ทำงานกับฝรั่ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จากเด็กสาวนาม 'ลัดดา' ตอนอยู่กับฝรั่ง ก้าวมาสู่ตอนใหม่ "ปาริชาติ' ' พลอยแดง' ยินดีนำเสนอการเรียบเรียงเรื่องราวให้
ท่านได้รับความสนุกและยินดีรับคำวิจารณ์การเขียนอย่างมือใหม่ด้วยค่ะ เรื่องชื่อยังไม่ชำนาญการตั้งเลยสื่อตรงๆค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภาพประกอบสถานที่ค่ะ By som1598
‘สถาบันเกอเธ่’ซอยงามดูพลี กรุงเทพฯ ใน ยามเที่ยงแสงแดดส่องแรงไปทั่วบริเวณแต่อากาศไม่ร้อนนัก เนื่องด้วยเป็นช่วงกลางเดือนธันวาคม ที่ใต้ตึกกึ่งไม้ด้านหน้านักศึกษาบางส่วนกำลังทานอาหารเที่ยงจากร้านค้าแบบเปิดโล่ง ตามโต๊ะที่จัดวางไว้
ด้านบนชั้นสองเป็นห้องประชุมที่จัดงานตามเทศกาลเช่นเวทีการแสดงทั่วไป ด้านล่างทั้งหมดเป็นห้องเรียนภาษาเยอรมัน ถนนโรยกรวดด้านข้างเป็นแนวต้นไม้ที่ทอดยาวไปถึงลานจอดรถ และร้านอาหารเยอรมันทรงบ้านกระทัดรัดใต้ร่มเงาแมกไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านเป็นร่มเงาให้จอดรถได้
สุภาพบุรุษร่างสันทัดผิวสองสีเดินก้าวเท้ายาวๆเข้ามาในอาคาร ตรงประตูด้านซ้ายมือเป็นห้องกระจกเล็กๆเป็นห้องโอเปอเรเตอร์ด้านขวาเป็นโซฟาชุดรับแขกตั้งวางอยู่ เขาเดินไปที่ด้านผนังห้องที่มีชั้นวางแมกกาซีนภาษาเยอรมันรวมทั้งแผ่นพับอีกหลายอย่างสำหรับแจกฟรี เขาหยิบเล่มที่หน้าปกเป็นวัดไทยมาพลิกดูภาษาเยอรมันข้างในและถือไว้เล่มหนึ่ง ดูแผ่นพับเป็นรายการแสดงที่จะมีในเร็ววันนี้ที่อาคารชั้นบนจึงเอาสอดใส่ในแมกกาซีนทื่ถืออยู่ แว่วเสียงคนยืนพูดกันจากด้านหน้าห้องโอเปอเรเตอร์
สุภาพสตรีวัยกลางคน ผิวขาว ถือเอกสารซองสีน้ำตาลยืนหมุนตัวเหมือนรอใครสักคน แต่ก็ไม่มีคนเดินไปมามากนัก จนกระทั่งหล่อนเห็นหญิงสาวสวมสแล็คร่างเพรียวรีบเดินตามทางเดินตรงมา ในมือถือหนังสือเรียนภาษาเยอรมันกับกระเป๋าถือที่แกว่งไกวจากการรีบเดิน
เมื่อหญิงสาวก้าวผ่านประตูเข้ามา หล่อนรีบส่งยิ้มให้และพูดว่า
“ ขอโทษค่ะ..รบกวนถามนิดนะคะ ว่า จะติดต่อการเรียนภาษานี่ได้ที่ห้องไหนคะ”
หญิงสาวหยุดและเลิกคิ้วสดับรับฟัง มองไปที่ห้องโอเปอเรเตอร์ก็ไม่มีพนักงานอยู่เลย หล่อนดูนาฬิกายังไม่บ่ายโมง เพราะเนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์เจ้าหน้าที่จะน้อยกว่าปกติ สังเกตผู้ถามแล้วจึงไม่แน่ใจว่าจะให้ความกระจ่างได้แค่ไหน
