เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าจะมีร้านบุฟเฟต์ที่นำเมนูคนละประเภทมารวมไว้ด้วยกันอยู่พอสมควร และร้าน Chubu Shabu & Sushi ก็เป็นอีกร้านที่เปิดเป็นบุฟเฟต์ชาบู แล้วมีบริการซูชิควบคู่กันด้วย ซึ่ง Chubu Shabu & Sushi เป็นร้านบุฟเฟต์ชาบูที่มี Story น่าสนใจ เพราะเจ้าของร้านต้องการให้คนที่มาใช้บริการได้รับบรรยากาศและกลิ่นไอของหมู่บ้าน ๆ หนึ่งในญี่ปุ่น จะเป็นที่ไหนเดี๋ยวในรีวิวจะบอกให้ทราบกันครับ โดยที่ราคาบุฟเฟต์ที่นี่ก็ไม่เกินเอื้อมครับ มีทั้งหมด 3 ราคา คือ 359, 459 และ 759 บาท(net) โดยรับประทานได้ 1 ชั่วโมง 45 นาที ครับ

เรื่องราวของร้านน่าสนใจดีครับ ได้คุยกับทางหุ้นส่วนร้านแล้วทำให้ทราบว่าร้านนี้มีแรงบันดาลใจจากการที่กลุ่มเจ้าของชอบบรรยากาศและการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นในหมู่บ้านชิราคาวาโกะ เมืองทาคายาม่า ประเทศญี่ปุ่น ที่ตอนนี้กลายเป็นมรดกโลกไปแล้ว แต่ก่อนหน้านี้เมืองนี้มีวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตที่น่าหลงไหล ด้วยภูมิประเทศอยู่กลางหุบเขา บรรยากาศจึงหนาวเย็นตลอดทั้งปี แต่กลับเป็นเมืองที่อุดมด้วยเกษตรกรรมและปศุสัตว์ ชาวชิราคาวาโกะจึงนิยมกินชาบูกันในบ้านเพราะอากาศหนาว และสามารถใช้ความร้อนจากเตาถ่าน ให้ความอบอุ่นไปในตัว

และหมู่บ้านนี้ก็มีตุ๊กตานำโชคเป็นตัว ซารุโบโบะ เป็นตุ๊กตาไม่มีหน้า ซึ่งทางเจ้าของร้านก็ชื่นชอบและนำมาดัดแปลงใส่หน้าน้องหมีเข้าไป และให้ชื่อว่า Chubu(ชุบุ) ที่วาดอยู่บนผนังด้านนึงของร้าน ทั้งหมดนี้ก็คือที่มาของร้าน Chubu Shabu & Sushi นั่นเอง

บรรยากาศร้าน Chubu Shabu & Sushi ก็เป็นร้านน่ารัก ๆ โต๊ะเก้าอี้ดูสบายตา แต่อาจจะดูแน่นไปสักนิด มีโคมไฟที่ทำจากลังไม้ช่วยทำให้ในร้านดูน่ารักและอบอุ่นไม่น้อย เตาชาบูที่ใช้เป็นเตาไฟฟ้า จึงไม่ต้องห่วงเรื่องแก๊สจะรั่ว หรือถ่านจะไม่ร้อนครับ ทั้งร้านน่าจะนั่งได้ประมาณ 70-75 คน ครับ ร้านเปิดตั้งแต่ 12.00 – 22.00 น. (เสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่ 11.00 – 22.00 น.)

เมนูที่นี่อย่างที่บอกว่าเป็นบุฟเฟต์ชาบูและซูชิพรีเมี่ยม มี 3 ราคาให้เลือก ซึ่งถ้าให้ผมแนะนำ ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ จัดราคาพรีเมี่ยมไปเลยครับ เพราะจะได้สั่งได้ทุกอย่าง ซึ่งราคาก็ไม่ได้แพงมาก สำหรับบุฟเฟต์ที่สั่งได้ทุกอย่างเรียกว่า บุฟเฟต์ชุบุสเปเชียล ราคาอยู่ที่ 759 บาท(net) / ท่าน และทางร้านแจ้งว่าจะมี Lunch set เป็นข้าวหน้าต่าง ๆ สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศแถวนั้น ที่ราคาเริ่มต้นแค่ร้อยกว่าบาทครับ(เริ่ม 10 ส.ค. 58 นี้) โดยช่วงนี้ทางร้านมีโปรลด 10% ถ้าเราโพสต์รูปและเช็คอินที่ร้านครับ

