นิยายนี้มีลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่เพื่อการค้า
บทที่ 2
คุณครูบาลเฮด
หลังจากคุณครูยีนได้สอนให้สเปิร์มอนุบาลรู้จักตัวตนและภารกิจของสเปิร์มแล้ว ก่อนจะจบชั้นเรียนเธอได้จัดให้มีการสอบคัดเลือกเพื่อเลื่อนชั้นด้วยการสอบปากเปล่าสเปิร์มทีละตัวๆ เพื่อคัดสรรตัวที่มีสมอง..ความจำ และไหวพริบที่ดีพอที่จะผ่านไปเรียนในชั้นประถมต่อไป
คุณครูยีนให้นักเรียนเข้าแถวเรียงหนึ่งยาวเป็นงูเลื้อยแล้วเรียกนักเรียนให้เข้าไปในห้องสอบที่จัดไว้เฉพาะส่วนทีละตัว เรื่องที่สอบก็เกี่ยวกับที่มาที่ไปและภารกิจของสเปิร์มตามที่ได้สอนมาทั้งสิ้น คำถามที่ตั้งไว้มีอยู่ 3 ข้อ ถ้าสเปิร์มตัวไหนตอบได้สองในสามข้อถือว่าสอบผ่าน ตัวที่สอบผ่านได้แล้วก็จะเลื้อยไปออกประตูด้านตรงข้ามกับทางเข้า มีป้ายคำว่า‘ทางออก’ ติดไว้บนขอบประตู บนป้ายทางออกมีป้ายไฟสีแดงคอยนับจำนวนสเปิร์มที่ผ่านออกไป
ส่วนตัวที่สอบไม่ผ่านจะเลื้อยออกไปทางประตูด้านข้างซึ่งมีป้ายคำว่า ‘ห้องเก็บกวาด’ ติดไว้บนขอบประตู
สเปิร์มที่ผ่าน ‘ทางออก’ มาได้ถือว่าเรียนจบชั้นอนุบาลแล้วและจะได้รับอาหารผ่านทางสายยางในระหว่างที่รอเพื่อนๆ อยู่ในโรงอาหารของโรงเรียน
สเปิร์มพิณที่สอบผ่านก่อนได้ออกมายืนรอสเปิร์มปันอยู่ที่ปากประตูทางออก เนื่องจากสเปิร์มปันที่นั่งอยู่ติดกันถูกเรียกในลำดับต่อจากเธอจึงน่าจะตามออกมาในไม่ช้า แต่เมื่อประตูเปิดออกอีกครั้ง ตัวที่ก้าวออกมาหาใช่เพื่อนชายของเธอไม่
“เกิดอะไรขึ้น? หรือว่า..” สเปิร์มพิณเริ่มวิตก เนื่องจากการสอบเป็นการเรียงลำดับทีละตัว หากสเปิร์มที่อยู่ในลำดับถัดไปไม่ได้ตามออกมาก็แสดงว่าถูกส่งไป‘ห้องเก็บกวาด’แล้ว
“ขอโทษนะ..สเปิร์มตัวที่เข้าสอบก่อนหน้าเธอเขาหายไปไหน” โดยไม่รอช้า สเปิร์มพิณตรงเข้าไปสอบถามสเปิร์มเพศชายรูปร่างใหญ่ที่เพิ่งก้าวออกมาจากประตูห้อง
“ตัวที่อยู่ข้างหน้าฉันใช่ไหม..เอ..เดี๋ยวขอนึกก่อน..ตัวผอมๆ หางยาวๆ..เอ่อ..ฉันนึกชื่อไม่ออก..ชื่ออะไรน้า” สเปิร์มตัวนั้นยืนนึกอย่างไม่เร่งร้อนเป็นเวลากว่าอึดใจจนสเปิร์มพิณเป็นฝ่ายอดใจไม่ไหว
“ไม่เป็นไรหรอก ชื่ออะไรก็ช่างเหอะ ฉันแค่อยากรู้ว่าเขาสอบผ่านไหม” สเปิร์มพิณตัดบท ไม่แปลกที่สเปิร์มจะจำชื่อกันไม่ได้ แม้แต่เธอก็ยังจำชื่อสเปิร์มตัวนี้ไม่ได้เลยทั้งๆ ที่นั่งถัดไปไม่กี่ตัวแท้ๆ
