ตอนนี้ฉากต่อสู้มันส์มากค่ะ อย่าลืมไปดูกันนะะะ

ช่วงนี้อาจจะเขียนสั้นๆห้วนๆหน่อยนะคะ งานรัดตัวมาก






[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ความเดิมจากตอนที่แล้ววว
ทัพของพัลส์และองค์ชายลำดับที่ 2 แห่งสินธูร่า "ราเชนทรา"
ได้บุกเขาห้ำหั่นกับทัพขององค์ชายลำดับที่ 1 แห่งสินธูร่า "กาเดวี"

องค์ชายกาเดวีส่งทัพช้างอันแข็งแกร่งเข้าเข่นฆ่าทหารขององค์ชายราเชนทราตายเป็นจำนวนมาก
แต่ด้วยหัวสมองอันปราชญ์เปรื่องของนาร์ซัส จึงสามารถผลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายชนะได้สำเร็จ
ในขณะที่ดาร์รูกำลังจะฆ่าองค์ชายกาเดวี จัสวอนก็มาขวางและพาองค์ชายกาเดวีหนีไป และก่อนที่ฟารางกิสจะยิงธนูปลิดชีพจัสวอนนั้น องค์ชายอัสลันก็ห้ามเอาไว้ ภายหลังพอองค์ชายกาเดวีกลับมาถึงเมืองหลวง เขาดุด่าข้าราชบริพารอย่างรุนแรง
จนที่ปรึกษาใหญ่ รู้สึกผิดที่เลือกรับใช้เลยสั่งให้จัสวอนหาทางทำให้กาเดวีแพ้ซะ

ในขณะนั้นองค์ราชาแห่งสินธูร่าฟื้นขึ้นมาพอดี เขาไม่คิดที่จะเลือกกาเดวีให้ขึ้นครองราชย์โดยทันที แต่เลือกที่จะให้ตัดสินด้วยการประลองหน้าเทพเจ้าแทน ซึ่งองค์ชายราเชนทราได้ขอให้ดาร์รูนเข้าประลองแทน


------------------------------

หลังจากที่ดาร์รูนโดนองค์ชายราเชนทราขอร้อง (แกมสั่ง) ให้เข้าประลองแทนตนหน่อย
ดาร์รูนก็แย้งไปประมาณว่า "ข้าเป็นข้าราชบริพารขององค์ชายอัสลัน
ข้าไม่สามารถรับคำขอใดๆโดยปราศจากคำสั่งของฝ่าบาทของข้าได้"

องค์ชายราเชนทราเลยคุกเข่าขอร้องฝ่าบาทอัสลันแทนฝ่าบาทใจอ่อนอยู่แล้วก็เลยยอมตกลง "ถ้ามันจะทำให้สงครามนี้จบลง"
แล้วหันไปถามดาร์รูน "ดาร์รูน ช่วยข้าเรื่องนี้ได้ไหม?" (น่ารักกก องค์ชายขอร้องนะคะ ไม่ได้สั่งเลย น่ารักก)
ดาร์รูนก็คุกเข่ารับคำสั่งล่ะตอบด้วยความจงรักภักดี "ไม่ว่าท่านจะเข้าไปพัวพันกับปัญหาใดๆก็ตาม... ขอแค่เป็นคำสั่งจากท่าน.."

หลังจากนั้น ดาร์รูนก็มาลับดาบเตรียมตัว นาร์ซัสก็นั่งอ่านแผ่นม้วนอยู่เป็นเพื่อน ทั้งสองก็เริ่มคุยกัน
ดาร์รูน : "ข้าเดาว่าฝ่ายกาเดวี ต้องเตรียมส่งทหารที่เก่งกว่าข้าเข้าสู้แน่"
นาร์ซัส "อื้ม เห็นด้วย ข้าว่ากาเดวีเองก็คงพยายามไม่ใช้แผนลวงเหมือนเรา นายห้ามประมาทเชียวนะ"
ดาร์รูน "วิธีอ้อมๆแบบนี้ เป็นเรื่องไร้สาระสั้นๆก่อนจะเข้าสู่อนาคตที่แท้จริงสินะ"
นาร์ซัส "เรื่องนี้เป็นเส้นทางอ้อมแน่นอน แต่ว่าถ้าคิดอีกในแง่หนึ่ง เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เกียรติยศของฝ่าบาทอัสลันย่อมขจรไปไกล และมันจะมีประโยชน์ต่อเราในอนาคตอย่างแน่นอน อีกอย่างสถานะของพวกเราในเปชาร์วาร์ย่อมแข็งแกร่งขึ้นด้วย"
ดาร์รูน "งั้นข้าคงแพ้ไม่ได้"
         "วันที่ลอร์ดบาร์มันเข้าขวางวิถีธนูปกป้องฝ่าบาทวันนั้น มันทำให้ข้านึกถึงคำพูดของท่านลุง ทำไมเขาไว้ใจให้ข้าดูแองค์ชายอัสลันกัน? ไม่ว่าองค์ชายจะเป็นใคร คนที่ข้าจะจงรักภักดีก็จะแต่เพียงเขาเท่านั้น"