“ ปกติต้องติดต่อวันธรรมดานะคะ วันนี้ไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่มาหรือเปล่าที่ห้องถัดไปติดกับห้องโอเปอเรเตอร์นั่นค่ะ รอให้ถึงบ่ายโมงดูนะคะ”
“ ขอบคุณค่ะแต่อยากทราบว่า มีการเรียนแบบเร่งรัดสำหรับคนไทยที่จะไปอยู่เยอรมันนี่เขามีคอร์สพิเศษใช่ไหมคะ” พูดพลางหยิบเอกสารในซองขึ้นมา
“ นี่ค่ะ คือได้เอกสารมากรอก แต่ไม่เข้าในภาษาบางคำค่ะ ช่วยดูให้นิดนะคะ”
หญิงสาวมองเอกสารในมือ เป็นใบกรอกประวัติข้อมูลเพื่อการสมัครเรียน หญิงสาวดูนาฬิกาข้อมือ ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว หล่อนหันหน้ากวาดสายตามองหาผู้อื่นที่พอจะช่วยดูแทนได้ สายตาก็มาสบกับสุภาพบุรุษที่ถือแมกกาซีนพอดี สบตาขณะหนึ่งหล่อนจึงได้บอกสุภาพสตรีตรงหน้าว่า
“ คุณคนนั้นคงช่วยได้ เพราะดิฉันต้องรีบไปเข้าห้องเรียนแล้วค่ะ”
สุภาพสตรีรีบหันมองไปทางชายหนุ่มแล้วพาหญิงสาวเดินไปหาด้วยกัน
“ ขอโทษค่ะ ขอความช่วยเหลือหน่อยนะคะ” สุภาพสตรีพูดแล้วหันมาสบตากับหญิงสาว หล่อนจึงยิ้มให้เขาก่อนพูดว่า
“ คือคุณเขาสงสัยในศัพท์บางคำในนี้คุณพอจะช่วยได้ไหมคะ ดิฉันต้องรีบไปเรียนแล้วละค่ะ” กล่าวจบหล่อนก็ส่งสายตาแป๋วมายังชายหนุ่ม เขายิ้มบางๆที่มุมปากมองไปที่สองหญิงตรงหน้า
“ ฮะ” ไม่รู้เขารับคำหรือรับฟัง
“ เชิญไปนั่งที่โซฟาก่อนดีไหมคะ” สุภาพสตรีเดินนำทั้งสองมาจากที่เดิม
“ ต้องขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่มาก็ลองไปสอบถามอีกทีนะคะ” ว่าแล้วหญิงสาวก็ยิ้มให้สองคนแปลกหน้า ที่ดูว่ายังไม่ทันจะปรับตัวปรับใจเท่าไรเลย แล้วหล่อนก็เดินเข้าไปด้านในที่เป็นห้องเรียนเรียงเป็นแถวอยู่
ชายหนุ่มยิ้มในสีหน้ามองตามหล่อนไป งงๆกับความรวดเร็วที่เกิดตรงหน้า
“ ฮะ มีอะไรฮะ” เขาพูดเมื่อทรุดกายลงนั่งตามสุภาพสตรี
“ เกรงใจจริงที่รบกวน คือว่าดิฉันจะไปอยู่เยอรมันกับแฟนน่ะค่ะ แต่ตอนนี้มีกฏว่าผู้ที่จะไปอยู่ต้องรู้ภาษาเยอรมันตามเกณฑ์ที่กำหนด วันนี้ก็เลยจะมาติดต่อแต่ไม่ทราบจะถามใคร คุณน้องคนเมื่อกี้ก็เผอิญต้องรีบเข้าเรียนเสียด้วย” หล่อนพูดเบาๆพลางกางกระดาษข้อมูลให้ชายหนุ่มดู วัยเขาน่าจะทำงานแล้วมากกว่าเป็นนักศึกษาที่นี่ หล่อนนึกในใจมองดูเขาอ่านกระดาษอยู่
