บทที่ 1
รถยนต์เมอส์เซเดสเบนซ์สีดำคันหรูมีละอองฝุ่นเกาะทั่วทั้งคัน อันเนื่องจากขับผ่านถนนลูกรังที่ถนนลาดยางยังมาไม่ถึง เศษฝุ่นละอองจากดินแดงปลิวลอยฟุ้งกระจายตามท้องถนน รถยนต์คันหรูแล่นผ่านมาด้วยความเร็วเพียงเล็กน้อย แล้วจอดรถทันทีเมื่อมาถึงหน้าประตูโรงเรียน โรงเรียนที่มีสภาพคล้ายตึกร้าง อาคารเรียนเก่าๆสีอาคารหลุดลอกเป็นจุดๆผลที่เกิดจากการกัดเซาะของฝนและแสงแดด กำแพงโรงเรียนที่ทำท่าจะพังแหล่มิพังแหล่ บวกกับป้ายชื่อโรงเรียนที่มองเห็นไม่ชัดเจน โรงเรียนบ้านโคกมะขามหวาน ต่อท้ายด้วยคำขวัญโรงเรียน
“กีฬาเด่น เน้นวินัย วิชาการเป็นเลิศ”
เด็กหญิงวัยสิบสองปีที่มีดวงตากลมโต ผมสีดำขลับยาวสลวยนั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถคันงามมองออกมาข้างนอกผ่านกระจกใสด้วยสายตาพะอืดพะอมปนรังเกียจในสถานที่ที่ตนจะต้องมาเรียน แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆตามที่พ่อบอกก็ตาม ส่วนผู้เป็นพ่อก็จ้องมองลูกสาวตัวน้อยด้วยความสงสารที่จะต้องพาลูกมาเรียนในที่ๆห่างไกลความเจริญมากขนาดนี้แต่เพราะจำเป็นจึงต้องทำ สถานการณ์ ณ.ตอนนี้ตัวเขาเองก็มีทางเลือกน้อยเหลือเกิน
“กีฬาเด่น เน้นวินัย วิชาการเป็นเลิศ” เด็กสาวพูดขึ้นทำลายความเงียบที่ตัวเองเก็บกดไว้มานาน น้ำเสียงออกจะประชดประชัดเต็มที่เพื่อแสดงให้ผู้เป็นพ่อได้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้
“ฟ้าไม่ยอมเรียนที่นี้แน่นอนคะคุณพ่อ คุณพ่อแน่ใจนะคะว่าที่นี้เป็นโรงเรียน” เด็กสาวชื่อฟ้างามทำหน้าไม่พอใจหันไปพูดกับผู้เป็นพี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ
“แค่ระยะเวลาสั้นๆนะลูกตอนนี้ ตอนนี้พ่อเจอปัญหาต่างๆมากมายเสร็จเรื่องเมื่อไหร่พ่อจะกลับมารับลูก” เกรียงไกร กิจวิทยากุลผู้เป็นพ่อหันไปพูดกับลูกสาวตัวน้อยที่ตอนนี้ได้แต่ทำหน้าบึ้งตึงไม่ยอมแม้แต่จะหันหน้ามองพ่อ เมื่อไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบจากคนเป็นลูกสาวจึงได้พูดต่อ
“พ่อว่าก็ดีออกนะลูกจะได้เพื่อนใหม่ได้ประสบการณ์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นไง มาอยู่บ้านนอกบ้างจะได้รู้วิถีของชาวบ้าน พ่อว่าน่าสนุกนะที่นี้เป็นที่ๆแม่ของลูกเคยเรียนด้วยนะ” พ่อพูดติดตลกก่อนจะยื่นมือไปหยิกแก้มลูกสาวเชิงหยอกล้อ แต่ก็โดนลูกสาวสะบัดหน้าหนีอย่างสุดเคือง
“ฟ้าเป็นนักเรียนที่สอบได้คะแนนสูงสุดของโรงเรียนชื่อดัง เป็นหัวหน้าห้องที่ทุกคนเกรงใจ เป็นดาวเด่นที่สุดในโรงเรียนแต่ดูตอนนี้ซิค่ะ คุณพ่อให้หนูมาทำอะไรที่นี้”ฟ้างามพูดด้วยความโมโหกระแทกแขนตัวเองกอดอกอย่างไม่พอใจ ในขณะที่ผู้เป็นพ่อก็อดยมยิ้มไม่ได้ที่เห็นลูกสาวตัวน้อยแสดงทีท่าเหมือนเป็นผู้ใหญ่แบบนี้ แต่ก็หนักใจกับพฤติกรรมที่เข้าแต่ใจของฟ้างาม โตขึ้นถ้าเป็นผู้ใหญ่อาจจะไม่น่ารักแบบนี้แล้ว
