[CR] น่าน หน้าฝน

สวัสดีวันฝนพรำ
หยุดเข้าพรรษานี้ ไปไหว้พระ 9 วัดกันเถอะ
ว่าแล้วก็จัดกระเป๋าเดินทางไปน่าน (ต้องไปไกลขนาดนั้นเชียวเหร๋อ?)
วางแผนได้ว่า 9 วัด ต้องใช้เวลา 3 วัน 2 คืน (นานขนาดนั้นเลยเหร๋อ?)


รวบรวมได้ 5 ชีวิต ออกเดินทางจากเชียงใหม่ มุ่งตรงสู่ น่าน
Day I เชียงใหม่ > น่าน > "หอศิลป์ริมน่าน" > กินเย็น"บ่อเกลือวิว" > นอน"ม่อนสายลม"
Day II กินเช้า"กลิ่นไอเกลือ" > วัดบ่อหลวง > "บ่อเกลือสินเธาว์ภูเขา" > กินเที่ยง"café de Pua" > วัดปรางค์ > วัดพระธาตุเขาน้อย > วัดหัวข่วง > กินเย็น"สะเนียน" > นอน"เฮือนข่วงน่าน"
Day III กินเช้า"ตลาดตั้งจิตนุสรณ์" > วัดพระธาตุแช่แห้ง > วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร > วัดภูมินทร์ > วัดมิ่งเมือง > วัดศรีพันต้น > ดื่มชากาแฟหน่อยมั้ย"สุดกองดี" > เชียงใหม่
เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ตามแผนที่เลยจร้า


ออกตัวก่อนว่าทริปนี้ เที่ยวแบบราคานักศึกษา (คนละ 2000 บาท รวมทุกอย่าง)
นอนแบบธรรมดา (คืนละ 250 บาท/คน)
และกินแบบอดมื้อกินมื้อ (อดในที่นี้คือเดินทางแล้วไม่มีเวลากิน เลยกินไม่ครบ 3 มื้อ)

เคารพธงชาติเสร็จก็ออกเดินทางจากเชียงใหม่
พี่ชายคนเก่งขับรถ เข้าโค้ง ขึ้นเขา ลงเขา คนเดียวตลอดเส้นทาง
ส่วน 4 สาว นั่งเม้าส์บ้าง กินบ้าง นอนบ้าง เป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีตลอดเส้นทาง
เพลิน เพลิน กันไป
บ่าย 3 โมง ถึง "หอศิลป์ริมน่าน"
ซื้อบัตรเข้าชม คนละ 20 บาท

บัตร 20 บาทนี้ แลกโปสการ์ดได้ 1 ใบ

เดินชมงานศิลปะกันไป
น่านไง...กระซิบรักแบบนานาชาติ

น่านไง...กระซิบแบบฝีพระหัตถ์

และอีกส่วนคือ “เฮือนหนานบัวผัน”
ซึ่งหนานบัวผันเป็นศิลปินผู้เขียนภาพกระซิบรักปู่ม่านย่าม่าน...น่านเอง
ในส่วนนี้ห้ามถ่ายภาพนะ ต้องมาดูด้วยตัวเอง


แล้วออกเดินทางไปยังอำเภอบ่อเกลือ
พร้อมกับโทรคอนเฟิร์มที่พักว่า "ออกจากน่านแล้วนะ แล้วเจอกันค่ะ"
ผ่านไปทางอำเภอปัวอย่างรวดเร็ว (บอกตัวเองว่า เดี๋ยวแวะมาเก็บพรุ่งนี้)
จะเร็วได้แค่ไหนกันเชียว ทางขึ้นบ่อเกลือเป็นเขาเขียวขจีนะ

ฝนตกด้วยนะ ทัศนะวิสัยไม่ค่อยดี ระยะการมองก็จำกัด

แถมยังมีจุดชมวิวให้แวะด้วย



แต่ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ


ถึงบ่อเกลือแล้ว นี่เราลืมกินข้าวเที่ยงกันใช่มั้ย?
จัดไป เที่ยง+เย็น ที่ "บ่อเกลือวิว"
เห็นราคาที่พักแล้ว นักศึกษาอย่างเราๆแวะมากินข้าวก็พอ
อ่ออออ ที่นี่"มะแข่วน"เค้าเด่นนะ เอาปรุงอาหารหลายๆอย่าง
ทำให้รสชาติที่ได้มีเอกลักษณ์ โดนเด่นไม่เหมือนที่เคยๆกิน และมีกลิ่นเฉพาะตัว
ถามว่าอร่อยมั้ย? อย่าลืมนะว่าเราๆหิวมากกกก ฉะนั้นคุณๆต้องมาลองเอง
ไก่ทอดมะแข่วน

น้ำพริกมะแข่วนคั่วหมู

ต้มยำไก่เมือง (ไม่มีชื่อมะแข่วน แต่ก็ยังใส่มะแข่วน)

ปลา 3 รส

และยำผักกูด เมนูนี้อร่อยจริง ทางเราจัดไป 2 จาน

อีกอย่างที่นี่มีแต่ข้าวกล้องให้ทานนะคะ

รวมค่าเสียหายแล้วเป็นเงิน 1,382 บาท ราคานักศึกษารับได้

ขณะกำลังกินมื้อเย็นอยู่นั้น ทางที่พักโทรมาไถ่ถามด้วยว่า
"เห็นว่ามืดค่ำแล้ว หลงทางหรือป่าววว" คือดี๊ดี
ที่พักอยู่สูงกว่าใครๆ ในละแวกเดียวกัน มาหน้าฝนแบบนี้หายห่วงเรื่องน้ำป่าไหลหลาก
มาดูในส่วนห้องพัก มีแค่นี้จริงๆ งานมินิมอลมากๆ