“ปัน..เออ..ใช่แล้ว เขาชื่อปันไง..ตัวที่ต้องให้ผู้หญิงตั้งชื่อให้น่ะ” ในที่สุดสเปิร์มตัวนั้นก็นึกออก พอนึกชื่อออกก็พลอยให้จำหน้าสเปิร์มพิณที่ขานชื่อแทนได้ด้วย
“เออ..นั่นล่ะ..ตกลงเขาสอบผ่านไหม?” สเปิร์มพิณร้อนใจ อยากได้คำตอบที่ต้องการโดยไว
“เอ..ฉันเห็นเขาคุยกับคุณครูยีนนานมาก จนคุณครูยีนอีกตัวต้องพาไปสอบต่อที่ห้องข้างๆ”
“ห้องเก็บกวาดเหรอ” สเปิร์มพิณโพล่งขึ้นมาทันใด นึกในใจว่าสเปิร์มปันคงไม่รอดแน่แล้ว
“เป็นอีกด้านหนึ่งที่ไม่ใช่ห้องเก็บกวาด มีโต๊ะและเก้าอี้นั่งแบบเดียวกัน พอฉันเหลือบมอง คุณครูยีนตัวนั้นก็ดึงม่านมาบังสายตาทันที ตอนที่ฉันออกมานี่ เขายังไม่เปิดม่านเลย”
จากนั้นสเปิร์มตัวนั้นก็ขอตัวไปทานอาหารอ้างว่าหิวจนไส้แห้งและไม่ยอมตอบคำถามใดๆ อีก
“ขอบใจมากนะ” สเปิร์มพิณโบกหางให้ขณะที่สเปิร์มตัวนั้นเลื้อยออกไปแล้ว
“ไม่เป็นไรพิณ..อ่อ..ฉันชื่ออ้วนกลมนะ คราวหน้าเจอกันก็ทักทายด้วย”
สเปิร์มอ้วนกลมหันหน้ามากล่าวแล้วจึงเลื้อยจากไป ปล่อยให้สเปิร์มพิณยืนอ้าปากค้างอย่างรู้สึกผิดที่ตัวอื่นจำเธอได้แต่เธอกลับจำชื่อเขาไม่ได้
ในขณะที่สเปิร์มทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ประตูห้องได้ถูกเปิดออกอีกหลายครั้ง สเปิร์มหลายตัวเลื้อยผ่านหน้าสเปิร์มพิณไปโดยไร้วี่แววเพื่อนชายของเธอ จนเธออดหวั่นใจไม่ได้ว่า คงไม่ได้พบหน้าเขาอีกแล้ว ข้อมูลของสเปิร์มอ้วนกลมบอกว่าเขาถูกสอบโดยแยกส่วนออกไปโดยยังไม่มีข้อสรุปใดๆ เกี่ยวกับผลสอบ มันทำให้เธอลังเลว่าควรจะรอเขาอยู่ตรงนี้ต่อไปหรือไปหาอาหารรับประทานดี
ขณะกำลังชั่งใจอยู่นั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นสเปิร์มปันที่ก้าวออกมาจากห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ปัน..! เฮ้อ..โล่งอกไปที..ดีใจจังที่เธอสอบผ่านได้ ทำไมใช้เวลานานจัง” สเปิร์มพิณโผเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว ทำเอาสเปิร์มปันงุนงงอยู่ไม่น้อย แปลกใจที่ตนเองมีความสำคัญต่อผู้อื่นได้ถึงเพียงนี้
“พวกเขาไม่ยอมปล่อยฉันออกมาหากไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการ” สเปิร์มปันกล่าวเนือยๆ
“หมายความว่ายังไง เธอตอบคำถามไม่ได้หรือ” สเปิร์มพิณทำหน้างง เทียบกับตัวเธอเองแล้ว เธอใช้เวลาตอบคำถามทั้งสามข้ออย่างถูกต้องแบบรวดเดียวผ่านในเวลาอันรวดเร็ว
