ใจนี้เป็นเครื่องยืนยันภพชาติของสัตว์มาเป็นเวลานานแสนนาน ไม่มีต้นไม่มีปลาย คำว่าสัตว์เกิดแล้วตาย เกิดแล้วตาย มีมาเลยกัปเลยกัลป์ คือนับไม่ได้ แล้วไม่มีจิตวิญญาณแม้ดวงเดียว ตายแล้วสูญไม่มี มีแต่ตายแล้วเกิด ตายแล้วเกิด การเกิดนั่นเกิดสูง ๆ ต่ำ ๆ เหมือนมดไต่ขอบด้ง ท่านแสดงไว้ในธรรมว่า ในวัฏวนสามท่านแสดงไว้ว่า กิเลสวัฏฏ์ กิเลสเป็นวัฏวนอันหนึ่งพาสัตว์ให้ทำกรรม กรรมวัฏฏ์ กรรมคือการกระทำดีชั่ว ก็เป็นวัฏวนอันหนึ่งที่จะหมุนสัตว์ให้ไปทางสูง ทางต่ำ ทางดี ทางชั่ว ทางสุขและทุกข์ อันที่สามท่านเรียกว่า วิปากวัฏฏ์ นี่คือผลแห่งการทำดีทำชั่วที่เกิดขึ้นจากกรรมวัฏฏ์
กรรมวัฏฏ์เกิดขึ้นจากกิเลสวัฏฏ์เป็นเครื่องหนุนให้ทำกรรม คืออยู่เฉย ๆ ไม่ได้สัตว์โลก ต้องทำกรรม กิเลสมันหมุนให้ทำ ส่วนมากมันหมุนให้ไปทางต่ำ ทีนี้คำว่ากรรมของวัฏจักร สัตว์โลกย่อมมีทั้งดีทั้งชั่วแทรกอยู่ในหัวใจตนเอง จึงไม่มีแต่ชั่วล้วน ๆ พอจะจมทีเดียวเลย มีดีที่ฉุดที่ลากกันไว้ ท่านจึงเรียกว่ากรรมวัฏฏ์ คือกรรมนี่ทำดีทำชั่วอยู่ในสัตว์ ในบุคคล เสมอหน้ากันหมด ใครระลึกได้ไม่ระลึกได้ เชื่อไม่เชื่อก็ตาม ว่าการทำนี้ผิดหรือถูก ดีหรือชั่ว ทำได้ด้วยกัน ผิดมีได้ด้วยกัน ถูกมีได้ด้วยกัน นี่ล่ะจึงเป็นกรรมดีกรรมชั่ว สูง ๆ ต่ำ ๆ จึงเรียกว่าวิปากวัฏฏ์ คือรับผลของกรรมดีชั่วนี้มาแล้ว ถ้าผลทางชั่วมันก็หมุนลงทางต่ำให้มีความทุกข์มากลำบากลำบน ถ้าผลในทางดีก็หมุนขึ้น ๆ ถ้าดีสุดยอดพ้นไปเลย นี่ท่านเรียกว่าวิปากวัฏฏ์
ท่านเรียกว่า วัฏวนสาม คือมันพาสัตว์ให้วนตลอด คำว่าตายแล้วสูญไม่มี ไม่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใด ซึ่งล้วนแล้วเป็นศาสดาองค์เอกมาสอนโลกด้วยกันนี้ ไม่มีพระพุทธเจ้าพระองค์ใดจะสอนแหวกแนวว่าตายแล้วสูญ แม้แต่วิญญาณดวงเดียวของสัตว์โลกอย่างนี้ไม่มี แสดงเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ตายแล้วเกิด ๆ คือเกิดด้วยอำนาจแห่งดีและชั่ว จึงมีสูงมีต่ำลุ่ม ๆ ดอน ๆ ถ้าหมดเกิด พ้นแล้วก็ไม่ตาย พ้นแล้วก็ไม่สูญ ตกอยู่ในนรกกี่กัปกี่กัลป์ ความทุกข์ความลำบากหนักเบามากน้อยเพียงไร ในนรกหลุมนั้น ๆ จิตวิญญาณดวงนี้ยอมรับเสวยกรรม แต่ไม่ยอมสูญ