แล้วห้องน้ำล่ะ อยู่ไหน?
เป็นห้องน้ำรวม แต่สะอาดและมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ สบายใจได้
สำหรับคืนนี้ฝากเนื้อฝากตัว นอนฟังเสียงธรรมชาติ บรรยากาศชุ่มฉ่ำปอดที่ม่อนสายลม

มอร์นิง...
ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า มาเสพภาพขุ่นเขาที่หยอกเย้าสายหมอก
เก็บวิวพาโนหน้าห้องพัก

บ้าน 3 หลังนี้เป็นของเรา "ฟ้าใส ไอดิน กลิ่นเกลือ" คือชื่อของเค้า

ทักทายเหล่ามดๆ และดอกไม้ยามเช้า

เดินระวังๆหน่อยนะ ฝนตกดินโคลนค่อนข้างลื่น

แต่ก้อเดินๆเถอะ เพราะยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์

อากาศดี ในบรรยากาศแบบส่วนตั๊วส่วนตัวขนาดที่ว่า
เราสามารถใส่ชุดนอน เดินหน้าสดได้เลยทีเดียว

มุมอาหารเช้าพร้อมเสิร์ฟ 7 โมง


ลาแล้วววววว บ๊ะบาย"ม่อนสายลม"ที่รัก


ออกจากม่อนสายลม เลี้ยวซ้ายมาสัก 5 กิโลเมตร
มาเติมน้ำมันปั๊ม ปตท.เล็กๆ ที่ราคาแพงกว่าในเมืองลิตรละ 5 บาท

แล้วขับย้อนกลับมา ไปดูเกลือสินเธาว์ภูเขา ที่เค้าเคลมว่า 1 เดียวในโลก

แต่ช้าแต่ มื้อเช้าไม่อิ่ม แวะกินข้าวก่อนนะ ร้านนี้แหล่ะ ตรงข้ามกับป้ายเลย

ดื่มกาแฟมาแล้ว ขอน้ำเปล่าพอ

ข้าวหมูทอดกระเทียม (เพิ่มไข่ดาวด้วย 45 บาท)
(จานนี้รุ่นพี่กินนะ รุ่นพี่บอกว่าเป็นหมูแข็งแรง กล้ามเนื้อแน่น เคี้ยวยากมาก)

ส่วนจานนี้เรากินเอง ข้าวผัดผักรวม (35 บาท)
ผักสด กรอบ น้ำผัดผักกินพร้อมกับข้าวแล้วกระชับรสชาติมาก

มองตรงไปเห็น"วัดบ่อหลวง"คิดว่าน่าจะเป็นวัดเล็กๆประจำหมู่บ้าน
อย่ากระนั้นเลย เราเป็นทริปทำบุญ ไหว้พระ ช่วงเข้าพรรษา นินา
ไปถวายเทียนพรรษา และชุดยาสามัญประจําบ้านกันเถอะ



หลังจากนั้นเราๆก็ไปชมบ่อเกลือ
เริ่มจากบ่อเกลือโบราณ 800 ปี


และ และ แล้ว หยุดต้มเกลือช่วงเข้าพรรษา

แต่ยังมีเหลือขายอยู่นะ

เดินชมหมู่บ้านบ้าง


บ๊ะบายนะบ่อเกลือ

แล้วมุ่งหน้าสู่อำเภอปัว ขากลับจอดข้างทาง ล่าทะเลหมอกบ้าง



แวะจุดชุมวิวอีกครั้ง แก้มือเมื่อวานที่ฝนตก

ต้นชมพูภูคา (ช่วงนี้เค้าไม่ออกดอก แต่เป็นต้นนี้แน่เพราะมีป้ายบอก)

แวะถ่ายรูปกับป้ายอุทยาน
รุ่นพี่เจอแมลงเจ้าถิ่น วุ่นวายนิดหน่อย เรายืนยิ้มแล้วกดชัตเตอร์ซะ


ออกมาถึงอำเภอปัว กลับรถมากินเที่ยงที่ "café de Pua"

เครื่องดื่มเย็นๆราคาอยู่ที่ 35-50 บาท (ถูกกว่าที่เชียงใหม่ซะอีก)

เรากิน สปาเกตตีคาโบนารา อร่อยดี ชีสแน่นเลย (99 บาท)

ไปชิม สปาเกตตีเบคอนผัดพริกแห้ง ของเพื่อนสาว (89 บาท)
อร่อยเหมือนกัน อยากกินอีกคำก็เกรงใจ

รุ่นพี่ๆกิน ข้าวผัดต้มยำ+ทะเลทอด (69 บาท)
ก็ไปชิม ข้าวผัดต้มยำติดเค็มไปนิด ส่วนทะเลทอดเราไม่ให้ผ่านนะ

ปิดท้ายด้วย ฮันนีโทส
เอาจริงๆนะ เราว่ามันเป็นขนมที่โดยส่วนตัวเราเองแยกแยะไม่ได้
รสชาติเหมือนๆกันไปหมด เอาเป็นว่าแต่ละร้านเค้าต่างกันที่การตกแต่งล่ะกันนะ

จากนั้นไปไหว้พระ "วัดปรางค์"
และไปชมต้นดิกเดียม ต้นไม้ที่จะสั่นไหวเมื่อถูกคนสัมผัส
แต่ทว่า หน้าฝนลมแรง ลมพัดใบสั่นไหวตลอดเลย


บ๊ะบายแล้วปัว

นั่งรถยาวๆ เข้าเมืองน่านกันอีกครั้ง
ช่วงนี้เค้าทำถนนเส้นนี้กันนะ ขับเร็วไม่ได้ เบี่ยงซ้าย-ขวาตลอด
ชื่อสินค้า:   น่าน บ่อเกลือ วัดในตัวเมืองน่าน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่