ตัดมาฝั่งองค์ชายกาเดวีที่ได้ทราบข่าว เขาหงุดหงิดน้องชายตัวเองมากที่เลือกดาร์รูนเข้าสู้ เลือกชาวพัลส์แทนที่จะเลือกคนของประเทศตัวเอง
องค์ชายกาเดวีจึงตัดสินใจปล่อยนักโทษนาม "บาฮาดูร์" (Bahadur)
เพื่อเข้าสู้กับดาร์รูนโดยเฉพาะ ท่านที่ปรึกษาถึงกับอึ้งและรีบคัดค้านทันที
แต่องค์ชายกาเดวีก็ไม่ฟัง เพราะเพื่อบัลลังก์นี้แล้ว ถึงมันจะไม่สมควรแต่ก็ช่วยไม่ได้



เช้าวันต่อมา ขบวนของฝ่าบาทเดินทางเข้าเมืองหลวงแห่งสินธูร่า
และเมื่อเดินทางถึงลานประลอง องค์ชายในชุดทางการก็เข้าไปทักทายองค์ชายราเชนทรา และก้มเขาคารพองค์กษัตริย์แห่งสินธูร่า




ตัวแทนนักรบจากทั้งสองฝ่ายก็เดินเข้าสู่ลานประลอง ลานประลองมีลักษณะเป็นแท่นอยู่ตรงกลาง  ล้อมรอบด้วยไฟ
ฝ่ายขององค์ชายกาเดวีนั้น... ตัวใหญ่กว่าดาร์รูนอีก ใหญ่มากสูงสัก 200 เมตรได้มั้งนั่น
พอเห็นแบบนั้นทุกคนก็เลยเริ่มรู้สึกเป็นห่วง ฝ่าบาทถึงกับหันไปถามราเชนทราว่า นั่นใครน่ะ
แต่ราเชนทราก็ปลอบบอกไม่เป็นไรๆ เขาไม่ใช่ทางเดียวกันกับดาร์รูนหรอก (สู้สไตล์เดียวกันไรงี้)
เอลัมก็เลยให้กำลังใจฝ่าบาทด้วยเช่นกัน!



(ตอนต่อสู้ ขออธิบายไม่ละเอียดนะคะ ดูเอาเอมันส์กว่าเนอะ ฮา)
พอเริ่มสู้ อีกฝ่ายแรงเยอะมากขนาดปัดโล่ดาร์รูนปลิวแถมยังงอ..
แต่ดาร์รูนก็ยังเร็วกว่า สามารถฟันอีกฝ่ายโดนหนึ่งดาบ
แทนที่อีกฝ่ายจะเจ็บปวด ดาบนั้นกลับทำให้เขาคลั่งมากขึ้น เข้าจู่โจมดาร์รูนเร็วกว่าเดิม

ขนาดที่ว่ากีฟและฟารางกิสเห็พ้อกันว่าคนๆนั้นไม่ใช่คน แต่เป็นสัตว์ เลยทีเดียว
ฝ่าบาทก็เป็นห่วงดาร์รูนมาก

ด้วยการที่อีกฝ่ายมีแรงมาก ดาบของดาร์รูนถึงกับหักสะบั้นลง และโดนฟาดที่หัวเข้าเต็มแรง
โชคดีที่ยังโดนแค่เฉี่ยวๆ ดาร์รูนเลยยังลุกขึ้นมาสู้ต่อได้
และถึงจะสามารถเอาดาบที่หักปักลงไปที่หลังบริเวณหัวใจได้แล้ว อีกฝ่ายก็ยังไม่มีวี่แววจะอ่อนแรงเลยสักนิด
แต่ทางดาร์รูนที่โดนอัดทางกายภาพ (ต่อย เตะ)อย่างเดียว  กลับเริ่มทรุดแล้ว