วัตถุดิบก็มีแหล่งที่มาจากหลายที่ เนื้อก็มีทั้งในไทย ออสเตรเลีย และ ญี่ปุ่น ผักต่าง ๆ ก็สดใหม่ เรื่องน้ำซุปที่นี่จัดมาให้ 2 ซุป คือ ชาบู(ใส) และ สุกี้ยากี้(ดำ) เราไม่ต้องเลือก ไม่ต้องเพิ่มตังให้เรื่องมาก เหมือนบางที่

ส่วนน้ำจิ้มที่นี่ก็เป็นแบบพอนสึที่ปรุงสูตรขึ้นมาเอง มีหัวไช้เท้า พริกขี้หนูขูด และต้นหอมซอย ไว้ใส่เพิ่มในน้ำจิ้มได้ มาดูเมนูของ Chubu Shabu & Sushi กันเลยครับว่ามีอะไรบ้าง

     - แบบธรรมดาราคาท่านละ 359 บาท(net) จะสามารถสั่งเมนูเบื้องต้นได้ มีเมนูผัก เมนูเส้น เมนูของกินเล่น ซีฟู๊ด ลูกชิ้น และเนื้อ ซึ่งเนื้อจะเป็นเนื้อของไทย และหมูคุโรบุตะ

     - แบบพรีเมี่ยมราคาท่านละ 459 บาท(net) จะสั่งทุกอย่างได้เหมือน 359 และ เพิ่มเมนูซูชิ 6 ชนิด และ เนื้อเสือร้องไห้(Brisket) และ เนื้อสันนอก(Sirloin) จากออสเตรเลียเพิ่มเข้ามา

     - แบบชุบุสเปเชียลราคาท่านละ 759 บาท(net) จะสั่งทุกอย่างได้เหมือน 459 และ เพิ่มเมนูซูชิพรีเมี่ยม 9 ชนิด กับ เนื้อสะโพก(Rump)ออสเตรเลีย, เนื้อแกะ และ เนื้อสันนอกวากิว

ระหว่างรอเมนูชาบูต่าง ๆ มา ก็มีของทานเล่นให้เราสั่งอยู่ 4-5 เมนู : ถั่วแระญี่ปุ่น, ไก่ทอดคาราเกะ, เกี๊ยวซ่า, ยำสาหร่าย


สันคอหมูคุโรบุตะ
เนื้อนุ่มดี มีมันแทรกแบบพอสมควร ใครที่ไม่กินเนื้อ และชอบความนุ่ม ก็แนะนำเลยครับ นุ่นอร่อย


เนื้อเสือร้องไห้ออสเตรเลีย(Brisket) - (อยู่ในบุฟเฟต์ 459 บาท)
เนื้อนี้นุ่มสุด ๆ ไม่เคยกิน Brisket ที่ไหนนุ่มชุ่มลิ้นขนาดนี้ ลองจุ่มน้ำชาบูดูแต่ไม่ค่อยเข้มข้นเลยย้ายไปจุ่มกับน้ำสุกี้ที่ออกหวาน ๆ หน่อย จุ่มพอให้เนื้อชมพู ๆ แล้วจิ้มกับไข่ดิบ มันเป็นอะไรที่ฟินมากครับ สังเกตส่วนที่เป็นมัน จะมีสีเหลืองเจ้าของร้านบอกว่ามันเป็นปกติของเนื้อออสเตรเลียฟาร์มนี้ มันจะหอมนุ่มกว่าปกติ พอได้ชิมก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ อร่อยมากครับ



เนื้อแกะ (Lamb) - (อยู่ในบุฟเฟต์ 759 บาท)
เป็นเนื้อแกะที่สีชมพูสวยมาก ตอนแรกก็คิดว่าไม่น่าใช่เนื้อแกะ แต่พอจุ่มในหม้อชาบูแล้วลองกิน กลิ่นหอม ๆ ของเนื้อแกะนี่การันตีความเป็นแกะได้เลยครับ เมนูนี้ก็นุ่มอร่อยครับ แต่ไม่ฟินเท่า Brisket