เขาอ่านสักพักก็บอกว่าเป็นข้อมูลของผู้ที่เรียนในคอร์สพิเศษ ต้องกรอกข้อมูลประวัติมากหน่อย ต่างกับนักศึกษาธรรมดา แล้วการจดปากกาตามคำบอกของชายหนุ่มก็เริ่มขึ้นทีละขั้นตอน
ปาริชาติออกจากห้องเรียนมาเข้าห้องน้ำด้านในตึก เมื่ออกมาแล้วก็เดินมาเห็นสุภาพสตรีคนเดิมนั่งจ้องมองมายังหล่อนและยิ้มให้ด้วยความยินดี
“ เลิกเรียนแล้วหรือคะ”
ปาริชาติจึงเดินเข้ามาหาถามว่า
“ เสร็จเรียบร้อยแล้วหรือคะ”
“ ค่ะ คุณนั่นช่วยบอกกรอกข้อมูลจนเสร็จ เอาไปส่งให้เจ้าหน้าที่แล้วค่ะ เขาเปิดดูไม่เห็นว่าอะไร รู้วันเวลาเรียนหมดแล้ว ต้องขอบคุณคุณน้องมากนะคะ”
“ หนูชื่อปาริชาติค่ะ”
“ อ้อ คุณเมื่อกี้เขาก็เพิ่งลุกไปค่ะ ช่วยกรอกเขียนอยู่นานค่ะ”
ปาริชาติแปลกใจ เขาอยู่ช่วยนานขนาดนั้นเชียวรึ หล่อนทรุดกายลงนั่งข้างสุภาพสตรี
“ แล้วจะไปอยู่เยอรมันเมื่อไรคะ”หล่อนสนใจประเทศเยอรมันเพราะหล่อนก็เกี่ยวข้องไปตั้งแยะแล้ว
“ก็กะว่าไม่เกินครี่งปีค่ะ ไม่ทราบว่าจะเรียนทันไหม เพราะเพิ่งทราบว่ามีกฏเรื่องนี้”
“ คงจะทันละค่ะ” หล่อนเดาว่าสุภาพสตรีคนนี้คงรู้ภาษาอังกฤษดูจากท่าทางและการแต่งตัว ไม่น่าจะใช่คนมาจากทางภาคอิสานที่มีแฟนต่างชาติเป็นอันดับต้นๆในขณะนี้
“ แฟนพูดอยู่ว่ายากกว่าภาษาอังกฤษ แล้วจะทันสอบได้หรือเปล่าไม่รู้ อ้อ พี่ชื่อ วาณีค่ะ อ้อ น้องเรียนภาษาจะไปเยอรมันหรือเปล่าคะ เผื่อได้เจอกันอีก”
“ เรียนเพื่อรู้ค่ะ มีโอกาสก็อยากไปค่ะ” หล่อนตอบ
“ ถ้าไปก็ยินดีนะคะ กลัวเหงาค่ะ ต่างบ้านต่างเมือง”
“ ขอบคุณค่ะ”
“แหม.. ถูกชะตาจัง พี่ขอเบอร์โทรน้องหน่อยได้ไหม เผื่อมีอะไรจะได้ติดต่อกันได้ ยังไม่มีเพื่อนเรียนหรือรู้จักใครที่นี่เลยค่ะ”
ปาริชาติบอกเบอร์โทรไปต่างกดเบอร์ของกันและกัน ด้วยหล่อนนึกว่าสุภาพสตรีข้างหน้านี้ ‘ดูดี’ และต่างแยกย้ายกันกลับในเวลาต่อมา
