Kuzuzangpo! สวัสดีค่ะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในชีวิต ที่ตั้งใจเขียนขึ้นมาเพราะอยากแชร์ประสบการณ์การได้ไปเยือนประเทศเล็กๆ ที่มีความน่าสนใจและน่าค้นหามากประเทศหนึ่ง ซึ่งก็คือประเทศ ภูฏาน นั่นเองค่ะ


จขกท. ได้มีโอกาสไปเที่ยวกับครอบครัว เป็นระยะเวลา 7 วัน ในช่วงฤดูร้อนของภูฏาน (มิ.ย. - ส.ค.)
เป็นการเที่ยวพักผ่อนช่วงปิดเทอมที่ต้องบอกว่าประทับใจสุดๆเลยค่ะ จึงอยากที่จะมาแชร์รูปภาพ (มือใหม่นะคะ) และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่ได้ไปมาค่ะ ต้องขอบอกก่อนนะคะว่า กระทู้นี้จะไม่มีข้อมูลแน่นปึ๊กและลึกเท่าไหร่นะคะ อยากให้ผู้อ่านทุกท่านที่สนใจที่จะไปเยือนประเทศภูฏานได้ลองมาชมมาอ่านดูเพื่อเป็นไอเดียค่ะ ว่าประเทศเล็กๆประเทศนี้ จะมีอะไรให้เราได้เห็นบ้าง
ไปเที่ยวครั้งนี้ จขกท.ได้ไปเที่ยวเมือง Paro, Thimphu (และแถบรอบๆ) และ Haaค่ะ เสียดายมากที่ไม่ได้ไป Punakha คราวหน้าจะต้องไปให้ได้ค่ะ!!

ตอนแรกจขกท.ไม่ได้ตั้งใจที่จะมาเขียนกระทู้รีวิว จึงไม่ได้ถ่ายรูปมาเยอะมากเท่าไหร่ค่ะ (ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ :/ ) แต่พอใกล้จบทริป ก็มีความรู้สึกอยากแชร์ความสนุกที่เราได้จากทริปนี้ และหวังว่าทุกท่านจะเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวนะคะ  
ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่า

มาเริ่มเดินทางไปพร้อมๆกันเลยคร่าาา

Day 1 WED 15/07/15

เริ่มต้นการเดินทางไปยังประเทศ ภูฏาน ด้วยสายการบิน Druk Air เที่ยวบินที่ KB 131 เดินทางจาก BKK ไปแวะที่ Bagdora (IXB)ประเทศอินเดีย ก่อนจะเข้าสู่เมือง Paro, Bhutan (PBH)
เครื่องออกเวลา 6:50 น. ไปถึง Paro International Airport ประมาณสิบโมงเช้าเวลาท้องถิ่นค่ะ
เที่ยวบินตรงจาก สุวรรณภูมิไปพาโรมีอาทิตย์ละครั้งนะคะ สายการบิน Bhutan Airlines ค่ะ

อาหารมื้อแรกในทริปนี้ มีครัวซองค์ร้อนๆหอมๆ omlette, sausage, มันฝรั่งในแกงอะไรไม่แน่ใจค่ะ และผัก อร่อยดีค่ะ


ถึงแล้วคะ! ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม.ค่ะ เดินลงมาจากเครื่องปุ๊ป รู้สึกได้ถึงอากาศที่สดชื่น (และชื้นๆเพราะฝนเพิ่งหยุดตก) สูดอากาศเต็มปอดเลยค่ะ อากาศช่วงนี้สบายๆค่ะ ประมาณ 20C แต่อาจจะเย็นๆตอนกลางคืนหรือตอนฝนตกหน่อยนะคะ


ตอนเครื่องกำลังจะ Landing เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีค่ะ คือrunway สนามบินอยู่ระหว่างเขาสองลูก เป็นที่ราบที่ไม่กว้างมาก เลยทำให้รู้สึกเหมือนปีกข้างนึงของเครื่องจะโดนเขา ปีกอีกข้างจะโดนตึกเลยค่ะ เพราะฉะนั้นท่านใดได้ไปเที่ยวตื่นขึ้นมาดูตอน landing ด้วยนะคะ