เมื่อพ้นจากรรมมาแล้วเพราะกฎของกรรมย่อมเป็นกฎอนิจจัง และเปลี่ยนแปลงขึ้นมา มาทางดีก็ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสร้างความดีถึงบรรลุพระนิพพาน ถึงพระนิพพานแล้วเป็นอมตจิต อมตธรรม ไม่มีคำว่าตาย ถึงแดนนิพพานแล้วเรียกว่าไม่ตายและไม่เกิดด้วย ส่วนลงทางนรกนี้ไม่สูญ มีเปลี่ยนแปลงมาตลอด ๆ นิพพานแล้วไม่เปลี่ยน นี่ละจิตวิญญาณดวงนี้จึงไม่เคยมีในจิตดวงใดของสัตว์โลกว่าตายแล้วได้สูญไป มีแต่ตายแล้วเกิด ตายแล้วเกิด
เมื่อสิ้นความเกิดทุกอย่างแล้วก็ไม่ตาย ท่านจึงเรียกว่าธรรมเลิศเลอ คืออมตธรรม ดังที่ท่านแสดงไว้ว่า ทุกฺขํ นตฺถิ อชาตสฺส ทุกข์ย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่เกิด คือเกิดมาต้องยอมรับทุกข์หนักเบามากน้อยเป็นธรรมดา เมื่อไม่เกิดหมดสมมุติแล้ว ทุกข์ก็ไม่มี เพราะทุกข์ก็เป็นสมมุติ สิ้นซากไปหมดตามกิเลส ไม่มีอะไรเหลือ นั่นแหละถึงอมตมหานิพพาน นี่เรียกว่าไม่สูญ แต่ไม่สูญในธรรมขั้นสุดยอด หายกังวลเรื่องใจที่เป็นนักท่องเที่ยวก่อเกิดตายที่นั่นที่นี่ดังเป็นมาแต่ก่อนไม่มี พอจิตบริสุทธิ์แล้วพุ่งถึงนิพพาน นิพพานเที่ยง
นี่ละท่านแสดงไว้ในวัฏวนสาม กิเลสวัฏฏ์ กรรมวัฏฏ์ วิปากวัฏฏ์ ทำสัตว์ให้หมุนไปอย่างนี้ วิปากวัฏฏ์ ทำดีทำชั่ว ได้ผลดีผลชั่ว ก็ต้องเป็นสุขเป็นทุกข์ พอพ้นจากนี้แล้วก็ถึงนิพพาน แล้วก็ไม่สูญคำว่าจิต ให้พากันเข้าใจให้ถูกต้องตามทางของศาสดาที่สอนไว้โดยถูกต้อง ทุกพระองค์สอนไว้เป็นแบบเดียวกัน อย่าพากันไปลุ่มหลงกับกิเลสตัณหาตาบอด มันทำพวกเราให้ตาบอดตกเหวตกบ่อมาตั้งกัปตั้งกัลป์ มีแต่กิเลสทั้งนั้นหลอกลวงสัตว์โลก แต่ธรรมท่านไม่เคยหลอกลวงใครเลย ไม่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใดไม่เคยหลอกลวง สอนธรรมเป็นความสัตย์ความจริงล้วน ๆ ไม่ว่าพระองค์ไหนสอนแบบเดียวกัน บุญมีสอนแบบเดียวกันหมด ไม่มีคัดค้าน เพราะเห็นอย่างเดียวกัน รู้อย่างเดียวกัน จะไปลบล้างความรู้ความเห็นของตนได้ยังไง
