พระอนุรุถะ ตามจิตไปไมได้ ในนิพพาน แสดงว่าจิตสูญไหม หรือผมเข้าใจผิด ???
เป็นความคิดส่วนตัว เจ้าของกระทู้ เมื่อฟังคำเทศน์ของหลวงตา
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓
ลวดลายของศาสดาตอนปรินิพพาน
(ผู้ฟังเทศน์ประมาณ ๑,๐๐๐ คน)
ที่มา
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=480&CatID=2
พระอานนท์ก็สงสัย นี่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วเหรอ พระอนุรุทธะตอบทันทีเลย เพราะตามพระจิตตลอดเวลา พระจิตเข้าฌานไหน ๆ พระจิตนี่เป็นพระจิตที่บริสุทธิ์ เป็นวิมุตติแล้ว วิมุตติจิต อันนี้เป็นสมมุติ ปฐมฌาน ทุติยฌาน เหล่านี้เป็นสมมุติทั้งนั้น จิตวิมุตติเดินผ่านสมมุติทั้งหลายนี้ไปเข้าถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ นั้นก็เป็นสมมุติประเภทหนึ่ง ไประงับพระองค์อยู่นั้น พระอานนท์เกิดความสงสัยถาม นี้ไม่ใช่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วเหรอ พระอนุรุทธะตอบทันที ยัง เวลานี้ทรงระงับพระองค์อยู่ที่สัญญาเวทยิตนิโรธ แปลว่า ดับสัญญาและเวทนา แปลออกแล้วว่างั้น พอจากนั้นก็เคลื่อนออกมาละที่นี่
นี่พระจิตที่บริสุทธิ์ ฟังให้ดีนะ ความบริสุทธิ์นี้สูญไหม ถ้าสูญ อะไรไปเข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ขึ้นไปจนกระทั่ง สัญญาเวทยิตนิโรธ ถ้าจิตสูญแล้วเอาอะไรไปเข้าฌาน ๔ นี้แล้วไปถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ ทีนี้พอถอยออกมา จิตบริสุทธิ์ถอยออกมา ถอยออกมาจนถึงพระจิตบริสุทธิ์ธรรมดา มาตั้งแต่สัญญาเวทยิตนิโรธ แล้วก็ถอยออกมา อรูปฌาน ๔ ถอยออกมารูปฌาน ๔ ถอยออกมาเป็นจิตธรรมดา จากนี้เข้าอีก ท่านทรงย้อนหน้าย้อนหลังเต็มภูมิของศาสดา พอเข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน พอผ่านจากฌานนี้แล้ว รูปฌานก็ไม่อยู่ อรูปฌานข้างหน้าก็ไม่ไป ผ่านออกตรงกลางนี้เลย
พระอนุรุทธะก็บอกว่า ทีนี้ปรินิพพานแล้ว หมด พระจิตที่บริสุทธิ์นี้ไม่ผ่านสมมุติใดแล้ว ปรินิพพานแล้ว ทีนี้พูดไม่ได้เลย สูญไหมล่ะ อันพูดไม่ได้นี้สูญไหมล่ะ แต่ก่อนพูดได้อยู่ ว่าไปฌานนั้น ๆ พอออกจากฌานนี้แล้ว ทีนี้ปรินิพพานแล้ว นี่ละธรรมชาตินั้นละ พ้นสมมุติโดยประการทั้งปวงแล้ว เพราะรูปฌาน อรูปฌาน เหล่านี้เป็นสมมุติทั้งหมด พอออกจากนี้แล้วก็ไปเลย นี่ที่พระอนุรุทธะว่า ทีนี้ปรินิพพานแล้ว ใครจะตามได้ ตามไม่ได้ พระจิตอันนี้สูญไหมล่ะฟังซิ
สรุปแล้ว จิตเมื่อเข้านิพพาน คือ"สูญ" ไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว
เป็นความคิดส่วนตัว เจ้าของกระทู้ เมื่อฟังคำเทศน์ของหลวงตา
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓
ลวดลายของศาสดาตอนปรินิพพาน
(ผู้ฟังเทศน์ประมาณ ๑,๐๐๐ คน)
ที่มา http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=480&CatID=2
พระอานนท์ก็สงสัย นี่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วเหรอ พระอนุรุทธะตอบทันทีเลย เพราะตามพระจิตตลอดเวลา พระจิตเข้าฌานไหน ๆ พระจิตนี่เป็นพระจิตที่บริสุทธิ์ เป็นวิมุตติแล้ว วิมุตติจิต อันนี้เป็นสมมุติ ปฐมฌาน ทุติยฌาน เหล่านี้เป็นสมมุติทั้งนั้น จิตวิมุตติเดินผ่านสมมุติทั้งหลายนี้ไปเข้าถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ นั้นก็เป็นสมมุติประเภทหนึ่ง ไประงับพระองค์อยู่นั้น พระอานนท์เกิดความสงสัยถาม นี้ไม่ใช่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วเหรอ พระอนุรุทธะตอบทันที ยัง เวลานี้ทรงระงับพระองค์อยู่ที่สัญญาเวทยิตนิโรธ แปลว่า ดับสัญญาและเวทนา แปลออกแล้วว่างั้น พอจากนั้นก็เคลื่อนออกมาละที่นี่
นี่พระจิตที่บริสุทธิ์ ฟังให้ดีนะ ความบริสุทธิ์นี้สูญไหม ถ้าสูญ อะไรไปเข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ขึ้นไปจนกระทั่ง สัญญาเวทยิตนิโรธ ถ้าจิตสูญแล้วเอาอะไรไปเข้าฌาน ๔ นี้แล้วไปถึงสัญญาเวทยิตนิโรธ ทีนี้พอถอยออกมา จิตบริสุทธิ์ถอยออกมา ถอยออกมาจนถึงพระจิตบริสุทธิ์ธรรมดา มาตั้งแต่สัญญาเวทยิตนิโรธ แล้วก็ถอยออกมา อรูปฌาน ๔ ถอยออกมารูปฌาน ๔ ถอยออกมาเป็นจิตธรรมดา จากนี้เข้าอีก ท่านทรงย้อนหน้าย้อนหลังเต็มภูมิของศาสดา พอเข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน พอผ่านจากฌานนี้แล้ว รูปฌานก็ไม่อยู่ อรูปฌานข้างหน้าก็ไม่ไป ผ่านออกตรงกลางนี้เลย
พระอนุรุทธะก็บอกว่า ทีนี้ปรินิพพานแล้ว หมด พระจิตที่บริสุทธิ์นี้ไม่ผ่านสมมุติใดแล้ว ปรินิพพานแล้ว ทีนี้พูดไม่ได้เลย สูญไหมล่ะ อันพูดไม่ได้นี้สูญไหมล่ะ แต่ก่อนพูดได้อยู่ ว่าไปฌานนั้น ๆ พอออกจากฌานนี้แล้ว ทีนี้ปรินิพพานแล้ว นี่ละธรรมชาตินั้นละ พ้นสมมุติโดยประการทั้งปวงแล้ว เพราะรูปฌาน อรูปฌาน เหล่านี้เป็นสมมุติทั้งหมด พอออกจากนี้แล้วก็ไปเลย นี่ที่พระอนุรุทธะว่า ทีนี้ปรินิพพานแล้ว ใครจะตามได้ ตามไม่ได้ พระจิตอันนี้สูญไหมล่ะฟังซิ