อีกเครื่องลงจอดพอดีค่ะ ใกล้ชิดมากค่ะ



หลังจากลงเครื่องก็มาแลกเงิน ที่นี่ใช้เงินสกุล Ngultrum (Nu) 1 Nu = 0.5 Baht โดยประมาณ ที่แลกเงินก่อนเพราะเดี่ยวต้องไปจ่ายค่าวีซ่าตอนตรวจคนเข้าเมืองค่ะ หลังจากรับกระเป๋าสัมภาระแล้วเราก็เดินทางเข้าสู่เมืองหลวงของภูฏาน Thimphu  นั่งรถประมาณ 1.30 hr  ระหว่างทางก็จะเห็นวิว valley หรือหุบเขาและมีแม่น้ำตลอด สวยมากๆ คนที่นี่ขับรถเสียวเหมือนกันนะคะ แซงกันบ่อยมาก โค้งทีไม่ลดความเร็วเลยแต่ปลอดภัยนะคะ

โรงแรมที่จขกท.ได้ไปเข้าพักคือ Hotel Galingkha ตั้งอยู่กลางเมืองเลยค่ะ เดินไปไหนมาไหนสะดวกมาก โรงแรมอยู่ตรงสี่แยกที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของภูฏาน เป็นภาพที่มีในโปสการ์ดบ่อยๆ ซึ่งก็คือสี่แยกไม่มีไฟเขียวไฟแดง แต่มีป้อมจราจรที่มีจราจรคอยโบกรถค่ะ




โรงแรมนี้เป็นโรแรมเก่าที่เพิ่งได้ทำการ renovate ใหม่ ห้องพักอยู่ชั้น 3 แต่เดินขึ้น 4 ชั้นนะคะ เอาเหนื่อยทุกวันเพราะไม่มีลิฟท์ค่ะ ห้องกว้าง มีกาน้ำร้อน แก้วสะอาด ชา กาแฟ ตู้เสื้อผ้า ทีวี อุปกรณ์ในห้องน้ำเพรียบพร้อม แถมเห็นวิวถนนค่ะ



เริ่มเที่ยวกันดีกว่าค่ะ
ที่แรกที่เราไปคือ Memorial Chorten

สังเกตุว่าผู้สูงอายุจะมานั่งพักผ่อนเป็นกลุ่มกันที่นี่ เกือบทุกคนจะนั่งสวดมนต์ขณะที่หมุน Prayer Wheel (กระบอกมนตรา)ด้วยมือขวา และนับลูกประคำด้วยมืซ้าย เป็นการตั้งสมาธิโดยใช้ Body (การหมุน), Speech (การท่อง โอมมณีปัทเมฮุม), Mind (การนับลูกประคำ) อย่างพร้อมๆกัน







เดินวนทางซ้ายไปขวา





บนเขาบางที่จะเห็นเสาสีขาวๆตั้งอยู่เป็นกลุ่มๆ คนภูฏานเขาจะนำธงขาว108ธงไปปักไว้ในที่สูงๆเวลามีคนเสียชีวิต งานศพที่นี่ถือเป็นงานใหญ่ที่ต้องทุ่มทุนเยอะมาก วันอื่นๆเช่นวันเกิดและวันแต่งงานก็จะไม่ลงทุนเท่างานศพค่ะ


ต่อไปเราจะไปที่ Buddha Point หรือ Buddha Dordenma กันค่ะ ระหว่างทางก็จะเห็นวิวเมืองThimphu สวยๆ



บางคนปั่นขึ้นไป หรือเดินก็มีค่ะ ตั้งแต่มาถึงที่นี่สังเกตุว่าคนภูฏานฟิตกันมากค่ะ



พระพุทธรูปองค์นี้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี  2005 จนถึงวันนี้ผ่านมา 10ปีแล้ว ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ค่ะ และจะเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกค่ะ



ท่านใดสนใจร่วมทำบุญ ตามที่อยู่ในภาพเลยนะคะ


เดี่ยวกลับมาต่อค่า