คืนวันศุกร์ปาริชาติเอาการบ้านภาษาเยอรมันมาดู ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมารู้สึกเหนื่อยทุกวัน เนื่องจากมีลูกค้ามาจากประเทศอาร์เจนตินา ก็เพิ่งรู้ว่าลูกค้านี่พูดภาษาเยอรมันกับบอสด้วย ดูว่าบอสจะถูกใจที่ได้พูดภาษาของตนเอง คนทำหน้าที่เลขานุการิณีก็วุ่นตามบอสไปด้วย เพราะต้องเตรียมรับรองติดต่อจองห้องโรงแรมและคอมเฟิร์มตั๋วเครื่องบิน จัดการนัดร้านอาหารใกล้ๆบริษัทเพื่อรับรองลูกค้ามื้อกลางวันถ้าจำเป็น จัดคนรถไปรับส่งลูกค้าจากโรงแรมมาที่บริษัท ไหนจะเอกสารที่บอสถามหาเพื่อประกอบการพูดคุยกับลูกค้าอีกมากมาย
เมื่อตั้งสติแล้วก็ทบทวนในตำราก่อนทำการบ้านเพื่อส่งในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันเสาร์สุดท้าย ชั่วโมงสุดท้ายก่อนจะหยุดเทศกาลคริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่
หลังเที่ยงปาริชาติทานอาหารกลางวันเสร็จก็เตรียมไปเรียนที่สถาบัน วันเสาร์รถติดทั้งวัน เพราะคนออกไปธุระต่างๆนาๆหลายอาชีพไม่ใช่เฉพาะเวลาเร่งด่วนในวันทำงานที่มีชั่วโมงเข้าเลิกงานพร้อมกัน
หล่อนมาถึงสถาบันเกอเธ่ในเวลาเดิม เมื่อจอดรถแล้วคว้าหนังสือกับกระเป๋าล็อครถเดินมาตามทางก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อเสาร์ก่อน สุภาพสตรีคุณวาณีคนนั้น คิดได้แค่นี้เท้าก็ก้าวเข้ามาถึงในอาคารแล้ว
“ สวัสดีฮะ” เสียงมาจากทางขวามือ
“ สวัสดีค่ะ” หล่อนหันมามองพร้อมพูดตอบด้วยความแปลกใจ เขานั่นเอง...ยิ้มอยู่บนใบหน้า
“ เอ้อ.. เสาร์ที่แล้วต้องขอโทษด้วยนะคะที่เอาภาระไปให้ ไม่ทราบว่ารบกวนเวลาคุณไปนานเท่าไร”
(มีต่อค่ะ)
๐๐๐--- ทำงานกับฝรั่ง--- ๐๐๐
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
‘สถาบันเกอเธ่’ซอยงามดูพลี กรุงเทพฯ ใน ยามเที่ยงแสงแดดส่องแรงไปทั่วบริเวณแต่อากาศไม่ร้อนนัก เนื่องด้วยเป็นช่วงกลางเดือนธันวาคม ที่ใต้ตึกกึ่งไม้ด้านหน้านักศึกษาบางส่วนกำลังทานอาหารเที่ยงจากร้านค้าแบบเปิดโล่ง ตามโต๊ะที่จัดวางไว้
ด้านบนชั้นสองเป็นห้องประชุมที่จัดงานตามเทศกาลเช่นเวทีการแสดงทั่วไป ด้านล่างทั้งหมดเป็นห้องเรียนภาษาเยอรมัน ถนนโรยกรวดด้านข้างเป็นแนวต้นไม้ที่ทอดยาวไปถึงลานจอดรถ และร้านอาหารเยอรมันทรงบ้านกระทัดรัดใต้ร่มเงาแมกไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านเป็นร่มเงาให้จอดรถได้