“ฉันตอบได้ แต่ไม่ใช่คำตอบที่พวกเขาต้องการ พวกเขาก็เลยถามใหม่ เพื่อให้ตอบใหม่ เป็นอย่างนี้หลายครั้งเลย” สเปิร์มปันกล่าวพลางส่ายศีรษะอย่างระอา
“พวกเขาถามอะไร แล้วเธอตอบว่าอย่างไร” สเปิร์มพิณซักต่อด้วยความสงสัย ปกติทุกคำถามมีคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้ว หากตอบไม่ตรงกับคำถามก็น่าจะถือว่าตอบผิดไม่น่าจะมีการถามใหม่อีก
“คุณครูยีนตัวแรกถามว่า หนึ่งวันมีกี่ชั่วโมง? ฉันก็ตอบว่า มี 86,400 วินาที คุณครูก็ถามต่อว่าแล้ว 86,400 วินาทีมันเป็นกี่ชั่วโมงล่ะ? ฉันก็ตอบว่า มี 1,440 นาที คุณครูก็ยังไม่พอใจ ถามฉันใหม่อีกว่า..”
“1,440 นาทีน่ะ เป็นกี่ชั่วโมงใช่ไหม?” สเปิร์มพิณแทรกขึ้นมาทันควัน
“เอ๊ะ..อ้าว..! เธอรู้ได้อย่างไร” สเปิร์มปันทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก
“รู้สิ..ฉันรู้ว่าเธอตอบว่า มี 24 ชั่วโมงด้วย..ไปกันเหอะ ฉันหิวจะแย่แล้ว” ว่าแล้วสเปิร์มพิณก็เป็นฝ่ายเลื้อยนำออกไปโดยไม่นำพาสเปิร์มปันที่ยังคงยืนงงอยู่อย่างนั้น
............................................
**กว่าจะเป็นพวกเธอในวันนี้ (The sperm's story) บทที่2..คุณครูบาลเฮด**
บทที่ 2
คุณครูบาลเฮด
หลังจากคุณครูยีนได้สอนให้สเปิร์มอนุบาลรู้จักตัวตนและภารกิจของสเปิร์มแล้ว ก่อนจะจบชั้นเรียนเธอได้จัดให้มีการสอบคัดเลือกเพื่อเลื่อนชั้นด้วยการสอบปากเปล่าสเปิร์มทีละตัวๆ เพื่อคัดสรรตัวที่มีสมอง..ความจำ และไหวพริบที่ดีพอที่จะผ่านไปเรียนในชั้นประถมต่อไป
คุณครูยีนให้นักเรียนเข้าแถวเรียงหนึ่งยาวเป็นงูเลื้อยแล้วเรียกนักเรียนให้เข้าไปในห้องสอบที่จัดไว้เฉพาะส่วนทีละตัว เรื่องที่สอบก็เกี่ยวกับที่มาที่ไปและภารกิจของสเปิร์มตามที่ได้สอนมาทั้งสิ้น คำถามที่ตั้งไว้มีอยู่ 3 ข้อ ถ้าสเปิร์มตัวไหนตอบได้สองในสามข้อถือว่าสอบผ่าน ตัวที่สอบผ่านได้แล้วก็จะเลื้อยไปออกประตูด้านตรงข้ามกับทางเข้า มีป้ายคำว่า‘ทางออก’ ติดไว้บนขอบประตู บนป้ายทางออกมีป้ายไฟสีแดงคอยนับจำนวนสเปิร์มที่ผ่านออกไป
ส่วนตัวที่สอบไม่ผ่านจะเลื้อยออกไปทางประตูด้านข้างซึ่งมีป้ายคำว่า ‘ห้องเก็บกวาด’ ติดไว้บนขอบประตู
สเปิร์มที่ผ่าน ‘ทางออก’ มาได้ถือว่าเรียนจบชั้นอนุบาลแล้วและจะได้รับอาหารผ่านทางสายยางในระหว่างที่รอเพื่อนๆ อยู่ในโรงอาหารของโรงเรียน
