ถ้าพูดตามตำราจะยาว ผมเล่าประสาชาวบ้านดีกว่า (จากประสบการณ์ตรง)

หลักการชุบแข็ง คือ ทำให้เหล็กร้อน ---> แล้วชุบน้ำให้เย็นทันที ---> เหล็กจะสะดุ้ง-->หดตัว == เกิดความแข็ง

1) เหล็กที่ชุบให้แข็งได้ คืออย่างน้อย "เหล็กหัวแดง" (ที่ปลายท่อนเหล็กเขาทาสีแดง)  อย่างมาก "เหล็กหัวเขียว"

2) น้ำที่ชุบให้เย็น ใช้ "น้ำแข็ง" "น้ำ" หรือ "น้ำมัน" ก็ตาม % ของเหล็กนั้น  อาจใช้ "ลม" ก็ได้ เช่นเหล็กหัวเขียว เผาร้อน วางทิ้งให้เย็นก็แข็ง
พวกนี้ไม่ได้ทำมีด เอามาทำ Tools งาน die cut เป็นต้น

3) หลังจากชุบน้ำแล้ว ---> เหล็กจะแข็งก็จริง แต่มันมี  ความเครียดภายในเนื้อ เราจึงต้องเอามา "คลายเครียด" โดยให้ความร้อนถึงจุดหนึ่ง (ไม่ร้อนถึงจุดชุบแข็ง)
ในทางปฎิบัติ ใช้ความชำนาญดูจาก "สี" ของเหล็กที่เปลี่ยนไปเมื่อโดนไฟ  เช่น 300C ++ สีทอง  400C สีฟ้า  (สังเกตุปลายท่อมอไซด์นั่นแหละ เห็นแนวสี "ฟ้าแก่ ...สีทอง"  

ในกระบวนการชุบแข็ง ข้อ 3 ... นี่แหละที่ต้องการความชำนาญ และ การชุบแข็งดีหรือไม่ดี ครับ

---

ในทางปฏิบัติ มันไม่ได้ยากเย็นอะไรนักหนา (ถ้าอ่านตำรา จะเวียนหัวนึกว่า พิศดารยิ่งนัก)

1) เริ่มต้น ผมไปซื้อเหล็ก ที่คลองถม .. เลือกเองก็ได้ บอกเขาก็ดี อยากได้เหล็กเกรดไหน ??  ชาวบ้านใช้เหล็กแหนมยังได้นี่นะ

2) เอามาจัดทำรูปเล่มให้เสร็จ จะใช้ "ทำเย็น" หรือ "ตีร้อน" ก็ตามใจ

3) เผาไฟให้ร้อนถึงจุดหนึ่ง จะเห็นเหล็กเป็นสีแดง สว่างสวย

4) ชุมน้ำ (เฉพาะส่วนคม ที่อยากให้แข็ง) ...... นี่คือ การทำให้ "คมแข็ง"

5) ข้อน้ำสำคัญ ชุบข้อ 4 เสร็จ มีดยังร้อนๆ เอาคมมีดมาขูดกับพื้น (ซีเมนต์) เป็นการขัดผิวให้ขาว

6) คอยสังเกต "สี" ให้ดี ความร้อนที่เหลือจะค่อยวิ่ง(เร็วพอได้) มายัง "รอยที่ขูด"  เริ่มต้นจะเป็น "สีทอง"  ถ้าชักช้าจะกลายเป็น "สีฟ้าเขียว" (อันนี้ล้มเหลว)

7) พอคมมีดเป็นสีทอง (จากความร้อนที่ลามลงมา) เราก็เอามีดทั้งอัน ทิ้งน้ำ โครม "stop-temperature" ไว้แค่นี้

8) สำเร็จ ... คมมีดก็จะ แข็ง + อ่อนโยน เอ้ย ไม่แข็งเปราะ ..... เพราะเราคลายเครียดในข้อ 7 นั่นเอง

ผมพูดเหมือนพูดเล่น แต่แฝงความจริงครบถ้วน ลองอ่านแล้วทำตาม จะชุบแข็งได้เอง

(รมดำ เอาไหม ?)