สุภาพบุรุษร่างสันทัดผิวสองสีเดินก้าวเท้ายาวๆเข้ามาในอาคาร ตรงประตูด้านซ้ายมือเป็นห้องกระจกเล็กๆเป็นห้องโอเปอเรเตอร์ด้านขวาเป็นโซฟาชุดรับแขกตั้งวางอยู่ เขาเดินไปที่ด้านผนังห้องที่มีชั้นวางแมกกาซีนภาษาเยอรมันรวมทั้งแผ่นพับอีกหลายอย่างสำหรับแจกฟรี เขาหยิบเล่มที่หน้าปกเป็นวัดไทยมาพลิกดูภาษาเยอรมันข้างในและถือไว้เล่มหนึ่ง ดูแผ่นพับเป็นรายการแสดงที่จะมีในเร็ววันนี้ที่อาคารชั้นบนจึงเอาสอดใส่ในแมกกาซีนทื่ถืออยู่ แว่วเสียงคนยืนพูดกันจากด้านหน้าห้องโอเปอเรเตอร์
สุภาพสตรีวัยกลางคน ผิวขาว ถือเอกสารซองสีน้ำตาลยืนหมุนตัวเหมือนรอใครสักคน แต่ก็ไม่มีคนเดินไปมามากนัก จนกระทั่งหล่อนเห็นหญิงสาวสวมสแล็คร่างเพรียวรีบเดินตามทางเดินตรงมา ในมือถือหนังสือเรียนภาษาเยอรมันกับกระเป๋าถือที่แกว่งไกวจากการรีบเดิน
เมื่อหญิงสาวก้าวผ่านประตูเข้ามา หล่อนรีบส่งยิ้มให้และพูดว่า
“ ขอโทษค่ะ..รบกวนถามนิดนะคะ ว่า จะติดต่อการเรียนภาษานี่ได้ที่ห้องไหนคะ”
หญิงสาวหยุดและเลิกคิ้วสดับรับฟัง มองไปที่ห้องโอเปอเรเตอร์ก็ไม่มีพนักงานอยู่เลย หล่อนดูนาฬิกายังไม่บ่ายโมง เพราะเนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์เจ้าหน้าที่จะน้อยกว่าปกติ สังเกตผู้ถามแล้วจึงไม่แน่ใจว่าจะให้ความกระจ่างได้แค่ไหน
“ ปกติต้องติดต่อวันธรรมดานะคะ วันนี้ไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่มาหรือเปล่าที่ห้องถัดไปติดกับห้องโอเปอเรเตอร์นั่นค่ะ รอให้ถึงบ่ายโมงดูนะคะ”
“ ขอบคุณค่ะแต่อยากทราบว่า มีการเรียนแบบเร่งรัดสำหรับคนไทยที่จะไปอยู่เยอรมันนี่เขามีคอร์สพิเศษใช่ไหมคะ” พูดพลางหยิบเอกสารในซองขึ้นมา
“ นี่ค่ะ คือได้เอกสารมากรอก แต่ไม่เข้าในภาษาบางคำค่ะ ช่วยดูให้นิดนะคะ”
หญิงสาวมองเอกสารในมือ เป็นใบกรอกประวัติข้อมูลเพื่อการสมัครเรียน หญิงสาวดูนาฬิกาข้อมือ ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว หล่อนหันหน้ากวาดสายตามองหาผู้อื่นที่พอจะช่วยดูแทนได้ สายตาก็มาสบกับสุภาพบุรุษที่ถือแมกกาซีนพอดี สบตาขณะหนึ่งหล่อนจึงได้บอกสุภาพสตรีตรงหน้าว่า
“ คุณคนนั้นคงช่วยได้ เพราะดิฉันต้องรีบไปเข้าห้องเรียนแล้วค่ะ”
สุภาพสตรีรีบหันมองไปทางชายหนุ่มแล้วพาหญิงสาวเดินไปหาด้วยกัน
“ ขอโทษค่ะ ขอความช่วยเหลือหน่อยนะคะ” สุภาพสตรีพูดแล้วหันมาสบตากับหญิงสาว หล่อนจึงยิ้มให้เขาก่อนพูดว่า