สเปิร์มพิณที่สอบผ่านก่อนได้ออกมายืนรอสเปิร์มปันอยู่ที่ปากประตูทางออก เนื่องจากสเปิร์มปันที่นั่งอยู่ติดกันถูกเรียกในลำดับต่อจากเธอจึงน่าจะตามออกมาในไม่ช้า แต่เมื่อประตูเปิดออกอีกครั้ง ตัวที่ก้าวออกมาหาใช่เพื่อนชายของเธอไม่
“เกิดอะไรขึ้น? หรือว่า..” สเปิร์มพิณเริ่มวิตก เนื่องจากการสอบเป็นการเรียงลำดับทีละตัว หากสเปิร์มที่อยู่ในลำดับถัดไปไม่ได้ตามออกมาก็แสดงว่าถูกส่งไป‘ห้องเก็บกวาด’แล้ว
“ขอโทษนะ..สเปิร์มตัวที่เข้าสอบก่อนหน้าเธอเขาหายไปไหน” โดยไม่รอช้า สเปิร์มพิณตรงเข้าไปสอบถามสเปิร์มเพศชายรูปร่างใหญ่ที่เพิ่งก้าวออกมาจากประตูห้อง
“ตัวที่อยู่ข้างหน้าฉันใช่ไหม..เอ..เดี๋ยวขอนึกก่อน..ตัวผอมๆ หางยาวๆ..เอ่อ..ฉันนึกชื่อไม่ออก..ชื่ออะไรน้า” สเปิร์มตัวนั้นยืนนึกอย่างไม่เร่งร้อนเป็นเวลากว่าอึดใจจนสเปิร์มพิณเป็นฝ่ายอดใจไม่ไหว
“ไม่เป็นไรหรอก ชื่ออะไรก็ช่างเหอะ ฉันแค่อยากรู้ว่าเขาสอบผ่านไหม” สเปิร์มพิณตัดบท ไม่แปลกที่สเปิร์มจะจำชื่อกันไม่ได้ แม้แต่เธอก็ยังจำชื่อสเปิร์มตัวนี้ไม่ได้เลยทั้งๆ ที่นั่งถัดไปไม่กี่ตัวแท้ๆ
“ปัน..เออ..ใช่แล้ว เขาชื่อปันไง..ตัวที่ต้องให้ผู้หญิงตั้งชื่อให้น่ะ” ในที่สุดสเปิร์มตัวนั้นก็นึกออก พอนึกชื่อออกก็พลอยให้จำหน้าสเปิร์มพิณที่ขานชื่อแทนได้ด้วย
“เออ..นั่นล่ะ..ตกลงเขาสอบผ่านไหม?” สเปิร์มพิณร้อนใจ อยากได้คำตอบที่ต้องการโดยไว
“เอ..ฉันเห็นเขาคุยกับคุณครูยีนนานมาก จนคุณครูยีนอีกตัวต้องพาไปสอบต่อที่ห้องข้างๆ”
“ห้องเก็บกวาดเหรอ” สเปิร์มพิณโพล่งขึ้นมาทันใด นึกในใจว่าสเปิร์มปันคงไม่รอดแน่แล้ว
“เป็นอีกด้านหนึ่งที่ไม่ใช่ห้องเก็บกวาด มีโต๊ะและเก้าอี้นั่งแบบเดียวกัน พอฉันเหลือบมอง คุณครูยีนตัวนั้นก็ดึงม่านมาบังสายตาทันที ตอนที่ฉันออกมานี่ เขายังไม่เปิดม่านเลย”
จากนั้นสเปิร์มตัวนั้นก็ขอตัวไปทานอาหารอ้างว่าหิวจนไส้แห้งและไม่ยอมตอบคำถามใดๆ อีก
“ขอบใจมากนะ” สเปิร์มพิณโบกหางให้ขณะที่สเปิร์มตัวนั้นเลื้อยออกไปแล้ว
“ไม่เป็นไรพิณ..อ่อ..ฉันชื่ออ้วนกลมนะ คราวหน้าเจอกันก็ทักทายด้วย”
สเปิร์มอ้วนกลมหันหน้ามากล่าวแล้วจึงเลื้อยจากไป ปล่อยให้สเปิร์มพิณยืนอ้าปากค้างอย่างรู้สึกผิดที่ตัวอื่นจำเธอได้แต่เธอกลับจำชื่อเขาไม่ได้