องค์ชายราเชนทราบอกว่า ชายผู้นั้น บาฮาดูร์ว่ากันว่าเขานั้นเปรียบเสมือนฉลาม เขาไม่รู้จักความเจ็บปวด
พอได้ยินเช่นนั้นฝ่าบาทถึงกับโกรธคว้าคอเสื้อราเชนทรา “นายรู้มาก่อนแล้วสินะ เลยส่งดาร์รูนลงไปประลองแทน!!!”
ราเชนทรายังคงยืนยันว่าดาร์รูนไม่มีทางแพ้แน่นอน แต่ด้วยความโกรธถึงขีดสุดฝ่าบาทเลยยังไม่ยอมฟัง
องค์ราชาเลยต้องออกมาห้ามด้วยตนเอง องค์ราชาบอกปลอบใจฝ่าบาทอัสลันว่า “กาเดวีเลือกบาฮาดูร์หลังจากรู้ว่าราเชนทราเลือกเพื่อนท่าน  ข้าได้ยินมาว่าเพื่อนของท่านเป็นอัศวินผู้ยิ่งใหญ่ผุ้ไม่มีใครทัดเทียมได้ กาเดวีรู้ว่าตนต้องแพ้แน่ จึงเลือกปล่อยบาฮาดูร์ออกมา เพราะนั่นจะทำให้เพื่อนของท่านเกรงกลัวในตัวตนของศัตรู  ได้โปรดช่วยเขาด้วยการเชื่อในตัวเพื่อนท่านด้วยเถิด”

กาเดวีก็หันไปเยาะเย้ยราเชนทรา องค์ราชาเลยพูดขัด “ถ้าเจ้าใส่ใจต่อเขา(น่าจะหมายถึงข้าราชบริพารทั้งหลาย)ให้ได้สักครึ่งขององค์ชายอัสลัน ข้าคงเลือกเจ้าเป็นมกุฎราชกุมารไปแล้ว” กาเดวีก็อึ้งแปปล่ะน้อมรับคำสอนนั้นแบบยิ้มร้ายๆ

ผ่านไปสักพัก เมื่อถึงจุดๆหนึ่งนาร์ซัสก็ลุกขึ้นเดินไปเข้ากระซิบกับฝ่าบาท “ใกล้จบแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ดาร์รูนที่โดนต้อนไปจนถึงมุมไฟ เอาผ้าคลุมตัวเองจุดไฟล่ะขว้างปิดหน้ามาฮาดูร์ มาฮาคูร์พยายามเอาผ้าออกเลยต้องปล่อยขวานทิ้ง



ล่ะในขณะที่บาฮาดูร์บุกมาทั้งๆที่ผ้าปิดอยู่ครึ่งหน้านั้น ดาร์รูนก็ล็อคแขนบาฮาดูร์ข้างนึงและแทงมีดสั้นที่ซ่อนไว้เข้ากลางลำคออย่างแรง



กลยุทธ์มีดสั้นนี่น่าจะฝีมือนาร์ซัสค่ะ ... เอาไว้ป้องกันเวลาดาบยาวหัก
นาร์ซัสอธิบายประมาณว่า ถ้าอีกฝ่ายทำลายอาวุธดาร์รูนได้แล้ว ก็จะลดการป้องกันลง แต่กลยุทธ์การใช้ทั้งหมดนั่นฝีมือดาร์รูนเอง
เมื่อบาฮาดูร์ไม่ลุกขึ้นมาอีก องค์ราชาจึงลุกขึ้นประกาศ  “ดาร์รูน...หรือจะพูดได้ว่า ราเชนทรา...เป็นฝ่ายชนะ”
ฝ่าบาทที่โล่งอกถึงกับทรุดลงนั่งคุกเข่า เอลัมกับอัลฟรีดถึงกับจับมือเขย่ากัน (น่ารัก ฮา)



แต่กาเดวีไม่ยอมรับ เขาไม่ยอมรับคำตัดสินจากพระเจ้า ถึงกับชักดาบออกมาใส่หน้าบิดาของตนและบอกให้ยกบัลลังก์ให้เขาซะ ราเชนทราจึงเข้าไปปกป้ององค์ราชา และทัพของทั้งสองก็เข้าห่ำหั่นกันอีกครั้ง
พรรคพวกจึงรีบพาฝ่าบาทหนีออกมาก่อน โดยให้กีฟและฟารางกิสนำฝ่าบาทและทหารที่เหลือออกไป ทหารบางส่วนพวกเขาจะต้านเอาไว้ แต่สุดท้ายก็มีทหารมาขวางทางออก พวกเขาเลยต้องต่อสู้กันอยู่ตรงนั้น และในขณะที่ฝ่าบาทที่ไร้อาวุธกำลังจะถูกแทง คนๆนี้ก็เข้ามาช่วยเอาไว้และพาฝ่าบาทหนี