“ คือคุณเขาสงสัยในศัพท์บางคำในนี้คุณพอจะช่วยได้ไหมคะ ดิฉันต้องรีบไปเรียนแล้วละค่ะ” กล่าวจบหล่อนก็ส่งสายตาแป๋วมายังชายหนุ่ม เขายิ้มบางๆที่มุมปากมองไปที่สองหญิงตรงหน้า
“ ฮะ” ไม่รู้เขารับคำหรือรับฟัง
“ เชิญไปนั่งที่โซฟาก่อนดีไหมคะ” สุภาพสตรีเดินนำทั้งสองมาจากที่เดิม
“ ต้องขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่มาก็ลองไปสอบถามอีกทีนะคะ” ว่าแล้วหญิงสาวก็ยิ้มให้สองคนแปลกหน้า ที่ดูว่ายังไม่ทันจะปรับตัวปรับใจเท่าไรเลย แล้วหล่อนก็เดินเข้าไปด้านในที่เป็นห้องเรียนเรียงเป็นแถวอยู่
ชายหนุ่มยิ้มในสีหน้ามองตามหล่อนไป งงๆกับความรวดเร็วที่เกิดตรงหน้า
“ ฮะ มีอะไรฮะ” เขาพูดเมื่อทรุดกายลงนั่งตามสุภาพสตรี
“ เกรงใจจริงที่รบกวน คือว่าดิฉันจะไปอยู่เยอรมันกับแฟนน่ะค่ะ แต่ตอนนี้มีกฏว่าผู้ที่จะไปอยู่ต้องรู้ภาษาเยอรมันตามเกณฑ์ที่กำหนด วันนี้ก็เลยจะมาติดต่อแต่ไม่ทราบจะถามใคร คุณน้องคนเมื่อกี้ก็เผอิญต้องรีบเข้าเรียนเสียด้วย” หล่อนพูดเบาๆพลางกางกระดาษข้อมูลให้ชายหนุ่มดู วัยเขาน่าจะทำงานแล้วมากกว่าเป็นนักศึกษาที่นี่ หล่อนนึกในใจมองดูเขาอ่านกระดาษอยู่
เขาอ่านสักพักก็บอกว่าเป็นข้อมูลของผู้ที่เรียนในคอร์สพิเศษ ต้องกรอกข้อมูลประวัติมากหน่อย ต่างกับนักศึกษาธรรมดา แล้วการจดปากกาตามคำบอกของชายหนุ่มก็เริ่มขึ้นทีละขั้นตอน
ปาริชาติออกจากห้องเรียนมาเข้าห้องน้ำด้านในตึก เมื่ออกมาแล้วก็เดินมาเห็นสุภาพสตรีคนเดิมนั่งจ้องมองมายังหล่อนและยิ้มให้ด้วยความยินดี
“ เลิกเรียนแล้วหรือคะ”
ปาริชาติจึงเดินเข้ามาหาถามว่า
“ เสร็จเรียบร้อยแล้วหรือคะ”
“ ค่ะ คุณนั่นช่วยบอกกรอกข้อมูลจนเสร็จ เอาไปส่งให้เจ้าหน้าที่แล้วค่ะ เขาเปิดดูไม่เห็นว่าอะไร รู้วันเวลาเรียนหมดแล้ว ต้องขอบคุณคุณน้องมากนะคะ”
“ หนูชื่อปาริชาติค่ะ”
“ อ้อ คุณเมื่อกี้เขาก็เพิ่งลุกไปค่ะ ช่วยกรอกเขียนอยู่นานค่ะ”
ปาริชาติแปลกใจ เขาอยู่ช่วยนานขนาดนั้นเชียวรึ หล่อนทรุดกายลงนั่งข้างสุภาพสตรี
“ แล้วจะไปอยู่เยอรมันเมื่อไรคะ”หล่อนสนใจประเทศเยอรมันเพราะหล่อนก็เกี่ยวข้องไปตั้งแยะแล้ว
“ก็กะว่าไม่เกินครี่งปีค่ะ ไม่ทราบว่าจะเรียนทันไหม เพราะเพิ่งทราบว่ามีกฏเรื่องนี้”
“ คงจะทันละค่ะ” หล่อนเดาว่าสุภาพสตรีคนนี้คงรู้ภาษาอังกฤษดูจากท่าทางและการแต่งตัว ไม่น่าจะใช่คนมาจากทางภาคอิสานที่มีแฟนต่างชาติเป็นอันดับต้นๆในขณะนี้