“ลูกฟ้า ลูกอยู่แค่ ม.1เองนะลูกไม่ต้องคิดเรื่องอะไรที่มันเยอะแยะขนนาดนั้นเลย และพ่อเชื่อว่าลูกสาวพ่อไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนลูกก็เด่นและเป็นที่หนึ่งเสมอ” เกรียงไกรได้แต่เอามือลูกหัวลูบสาวด้วยความเอ็นดู
“ฟ้าไม่ชอบที่นี้ฟ้าไม่ชอบโรงเรียนนี้ เกลียดป้ายโรงเรียนเกลียดอาคารเรียนที่ดูเหมือนบ้านผีสิงและเกลียดคุณพ่อที่พาลูกมาที่นี้”น้ำเสียงที่โกรธเกลียดเปล่งออกมาจากปากลูกสาวตัวน้อยเธอสะบัดศีรษะออกจากมือพ่อ ฟ้างามกระแทกประตูรถเปิดออกและปิดมันลงอย่างแรง
เกรียงไกรผู้เป็นพ่อได้แต่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของลูกสาวที่ดูจะไม่น่ารักเอาซะเลย
“นับวัน ยายฟ้ายิ่งเอาแต่ใจและร้ายกาจขึ้นทุกวันจริงๆ ฉันซินะที่ทำให้ลูกต้องเป็นแบบนี้ฉันเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องเลยใช่ไหม วิเชียร” เกรียงไกรพูดกับคนขับรถที่นั่งมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลังด้วยความห่วงใย
“ไม่ใช่ความผิดของท่านหรอกครับอย่าโทษตัวเองเลย คุณหนูฟ้าแกยังเด็กก็แค่เอาแต่ใจตามประสาแด็กนั่นล่ะครับ” วิเชียรให้กำลังใจเจ้านาย
“ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะโตขึ้นคงเป็นเด็กดี เราไปกันเถอะวิเชียร” เกรียงไกรออกคำสั่งคนขับรถทันทีที่เห็นลูกสาวตัวน้อยกำลังโวยวายใส่เพื่อนนักเรียนที่วิ่งมาชน
หน้าโรงเรียนที่ดูราวกับบ้านผีสิงเด็กนักเรียนหญิงสองคนยืนต่อว่าให้กันแบบที่ไม่มีใครยอมใคร แต่จะว่าไปแล้วคงจะเป็นเด็กนักเรียนหญิงคนใหม่ซะมากกว่าที่เป็นฝ่ายด่าทอเพื่อนตัวน้อยที่ยืนหัวหดเสียจนดูไม่ออกแล้วว่าเธอมีหัวหรือเปล่า
“นี่เธอไม่มีตาหรือไงฉันยืนอยู่ดีๆยังวิ่งมาชนได้ แต่งตัวก็สกปรกมารยาทยังไม่มีอีก” ฟ้างามนักเรียนใหม่ที่เพิ่งก้าวลงจากรถเบนซ์สีดำสุดหรู ต่อว่านักเรียนหญิงที่วิ่งมาชนเธออย่างแรงหน้าประตูทางเข้าโรงเรียน
“ขอโทษจ้ะ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะวิ่งชนเธอนะ” เด็กนักเรียนหญิงที่มีผมยุ่งเหยิงเหมือนไม่ได้หวีผมมาหลายวัน เสื้อนักเรียนสีขาวซีดและกระโปรงที่มีรอยปะสี่ห้าจุดดูแล้วไม่เหมือนกับกระโปรงนักเรียนเอาเสียเลย ก้มหัวขอโทษผู้ถูกกระทำอย่างรู้สึกผิด เมื่อเห็นหน้าของอีกฝ่ายดูท่าจะโมโหไม่น้อยทีเดียว มันไม่ดีต่อเธอแน่ที่จะสร้างศัตรูที่เพิ่งมาใหม่คนนี้