นี่แหละท่านเรียกว่าเป็นเสียงเดียวกัน บาป บุญ นรก สวรรค์ นิพพาน ท่านสอนไว้แบบเดียวกันหมด อย่าไปหลงตาม กิเลสมันก็สอนแบบเดียวกันหมด ไม่มีกิเลสตัวใดจะเอาความจริงมาสอนสัตว์โลก ให้สัตว์โลกวิ่งตามแล้วไปสวรรค์นิพพาน เหมือนเราเกี่ยวเราเกาะ ยึดธรรมเป็นทางเดินถึงนิพพานได้ กิเลสเกาะไปเท่าไรก็ลงไป ๆ นี่เขาก็เป็นหนึ่งของเขาเหมือนกัน ฝ่ายกิเลสนี้จะมีแต่ความหลอกลวงต้มตุ๋นโดยถ่ายเดียว ความจริงไม่มี ฝ่ายธรรมมีแต่ความจริงโดยถ่ายเดียว ความจอมปลอมไม่มี
เพราะฉะนั้นจึงเป็นสองฝั่ง จิตใจเราเป็นเหมือนคลอง ฝ่ายบาปนั้นเป็นริมคลองข้างหนึ่ง ฝ่ายบุญฝ่ายธรรมเป็นริมคลองข้างหนึ่ง ใจอยู่ในท่ามกลางรับเคราะห์รับกรรมของมันอยู่ เพราะฉะนั้นใจได้ชำระเรียบร้อยแล้ว จึงปัดสิ่งที่จอมปลอมทั้งหลายถึงขั้นบริสุทธิ์ได้ พากันจำเอานะ วันนี้เทศน์เพียงเท่านั้น ให้จำให้แม่นยำเรื่องจิตตายแล้วเกิด ๆ ตายแล้วสูญ คำว่าตายแล้วสูญไม่มีในพุทธศาสนา มีแต่ตายแล้วเกิดล้วนๆ อย่างนี้ทุกพระองค์ของศาสดาที่สอนโลกมา
เรื่องของกิเลสมันมีทั้งตายเกิดตายสูญ ตายเกิดมันไม่ได้ปฏิเสธว่าตายแล้วไม่เกิด แต่มันหลอกสัตว์ให้ไปหาที่ล่มจม ตายสูญประกาศป้างเลย ตายแล้วสูญเลย ทำดีทำชั่วอะไรไม่รับผลทั้งนั้น นี่ประเภทหนึ่งของพวกกิเลส ประเภทหนึ่งตายแล้วเกิด แต่เคยเกิดเป็นอะไรก็เกิดเป็นอันนั้น เคยเกิดเป็นสัตว์ชนิดนี้เกิดเป็นนี้ตลอดไป เกิดเป็นคนเกิดเป็นคนนี้ตลอดไป มีแต่เรื่องหลอกลวง ไม่มีอะไรจริง ต่อไปนี้จะให้ศีลให้พร
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
ตายแล้วสูญไม่มีในพุทธศาสนา
กรรมวัฏฏ์เกิดขึ้นจากกิเลสวัฏฏ์เป็นเครื่องหนุนให้ทำกรรม คืออยู่เฉย ๆ ไม่ได้สัตว์โลก ต้องทำกรรม กิเลสมันหมุนให้ทำ ส่วนมากมันหมุนให้ไปทางต่ำ ทีนี้คำว่ากรรมของวัฏจักร สัตว์โลกย่อมมีทั้งดีทั้งชั่วแทรกอยู่ในหัวใจตนเอง จึงไม่มีแต่ชั่วล้วน ๆ พอจะจมทีเดียวเลย มีดีที่ฉุดที่ลากกันไว้ ท่านจึงเรียกว่ากรรมวัฏฏ์ คือกรรมนี่ทำดีทำชั่วอยู่ในสัตว์ ในบุคคล เสมอหน้ากันหมด ใครระลึกได้ไม่ระลึกได้ เชื่อไม่เชื่อก็ตาม ว่าการทำนี้ผิดหรือถูก ดีหรือชั่ว ทำได้ด้วยกัน ผิดมีได้ด้วยกัน ถูกมีได้ด้วยกัน นี่ล่ะจึงเป็นกรรมดีกรรมชั่ว สูง ๆ ต่ำ ๆ จึงเรียกว่าวิปากวัฏฏ์ คือรับผลของกรรมดีชั่วนี้มาแล้ว ถ้าผลทางชั่วมันก็หมุนลงทางต่ำให้มีความทุกข์มากลำบากลำบน ถ้าผลในทางดีก็หมุนขึ้น ๆ ถ้าดีสุดยอดพ้นไปเลย นี่ท่านเรียกว่าวิปากวัฏฏ์