ฝ่ายกาเดวียังคงพยายามเข้าไปฆ่าองค์ราชา จนท่านที่ปรึกษาเริ่มทนไม่ไหวอกต่อไป จึงออกปากห้าม “เราแพ้แล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้าขอร้องให้ท่านได้โปรดหาหนทางที่จะยอมรับคำตัดสินจากพระเจ้าด้วยเถิด” กาเดวีไม่ฟังได้แต่คิดว่า ที่ปรึกษาใหญ่หันไปอยู่ฝ่ายราเชนทราแล้ว จึงฟันท่านที่ปรึกษาตายในดาบเดียว และนั่นก็ทำให้ทหารทุกคนที่สู้กันอยู่หยุดมือ

กาเดวีก็ยังไม่หยุด สั่งให้ฆ่าต่อไปจนดาร์รูนเองก็ทนไม่ไหว
“การประลองเมื่อสักครู่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นตัวตัดสินชะตาของอาณาจักรไม่ใช่รึไง?!!  ใครไม่พอใจ เข้ามาท้าข้าและมาสู้กับข้าที่นี่ ณ เดี๋ยวนี้!!!”

ทหารที่อึ้งๆอยู่แต่แรกถึงกับอุทานว่า “ Sher Senani “ เป็นภาษาอินเดีย (?) แปลว่า นายพลเสือผู้น่าเกรงขาม
และสรรเสริญดาร์รูนด้วยคำๆนี้ จนราเชนทราถือโอกาสบอกประมาณว่า ใครเห็นด้วยกับกาเดวี ถือว่ามีโทษลบหลู่เทพเจ้า
สุดท้ายกาเดวีก็ถูกจับ ทุกคนที่พาฝ่าบาทหนีไปตะกี้ก็งงๆว่าเกิดอะไรขึ้น



ทันใดนั้นจัสวอนก็มาถึงพอดี หลังจากพาฝ่าบาทอัสลันหนีไป ก็รีบวิ่งเข้ามาหาบิดาบุญธรรมของตนที่ถูกแทง
ท่านที่ปรึกษาใหญ่มาเฮนดราก็รวบรวมเฮือกสุดท้ายเอ่ยกับบุตรของตน
“จงอย่าเศร้า ... ข้าเลือกรับใช้คนผิด นี่คงจะเป็นจุดจบของความโง่เขลาของตัวข้า..  ข้าไม่สามารถทำอะไรให้เจ้าอีกแล้ว ...ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม..  จัสวอน.. จงอย่า .เลือกเส้นทางที่ผิด ...”



------จบตอน---------

ตอนต่อไป

นาร์ซัสรับรู้ได้ถึงนิสัยที่แท้จริงของราเชนทรา ว่าเขานั้นแสดงแกล้งโง่
สรุปตอนต่อไป มีอะไร ก็ยังไม่เข้าใจค่ะ 555555



Endcard by Miki Yoshikawa



อันนี้ส่วนเสริม

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ฝ่าบาทสวยกว่าฟารางกิสอีก..(ม่ายยย)

-ต่อสู้มันส์
-ฝ่าบาทห่วงใยผู้ติดตามทุกคน จนเราเองดูกี่ทีๆถ้าเราเป็นทหารในเรื่องก็คจะเลือกรับใช้ฝ่าบาทนี่แหล่ะค่ะ
-ตอนนี้เอลัมกับอัลฟรีดไม่กัดกันแล้ว น่ารัก ฮาาา
-นาร์ซัสนี่เชื่อใจดาร์รูนโคตรๆอ่ะ ทุกคนห่วงจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ แต่นาร์ซัสนี่นั่งดูเฉ๊ยเฉย เพราะถึงจุดตายล่ะลุกก่อนใครเพื่อน 5555
-ส่วนฟีกนี่มีอะไรก็หันไปแลฟารางกิสคนเดียวเลย โหววว 5555
-ชวนคุยได้นะคะ ขอโทษที่ตอนที่แล้วไม่ได้เข้าไปตอบ งานเยอะมากๆ T__T เดี๋ยวกระทู้นี้เสร็จอาจจะไปตอบให้นะคะ

แถมมม

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แผ่น OP2 ออกแล้วค่ะ ตั้งแต่วันที่ 1 ที่ผ่านมา จขกท.ยังไม่ได้สั่งเลย 55555
กะจะรอสั่งพร้ม ED2 และสแตรปลายใหม่   กรอบเลยทีเดียว 555



ส่วนแผ่น DVD ก็ออก วันที่ 26 สิงหาค่ะ