“นี่จำไว้เลยนะอย่ามาชนฉันเป็นครั้งที่สอง ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องเสียใจแน่ ยายสกปรกไปให้ไกลๆ ฉันเลยนะ” ฟ้างามพูดขู่อย่างเอาเรื่องพลางกับใช้มือปัดเสื้อตัวเองไปมาเหมือนกับว่าความสกปรกเหล่านั้นจะติดเสื้อเธอด้วย
“จ้ะ รับลองได้เลยมันจะไม่เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอนฉันรับปาก” เด็กนักเรียนหญิงก้มหน้าตอบรับอย่างกลัวๆ
“ว่าแต่เธอเพิ่งมาใหม่เหรอฉันไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเลย เธอสวยจังผมก็สวยผิวก็สวย ชุดนักเรียนเธอก็สวยด้วย ฉันชอบชุดนักเรียนใหม่แต่ฉันไม่เคยได้ใส่ชุดใหม่เลยแม้แต่ครั้งเดียว”เด็กนักเรียนหญิงหน้ามอมแมมเปลี่ยนจากที่หวาดกลัวกลายเป็นชื่นชมนักเรียนใหม่อย่างประจบประแจง
“อืม” ฟ้างามตอบรับอย่างรำคาญอยากจะเดินหนีใจแทบขาด
“เธอชื่ออะไรเหรอ”
“ฟ้างาม รู้ชื่อฉันแล้วก็ช่วยหลีกทางให้หน่อย” คนที่ยืนฟังไม่ได้สนใจคำขับไล่ของอีกฝ่าย
“ฉันชื่อใบบัวนะยินดีที่ได้รู้จักจ้ะฟ้างามคนสวย ชื่อเธอนี่เพราะจริงๆเลยนะ” นักเรียนหญิงที่ชื่อใบบัวยังคงพูดประจบประแจงไม่รู้จบโดยที่ไม่สนใจอีกฝ่ายที่ทำท่าหงุดหงิดเต็มที
“เราเป็นเพื่อนกันไหม” ใบบัวยังคงตื้อไม่เลิกหวังจะได้เพื่อนใหม่ทีหน้าตาสวยจะได้พลอยให้ตัวเองดูดีไปด้วย
“บังเอิญฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอนะ เธอคิดว่าเธอคู่ควรจะเป็นเพื่อนกับฉันหรือไง ฟังให้ดีนะยายใบบัวเน่าคุณหนูอย่างฉันไม่มีวันเป็นเพื่อนกับเธอหรอกเข้าใจไว้ด้วยนะ” ฟ้างามมองใบบัวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาขยักแขยงเป็นที่สุดเมื่อต้องคิดว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าจะมาเป็นเพื่อนกับเธอ ในขณะที่ใบบัวก็ได้ก้มห้าอย่างอับอายและรู้สึกผิดหวังกับมิตรภาพที่เธอหยิบยื่นให้กับคุณหนูผู้เย่อหยิ่งคนนี้
“โอ๊ยโอ๊ย” ใบบัวร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อมีอะไรบางอย่างกระแทกเข้าที่หัวของเธอ เธอหันไม่ตามที่มาของวัตถุนั้นและก็ต้องร้องขึ้นอีกเมื่อก้อนหินอีกหลายก้อนพุ่งตรงมาที่หน้าผาก ไหล่ แขน ขาหน้าท้องและตามจุดต่างๆของร่างกาย ก้อนหินถูกขว้างมาใส่เธออย่างไม่ขาดสาย
“หยุดนะ หยุดได้แล้วฉันเจ็บนะ โอ๊ย โอ๊ย ….” เสียงใบบัวตะโกนบอกนักเรียนชายที่ขว้างก้อนหินใส่โดยไม่ทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ
“ฮ่าฮ่า สมน้ำหน้าสะใจโว้ย”เด็กนักเรียนชายที่อยู่หน้าสุดหัวเราะอย่างชอบใจและเพื่อนที่อยู่ข้าหลังอีกสองคนก็หัวเราะตาม
