การรักษาสิวจากเปลือกมังคุด หยุดเชื้อโรคตัวก่อสิว ??
เภสัชศาสตร์เชียงใหม่วิจัยปรุงยาแต้มหัวสิวจากน้ำหมักชีวภาพ เผยศึกษาเปรียบเทียบน้ำหมักจาก เปลือกมังคุด กระชายดำ ขมิ้นชันและใบบัวบก พบเปลือกมังคุดมีสารชีวภาพที่ดีสุดในการออกฤทธิ์ต้านแบคทีเรียตัวการเกิดสิวหัวหนอง รศ.พิมพร ลีลาพรพิสิฐ อาจารย์ประจำสายวิชาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และหัวหน้าโครงการศึกษาฤทธิ์ต้านแบคทีเรียก่อสิวของสารสกัดจากพืชและน้ำหมักพืชที่มีในไทย กล่าวถึงผลจากโครงการศึกษาดังกล่าวว่า น้ำหมักชีวภาพจากเปลือกมังคุดมีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดสำหรับพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์รักษาสิว โดยสามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย 2 ชนิด ที่เป็นตัวการก่อให้เกิดสิวหัวหนอง
ในการศึกษาได้เลือกน้ำหมักจากพืช 4 ชนิดที่พบในไทยคือ เปลือกมังคุด กระชายดำ ขมิ้นชันและใบบัวบก นำมาหมักแยกกันโดยใช้เชื้อจุลินทรีย์เป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นนำมากรองเพื่อแยกให้เหลือเฉพาะน้ำหมัก และส่งไปทดสอบประสิทธิภาพการรักษาสิว เปรียบเทียบ "สารสกัด" จากพืชชนิดเดียวกัน รศ.พิมพร กล่าว สำหรับแบคทีเรียในการทดสอบ ใช้โปรปิโอนิแบคทีเรียม แอคเน่ และสตาไฟโลคอกคัส ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดสิวหนอง โดยเชื้อตัวแรกกินไขมันเป็นอาหาร ส่วนเชื้อตัวหลังเป็นตัวก่อให้เกิดหนอง และกลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด จากการทดลองในระดับห้องปฏิบัติการพบว่า น้ำหมักชีวภาพและสารสกัดจากเปลือกมังคุดมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย ซึ่งเป็นตัวที่ก่อให้เกิดสิวหนองทั้งสองชนิดได้ดีที่สุด
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างน้ำหมักชีวภาพกับสารสกัดแล้วพบว่า "คุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวหนองนั้นไม่แตกต่างกัน แต่หากพิจารณาถึงขั้นตอนการผลิตเชิงอุตสาหกรรมแล้ว น้ำหมักชีวภาพสามารถทำได้ง่ายกว่า ขั้นตอนการผลิตไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน ขณะที่การสกัดสารจากพืชมีความซับซ้อนมากกว่า" นักวิจัย กล่าวและว่า การใช้น้ำหมักจากเปลือกมังคุดในผลิตภัณฑ์รักษาสิว ต้องคำนึงถึงความเข้มข้นที่เหมาะสมกับผิวหน้าด้วย โครงการศึกษาฤทธิ์ต้านแบคทีเรียก่อสิวของสารสกัดจากพืชและน้ำหมักพืชที่มีในไทยนี้ แม้จะแล้วเสร็จไปตั้งแต่ปี 2549 แต่ยังไม่มีการต่อยอดให้เป็นผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ในเร็วๆ นี้จะทดสอบในอาสาสมัคร ควบคู่กับการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ได้ผลดีเพิ่มขึ้น สำหรับต่อยอดให้เป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ต่อไป ขอขอบคุณ ข้อมูลที่มีประโยชน์จาก เว็บไซต์ นสพ.คมชัดลึก เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้บนโลกอินเตอร์เน็ต ผู้มีบทความทางด้านวิทยาศาสตร์น่ารู้ สามารถส่งผลงานของท่านมาได้ที่