ท่านเรียกว่า วัฏวนสาม คือมันพาสัตว์ให้วนตลอด คำว่าตายแล้วสูญไม่มี ไม่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใด ซึ่งล้วนแล้วเป็นศาสดาองค์เอกมาสอนโลกด้วยกันนี้ ไม่มีพระพุทธเจ้าพระองค์ใดจะสอนแหวกแนวว่าตายแล้วสูญ แม้แต่วิญญาณดวงเดียวของสัตว์โลกอย่างนี้ไม่มี แสดงเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ตายแล้วเกิด ๆ คือเกิดด้วยอำนาจแห่งดีและชั่ว จึงมีสูงมีต่ำลุ่ม ๆ ดอน ๆ ถ้าหมดเกิด พ้นแล้วก็ไม่ตาย พ้นแล้วก็ไม่สูญ ตกอยู่ในนรกกี่กัปกี่กัลป์ ความทุกข์ความลำบากหนักเบามากน้อยเพียงไร ในนรกหลุมนั้น ๆ จิตวิญญาณดวงนี้ยอมรับเสวยกรรม แต่ไม่ยอมสูญ
เมื่อพ้นจากรรมมาแล้วเพราะกฎของกรรมย่อมเป็นกฎอนิจจัง และเปลี่ยนแปลงขึ้นมา มาทางดีก็ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสร้างความดีถึงบรรลุพระนิพพาน ถึงพระนิพพานแล้วเป็นอมตจิต อมตธรรม ไม่มีคำว่าตาย ถึงแดนนิพพานแล้วเรียกว่าไม่ตายและไม่เกิดด้วย ส่วนลงทางนรกนี้ไม่สูญ มีเปลี่ยนแปลงมาตลอด ๆ นิพพานแล้วไม่เปลี่ยน นี่ละจิตวิญญาณดวงนี้จึงไม่เคยมีในจิตดวงใดของสัตว์โลกว่าตายแล้วได้สูญไป มีแต่ตายแล้วเกิด ตายแล้วเกิด
เมื่อสิ้นความเกิดทุกอย่างแล้วก็ไม่ตาย ท่านจึงเรียกว่าธรรมเลิศเลอ คืออมตธรรม ดังที่ท่านแสดงไว้ว่า ทุกฺขํ นตฺถิ อชาตสฺส ทุกข์ย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่เกิด คือเกิดมาต้องยอมรับทุกข์หนักเบามากน้อยเป็นธรรมดา เมื่อไม่เกิดหมดสมมุติแล้ว ทุกข์ก็ไม่มี เพราะทุกข์ก็เป็นสมมุติ สิ้นซากไปหมดตามกิเลส ไม่มีอะไรเหลือ นั่นแหละถึงอมตมหานิพพาน นี่เรียกว่าไม่สูญ แต่ไม่สูญในธรรมขั้นสุดยอด หายกังวลเรื่องใจที่เป็นนักท่องเที่ยวก่อเกิดตายที่นั่นที่นี่ดังเป็นมาแต่ก่อนไม่มี พอจิตบริสุทธิ์แล้วพุ่งถึงนิพพาน นิพพานเที่ยง
