พาเที่ยวชมและกิน(ยั่ว) ณ Animax Cafe Event :: Arslan Senki ที่ Akihabara ค่ะ ~

**อนึ่งกล้องที่จขกท.ใช้ เป็นกล้องมือถือรุ่นถูกๆ กับกล้องดิจิตอลรุ่นสมัยพาโนออกมาใหม่ (ประมาณ 6 ปีที่แล้ว) ดังนั้นรูปอาจจะไม่ค่อยสวย ไม่ค่อยชัดนะคะ บ้านจนไม่มีปัญญาซื้อกล้อง เอาตังไปติ่งหมดแล้ว ฮาา **

**จขกท.เป็นติ่งฝ่าบาทอัสลัน ภาษาในกระทู้อาจจะแสดงออกถึงความติ่งหน่อยนะคะ ฮาา**










อันนี้โบรชัวร์ของจริงค่ะ หัวเราะ


หลังจากนั่งเวิ่นเว้อ ตั้งกระทู้สปอยฝ่าบาทด้วยความเซงอยากไปเที่ยวเทศกาลฝ่าบาทมาหลายตอน
วันหนึ่ง ในขณะที่จขกท.กำลังนั่งฟังเพลง anisong โยกหัวไปหัวมาอยู่นั้น คุณพี่ที่รักก็เดินมาชวนจขกท.ไปเที่ยวญี่ปุ่น  พอดีเราปิดเทอมอยู่ วันๆก็ว่าง นอนเขี่ยพุงเล่นอยู่แล้ว เขาจึงเลือกชวนเราช่วง วันที่ 7-13 กค ช่วงที่เขา(กับแฟนเขา)ว่างพอดี
ตอนแรกชวนไปฟุคุโอกะค่ะ จขกท.ตอนแรกก็โอเคๆ แบบว่านอกจากอยู่บ้านไปไหนก็ได้ทั้งนั้นอ่ะ สักพักนึกได้...ที่โตเกียวมันมีงานเทศกาลฝ่าบาทนี่หว่า!
หันตัวดังขวับ ประกาศกร้าวทันที
"ไม่ไปโตเกียวก็ไม่ไป พอดีมีงานที่อยากไป ไปเหยียบญี่ปุ่นแต่ไปงานนี้ ก็เหมือนไม่ได้ไปญี่ปุ่น!!" < อินเนอร์มาอย่างเว่อร์ 555555
พี่เขาก็เลยตามใจทั้งๆที่เขาเคยไปโตเกียวแล้ว เพราะเขาไงก็ได้ขอไปเที่ยวกับแฟนก็พอ

ดังนั้นก็เลยเกิดทริปนี้ ที่จขกท.ตั้งชื่อให้โดยเฉพาะกิจว่า Arslan Senki Fan's Trip ขึ้น!!

เปิดเพลงบิ้วก่อนอ่านกระทู้โลดด

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

การเดินทางไป Animax Cafe : เราพักที่ชินจูกุค่ะ เลยนั่ง JR Line ไปลงที่สถานีอากิบะ ล่ะก็เดินไปตาม google map ไม่ไกลนักก็ถึงค่ะ
โทรศัพท์:+81 3-5289-8088 <<เผื่อใครจะไปวันหลัง โทรไปจองได้นะคะ



ตอนแรกแวะห้าง Atre1 ก่อนค่ะเพราะเห็นว่ามีเทศกาลฝ่าบาทเหมือนกัน
แต่ไปถึง อ้าว..เป็น Diabolik Lovers ซะงั้น มาเช็คทีหลังปรากฎว่างานอัสลันหมดไปตั้งแต่ 30 มิถุนายนแล้ว 5555
แอบเสียดายนิดนึงแต่ไม่เป็นไร ยังมี Animax Cafe ที่เป็นเป้าหมายหลักให้เราเดินทางต่อไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เดินมาไม่ไกลจากสถานี JR ก็มาถึงหน้าร้านค่ะ
(เอาฝ่าบาทมาปิดตัวจขกท.ซะเลย 55555 ลืมถ่ายภาพหน้าร้านเปล่าๆมาค่ะ)