โดย ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา เมื่อ 30 ปีที่แล้วคณะนักวิจัยที่ผมเป็นผู้ประสานงานอยู่ได้เริ่มทำงานวิจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติของ ผลมังคุด ประมาณ 9 ปีต่อมา เราจึงประสบความสำเร็จ ค้นพบคุณสมบัติเอนกอนันต์ของสารในมังคุด ซึ่งได้เผยแพร่ให้คนไทยได้ทราบผ่านสื่อมวลชน วิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
หลังจากที่ได้มีการทดสอบจนกระทั่งแน่ใจว่า GM-1 นั้นมีความปลอดภัยที่จะใช้ต่อได้ในระยะยาว จึงได้นำ GM-1 มาผสมใน เครื่องสำอาง แล้วทดสอบกับอาสาสมัครที่สภาพผิวมีปัญหาเรื้อรัง ทั้งในประเทศไทยและเยอรมัน อาทิ สิวอักเสบและผิวหยาบ กร้านพบว่า สภาพผิวดีขึ้นตามลำดับ เมื่อใช้เจลและสบู่ล้างหน้า และกว่า 85% มีสภาพผิวดีขึ้นมาก เมื่อใช้เจลบำรุงผิวร่วมด้วย ผลการวิจัยนี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นอุตสาหกรรมเครื่องสำอางในประเทศไทย ที่ช่วยแก้ปัญหาของผู้มีปัญหา ของผิวหน้าจากสิวและความหยาบกร้านทั้งชาวไทยและต่างชาติ
สรุปงานวิจัยที่ได้ทำสำเร็จในช่วงปี 2521-2531 ดังนี้
1.สามารถแยกสารบริสุทธิ์จำนวนมาก ศึกษาโครงสร้างทางเคมีและสรรพคุณ ในการระงับการเจริญของเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus ทั้งชนิดธรรมดาและ ที่ดื้อต่อยา penicillin และ methicillin
2.หนึ่งในสารบริสุทธิ์นี้คือ GM-1 ซึ่งมีประสิทธิภาพฆ่าเชื้อโรคได้ดีเยี่ยมเท่ากับยาปฏิชีวนะราคาแพง ที่ต้องสั่งเข้าจากต่างประเทศ คือ vancomycin
3.GM-1 สามารถระงับการเจริญของเชื้อราได้หลายชนิดที่เป็นต้นเหตุของโรคผิวหนัง
4.GM-1 มีความปลอดภัยเท่าๆกับยาแอสไพริน ปลอดภัยกว่ายาพาราเซตามอลและปลอดภัยกว่าสารที่ให้รสเปรี้ยวในส้มถึง 5 เท่า
5.ครีมที่ผลิตขึ้นโดยมี GM-1 เป็นส่วนประกอบรักษาแผลหนองได้ดีเยี่ยม
6.GM-1 ระงับการอักเสบได้ดีกว่าแอสไพริน 3 เท่า และสามารถลดอาการปวดได้ด้วย
7.ครีม GM-1 สามารถใช้ลดจุด และรอยด่างดำบนใบหน้า
นับจากวันนั้น ถึงวันนี้ คณะนักวิจัยของเราก็ดำเนินการวิจัยต่อเนื่องตลอดมา ในขณะเดียวกันนักวิจัยไทย และต่างชาติอีกหลายคณะได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับมังคุดด้วย สรุปสรรพคุณของสารจากผลมังคุดได้แน่ชัดจนถึงปัจจุบัน ดังนี้
1.ไม่เพียงไประงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย แต่ยังมีประสิทธิภาพ ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เทียบเท่ากับยาปฏิชีวนะราคาแพง
2. ป้องกันและต้านการอักเสบได้โดยมีประสิทธิภาพถึง 3 เท่าของแอสไพริน
3. ระงับอาการปวด และลดอาการแพ้ได้
4. ต้านอนุมูลอิสระได้ดี ช่วยระงับการเกิดโรคหัวใจ ซึ่งเกิดจาก LDL Cholesterol Oxidation
5. การทดสอบในหลอดทดลอง สารจากมังคุดระงับการเจริญและฆ่าเซลล์มะเร็งจากเต้านม มะเร็งในเม็ดเลือด มะเร็งในตับ มะเร็งในไต มะเร็งในทางเดินอาหารและมะเร็งในปอดได้
6. ระงับการเจริญของเชื้อวัณโรคในหลอดทดลองได้
7.ระงับการขยายตัวของเชื้อ HIV ในหลอดทดลองได้
