งานโครงงานอ่ะค่ะ จริงๆลองแปลเองแล้วแต่ภาษามันไม่สวยเลย รบกวนช่วยแปลได้มั้ยคะ
-จากการทดลองที่ 1 เมื่อนำน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวคือ น้ำมะเฟื น้ำมะขาม และน้ำส้มมาเจือจางในน้ำที่มีอัตราส่วนที่แตกต่างกันคือ 1:1 3:1 และ 4:1 พบว่าน้ำผลไม้ที่สามารถนำไฟฟ้าได้ดีที่สุด คือ น้ำมะขาม ในอัตราส่วน 4:1 มีค่าความต่างศักย์ 1.04 V
-จากการทดลองที่ 2 เมื่อนำน้ำมะขามในอัตราส่วน 4:1 มาผสมกับน้ำมะเฟือง ในอัตรส่วน 4:1 3:1 และ 4:1 พบว่า น้ำมะขามผสมน้ำมะเฟืองในอัตราส่วน 4:1 มีประสิทธิภาพในการทำให้ไดโอดส่องสว่างได้นานและมีความเข้มของแสงมาก
-จากผลการทดลองพบว่าน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เมื่อนำมาผสมกันจะมีประสิทธิภาพในการนำไฟฟ้าได้ดีมาก เพราะในมะขามมี Citric acid tartaric acid และ Malic acid และเมื่อนำมาผสมกับน้ำมะเฟืองที่มีกรด Citric acid เป็นส่วนประกอบกรดจำนวนเหล่านี้จึงทำให้น้ำผลไม้มีรสเปรี้ยว ซึ่งขณะที่เกิดกระแสไฟฟ้า น้ำและกรดจะปล่อยอิเล็กตรอนออกมา สารละลายของน้ำและกรดนี้เรียกว่า Electrolyte
รบกวนช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษได้มั้ยคะ T T
-จากการทดลองที่ 1 เมื่อนำน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวคือ น้ำมะเฟื น้ำมะขาม และน้ำส้มมาเจือจางในน้ำที่มีอัตราส่วนที่แตกต่างกันคือ 1:1 3:1 และ 4:1 พบว่าน้ำผลไม้ที่สามารถนำไฟฟ้าได้ดีที่สุด คือ น้ำมะขาม ในอัตราส่วน 4:1 มีค่าความต่างศักย์ 1.04 V
-จากการทดลองที่ 2 เมื่อนำน้ำมะขามในอัตราส่วน 4:1 มาผสมกับน้ำมะเฟือง ในอัตรส่วน 4:1 3:1 และ 4:1 พบว่า น้ำมะขามผสมน้ำมะเฟืองในอัตราส่วน 4:1 มีประสิทธิภาพในการทำให้ไดโอดส่องสว่างได้นานและมีความเข้มของแสงมาก
-จากผลการทดลองพบว่าน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เมื่อนำมาผสมกันจะมีประสิทธิภาพในการนำไฟฟ้าได้ดีมาก เพราะในมะขามมี Citric acid tartaric acid และ Malic acid และเมื่อนำมาผสมกับน้ำมะเฟืองที่มีกรด Citric acid เป็นส่วนประกอบกรดจำนวนเหล่านี้จึงทำให้น้ำผลไม้มีรสเปรี้ยว ซึ่งขณะที่เกิดกระแสไฟฟ้า น้ำและกรดจะปล่อยอิเล็กตรอนออกมา สารละลายของน้ำและกรดนี้เรียกว่า Electrolyte