วันแรกจขกท.เข้าแบบวอล์คอินค่ะ พอดีเป็นเวลาประมาณบ่ายสองคนเลยน้อย
มาถึงก็คุยบอกเขาว่ามาเทศกาลอัสลัน เป็นภาษาอังกฤษ เขาก็พาเราขึ้นไปชั้นสอง
ชั้นแรกจะเป็นคาเฟ่ธรรมดาค่ะ ส่วนชั้นสองจะเป็นคาเฟ่ที่จัดเทศกาลเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษในแต่ละเดือน
อนึ่งต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าเทศกาลเพิ่ม 500 เยนค่ะ พวกพี่ๆเราเลยไม่เข้า เราเลยไปผจญกับความสุขเพียงผู้เดียว อ่า...ฟิน
พี่ๆเราที่ทานรอข้างล่างบอกเราตอนกลับโรงแรม คาเฟ่ด้านล่างก็เสียตังเพิ่มนะคะคุณ เอิ่ม 555555
เอ้อ และเพราะเป็นเทศกาล ถ้าสั่งเมนูพิเศษ ก็จะได้ที่รอแก้วเรื่องนั้นๆค่ะ สุ่มตัวละครเอา

ระหว่างทางเดินขึ้นไปก็จะมี...ของให้กรี้ด
อันนี้ตรงประตูทางขึ้นชั้นสอง มีโปสเตอร์เทศกาลนั้นๆค่ะ



ตอนเข้าในร้านก็ตื่นเต้นอยู่แล้วนะ พอเจอโปสเตอร์เท่านั้นแหล่ะ แทบกรี้ดลั่นร้านด้วยความดีใจ
แต่ความเป็นกุลสตรีไทย เราเลยยังหักห้ามใจได้อยู่ค่ะ ฮาาา

ระหว่างทางขึ้น มีโปสเตอร์ตัวละครหลัก ภาพร่างอนิเม และ screenshot จากอนิเม บนผนังตลอดทางค่ะ
(รู้สึกฟินจนจะบินแล้วตอนนั้น ฮาา)







และแล้วก็ขึ้นมาถึงข้างใน ...


เดี๋ยว เดี๋ยวตกใจกัน..ตอนไปมันไม่ได้ว่างแบบนี้นะคะ 555555
พอดีจขกท.กินนานไปหน่อย (2 ชม.ได้) คนเลยหมดร้าน เลยแอบถ่ายไว้ ฮาาา

เอ...กินอะไรดีน้า..ปกติคำถามนี้จะเกิดทุกครั้งที่เราไปร้านอาหารใช่มั้ย
แต่ครั้งนี้ไม่ค่ะ จขกท.ดูไปตั้งแต่แรก จิ้มสั่ง ฮิลลึเมซ โนะ ดริ๊งค์ (อ่านแบบญี่ปุ่น ประมาณนี้เลย ฮาาา) คู่กับไก่ย่างอะไรก็ไม่รู้

นี่เมนูค่ะ ภาพก็เหมือนโบรชัวร์เป๊ะๆนั่นแล



นี่คืออาหารที่สั่งไปล็อตแรกค่ะ (พิมพ์ไปหิวไป โครกก)
ตอนพนักงานมาเสริฟเขาพ่นภาษาญี่ปุ่นใส่เราค่ะ เราที่ฟังไม่ออกเลยก็ได้แต่ยิ้มให้อย่างเดียว แปลเป็นอังกฤษหน่อยก็ไม่ได้
มารู้ทีหลังค่ะว่า เขาถามเราว่า เราชอบใครในเรื่องค่ะ
ไปกินวันที่สองเลยได้ตอบว่า Gin kamen เบาๆพลางชี้ที่รองแก้วที่ได้ ฮาาา



สั่งเฮอร์เมสดริ๊งได้ที่รองแก้วฟารางกิสค่ะ
ไก่ย่างได้เป็นลายดาร์รูน  วินาทีเอามาวางเตรียมจะถ่ายนี่หัวเราะเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ระหว่างกินด้วยความฟิน ก็นั่งดูอัสลันตอนที่ 2 ค่ะ
นั่งตรงทีวีพอดี ขนาบด้วยบอร์ดอัสลัน และบอร์ดดาร์รูนค่ะ สุขใจมาก แต่จะดีกว่านี้อีกนิดถ้าตัวเราฟังญี่ปุ่นออก 5555

