8.เพิ่มความสามารถของเม็ดเลือดขาวในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมและเแบคทีเรีย (Phagocytic activity)
9.คณะนักวิจัยของเราพบว่าGM-1 ซึ่งเป็นสารจากมังคุดสารหนึ่งสามารถระงับการเสื่อมสลายของ กระดูกอ่อน (cartilage) ได้อย่างดีมาก รายละเอียดเหล่านี้ ปรากฎในรายงานการวิจัยที่รวบรวมไว้ท้ายนี้แล้ว
สารในมังคุดที่แสดงประสิทธิภาพที่กล่าวมาแล้วมีอยู่ 2 กลุ่มคือ polysaccharides และ xanthones ในช่วงปี ค.ศ. 2005 - 2006 บริษัทอเมริกันบริษัทหนึ่งจำหน่ายน้ำมังคุดโดยใช้การตลาดควบคู่กับ รายงานผลการวิจัยสรรพคุณมังคุด ที่ดำเนินการโดยนักวิทยาศาสตร์ไทยเป็นส่วนใหญ่ ได้รวมมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (40,000 ล้านบาท) และผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ต่างได้รับประโยชน์จากสรรพคุณ ของผลิตภัณฑ์นี้ในการ เสริมสุขภาพ ปัจจุบันนักวิจัยผลิตภัณฑ์ธรรมชาติทั่วโลกจึงยอมรับกันว่า xanthones เป็นสารธรรมชาติที่มีศักยภาพสูงในการช่วยเสริมสร้างสุขภาพและแก้ไขปัญหาสุขภาพ
เปลือกมังคุด
ส่วนเปลือกของมังคุดมีสารให้รสฝาด คือแทนนิน แซนโทน (โดยเฉพาะแมงโกสติน) ซึ่งแทนนินมีฤทธิ์ฝาดสมาน ทำให้แผลหายเร็ว ส่วนแมงโกสตินช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนองได้ดี ในทางยาสมุนไพร ใช้เปลือกมังคุดตากแห้งต้มกับน้ำหรือย่างไฟ ฝนกับน้ำปูนใส แก้ท้องเสีย เปลือกแห้งฝนกับน้ำปูนใส ใช้รักษาอาการน้ำกัดเท้า แผลเปื่อย นอกจากนี้ เปลือกมังคุดมีสารป้องกันเชื้อราเหมาะแก่การหมักปุ๋ย ชาวโอรังอัสลีในรัฐเประ ประเทศมาเลเซีย ใช้เปลือกผลแห้งรักษาแผลเปิด
ประโยชน์ของมังคุด
รับประทานสดเป็นผลไม้ หรือทำเป็นน้ำผลไม้ อย่าง น้ำมังคุด และน้ำเปลือกมังคุด
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอย
มีฤทธิ์ในการจับอนุมูลอิสระต่าง ๆได้มากกว่าผลไม้ชนิดอื่น ๆ
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส แข็งแรง
ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานให้แข็งแรง
มีส่วนช่วยป้องกันอาการไข้ (ไข้ระดับต่ำ)
ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ช่วยเพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
มังคุดรักษาสิว เปลือกมังคุดมีคุณสมบัติในการยัยยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว และยังออกฤทธิ์ต้านสิวอักเสบได้ดีอีกด้วย
มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคซึมเศร้า ลดความเครียด
ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน โรคเกี่ยวกับระบบประสาท
การรับประทานมังคุดเป็นประจำจะช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพจิตดี อารมณ์ดีอยู่เสมอ
สารสกัดจากมังคุดช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดขาวชนิด ทีเอช 1 และ ทีเอช 17 มีฤทธิ์ช่วยกำจัดและป้องกันการก่อเกิดเซลล์มะเร็งเกือบทุกชนิดได้
ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งชนิดต่าง ๆ อย่าง เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร
ช่วยในการขยายตัวของหลอดเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับทางเดินหัวใจ
ช่วยลดความดันโลหิต
ช่วยรักษาไทรอยด์เป็นพิษ
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย และลดไขมันที่ไม่ดีในเส้นเลือด
มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดเนื้องอกในร่างกาย
มีสวนช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน ด้วยคุณสมบัติในการลดและควบคุมระดับน้ำตาล
ช่วยป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้
มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการของโรคหอบหืด
มีส่วนช่วยบำรุงและรักษาสายตา
ช่วยบำรุงสุขภาพช่องปากและเหงือกให้แข็งแรง
ช่วยลดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์
ช่วยรักษาและสมานแผลในช่องปากหรือปากแตกให้หายเร็วยิ่งขึ้น
ไฟเบอร์จากมุงคุดช่วยในการย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องผูก
ช่วยบำรุงและฟื้นฟูความสมดุลภายในกระเพาะอาหาร ด้วยการยับยั้งการเจริญเติบโตเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของอาการท้องร่วง จุกเสียด เกิดแก๊สในกระเพาะและการดูดซึมอาหารบกพร่อง
สรรพคุณมังคุด ในทางสมุนไพรจะช่วยแก้อาการท้องเสีย ด้วยการใช้เปลือกมังคุดตากแห้งต้มกับน้ำหรือย่างไฟ นำมาฝนกับน้ำปูนใส
ช่วยแก้อาการท้องร่วงเรื้อรัง อาการถ่ายเป็นมูกเลือด ด้วยการใช้เปลือกสดหรือแห้งฝนกับน้ำรับประทาน หรือจะใช้เปลือกแห้งนำมาต้มกับน้ำดื่มก็ได้ผลเหมือนกัน
ช่วยให้ระบบทางเดินปัสสาวะอยู่ในสภาวะปกติ
ช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่วในไต
มีส่วนช่วยป้องกันอาการตับเสื่อม ไตวาย
ช่วยรักษาอาการข้อเข่าอักเสบ
เปลือกของมังคุดมีสารแทนนินที่มีฤทธิ์ฝาดสมาน ทำให้แผลหายเร็ว
ช่วยต่อต้านและป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เชื้อรา เชื้อจุลินทรีย์ และไวรัสต่าง ๆ อย่างเชื้อวัณโรค เชื้อ HIV เป็นต้น
ช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง (เปลือก)
ช่วยยับยั้งการเกิดและใช้รักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ อย่าง กลากเกลื้อน ผดผื่นคันต่าง ๆ ด้วยการใช้เปลือกมังคุดแห้งต้มน้ำอาบ หรือใช้น้ำต้มเปลือกมาทาบริเวณที่เป็น
มังคุดสรรพคุณ ทางยาสมุนไพรใช้เพื่อรักอาการน้ำกัดเท้า แผลเปื่อย ด้วยการใช้เปลือกแห้งฝนกับน้ำปูนใส
เปลือกมังคุดมีสารช่วยป้องกันเชื้อราจึงเหมาะแก่การหมักปุ๋ย
นำมาประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน เช่น แกง ยำ มังคุดลอยแก้ว ซอสมังคุด เป็นต้น
นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่าง มังคุดกวน แยมมังคุด มังคุดแช่อิ่ม ท๊อฟฟี่มังคุด
มังคุดมีสารจีเอ็ม-1 ซึ่งใช้เป็นประกอบในเครื่องสำอาง สำหรับผู้มีปัญหาสภาพผิวเรื้อรังจากสิวและอาการแพ้
นำมาแปรรูปเป็นสบู่เปลือกมังคุด ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยดับกลิ่นเต่า รักษาสิวฝ้า บรรเทาอาการของโรคผิวหนัง
ที่มา :
http://doodnees.blogspot.com/2015/08/bye-nikibi.html#more
ยาสิวจากเปลือกมังคุด หยุดเชื้อโรคตัวก่อสิวและมีประโยชน์อะไรอีก???
