จริงๆชื่อตอนมันประมาณว่า ศึกชิงที่พักและแหล่งเสบียง ณ เซนต์เอ็มมานูเอล
แต่มันยาวเกิน ขอตัดเหลือแค่นั้นพอนะคะ 5555

เสื้อเกราะหน้ากากเงินไม่เท่เลยอ่ะ แม่ยกเสียใจ
อาจารย์วัวทำร้าย


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความเดิมตอนที่แล้วว
หน้ากากเงินกลับมายังเมืองหลวงเอคทาบาน่า
และขออาสาไปโจมตีทัพของอัสลัน ด้วยทหารจำนวนหนึ่งแสนนาย (ทหารลูซิทาเนีย 7 หมื่นกับทหารพาร์อีก 3 หมื่น)
องค์ชายกีสคาร์ดก็อนุญาต โดยย้ำว่าแค่ "ให้ยืม" เท่านั้น

เอลัมกับอัลฟรีดแฝงตัวเข้ามาสืบข่าวที่เอคทาบาน่า
เพื่อไม่ให้ถูกทหารจับตัวได้ ทั้งคู่เลยต้องสวมบทเป็นชายหญิงที่กำลังจะหนีตามกัน
พอได้ข่าวก็กลับมารายงานให้นาร์ซัสฟัง
อัสลันที่ได้ฟังอยู่ด้วยก็ไม่เชื่อว่าลอร์ดซัมจะทรยศท่านพ่อและตัวเอง

ทางอัสลันก็กำลังฝึกดาบกับดาร์รูนอยู่ ทหารใหม่พอเห็นก็ชื่นชมในตัวฝ่าบาทอัสลัน
อัสลันเลยส่งพวกเขาไปให้ฝึกเพิ่มเติม
ภายหลังตกดึกคืนนั้นอัสลันเอาประเด็นนี้มาปรึกษากับนาร์ซัส
แล้วก็ได้ข้อคิดเรื่องควรให้ทาสได้เลือกหนทางของตัวเองกลับไป

ทางฝั่งฟารางกิส ก็โดนเอลัมกับอัลฟรีดแซว เรื่องกีฟที่จากไปอยู่
แต่เธอก็ไม่มีปฏิกิริยาอันใด

คืนนั้นเองทัพของลอร์ดหน้ากากเงินก็เดินทางมาถึงป้อมปราการเซนต์เอ็มมานูเอล
เอตวลที่เห็นท่านเจ้าเมืองยอมให้พวกไร้จิตใจ(ชาวพาร์)เข้ามาได้ ก็ไม่พอใจ ไปคัดค้านท่านเค้าท์บาร์ซาเซียน
แต่ท่านเค้าท์ก็บอกว่า นี่เป็นบททดสอบจากพระเจ้า เอตวลเลยเถียงไม่ออก เธอเลยต้องจำใจยอมให้พวกไร้จิตใจเข้ามา

----------------------



องค์ชายอัสลันสั่งให้แบ่งทัพออกเป็นหลายหน่วยให้อัศวินสี่คนเป็นคนคอยดูแล
โดยมีเป้าหมายสำคัญที่สุด คือ แหวกทางให้ ทัพทหารม้าที่ดาร์รูนคุมเข้าชนกำแพงเมืองให้แตก
แต่อุปสรรคใหญ่ที่ขวางพวกเขาอยู่นั้น คือ ระหว่างที่พวกเขาทำเช่นนั้น ทัพของศัตรูจะทำอะไรบ้าง ไม่มีทางรู้ได้เลย
นาร์ซัสที่ตระหนักถึงปัญหาเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่แรก ก็เรียกชื่อดาร์รูนเพื่อย้ำแผนที่วางกันเอาไว้
ดาร์รูนจึงพยักหน้าและขอตัวออกไปเตรียมรบ

อัสลัน: "เมื่อสงครามครั้งนี้เริ่มขึ้น ข้าคงได้แต่ฝากทุกอย่างไว้ในมือของทุกคน ถ้ามีอะไรที่ข้าทำได้บ้างล่ะก็..."
นาร์ซัส : "ฝ่าบาทคือ ศูนย์รวมจิตใจของกองทัพ การรอผลอยู่ที่แนวหลังก็เป็นหนึ่งในหน้าที่ของผู้บังคับบัญชานะพ่ะย่ะค่ะ"