เรากินช้ามากๆ...จานเดียวละเลียดเป็นชั่วโมง อาหารอร่อยมากค่ะ กินช้าเพราะฟินนั่นแหล่ะ
และด้วยความเสียดายตัง พริกหยวกกับหัวหอมที่เรากินไม่เป็น เราก็ยัดพยายามเข้ากระเพาะเข้าไปจนหมด ก็กินได้อยู่นะคะ มันย่างแล้วนิ่มเละๆดี อร่อย ผักเนื้อทุกสิ่งอย่างที่อยู่ในไม้ มีกลิ่นหอมย่างโชยออกมาทุกคำที่กัด  ประทับใจมากเลยแหล่ะค่ะ
เฮอร์เมสก็อร่อย ชอบที่สุดในทุกน้ำที่สั่งล่ะค่ะ เหมือนโค้กเชอร์รี่จืดๆ แต่ข้างล่างจะมีน้ำหวานออกซ่าๆ เข้ากันดีเลย (เพื่อนเราดื่มดาร์รูน เขาก็บอกว่ารสแบบนี้ค่ะ เดาว่าน่าจะต่างตรงรสซ่าด้านล่าง) จนน้ำแก้วแรกหมดก็สั่ง อัสซะลัน โนะ ดริ๊งค์ ต่ออีกแก้ว

(แอบถ่ายเงยๆกับเจ้าตัวสักหน่อย)


รสชาติฝ่าบาทอัสลันเหมือนคาลปิส ที่มีน้ำหวานซ่าๆอยู่ด้านล่างค่ะ (เพื่อนเราดื่มฟารางกิสก็บอกแบบนี้เหมือนกัน แต่ฟารางกิสน้ำเป็นสีชมพูค่ะ)
สำหรับเรา เราว่าไม่อร่อยเลย มันซ่าแปลกๆอธิบายไม่ถูก ไม่ชอบ แต่ก็ฟินดีนะ กินฝ่าบาท อิอิ
อันนี้ได้ที่รองแก้วเป้นเอลัมค่ะ

ระหว่างที่ละเลียดละไมไก่กับน้ำอีกแก้วต่อนั้น เราก็หันไปเก็บภาพมุมต่างๆคั่นค่ะ เมินอนิเมที่ฉายไปก่อน ฟังไม่ออก 55555













(นาร์ซัสกับเอลัมอยู่ริมสุดนู่นเลยค่ะ เลยถ่ายได้แค่นี้ วันที่สองที่ไปก็ได้นั่งตรงข้ามนะแต่ลืมถ่าย 5555555555)

พอไก่ย่างที่รักหมด ก็สั่งขนมหวานต่อค่ะ ระหว่างนี้คนหมดร้านแล้วค่ะ เรานั่งกินอยู่คนเดียว ฟินมาก นึกว่าอยู่บ้านตัวเอง มีคนรับใช้คอยเสริฟอาหาร ฮาา
เราเลือกสั่งไอศครีมวานิลลาค่ะ มีเครื่องเคียงเป็นลูกฟิกซ์กับแอปริคอตแห้ง ราดซอสสตอเบอร์รี่
เพราะลายที่ประดับบนจานดูแปลกดี ดูสมกับมากินอีเว้นฝ่าบาทอัสลันหน่อย อันนี้ได้ที่รองแก้วเป็นฝ่าบาทอัสลันค่ะ



ตอนเขามาเสริฟไอติมมีคอนเสริตพอดีค่ะ เลยไม่ได้ถ่ายก่อนกิน ถ่ายอีกทีกินไปครึ่งนึงแล้ว ฮาา
คอนเสริตที่เราบอกคือ พนักงานมาร้องเพลง anisong  ให้เราฟังค่ะ เพลงแรกเพลงอะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่ออก เพลงสองเป็นเพลง Lapis Lazuri ของ Eir Aoi ซึ่งเป็น Ed1 ของฝ่าบาทพอดีค่ะ รู้สึกโชคดีมากกก พนักงานเสริฟเสียงดีมาก ร้องเพลงนี้ไม่ตกคีย์เลย ...
มาเล่าให้ใครฟัง เขาก็แปลกใจ แสดงว่าจะมาเป็นพนักงานเสริฟที่นี้ได้ต้องมีความสามารถรอบด้านจริงๆค่ะ

นอกเรื่องนิดนึง ตอนฟังนี่ภาพนี้ลอยมา



(อิอิ)