เภสัชศาสตร์เชียงใหม่วิจัยปรุงยาแต้มหัวสิวจากน้ำหมักชีวภาพ เผยศึกษาเปรียบเทียบน้ำหมักจาก เปลือกมังคุด กระชายดำ ขมิ้นชันและใบบัวบก พบเปลือกมังคุดมีสารชีวภาพที่ดีสุดในการออกฤทธิ์ต้านแบคทีเรียตัวการเกิดสิวหัวหนอง รศ.พิมพร ลีลาพรพิสิฐ อาจารย์ประจำสายวิชาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และหัวหน้าโครงการศึกษาฤทธิ์ต้านแบคทีเรียก่อสิวของสารสกัดจากพืชและน้ำหมักพืชที่มีในไทย กล่าวถึงผลจากโครงการศึกษาดังกล่าวว่า น้ำหมักชีวภาพจากเปลือกมังคุดมีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดสำหรับพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์รักษาสิว โดยสามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย 2 ชนิด ที่เป็นตัวการก่อให้เกิดสิวหัวหนอง
ในการศึกษาได้เลือกน้ำหมักจากพืช 4 ชนิดที่พบในไทยคือ เปลือกมังคุด กระชายดำ ขมิ้นชันและใบบัวบก นำมาหมักแยกกันโดยใช้เชื้อจุลินทรีย์เป็นเวลา 3 เดือน จากนั้นนำมากรองเพื่อแยกให้เหลือเฉพาะน้ำหมัก และส่งไปทดสอบประสิทธิภาพการรักษาสิว เปรียบเทียบ "สารสกัด" จากพืชชนิดเดียวกัน รศ.พิมพร กล่าว สำหรับแบคทีเรียในการทดสอบ ใช้โปรปิโอนิแบคทีเรียม แอคเน่ และสตาไฟโลคอกคัส ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดสิวหนอง โดยเชื้อตัวแรกกินไขมันเป็นอาหาร ส่วนเชื้อตัวหลังเป็นตัวก่อให้เกิดหนอง และกลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด จากการทดลองในระดับห้องปฏิบัติการพบว่า น้ำหมักชีวภาพและสารสกัดจากเปลือกมังคุดมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย ซึ่งเป็นตัวที่ก่อให้เกิดสิวหนองทั้งสองชนิดได้ดีที่สุด
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างน้ำหมักชีวภาพกับสารสกัดแล้วพบว่า "คุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวหนองนั้นไม่แตกต่างกัน แต่หากพิจารณาถึงขั้นตอนการผลิตเชิงอุตสาหกรรมแล้ว น้ำหมักชีวภาพสามารถทำได้ง่ายกว่า ขั้นตอนการผลิตไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน ขณะที่การสกัดสารจากพืชมีความซับซ้อนมากกว่า" นักวิจัย กล่าวและว่า การใช้น้ำหมักจากเปลือกมังคุดในผลิตภัณฑ์รักษาสิว ต้องคำนึงถึงความเข้มข้นที่เหมาะสมกับผิวหน้าด้วย โครงการศึกษาฤทธิ์ต้านแบคทีเรียก่อสิวของสารสกัดจากพืชและน้ำหมักพืชที่มีในไทยนี้ แม้จะแล้วเสร็จไปตั้งแต่ปี 2549 แต่ยังไม่มีการต่อยอดให้เป็นผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ในเร็วๆ นี้จะทดสอบในอาสาสมัคร ควบคู่กับการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ได้ผลดีเพิ่มขึ้น สำหรับต่อยอดให้เป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ต่อไป ขอขอบคุณ ข้อมูลที่มีประโยชน์จาก เว็บไซต์ นสพ.คมชัดลึก เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้บนโลกอินเตอร์เน็ต ผู้มีบทความทางด้านวิทยาศาสตร์น่ารู้ สามารถส่งผลงานของท่านมาได้ที่