“หยุดนะฉันเจ็บ” ใบบัวยังร้องบอกผู้โจมตีด้วยกระสุนก้อนหินก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาเป็นสายด้วยความเจ็บปวดเป็นที่สุด
“หยุดนะไอ้พวกอันธพาล” ฟ้างามตะโกนบอกเสียงดังฟังชัดทำเอาผู้ที่โจมตีด้วยกระสุนก้อนหินต้องชะงักค้างทันที เมื่อฟ้างามเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าใบบัว
“นางฟ้าชัดๆ” เด็กนักเรียนชายที่อยู่หน้าสุดอุทานออกมาด้วยความชื่นชมในความงามของนักเรียนใหม่ ฟ้างามจ้องนักเรียนชายที่มีใบหน้ากวนๆผมสีน้ำตาลอ่อนคิ้วดกดำ จมูกโด่งเข้ากับรูปหน้าได้อย่างพอดี แต่มีพลาสเตอร์ยาติดที่จมูกมองดูตลกยังไงชอบกลจนทำเอาคนมองอดที่จะหัวเราะออกไม่ได้
“หัวเราะอะไรคนสวย” คนหน้ากวนถามอย่างงงๆในปฏิกิริยาของอีกฝ่าย
“เปล่า ไม่มีอะไร” ฟ้างามตอบเสียงราบเรียบร่องรอยการหัวเราะหายไปทันทีเปลี่ยนเป็นหน้าดุจริงจัง
“พวกนายขอโทษเธอเดี๋ยวนี้นะ ขอโทษที่พวกนายขว้างก้อนหินใส่เธอ”ฟ้างามพูดเสียงใส่ใบหน้ากวนๆที่ได้แต่ยืนเลิกคิ้วไปมาอย่างน่าหมั่นไส้
“ถ้าไม่ล่ะคนสวยจะทำไมเหรอ” ใบหน้ากวนๆแลบลิ้นใส่ใบบัวแล้วหันมายิ้มให้นักเรียนใหม่
“ก็ไม่ทำไมหรอกฉันก็แค่….” พูดยังไม่ทันขาดคำนักเรียนใหม่ผมยาวสลวยดวงตากลมโตคนนี้ก็แตะขาเข้าที่หว่างขาของชายใบหน้ากวนๆคนนี้เข้าเต็มแรง
“โอ๊ยโอ๊ย ยัย ยายยย” ผู้โดนแตะกล่องดวงใจร้องอย่างเจ็บปวด มือหนึ่งกุมของรักไว้หมั่นอีกมือหนึ่งชี้หน้าคนแตะอย่างเคียดแค้นหวังจะด่าให้สาแก่ใจแต่ก็เจ็บเกินกว่าจะนึกคำด่าออก
“เชอะ นึกว่าแน่” ฟ้างามสะบัดหน้าใส่ปลายผมนุ่มสลวยของเธอปัดโดนแก้มของเขาอย่างแผ่วเบากลิ่นหอมของเส้นผมสัมผัสกับจมูกของเขาความเจ็บปวด
ถูกกลบด้วยความหอมและความนุ่มของเส้นผม เขานิ่งไปช่วงขณะเหมือนเวลาหยุดเคลื่อนไหวมือที่ค้างไว้เริ่มลูบไล้กับปลายผมนุ่มนวลนั้นโดยที่เจ้าของผมไม่ทันรู้ตัว
เธอเดินออกห่างเข้าไปเรื่อยๆมุ่งสู่ตึกอาคารเรียนที่เหมือนตึกร้างโดยที่มีใบบัววิ่งตามอย่างกับหมาจรจัดที่ได้เจ้านายใหม่เป็นมหาเศรษฐี
ในขณะที่เขานิ่งมองด้านหลังของเธอเส้นผมดำยาวพัดปลิวไปตามสายลมอวัยวะภายในบางอย่างของเขาเต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ เขาได้แต่คิดว่านั้นเป็นผลมาจากกล่องดวงใจของเขาถูกกระแทกจากขาของเธอ นั่นคือสิ่งที่เขาคิดว่าถูกต้องที่สุดแล้ว
จบแล้วนะคะบทที่ 1
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนมาอ่านค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นนิยายรักเรื่องแรกของผู้เขียนคะ หากใครเคยอ่านงานเขียนที่ผู้เขียนเคยแต่งส่วนใหญ่จะออกไปทางแนวแฟนตาซีน นิยายเยาวชน