นี่ละท่านแสดงไว้ในวัฏวนสาม กิเลสวัฏฏ์ กรรมวัฏฏ์ วิปากวัฏฏ์ ทำสัตว์ให้หมุนไปอย่างนี้ วิปากวัฏฏ์ ทำดีทำชั่ว ได้ผลดีผลชั่ว ก็ต้องเป็นสุขเป็นทุกข์ พอพ้นจากนี้แล้วก็ถึงนิพพาน แล้วก็ไม่สูญคำว่าจิต ให้พากันเข้าใจให้ถูกต้องตามทางของศาสดาที่สอนไว้โดยถูกต้อง ทุกพระองค์สอนไว้เป็นแบบเดียวกัน อย่าพากันไปลุ่มหลงกับกิเลสตัณหาตาบอด มันทำพวกเราให้ตาบอดตกเหวตกบ่อมาตั้งกัปตั้งกัลป์ มีแต่กิเลสทั้งนั้นหลอกลวงสัตว์โลก แต่ธรรมท่านไม่เคยหลอกลวงใครเลย ไม่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใดไม่เคยหลอกลวง สอนธรรมเป็นความสัตย์ความจริงล้วน ๆ ไม่ว่าพระองค์ไหนสอนแบบเดียวกัน บุญมีสอนแบบเดียวกันหมด ไม่มีคัดค้าน เพราะเห็นอย่างเดียวกัน รู้อย่างเดียวกัน จะไปลบล้างความรู้ความเห็นของตนได้ยังไง
นี่แหละท่านเรียกว่าเป็นเสียงเดียวกัน บาป บุญ นรก สวรรค์ นิพพาน ท่านสอนไว้แบบเดียวกันหมด อย่าไปหลงตาม กิเลสมันก็สอนแบบเดียวกันหมด ไม่มีกิเลสตัวใดจะเอาความจริงมาสอนสัตว์โลก ให้สัตว์โลกวิ่งตามแล้วไปสวรรค์นิพพาน เหมือนเราเกี่ยวเราเกาะ ยึดธรรมเป็นทางเดินถึงนิพพานได้ กิเลสเกาะไปเท่าไรก็ลงไป ๆ นี่เขาก็เป็นหนึ่งของเขาเหมือนกัน ฝ่ายกิเลสนี้จะมีแต่ความหลอกลวงต้มตุ๋นโดยถ่ายเดียว ความจริงไม่มี ฝ่ายธรรมมีแต่ความจริงโดยถ่ายเดียว ความจอมปลอมไม่มี
เพราะฉะนั้นจึงเป็นสองฝั่ง จิตใจเราเป็นเหมือนคลอง ฝ่ายบาปนั้นเป็นริมคลองข้างหนึ่ง ฝ่ายบุญฝ่ายธรรมเป็นริมคลองข้างหนึ่ง ใจอยู่ในท่ามกลางรับเคราะห์รับกรรมของมันอยู่ เพราะฉะนั้นใจได้ชำระเรียบร้อยแล้ว จึงปัดสิ่งที่จอมปลอมทั้งหลายถึงขั้นบริสุทธิ์ได้ พากันจำเอานะ วันนี้เทศน์เพียงเท่านั้น ให้จำให้แม่นยำเรื่องจิตตายแล้วเกิด ๆ ตายแล้วสูญ คำว่าตายแล้วสูญไม่มีในพุทธศาสนา มีแต่ตายแล้วเกิดล้วนๆ อย่างนี้ทุกพระองค์ของศาสดาที่สอนโลกมา
เรื่องของกิเลสมันมีทั้งตายเกิดตายสูญ ตายเกิดมันไม่ได้ปฏิเสธว่าตายแล้วไม่เกิด แต่มันหลอกสัตว์ให้ไปหาที่ล่มจม ตายสูญประกาศป้างเลย ตายแล้วสูญเลย ทำดีทำชั่วอะไรไม่รับผลทั้งนั้น นี่ประเภทหนึ่งของพวกกิเลส ประเภทหนึ่งตายแล้วเกิด แต่เคยเกิดเป็นอะไรก็เกิดเป็นอันนั้น เคยเกิดเป็นสัตว์ชนิดนี้เกิดเป็นนี้ตลอดไป เกิดเป็นคนเกิดเป็นคนนี้ตลอดไป มีแต่เรื่องหลอกลวง ไม่มีอะไรจริง ต่อไปนี้จะให้ศีลให้พร
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน