐีอายุน้อย ที่น่าจับตามากที่สุดคนนึง
------------------------------------------------------------------------------
ถึงตรงนี้ ประเด็นที่น่าสนใจที่ผมอยากจะบอกคือ
1. ปริญญา ... ไม่ได้การันตีความสำเร็จ
ไม่ว่าจะเป็น Steve Jobs , Mark หรือ Bill Gates ต่างก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ที่ไร้ใบปริญญา ... แต่ไม่ใช่ว่าเราจะหยิบยกเอาบุคคลเหล่านี้มาเป็นข้ออ้างที่จะไม่ตั้งใจเรียนได้นะครับ เพราะใช่ว่าบุคคลเหล่านี้จะขี้เกียจเรียนนะ แต่เขาเลือกที่จะหยุดเรียนในห้องเรียน ออกมาเรียนรู้ในโลกความเป็นจริงแทน และออกมาทำตามความฝันของตัวเองอย่าง "จริงจัง" ด้วย
2. ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ
ประเด็นสำคัญอีกอย่างนึง คือรู้ว่าเราชอบอะไร หรือรักที่จะทำอะไร เพราะเมื่อเราได้ทำแล้ว เราจะมีความสุขกับมัน และอยู่กับมันได้นานขึ้น แม้ในวันที่เจอปัญหา เราก็จะตั้งใจหาหนทางแก้ไขได้ดีกว่าเรื่องที่เราไม่ชอบ
3. ความมั่นใจ และกล้าที่จะเสี่ยง
"ถ้าคุณอายุ 19 เรียนปี 2 ในมหาลัยระดับโลก คุณกล้าที่จะลาออกไปทำสิ่งที่คุณชอบไหม?" ... นี่คือสิ่งที่เราต้องกลับไปคิดต่อนะครับ เพราะอย่าง Elizabeth เขากล้าเอาอนาคตของตัวเองมาเดิมพัน การตัดสินใจของเธอในวันนั้นก็เหมือนกับการลงทุน ที่แม้มีความเสี่ยง (High Risk) แต่ผลของมันสามารถพลิกชีวิตคุณได้ (High Return)
อีกอย่างหนึ่ง (แถมให้) ผมมองว่าวิธีคิดของเรากับฝรั่งต่างกันชัดเจนเรื่องนึง คือเรามักจะได้ยินอยู่เสมอว่า "ตั้งใจเรียนไว้ จบไปจะได้ทำงานกับบริษัทดีๆ" แทนที่จริงๆควรจะพูดว่า "ตั้งใจเรียนไว้ อนาคตจะได้เป็นเจ้าของกิจการ"
อ้างอิง
http://www.businessinsider.com/10-things-to-know-about-americas-youngest-female-billionaire-2015-2
http://www.forbes.com/profile/elizabeth-holmes/
http://www.cnbc.com/2015/04/27/worlds-youngest-female-billionaire-next-steve-jobs.html
-----------------------------------------------------------------------
อ่านเพิ่มเติมได้ที่...
https://www.facebook.com/clevplan/
ผมจะทยอยแบ่งปันมุมมองที่น่าสนใจ ลองติดตามดูครับ
------------------------------------------------------------------
แก้ไข - เพิ่มรูปภาพ