ผู้เขียนอยากลองแต่งดูหลายๆแนวค่ะ และต้องบอกก่อนว่าแนวนี้ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ใครมีอะไรแนะนำติชมได้เลยนะคะ หากเจอคำเขียนผิดบอกได้เลยค่ะ
ผู้เขียนเกลาไปแล้วรอบหนึ่งแต่อาจไม่หมด เพราะง่วงแล้วค่ะแต่อยากลง อิอิ
นิยายรัก....พลิกร้ายให้รักลงล็อก บทที่ 1
รถยนต์เมอส์เซเดสเบนซ์สีดำคันหรูมีละอองฝุ่นเกาะทั่วทั้งคัน อันเนื่องจากขับผ่านถนนลูกรังที่ถนนลาดยางยังมาไม่ถึง เศษฝุ่นละอองจากดินแดงปลิวลอยฟุ้งกระจายตามท้องถนน รถยนต์คันหรูแล่นผ่านมาด้วยความเร็วเพียงเล็กน้อย แล้วจอดรถทันทีเมื่อมาถึงหน้าประตูโรงเรียน โรงเรียนที่มีสภาพคล้ายตึกร้าง อาคารเรียนเก่าๆสีอาคารหลุดลอกเป็นจุดๆผลที่เกิดจากการกัดเซาะของฝนและแสงแดด กำแพงโรงเรียนที่ทำท่าจะพังแหล่มิพังแหล่ บวกกับป้ายชื่อโรงเรียนที่มองเห็นไม่ชัดเจน โรงเรียนบ้านโคกมะขามหวาน ต่อท้ายด้วยคำขวัญโรงเรียน “กีฬาเด่น เน้นวินัย วิชาการเป็นเลิศ”
เด็กหญิงวัยสิบสองปีที่มีดวงตากลมโต ผมสีดำขลับยาวสลวยนั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถคันงามมองออกมาข้างนอกผ่านกระจกใสด้วยสายตาพะอืดพะอมปนรังเกียจในสถานที่ที่ตนจะต้องมาเรียน แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆตามที่พ่อบอกก็ตาม ส่วนผู้เป็นพ่อก็จ้องมองลูกสาวตัวน้อยด้วยความสงสารที่จะต้องพาลูกมาเรียนในที่ๆห่างไกลความเจริญมากขนาดนี้แต่เพราะจำเป็นจึงต้องทำ สถานการณ์ ณ.ตอนนี้ตัวเขาเองก็มีทางเลือกน้อยเหลือเกิน
“กีฬาเด่น เน้นวินัย วิชาการเป็นเลิศ” เด็กสาวพูดขึ้นทำลายความเงียบที่ตัวเองเก็บกดไว้มานาน น้ำเสียงออกจะประชดประชัดเต็มที่เพื่อแสดงให้ผู้เป็นพ่อได้เข้าใจความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้
“ฟ้าไม่ยอมเรียนที่นี้แน่นอนคะคุณพ่อ คุณพ่อแน่ใจนะคะว่าที่นี้เป็นโรงเรียน” เด็กสาวชื่อฟ้างามทำหน้าไม่พอใจหันไปพูดกับผู้เป็นพี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ
“แค่ระยะเวลาสั้นๆนะลูกตอนนี้ ตอนนี้พ่อเจอปัญหาต่างๆมากมายเสร็จเรื่องเมื่อไหร่พ่อจะกลับมารับลูก” เกรียงไกร กิจวิทยากุลผู้เป็นพ่อหันไปพูดกับลูกสาวตัวน้อยที่ตอนนี้ได้แต่ทำหน้าบึ้งตึงไม่ยอมแม้แต่จะหันหน้ามองพ่อ เมื่อไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบจากคนเป็นลูกสาวจึงได้พูดต่อ
“พ่อว่าก็ดีออกนะลูกจะได้เพื่อนใหม่ได้ประสบการณ์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นไง มาอยู่บ้านนอกบ้างจะได้รู้วิถีของชาวบ้าน พ่อว่าน่าสนุกนะที่นี้เป็นที่ๆแม่ของลูกเคยเรียนด้วยนะ” พ่อพูดติดตลกก่อนจะยื่นมือไปหยิกแก้มลูกสาวเชิงหยอกล้อ แต่ก็โดนลูกสาวสะบัดหน้าหนีอย่างสุดเคือง