โดย ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา เมื่อ 30 ปีที่แล้วคณะนักวิจัยที่ผมเป็นผู้ประสานงานอยู่ได้เริ่มทำงานวิจัยเกี่ยวกับคุณสมบัติของ ผลมังคุด ประมาณ 9 ปีต่อมา เราจึงประสบความสำเร็จ ค้นพบคุณสมบัติเอนกอนันต์ของสารในมังคุด ซึ่งได้เผยแพร่ให้คนไทยได้ทราบผ่านสื่อมวลชน วิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
หลังจากที่ได้มีการทดสอบจนกระทั่งแน่ใจว่า GM-1 นั้นมีความปลอดภัยที่จะใช้ต่อได้ในระยะยาว จึงได้นำ GM-1 มาผสมใน เครื่องสำอาง แล้วทดสอบกับอาสาสมัครที่สภาพผิวมีปัญหาเรื้อรัง ทั้งในประเทศไทยและเยอรมัน อาทิ สิวอักเสบและผิวหยาบ กร้านพบว่า สภาพผิวดีขึ้นตามลำดับ เมื่อใช้เจลและสบู่ล้างหน้า และกว่า 85% มีสภาพผิวดีขึ้นมาก เมื่อใช้เจลบำรุงผิวร่วมด้วย ผลการวิจัยนี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นอุตสาหกรรมเครื่องสำอางในประเทศไทย ที่ช่วยแก้ปัญหาของผู้มีปัญหา ของผิวหน้าจากสิวและความหยาบกร้านทั้งชาวไทยและต่างชาติ
สรุปงานวิจัยที่ได้ทำสำเร็จในช่วงปี 2521-2531 ดังนี้
1.สามารถแยกสารบริสุทธิ์จำนวนมาก ศึกษาโครงสร้างทางเคมีและสรรพคุณ ในการระงับการเจริญของเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus ทั้งชนิดธรรมดาและ ที่ดื้อต่อยา penicillin และ methicillin
2.หนึ่งในสารบริสุทธิ์นี้คือ GM-1 ซึ่งมีประสิทธิภาพฆ่าเชื้อโรคได้ดีเยี่ยมเท่ากับยาปฏิชีวนะราคาแพง ที่ต้องสั่งเข้าจากต่างประเทศ คือ vancomycin
3.GM-1 สามารถระงับการเจริญของเชื้อราได้หลายชนิดที่เป็นต้นเหตุของโรคผิวหนัง
4.GM-1 มีความปลอดภัยเท่าๆกับยาแอสไพริน ปลอดภัยกว่ายาพาราเซตามอลและปลอดภัยกว่าสารที่ให้รสเปรี้ยวในส้มถึง 5 เท่า
5.ครีมที่ผลิตขึ้นโดยมี GM-1 เป็นส่วนประกอบรักษาแผลหนองได้ดีเยี่ยม
6.GM-1 ระงับการอักเสบได้ดีกว่าแอสไพริน 3 เท่า และสามารถลดอาการปวดได้ด้วย
7.ครีม GM-1 สามารถใช้ลดจุด และรอยด่างดำบนใบหน้า
นับจากวันนั้น ถึงวันนี้ คณะนักวิจัยของเราก็ดำเนินการวิจัยต่อเนื่องตลอดมา ในขณะเดียวกันนักวิจัยไทย และต่างชาติอีกหลายคณะได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับมังคุดด้วย สรุปสรรพคุณของสารจากผลมังคุดได้แน่ชัดจนถึงปัจจุบัน ดังนี้
1.ไม่เพียงไประงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย แต่ยังมีประสิทธิภาพ ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เทียบเท่ากับยาปฏิชีวนะราคาแพง
2. ป้องกันและต้านการอักเสบได้โดยมีประสิทธิภาพถึง 3 เท่าของแอสไพริน
3. ระงับอาการปวด และลดอาการแพ้ได้
4. ต้านอนุมูลอิสระได้ดี ช่วยระงับการเกิดโรคหัวใจ ซึ่งเกิดจาก LDL Cholesterol Oxidation
5. การทดสอบในหลอดทดลอง สารจากมังคุดระงับการเจริญและฆ่าเซลล์มะเร็งจากเต้านม มะเร็งในเม็ดเลือด มะเร็งในตับ มะเร็งในไต มะเร็งในทางเดินอาหารและมะเร็งในปอดได้
6. ระงับการเจริญของเชื้อวัณโรคในหลอดทดลองได้
7.ระงับการขยายตัวของเชื้อ HIV ในหลอดทดลองได้
8.เพิ่มความสามารถของเม็ดเลือดขาวในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมและเแบคทีเรีย (Phagocytic activity)