ฝั่งทัพของลูซิทาเนีย
ลอร์ดหน้ากากเงินออกมาพูดปลุกใจทหารทุกคน




และแล้วทัพทั้งสองก็เริ่มเข้าห่ำหั่นกัน



ทหารพาร์(ทัพอัสลัน)ที่อยู่ ณ เบื้องล่างเห็นลอร์ดซัมคุมทัพศัตรูอยู่บนกำแพงป้อม
ไม่มีใครเชื่อว่ามาซบันที่มีเกียรติเช่นเขาจะทรยศชาติได้



ทางฝั่งอัสลันที่นั่งรอฟังข่าวอยู่กับนาร์ซัสในกระโจมเงียบๆ
ได้รับรายงานจากเอลัมว่า "ป้อมปราการยังไม่มีทีท่าว่าจะพังลงง่ายๆ แต่ทหารส่วนหนึ่งกลับเริ่มตื่นตระหนกแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
นาร์ซัส : "เพราะการปรากฎตัวของลอร์ดซัมสินะ?"
เอลัม : "ขอรับ"
อัสลัน : "ชายที่ได้นามว่า มาซบันคนนั้น คงพูดได้ว่าไม่มีใครป้องกันกำแพงเมืองได้ดีไปกว่าเขาแล้วล่ะ ช่วยไม่ได้หรอกที่จะมีคนกังวลน่ะ"
           "ไม่เป็นไรหรอก เอลัม พวกเรารู้อยู่แล้วว่าชายคนนั้นอยู่ฝ่ายลูกพี่ลูกน้องของข้า ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พวกเราก็ต้องสู้ เพื่อเส้นทางนี้ เส้นทางที่ข้าเลือกด้วยตัวเอง"

ฝั่งเอตวล เธอเข้ามาขอร้องท่านเค้าท์ให้ส่งตัวเองออกไปรบแนวหน้าด้วย



เค้าท์บาร์ซาเซียนปฏิเสธ ไม่ยอมให้เด็กสาวต้องตกอยู่ในอันตราย
แต่ถึงแม้จะโดนหักห้ามเพียงใดก็ตาม เอตวลก็ขออนุญาตท่านเค้าท์ฝ่าฝืนคำสั่งออกไปรบ
"ได้โปรดยอมรับขอรับเถอะว่า การได้ต่อสู้กับพวกไร้จิตใจเป็นสิ่งที่ข้าปรารถนามากที่สุด"

กลับมาที่ฟารากิสกับอัลฟรีดที่ยืมเฝ้ากระโจมฝ่าบาทอยู่ (เดาว่าเป็นกระโจมฝ่าบาท)
ฟารางกิสถามอัลฟรีดว่า "อัลฟรีด บอกข้าหน่อยสิ เจ้าเป็นคนของเผ่าซอท เป็นชนเผ่าร่อนเร่ที่ไม่สนใจอำนาจของราชวงศ์พาร์ แล้วทำไมเจ้าถึงมาต่อสู้เคียงข้างพวกเราล่ะ?"
อัลฟรีด : "อ๋อ.. หน้ากากเงินฆ่าพ่อของข้า อีกอย่าง ข้าอยากมีประโยชน์กับฝ่าบาท"
ฟารางกิส : เพื่อฝันของลอร์ดนาร์ซัสสินะ?"
อัลฟรีด : "อื้ม แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลเดียวหรอก ข้ารู้สึกได้ว่าฝ่าบาทอัสลันต้องทำอะไรที่น่าเหลือเชื่อแน่ ยิ่งไปกว่านั้น เพราะท่านนาร์ซัสของข้าห่วงใยเขามากขนาดนั้นนี่น่า เจ้าเองก็คิดเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ฟารางกิส?"
ฟารางกิส : "ข้าเองก็หวังไว้เช่นนั้น  ทวงคืนเมืองหลวง ฟื้นฟูและปรับปรุงประเทศ มันเป็นงานที่หนักเกินไปสำหรับเด็กอายุ 14 อย่างฝ่าบาท แต่ท่านก็สามารถทำให้พวกเราเชื่อว่าท่านทำได้"
               "ท่านอาจจะทำให้พาร์กลายเป็นราชอาณาจักรในอุดมคติก็ได้"

7 ชม. หลังจากการสู้รบอันยาวนาน ทหารพาร์เริ่มอ่อนล้า
ซันเดสก็นำทัพทหารม้าลูซิทาเนียจำนวนนึงบุกออกมาจากป้อมหวังจะไปนำหัวอัสลันมามอบให้หน้ากากเงิน
(ทำโดยพลการ หน้ากากเงินมารู้ทีหลังก็ไม่คอยพอนักหรอกค่ะ)



ดาร์รูนจึงนำทัพออกไปตอบโต้



โดยมีซาราวัน  อีสฟาน และทูสคอยช่วย

อัสลัน : "การเผชิญหน้ากันของทั้งสองทัพ ด้วยจำนวนที่น้อยกว่าแล้ว ทัพของเราย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ข้าหวังว่าทัพของคิชวาร์ดจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีนะ..."