“ฟ้าเป็นนักเรียนที่สอบได้คะแนนสูงสุดของโรงเรียนชื่อดัง เป็นหัวหน้าห้องที่ทุกคนเกรงใจ เป็นดาวเด่นที่สุดในโรงเรียนแต่ดูตอนนี้ซิค่ะ คุณพ่อให้หนูมาทำอะไรที่นี้”ฟ้างามพูดด้วยความโมโหกระแทกแขนตัวเองกอดอกอย่างไม่พอใจ ในขณะที่ผู้เป็นพ่อก็อดยมยิ้มไม่ได้ที่เห็นลูกสาวตัวน้อยแสดงทีท่าเหมือนเป็นผู้ใหญ่แบบนี้ แต่ก็หนักใจกับพฤติกรรมที่เข้าแต่ใจของฟ้างาม โตขึ้นถ้าเป็นผู้ใหญ่อาจจะไม่น่ารักแบบนี้แล้ว
“ลูกฟ้า ลูกอยู่แค่ ม.1เองนะลูกไม่ต้องคิดเรื่องอะไรที่มันเยอะแยะขนนาดนั้นเลย และพ่อเชื่อว่าลูกสาวพ่อไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนลูกก็เด่นและเป็นที่หนึ่งเสมอ” เกรียงไกรได้แต่เอามือลูกหัวลูบสาวด้วยความเอ็นดู
“ฟ้าไม่ชอบที่นี้ฟ้าไม่ชอบโรงเรียนนี้ เกลียดป้ายโรงเรียนเกลียดอาคารเรียนที่ดูเหมือนบ้านผีสิงและเกลียดคุณพ่อที่พาลูกมาที่นี้”น้ำเสียงที่โกรธเกลียดเปล่งออกมาจากปากลูกสาวตัวน้อยเธอสะบัดศีรษะออกจากมือพ่อ ฟ้างามกระแทกประตูรถเปิดออกและปิดมันลงอย่างแรง
เกรียงไกรผู้เป็นพ่อได้แต่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของลูกสาวที่ดูจะไม่น่ารักเอาซะเลย
“นับวัน ยายฟ้ายิ่งเอาแต่ใจและร้ายกาจขึ้นทุกวันจริงๆ ฉันซินะที่ทำให้ลูกต้องเป็นแบบนี้ฉันเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องเลยใช่ไหม วิเชียร” เกรียงไกรพูดกับคนขับรถที่นั่งมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลังด้วยความห่วงใย
“ไม่ใช่ความผิดของท่านหรอกครับอย่าโทษตัวเองเลย คุณหนูฟ้าแกยังเด็กก็แค่เอาแต่ใจตามประสาแด็กนั่นล่ะครับ” วิเชียรให้กำลังใจเจ้านาย
“ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะโตขึ้นคงเป็นเด็กดี เราไปกันเถอะวิเชียร” เกรียงไกรออกคำสั่งคนขับรถทันทีที่เห็นลูกสาวตัวน้อยกำลังโวยวายใส่เพื่อนนักเรียนที่วิ่งมาชน
หน้าโรงเรียนที่ดูราวกับบ้านผีสิงเด็กนักเรียนหญิงสองคนยืนต่อว่าให้กันแบบที่ไม่มีใครยอมใคร แต่จะว่าไปแล้วคงจะเป็นเด็กนักเรียนหญิงคนใหม่ซะมากกว่าที่เป็นฝ่ายด่าทอเพื่อนตัวน้อยที่ยืนหัวหดเสียจนดูไม่ออกแล้วว่าเธอมีหัวหรือเปล่า
“นี่เธอไม่มีตาหรือไงฉันยืนอยู่ดีๆยังวิ่งมาชนได้ แต่งตัวก็สกปรกมารยาทยังไม่มีอีก” ฟ้างามนักเรียนใหม่ที่เพิ่งก้าวลงจากรถเบนซ์สีดำสุดหรู ต่อว่านักเรียนหญิงที่วิ่งมาชนเธออย่างแรงหน้าประตูทางเข้าโรงเรียน