นี่เพลงเนอะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แล้วพนักงานก็คุยอะไรให้เราฟังต่อไม่รู้ อื้ม...ฟังไม่ออก
ฟังออกแค่ชื่อตัวละคร (ในใจเอามือก่ายหน้าผาก)
แต่เพื่อไม่ให้เขาเสียใจ เพราะทั้งห้องมีเราคนเดียว!! เราก็กินไป มองเขาไป ยิ้มไปค่ะ (ในใจนี่คือร้องไห้ ฟังไม่ออกค่ะคุณณ)
และหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรพิเศษค่ะ กินไป ฟินฉากไป แต่ตอนเก็บตังนี่มีสะดุ้ง ฮาาา
เรากินนานมาก จนพี่ๆที่นั่งรอข้างล่าง กินชาหมดถ้วยนึงออกไปเดินอากิบะกลับมารอบนึงยังไม่เสร็จเลยค่ะ ฟินเกิน 5555

พอดีคืนนั้นเราลงภาพ เพื่อนก็ทักมาค่ะว่าเขาจะไปพรุ่งนี้ เสียดายจังที่ไม่ได้ไปด้วยกัน
เราที่เป็นแฟนคลับฝ่าบาทเต็มตัวมีหรือจะพลาด ไปอีกรอบสิคะ!!

วันที่สองได้ไปนั่งข้างๆลอร์ดหน้ากากเงินค่ะ แทบเอาหน้าไถลกับกระจก ฮาาา
500 เยนที่เสียไป คุ้มก็เพราะแบบนี้ล่ะ
รอบนี้มาตอนเย็นค่ะ เพื่อนโทรมาจองที่นั่งไว้ แต่คนก็ยังไม่เต็มนะ
ก็เลยสั่งเป็นขนมหวานแทนค่ะ ตอนแรกจะสั่งไออันแรกในเมนูล่ะ (อันที่ถูกสุด) เพื่อนบอก มันคือ แป้งทอดคล้ายๆโรตี มันน่าสั่งสุดนะคะ แลดูเป็นอาหารตะวันออกกลางดี (เรื่องเดิมพื้นเพ+สถานที่จริงอยู่ตอ.กลางค่ะ) แต่มันไม่นับเป็นเมนูแถมของซะงั้น เรื่องอะไรจะสั่งล่ะ 5555
ก็เลยสั่งเค้กช็อคโกแลตไปค่ะ คู่กับ กีฟฟึ โนะ ดริ๊งค์ สำหรับเราเราชอบมากกกกกกกก ชอบทั้งคู่เลย



เค้กช็อคโกตไม่หวานไป มีผลไม้อบแห้งอะไรไม่รู้วางบนหน้าเค้ก กินแล้วกรุ๊บๆอร่อยดีค่ะ
ส่วนกีฟนี่ เหมือนน้ำหวานโซดาอ่ะค่ะ อธิบายไม่ถูก 55555
รอบนี้พนักงานน่ารักดีมากค่ะ ตอนเขาเอามาเสริฟนี่ เขาไม่เรียก โนะ ดริงค์ต่อนะ เขาเรียกชื่อตัวละครเพียวๆเลย แหม ทำเรานึกเลยว่า ตัวเองกำลังจะกินกีฟ ฮาา
เพื่อนเราเขาก็เขินกันสิคะ อีกคนเฉยๆเพราะกินฟารางกิส  เราก็เฉยๆเนอะเพราะไม่ได้กรี้ดกีฟ (แต่ชอบนะ ตลกดี) 5555
คราวนี้ได้ที่รองแก้วหน้ากากเงินกับเอลัมค่ะ (กรี้ด ดีใจมาก คราวนี้ตอนพนักงานมาเสริฟแล้วถามนี่ ตอบอย่างฟินๆเลยค่ะว่า เราชอบหน้ากากเงิน พลางชูที่รองแก้ว เขาปรบมือยินดีให้ด้วย ฮาา)  ก็ขอแลกเอลัมกับหน้ากากเงินของเพื่อนค่ะ เห็นน้ำสีชมพูนั่นมั้ยคะ นั่นฟารางกิสนะ อิอิ

สำหรับวันนี้เราไม่เน้นถ่ายรูปกับดูอนิเมเหมือนวันก่อน วันนี้เน้นกินเอาบรรยากาศอย่างเดียวเลยค่ะ ซึมซับเข้าไป กลับไทยแล้วจะไม่เจออะไรแบบนี้อีกแน่ๆ

ต่อข้างล่างเนอะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่