คิชวาร์ดบุกเข้ามาทางท่อระบายน้ำ เพื่อหาทางเปิดประตูจากด้านใน
แต่ดันมาเจอลอร์ดซัมที่มาดักทางไว้เพราะรู้แกว

ทหารของทั้งสองคนก็เข้าต่อสู้กัน



คิชวาร์ด : "ลอร์ดซัม ท่านคืออัศวินที่น่าภาคภูมิใจแห่งพาร์"
             "ทำไมท่านต้องหาทางขัดขวางการขึ้นครองราชย์ขององค์ชายอัสลันด้วย?"
ซัม : "เพื่อเป้าหมายของท่านเฮอร์เมส"
       "อย่างน้อยที่สุดเขาควรจะมีข้าคอยอยู่เคียงข้าง"
คิชวาร์ด : "ท่านรู้ไหมว่าองค์ชายเฮอร์ทรงทำอะไรลงไปบ้าง?"
              "เขาบุกรุกเมืองหลวงและทำให้มันล่มสลาย"
ซัม : "ข้ารู้น่า"
       "ตอนนี้เขามีแต่ความโกรธและความปรารถนาที่จะแก้แค้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาจะต้องกลายเป็นผู้นำที่ดีของพาร์ได้แน่!"
คิชวาร์ด : "หมกมุ่นแต่กับบัลลังก์ ทำให้ประชาชนของเขาต้องทนทุกข์ทรมาน ใครจะอยากให้คนแบบนั้นมาเป็นกษัตริย์กัน!!?"

ตัดกลับมาที่สนามรบ
ชายคนนี้ก็มาร่วมกับฝ่ายอัสลันด้วย



สาวน้อยคนนี้ก็ออกมารวมแนวหน้าแล้วเช่นกัน



แต่เมื่อเธอเห็นเลือดที่มือ เลือดจากคนที่เธอได้แทงเขาไป เธอก็นึกถึงตอนที่ท่านเค้าท์ห้าม
เธอไม่อยากฆ่า แต่เพื่อให้รอดและเพื่อเจตจำนงของพระเจ้า เธอก็ต้องฆ่า..ต่อไป
เธอสู้จนตกจากหลังม้า และเห็นเอลัมที่แอบมาคอยสังเกตุการณ์อยู่บนเขา
เธอจึงตามเอลัมไป

ฝ่ายซันเดสที่บุกออกมาอย่างบ้าระห่ำก็เข้ามาถึงกระโจมของฝ่าบาทอัสลันจนได้
แต่นั่นเป็นแผนลวงของนาร์ซัส
เขาใช้แคมป์เป็นเหยื่อล่อ ให้ทัพธนูรอดักซุ่มยิงจากบนผาชันรอบๆ



ส่วนทัพจริงนั้นตั้งอยู่หลังเขา หลบซ่อนอยู่ในป่า

นาร์ซัส : "ฝ่าบาท ท่านทรงจำสิ่งที่ข้าเคยพูดก่อนหน้านี้ได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ เรื่องก้าวแรกก่อนจะเริ่มกลยุทธ์ใดๆก็ตาม?"
อัสลัน : "แน่นอน ทำให้ศัตรูเพ่งความสนใจไปที่เรื่องกำลังคนตามที่เราต้องการ ใช่ไหม?"
(ย้อนความไปชาติที่แล้ว ตอนแรกๆที่นาร์ซัสยอมมาร่วมเดินทางด้วย ตอนนู้นเลยค่ะ)

ซันเดสที่หนีออกมาได้ มาเจอกับดาร์รูนพอดี
ทั้งสองจึงเข้าต่อสู้กันเคลียร์ความแค้นที่สั่งสมกันมานานให้จบๆสักที



เพื่อสิ่งที่เชื่อ เพื่อเจ้านายคนละคน เขาทั้งสี่ ดาร์รูน ซันเดส คิชวาร์ด ซัม
สี่ทหารกล้าแห่งพาร์ต้องมาห่ำหั่นกันเอง

คิชวาร์ดชนะซัม แต่ถูกทหารลูซิทาเนียล้อม
ดาร์รูนแทงซันเดสจนตกลงจากหลังม้าได้ แต่นักเวทย์ดำใช้เวทย์พาเขาหนีไปซะก่อน