9.คณะนักวิจัยของเราพบว่าGM-1 ซึ่งเป็นสารจากมังคุดสารหนึ่งสามารถระงับการเสื่อมสลายของ กระดูกอ่อน (cartilage) ได้อย่างดีมาก รายละเอียดเหล่านี้ ปรากฎในรายงานการวิจัยที่รวบรวมไว้ท้ายนี้แล้ว
สารในมังคุดที่แสดงประสิทธิภาพที่กล่าวมาแล้วมีอยู่ 2 กลุ่มคือ polysaccharides และ xanthones ในช่วงปี ค.ศ. 2005 - 2006 บริษัทอเมริกันบริษัทหนึ่งจำหน่ายน้ำมังคุดโดยใช้การตลาดควบคู่กับ รายงานผลการวิจัยสรรพคุณมังคุด ที่ดำเนินการโดยนักวิทยาศาสตร์ไทยเป็นส่วนใหญ่ ได้รวมมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (40,000 ล้านบาท) และผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ต่างได้รับประโยชน์จากสรรพคุณ ของผลิตภัณฑ์นี้ในการ เสริมสุขภาพ ปัจจุบันนักวิจัยผลิตภัณฑ์ธรรมชาติทั่วโลกจึงยอมรับกันว่า xanthones เป็นสารธรรมชาติที่มีศักยภาพสูงในการช่วยเสริมสร้างสุขภาพและแก้ไขปัญหาสุขภาพ
เปลือกมังคุด
ส่วนเปลือกของมังคุดมีสารให้รสฝาด คือแทนนิน แซนโทน (โดยเฉพาะแมงโกสติน) ซึ่งแทนนินมีฤทธิ์ฝาดสมาน ทำให้แผลหายเร็ว ส่วนแมงโกสตินช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนองได้ดี ในทางยาสมุนไพร ใช้เปลือกมังคุดตากแห้งต้มกับน้ำหรือย่างไฟ ฝนกับน้ำปูนใส แก้ท้องเสีย เปลือกแห้งฝนกับน้ำปูนใส ใช้รักษาอาการน้ำกัดเท้า แผลเปื่อย นอกจากนี้ เปลือกมังคุดมีสารป้องกันเชื้อราเหมาะแก่การหมักปุ๋ย ชาวโอรังอัสลีในรัฐเประ ประเทศมาเลเซีย ใช้เปลือกผลแห้งรักษาแผลเปิด
ประโยชน์ของมังคุด
รับประทานสดเป็นผลไม้ หรือทำเป็นน้ำผลไม้ อย่าง น้ำมังคุด และน้ำเปลือกมังคุด
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอย
มีฤทธิ์ในการจับอนุมูลอิสระต่าง ๆได้มากกว่าผลไม้ชนิดอื่น ๆ
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส แข็งแรง
ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานให้แข็งแรง
มีส่วนช่วยป้องกันอาการไข้ (ไข้ระดับต่ำ)
ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ช่วยเพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
มังคุดรักษาสิว เปลือกมังคุดมีคุณสมบัติในการยัยยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว และยังออกฤทธิ์ต้านสิวอักเสบได้ดีอีกด้วย
มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคซึมเศร้า ลดความเครียด
ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน โรคเกี่ยวกับระบบประสาท
การรับประทานมังคุดเป็นประจำจะช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพจิตดี อารมณ์ดีอยู่เสมอ
สารสกัดจากมังคุดช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดขาวชนิด ทีเอช 1 และ ทีเอช 17 มีฤทธิ์ช่วยกำจัดและป้องกันการก่อเกิดเซลล์มะเร็งเกือบทุกชนิดได้
ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งชนิดต่าง ๆ อย่าง เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร
ช่วยในการขยายตัวของหลอดเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับทางเดินหัวใจ
ช่วยลดความดันโลหิต
ช่วยรักษาไทรอยด์เป็นพิษ
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย และลดไขมันที่ไม่ดีในเส้นเลือด
มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดเนื้องอกในร่างกาย
มีสวนช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน ด้วยคุณสมบัติในการลดและควบคุมระดับน้ำตาล
ช่วยป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้
มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการของโรคหอบหืด
มีส่วนช่วยบำรุงและรักษาสายตา
ช่วยบำรุงสุขภาพช่องปากและเหงือกให้แข็งแรง
ช่วยลดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์
ช่วยรักษาและสมานแผลในช่องปากหรือปากแตกให้หายเร็วยิ่งขึ้น
ไฟเบอร์จากมุงคุดช่วยในการย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องผูก
ช่วยบำรุงและฟื้นฟูความสมดุลภายในกระเพาะอาหาร ด้วยการยับยั้งการเจริญเติบโตเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของอาการท้องร่วง จุกเสียด เกิดแก๊สในกระเพาะและการดูดซึมอาหารบกพร่อง
สรรพคุณมังคุด ในทางสมุนไพรจะช่วยแก้อาการท้องเสีย ด้วยการใช้เปลือกมังคุดตากแห้งต้มกับน้ำหรือย่างไฟ นำมาฝนกับน้ำปูนใส
ช่วยแก้อาการท้องร่วงเรื้อรัง อาการถ่ายเป็นมูกเลือด ด้วยการใช้เปลือกสดหรือแห้งฝนกับน้ำรับประทาน หรือจะใช้เปลือกแห้งนำมาต้มกับน้ำดื่มก็ได้ผลเหมือนกัน
ช่วยให้ระบบทางเดินปัสสาวะอยู่ในสภาวะปกติ
ช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่วในไต
มีส่วนช่วยป้องกันอาการตับเสื่อม ไตวาย
ช่วยรักษาอาการข้อเข่าอักเสบ
เปลือกของมังคุดมีสารแทนนินที่มีฤทธิ์ฝาดสมาน ทำให้แผลหายเร็ว
ช่วยต่อต้านและป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เชื้อรา เชื้อจุลินทรีย์ และไวรัสต่าง ๆ อย่างเชื้อวัณโรค เชื้อ HIV เป็นต้น
ช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง (เปลือก)
ช่วยยับยั้งการเกิดและใช้รักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ อย่าง กลากเกลื้อน ผดผื่นคันต่าง ๆ ด้วยการใช้เปลือกมังคุดแห้งต้มน้ำอาบ หรือใช้น้ำต้มเปลือกมาทาบริเวณที่เป็น
มังคุดสรรพคุณ ทางยาสมุนไพรใช้เพื่อรักอาการน้ำกัดเท้า แผลเปื่อย ด้วยการใช้เปลือกแห้งฝนกับน้ำปูนใส
เปลือกมังคุดมีสารช่วยป้องกันเชื้อราจึงเหมาะแก่การหมักปุ๋ย
นำมาประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน เช่น แกง ยำ มังคุดลอยแก้ว ซอสมังคุด เป็นต้น
นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่าง มังคุดกวน แยมมังคุด มังคุดแช่อิ่ม ท๊อฟฟี่มังคุด
มังคุดมีสารจีเอ็ม-1 ซึ่งใช้เป็นประกอบในเครื่องสำอาง สำหรับผู้มีปัญหาสภาพผิวเรื้อรังจากสิวและอาการแพ้
นำมาแปรรูปเป็นสบู่เปลือกมังคุด ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยดับกลิ่นเต่า รักษาสิวฝ้า บรรเทาอาการของโรคผิวหนัง
ที่มา : http://doodnees.blogspot.com/2015/08/bye-nikibi.html#more