ในขณะที่สเปิร์มทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ประตูห้องได้ถูกเปิดออกอีกหลายครั้ง สเปิร์มหลายตัวเลื้อยผ่านหน้าสเปิร์มพิณไปโดยไร้วี่แววเพื่อนชายของเธอ จนเธออดหวั่นใจไม่ได้ว่า คงไม่ได้พบหน้าเขาอีกแล้ว ข้อมูลของสเปิร์มอ้วนกลมบอกว่าเขาถูกสอบโดยแยกส่วนออกไปโดยยังไม่มีข้อสรุปใดๆ เกี่ยวกับผลสอบ มันทำให้เธอลังเลว่าควรจะรอเขาอยู่ตรงนี้ต่อไปหรือไปหาอาหารรับประทานดี
ขณะกำลังชั่งใจอยู่นั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นสเปิร์มปันที่ก้าวออกมาจากห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ปัน..! เฮ้อ..โล่งอกไปที..ดีใจจังที่เธอสอบผ่านได้ ทำไมใช้เวลานานจัง” สเปิร์มพิณโผเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว ทำเอาสเปิร์มปันงุนงงอยู่ไม่น้อย แปลกใจที่ตนเองมีความสำคัญต่อผู้อื่นได้ถึงเพียงนี้
“พวกเขาไม่ยอมปล่อยฉันออกมาหากไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการ” สเปิร์มปันกล่าวเนือยๆ
“หมายความว่ายังไง เธอตอบคำถามไม่ได้หรือ” สเปิร์มพิณทำหน้างง เทียบกับตัวเธอเองแล้ว เธอใช้เวลาตอบคำถามทั้งสามข้ออย่างถูกต้องแบบรวดเดียวผ่านในเวลาอันรวดเร็ว
“ฉันตอบได้ แต่ไม่ใช่คำตอบที่พวกเขาต้องการ พวกเขาก็เลยถามใหม่ เพื่อให้ตอบใหม่ เป็นอย่างนี้หลายครั้งเลย” สเปิร์มปันกล่าวพลางส่ายศีรษะอย่างระอา
“พวกเขาถามอะไร แล้วเธอตอบว่าอย่างไร” สเปิร์มพิณซักต่อด้วยความสงสัย ปกติทุกคำถามมีคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้ว หากตอบไม่ตรงกับคำถามก็น่าจะถือว่าตอบผิดไม่น่าจะมีการถามใหม่อีก
“คุณครูยีนตัวแรกถามว่า หนึ่งวันมีกี่ชั่วโมง? ฉันก็ตอบว่า มี 86,400 วินาที คุณครูก็ถามต่อว่าแล้ว 86,400 วินาทีมันเป็นกี่ชั่วโมงล่ะ? ฉันก็ตอบว่า มี 1,440 นาที คุณครูก็ยังไม่พอใจ ถามฉันใหม่อีกว่า..”
“1,440 นาทีน่ะ เป็นกี่ชั่วโมงใช่ไหม?” สเปิร์มพิณแทรกขึ้นมาทันควัน
“เอ๊ะ..อ้าว..! เธอรู้ได้อย่างไร” สเปิร์มปันทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก
“รู้สิ..ฉันรู้ว่าเธอตอบว่า มี 24 ชั่วโมงด้วย..ไปกันเหอะ ฉันหิวจะแย่แล้ว” ว่าแล้วสเปิร์มพิณก็เป็นฝ่ายเลื้อยนำออกไปโดยไม่นำพาสเปิร์มปันที่ยังคงยืนงงอยู่อย่างนั้น
............................................