เนื้อสันนอกวากิว (Wagyu Sirloin) - (อยู่ในบุฟเฟต์ 759 บาท)
เนื้อวากิวที่นี่ลายสวยดี แต่มันไม่ได้แทรกไปในทุกอนูเหมือนพวก Yakiniku แต่แค่นี้ก็ทำให้เนื้อนั้นนุ่มละลายในปากได้แล้วครับ เมนูนี้ถ้าผมไม่อิ่มสะก่อนเราคงจะต้องเจอกันหลายรอบแน่ ๆ ครับ ผมลองเอาวากิวนี้ไปแกว่งในน้ำสุกี้ มันเป็นอะไรที่ดีงามมากครับหวานนิด ๆ และนุ่มมาก นุ่มกว่า Brisket อีกครับ


เนื้อสะโพกออสเตรเลีย(Rump) - (อยู่ในบุฟเฟต์ 759 บาท)
ชิ้นใหญ่อลังการมาก มันไม่เยอะเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยนิยมกินมัน ๆ เวลาจุ่มในหม้อก็ชิ้นใหญ่ดีครับ กินแล้วเต็มคำมาก ๆ แต่สำหรับหลาย ๆ คนอาจจะล้นคำนะครับ ระวังหน่อย ความนุ่มก็จะไม่เท่าพวก Brisket ได้รสสัมผัสของการกินเนื้อวัวดีครับ


หอยเชลล์โบรุ - (อยู่ในบุฟเฟต์ 759 บาท)
ผมก็ไม่เคยได้ยินหอยนี้ครับ แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นหอยเชลล์ญี่ปุ่นนี่แหล่ะ ซึ่งผมกินก็ไม่ต่างกับหอยเชลล์ญี่ปุ่นเท่าไหร่ แต่อร่อยดีนะเนื้อจะเหนียว ๆ หยุน ๆ มากกว่าหอยเชลล์ที่นำมาทำซาชิมิ ผมว่าน่าจะเป็นหอยเชลล์ที่เค้าเอามาตากแห้งของญี่ปุ่นน่ะครับ


ของทะเล : กุ้ง, แซลมอน, หอยแมลงภู่ชิลี
โดยรวมแล้วโอเคมาก ๆ ครับ ทุกอย่างสดดี แต่เสียดายที่ไม่มีน้ำจิ้มซีฟู๊ดให้ ไม้งั้นก็คงจะฟินกันด้วยอาหารทะลอีกอย่างเป็นแน่


หมูเด้งชุบุ
เนื้อหมูเด้ง เด้งสมชื่อครับ แน่นดี อร่อย มีส่วนผสมต่าง ๆ ที่ช่วยทำให้รสชาติดี ได้ความกรุบของเห็ดหูหนุด้วยครับ


พวกเส้นต่าง ๆ
ก็ได้ลองทุกอย่าง ความพอดีความอร่อยคงขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เรานำลงไปต้มแล้วแหล่ะว่าจะทำออกมาได้กำลังดีแค่ไหน


ข้าวผัดกระเทียม
เมนูนี้ทางเจ้าของร้าน นำเสนอเลยว่าผัดใหม่ทุกจานครับ เพราะฉะนั้นข้าวกระเทียมก็จะร้อน นุ่ม และหอมอร่อยทุกจานครับ เวลากินจะได้กลิ่นกระเทียมชัดเจน และมีเกลือเกล็ดหยาบ ๆ ให้เราได้รู้สึกเค็ม ๆ เวลาเคี้ยวด้วย


ผักต่าง ๆ
จัดลงหม้อไปเลยครับ เอาลงไปเยอะ ๆ น้ำซุปจะหอมหวานขึ้นเลยครับ



รีวิวมีต่อด้านล่างนะครับ >>>
รีวิวและรูปประกอบเพิ่มเติม : http://www.bumres.com/th/restaurant/Chubu-Shabu-and-Sushi/review/6144