ทางฝ่ายของอัสลัน
เอตวลที่ตามเอลัมมาก็บุกเข้ามาถึงในกระโจม

ในที่สุดพวกเขาทั้งสองคนก็ได้พบกันอีกครั้ง



เอตวล : "ทำไมกัน ทำไมนาย..ถึงมาอยู่ที่นี่?"
           "ขะ..ข้าไม่ต้องการหัวเด็กน้อยอย่างเจ้าหรอก!"
           "พวกตาขาวนั่นเอามันไปซ่อนไว้ที่ไหน..  องค์ชายอัสลัน แกอยู่ไหน!!"
ทหารพาร์ทุกคนเริ่มขยับเข้ามาปกป้องเด็กหนุ่มหัวขาวตรงหน้าเอตวลใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
เธอเริ่มเข้าใจ ทั้งที่ไม่อยากเชื่อ
เอตวล : "นี่มันหมายความว่ายังไง?"
            "อย่าบอกนะว่า.."







เด็กหนุ่มเดินเข้ามาหาเด็กทาสที่เขาเคยพบเมื่อ 3 ปีก่อน..
และเอื้อนเอ่ยประโยคที่เด็กสาวไม่อยากได้ยินมากที่สุด

"ข้าคือ ...อัสลัน"

------จบตอน------

ตอนต่อไป

อัสลันบุกเข้ามาเจอกับเฮอร์เมสแล้ว!
เรื่องนี้ใกล้จบแล้ว!!?



Endcard by Zui Nieki  "Kanojo  wa  Rokurokubi"



-จุดพีคตอนนี้มาอยู่ท้ายตอนเลยค่ะ สงสารเอตวล
คงเสียใจแน่ๆที่มารู้ว่าคนที่ตัวเองต้องฆ่าคือคนที่ดีกับตัวเองมาตลอด
ตอนต่อไปเธอจะบอกอัสลันมั้ยว่า ตัวเองคือหญิงสาวเมื่อตอนนั้น รอลุ้นกันต่อไป
-คิดถึงกีฟฟฟฟ  เมื่อไหร่จะกลับมาาา
ตอนแรกคิดอยู่ว่า ยังไม่บุกเมืองหลวงเลยจะจบแล้วหรอ  มีแววว่าจะจบแล้วยังไงก็ไม่รู้แหะ
ตอนหน้าอัสลันน่าจะเอาชนะเฮอร์เมสได้แล้วนะคะ ดูจาก pv 55555
-จุดพีคอีกจุดคือ บทสนทนาของทหารกล้าทั้งสี่ (ดาร์รูน ซันเดส คิชวาร์ด ซัม ) เถียงกันตอนสู้
คุยกันมันส์กว่าสู้อีก ลองไปดูกันนะคะ ไม่แปลเพราะดูเองมันส์กว่า ฮาา
-เสื้อเกราะหน้ากากเงินเท่ดี แต่เท่ไม่สุดอ่ะ ฮือ เท่สู้ดาร์รูนไม่ได้เลย เสียใจ 555
-ชวนคุยได้นะคะ ถ้าเราพลาดตรงไหน บอกกันได้นะคะ
-รางวัลจับฉลากอัสลันออกมาแล้วนะคะ (ลาก่อนตัง)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ฟิกนาร์ซัส โอย อยากได้ แต่ราคาแพงแน่ ฮือ
ราคาฟิกอัสลัน 950 บาทเอง



ตุ๊กตาอิสราอิลน่ารัก





-แถมม ภาพร่างอัสลันน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

-แถมระรัว อัลลันขึ้นปกนิตยสารด้วยล่ะ  (นิตยสาร Bessatsu Shōnen Magazine ค่ะ )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

-แสตรปใหม่อัสลันค่ะ
มีฟิกจิบิด้วย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสตรปทั้งสอง



ฟิกจิบิ


และยังมีซาวน์แทรคออกปลายเดือนอีก สวัสดีค่ะ มาม่า


-แถมภาพอัลฟรีด เวอร์ OVA อันเก่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ปิดท้ายด้วย OP 2 Uzu to Uzu

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สัปดาห์หน้าจะไปพาชมเมืองเปชาร์วาร์ของจริงกันนะคะ

ปล.แจ้งข่าว วิบูลย์กิจแอบแย็บๆหน้าเพจว่าจะปล่อยอัสลันเล่ม 3 แล้วนะคะ แต่วันที่ยังไม่แน่นอน