“ขอโทษจ้ะ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะวิ่งชนเธอนะ” เด็กนักเรียนหญิงที่มีผมยุ่งเหยิงเหมือนไม่ได้หวีผมมาหลายวัน เสื้อนักเรียนสีขาวซีดและกระโปรงที่มีรอยปะสี่ห้าจุดดูแล้วไม่เหมือนกับกระโปรงนักเรียนเอาเสียเลย ก้มหัวขอโทษผู้ถูกกระทำอย่างรู้สึกผิด เมื่อเห็นหน้าของอีกฝ่ายดูท่าจะโมโหไม่น้อยทีเดียว มันไม่ดีต่อเธอแน่ที่จะสร้างศัตรูที่เพิ่งมาใหม่คนนี้
“นี่จำไว้เลยนะอย่ามาชนฉันเป็นครั้งที่สอง ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องเสียใจแน่ ยายสกปรกไปให้ไกลๆ ฉันเลยนะ” ฟ้างามพูดขู่อย่างเอาเรื่องพลางกับใช้มือปัดเสื้อตัวเองไปมาเหมือนกับว่าความสกปรกเหล่านั้นจะติดเสื้อเธอด้วย
“จ้ะ รับลองได้เลยมันจะไม่เกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอนฉันรับปาก” เด็กนักเรียนหญิงก้มหน้าตอบรับอย่างกลัวๆ
“ว่าแต่เธอเพิ่งมาใหม่เหรอฉันไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเลย เธอสวยจังผมก็สวยผิวก็สวย ชุดนักเรียนเธอก็สวยด้วย ฉันชอบชุดนักเรียนใหม่แต่ฉันไม่เคยได้ใส่ชุดใหม่เลยแม้แต่ครั้งเดียว”เด็กนักเรียนหญิงหน้ามอมแมมเปลี่ยนจากที่หวาดกลัวกลายเป็นชื่นชมนักเรียนใหม่อย่างประจบประแจง
“อืม” ฟ้างามตอบรับอย่างรำคาญอยากจะเดินหนีใจแทบขาด
“เธอชื่ออะไรเหรอ”
“ฟ้างาม รู้ชื่อฉันแล้วก็ช่วยหลีกทางให้หน่อย” คนที่ยืนฟังไม่ได้สนใจคำขับไล่ของอีกฝ่าย
“ฉันชื่อใบบัวนะยินดีที่ได้รู้จักจ้ะฟ้างามคนสวย ชื่อเธอนี่เพราะจริงๆเลยนะ” นักเรียนหญิงที่ชื่อใบบัวยังคงพูดประจบประแจงไม่รู้จบโดยที่ไม่สนใจอีกฝ่ายที่ทำท่าหงุดหงิดเต็มที
“เราเป็นเพื่อนกันไหม” ใบบัวยังคงตื้อไม่เลิกหวังจะได้เพื่อนใหม่ทีหน้าตาสวยจะได้พลอยให้ตัวเองดูดีไปด้วย
“บังเอิญฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอนะ เธอคิดว่าเธอคู่ควรจะเป็นเพื่อนกับฉันหรือไง ฟังให้ดีนะยายใบบัวเน่าคุณหนูอย่างฉันไม่มีวันเป็นเพื่อนกับเธอหรอกเข้าใจไว้ด้วยนะ” ฟ้างามมองใบบัวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาขยักแขยงเป็นที่สุดเมื่อต้องคิดว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าจะมาเป็นเพื่อนกับเธอ ในขณะที่ใบบัวก็ได้ก้มห้าอย่างอับอายและรู้สึกผิดหวังกับมิตรภาพที่เธอหยิบยื่นให้กับคุณหนูผู้เย่อหยิ่งคนนี้
“โอ๊ยโอ๊ย” ใบบัวร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อมีอะไรบางอย่างกระแทกเข้าที่หัวของเธอ เธอหันไม่ตามที่มาของวัตถุนั้นและก็ต้องร้องขึ้นอีกเมื่อก้อนหินอีกหลายก้อนพุ่งตรงมาที่หน้าผาก ไหล่ แขน ขาหน้าท้องและตามจุดต่างๆของร่างกาย ก้อนหินถูกขว้างมาใส่เธออย่างไม่ขาดสาย
“หยุดนะ หยุดได้แล้วฉันเจ็บนะ โอ๊ย โอ๊ย ….” เสียงใบบัวตะโกนบอกนักเรียนชายที่ขว้างก้อนหินใส่โดยไม่ทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ
“ฮ่าฮ่า สมน้ำหน้าสะใจโว้ย”เด็กนักเรียนชายที่อยู่หน้าสุดหัวเราะอย่างชอบใจและเพื่อนที่อยู่ข้าหลังอีกสองคนก็หัวเราะตาม
“หยุดนะฉันเจ็บ” ใบบัวยังร้องบอกผู้โจมตีด้วยกระสุนก้อนหินก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาเป็นสายด้วยความเจ็บปวดเป็นที่สุด
“หยุดนะไอ้พวกอันธพาล” ฟ้างามตะโกนบอกเสียงดังฟังชัดทำเอาผู้ที่โจมตีด้วยกระสุนก้อนหินต้องชะงักค้างทันที เมื่อฟ้างามเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าใบบัว
“นางฟ้าชัดๆ” เด็กนักเรียนชายที่อยู่หน้าสุดอุทานออกมาด้วยความชื่นชมในความงามของนักเรียนใหม่ ฟ้างามจ้องนักเรียนชายที่มีใบหน้ากวนๆผมสีน้ำตาลอ่อนคิ้วดกดำ จมูกโด่งเข้ากับรูปหน้าได้อย่างพอดี แต่มีพลาสเตอร์ยาติดที่จมูกมองดูตลกยังไงชอบกลจนทำเอาคนมองอดที่จะหัวเราะออกไม่ได้
“หัวเราะอะไรคนสวย” คนหน้ากวนถามอย่างงงๆในปฏิกิริยาของอีกฝ่าย
“เปล่า ไม่มีอะไร” ฟ้างามตอบเสียงราบเรียบร่องรอยการหัวเราะหายไปทันทีเปลี่ยนเป็นหน้าดุจริงจัง
“พวกนายขอโทษเธอเดี๋ยวนี้นะ ขอโทษที่พวกนายขว้างก้อนหินใส่เธอ”ฟ้างามพูดเสียงใส่ใบหน้ากวนๆที่ได้แต่ยืนเลิกคิ้วไปมาอย่างน่าหมั่นไส้
“ถ้าไม่ล่ะคนสวยจะทำไมเหรอ” ใบหน้ากวนๆแลบลิ้นใส่ใบบัวแล้วหันมายิ้มให้นักเรียนใหม่
“ก็ไม่ทำไมหรอกฉันก็แค่….” พูดยังไม่ทันขาดคำนักเรียนใหม่ผมยาวสลวยดวงตากลมโตคนนี้ก็แตะขาเข้าที่หว่างขาของชายใบหน้ากวนๆคนนี้เข้าเต็มแรง
“โอ๊ยโอ๊ย ยัย ยายยย” ผู้โดนแตะกล่องดวงใจร้องอย่างเจ็บปวด มือหนึ่งกุมของรักไว้หมั่นอีกมือหนึ่งชี้หน้าคนแตะอย่างเคียดแค้นหวังจะด่าให้สาแก่ใจแต่ก็เจ็บเกินกว่าจะนึกคำด่าออก
“เชอะ นึกว่าแน่” ฟ้างามสะบัดหน้าใส่ปลายผมนุ่มสลวยของเธอปัดโดนแก้มของเขาอย่างแผ่วเบากลิ่นหอมของเส้นผมสัมผัสกับจมูกของเขาความเจ็บปวด
ถูกกลบด้วยความหอมและความนุ่มของเส้นผม เขานิ่งไปช่วงขณะเหมือนเวลาหยุดเคลื่อนไหวมือที่ค้างไว้เริ่มลูบไล้กับปลายผมนุ่มนวลนั้นโดยที่เจ้าของผมไม่ทันรู้ตัว
เธอเดินออกห่างเข้าไปเรื่อยๆมุ่งสู่ตึกอาคารเรียนที่เหมือนตึกร้างโดยที่มีใบบัววิ่งตามอย่างกับหมาจรจัดที่ได้เจ้านายใหม่เป็นมหาเศรษฐี
ในขณะที่เขานิ่งมองด้านหลังของเธอเส้นผมดำยาวพัดปลิวไปตามสายลมอวัยวะภายในบางอย่างของเขาเต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ เขาได้แต่คิดว่านั้นเป็นผลมาจากกล่องดวงใจของเขาถูกกระแทกจากขาของเธอ นั่นคือสิ่งที่เขาคิดว่าถูกต้องที่สุดแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้