Part 2....เช้าวันใหม่กินข้าวเช้าเสร็จ...
...ก็พร้อมออกเดินทาง แต่บรรยากาศก็ยังครึ้มฟ้าครึ้มฝนอยู่ แต่ถ้าไม่ออกไปก็คงนั่งเบื่อที่โรงแรม เลยตัดสินใจออกไป พร้อมกับจักรยานและร่มที่ยืมจากโรงแรม และมั่วทางเอา(ถามไปตลอดทาง) วัดแรกที่เราไปเยือน..
..วัดสวนตาล..
ต่อไปที่ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ..วัดภูมินทร์..แวะกินข้าวที่ร้านต้นน้ำ ทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าวซอย ปิดท้ายด้วยชาเย็น และมื้อเที่ยง หมดไป 85 บาทออกจากร้านต้นน้ำมาสักพักก็มาถึง.. วัดมิ่งเมือง..และศาลหลักเมืองน่านจะอยู่ที่นี่สถานีต่อมา..วัดศรีพันต้น ที่เหลืองอร่ามงดงามมั่วทางมาก็มาเจอวัดไผ่เหลือง (ไม่ได้เอาแผนที่มาด้วยแต่ตามสถานที่สำคัญๆ ที่มีแผนที่ติดอยู่ แต่ส่วนมากก็มั่วเอา) ซึ่งจะอยู่ถนนสายเดียวกัน ก็มาถึง...วัดหัวข่วงตรงข้ามกับวัดก็เป็นพิพิธภัณฑ์ (เห็นว่าเสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท และวันที่ไปเขาปิด)  ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์ก็เป็นวัดพระธาตุช้างค้ำ และวัดภูมินทร์ตามลำดับจักรยานเมืองน่าน
วัดกู่คำมุ่งหน้าเดินทางต่อ สู่....วัดพระธาตุแช่แห้ง.. ข้ามแม่น้ำน่าน ระหว่างทาง ..ถึงที่หมาย..เคียงข้าง..และกลับเข้าสู่เมืองสู่วัดภูพญามั่วไปเรื่อย จนมาถึงที่ไหนสักที่ของเมืองน่าน
บ่อบำบัดน้ำเสียเมืองน่านที่มองเห็นวัดพระธาตุเขาน้อย...อยู่ไกลๆตกเย็นก็เดินเที่ยวกาด(ตลาด)ช่างเมืองกลับโรงแรมแปบเลยได้รถเครื่องพี่เบสไปที่....วัดพระธาตุเขาน้อย (ก่อนถึงวัดพระธาตุเขาน้อยจะผ่านวัดพญาวัด ที่มีพระธาตุจามเทวีที่มีอายุกว่า 700 ปี แต่มันใกล้มืดแล้วเราเลยไม่ได้แวะ)เมื่อกี้เราอยู่ตรงนั้นพักหายเหนื่อยสักพักสักพักมีพี่คนหนึ่งเป็นนักปั่นจักรยานชวนเราไปเที่ยวที่ไร่ ที่รู้จักชื่อทีหลัง “พี่เบนซ์” แบบว่าก็(งงตัวเองเหมือกันว่าทำไมถึงกล้าไปกับพี่เขา)
เราก็มาเจอไร่ผาบังตะวัน ที่อยู่หลังพระธาตุเขาน้อย ที่นี่มีที่ให้เรามากางเต็นท์นอนรับลม เหมาะไปกับกลุ่มไปกลุ่มใหญ่ ร้องเพลงสังสรรค์วัน (ติดต่อได้ 080-080-1662 พี่เบนซ์ ถ้ามีโอกาสเราก็จะไปเหมือนกัน) พูดคุยทำความรู้จักให้ชื่นใจ พี่เบนซ์ก็เอารถไปส่งที่ปากทางเข้าไร่ เพราะเย็นมากแล้วและบอกเลยว่ามาเปลี่ยวมาก
   วันนี้ก็หมดแรงกันไป แต่สนุกมาก และเริ่มรู้จักถนนหนทางในเมืองน่านบ้าง จากการไปแบบมั่วๆ