“ แฟนพูดอยู่ว่ายากกว่าภาษาอังกฤษ แล้วจะทันสอบได้หรือเปล่าไม่รู้ อ้อ พี่ชื่อ วาณีค่ะ อ้อ น้องเรียนภาษาจะไปเยอรมันหรือเปล่าคะ เผื่อได้เจอกันอีก”
“ เรียนเพื่อรู้ค่ะ มีโอกาสก็อยากไปค่ะ” หล่อนตอบ
“ ถ้าไปก็ยินดีนะคะ กลัวเหงาค่ะ ต่างบ้านต่างเมือง”
“ ขอบคุณค่ะ”
“แหม.. ถูกชะตาจัง พี่ขอเบอร์โทรน้องหน่อยได้ไหม เผื่อมีอะไรจะได้ติดต่อกันได้ ยังไม่มีเพื่อนเรียนหรือรู้จักใครที่นี่เลยค่ะ”
ปาริชาติบอกเบอร์โทรไปต่างกดเบอร์ของกันและกัน ด้วยหล่อนนึกว่าสุภาพสตรีข้างหน้านี้ ‘ดูดี’ และต่างแยกย้ายกันกลับในเวลาต่อมา
คืนวันศุกร์ปาริชาติเอาการบ้านภาษาเยอรมันมาดู ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมารู้สึกเหนื่อยทุกวัน เนื่องจากมีลูกค้ามาจากประเทศอาร์เจนตินา ก็เพิ่งรู้ว่าลูกค้านี่พูดภาษาเยอรมันกับบอสด้วย ดูว่าบอสจะถูกใจที่ได้พูดภาษาของตนเอง คนทำหน้าที่เลขานุการิณีก็วุ่นตามบอสไปด้วย เพราะต้องเตรียมรับรองติดต่อจองห้องโรงแรมและคอมเฟิร์มตั๋วเครื่องบิน จัดการนัดร้านอาหารใกล้ๆบริษัทเพื่อรับรองลูกค้ามื้อกลางวันถ้าจำเป็น จัดคนรถไปรับส่งลูกค้าจากโรงแรมมาที่บริษัท ไหนจะเอกสารที่บอสถามหาเพื่อประกอบการพูดคุยกับลูกค้าอีกมากมาย
เมื่อตั้งสติแล้วก็ทบทวนในตำราก่อนทำการบ้านเพื่อส่งในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันเสาร์สุดท้าย ชั่วโมงสุดท้ายก่อนจะหยุดเทศกาลคริสต์มาสไปจนถึงปีใหม่
หลังเที่ยงปาริชาติทานอาหารกลางวันเสร็จก็เตรียมไปเรียนที่สถาบัน วันเสาร์รถติดทั้งวัน เพราะคนออกไปธุระต่างๆนาๆหลายอาชีพไม่ใช่เฉพาะเวลาเร่งด่วนในวันทำงานที่มีชั่วโมงเข้าเลิกงานพร้อมกัน
หล่อนมาถึงสถาบันเกอเธ่ในเวลาเดิม เมื่อจอดรถแล้วคว้าหนังสือกับกระเป๋าล็อครถเดินมาตามทางก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อเสาร์ก่อน สุภาพสตรีคุณวาณีคนนั้น คิดได้แค่นี้เท้าก็ก้าวเข้ามาถึงในอาคารแล้ว
“ สวัสดีฮะ” เสียงมาจากทางขวามือ
“ สวัสดีค่ะ” หล่อนหันมามองพร้อมพูดตอบด้วยความแปลกใจ เขานั่นเอง...ยิ้มอยู่บนใบหน้า
“ เอ้อ.. เสาร์ที่แล้วต้องขอโทษด้วยนะคะที่เอาภาระไปให้ ไม่ทราบว่ารบกวนเวลาคุณไปนานเท่าไร”
(มีต่อค่ะ)