ไม่ใช่เซียนอาหารหรือลิ้นเทพอะไรนะครับ แต่บังเอิญว่า ได้ไปกินรายการอาหารที่คล้ายๆกันมา
เมื่อต้นเดือนกับจะปลายๆเดือนมิถุนาที่ผ่านมา
แล้วเห็นความต่างของอาหารที่เป็นเมนูคล้ายๆกันครับ เลยนึกสนุกเอามา Review ให้ดูครับ
ร้านแรก
คืนนั้น บังเอิญกลับจากการทำธุระที่ไม่ใช่เส้นทางประจำแล้วหิว เลยแวะเข้าไป MAX VALUE สาขาวัดลาดปลาดุก ที่บางใหญ่ครับ เลยได้ไปเจอร้านนี้มา จอดอยู่ที่ใกล้ลานจอดรถพอดีครับ
จะเรียกว่าร้านหรือว่าจะเรียกว่ารถขายข้าวเคลื่อนที่ดีก็ไม่รู้ครับ >< แต่ดูดีโดยรวมดูดีครับ
ร้านอาหารเคลื่อนที่แบบนี้หลังน่าจะเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะเห็นเยอะล่ะ
KOFUKU เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบแนว street food (เรียกแบบนี้ป่าว) ช่างเถอะ เข้าเรื่องไปดูของกินที่ผมสั่งมากินเลยดีกว่า
อ้อ อีกเรื่อง คือ ตรงๆครับ ตอนสั่งผมจิ้มตามรูปเลย ไม่เรียกชื่อเมนูครับ ขออภัยที่จำชื่ออาหารไม่ได้ เพราะไม่เคยกินและก็ไม่เคยรู้จักร้านนี้มาก่อนด้วย
แต่ถ้าอันไหนนึกออกว่า เรียกว่าอะไรจะบอกไว้ละกันครับ
รายการอาหาร
ข้าวแกงกะหรี่หมูทอด (มั๊ง) จำชื่อได้อันนี้อันเดียว
ผิดหวังกะหน้าตารายการนี้เล็กน้อย แต่รสชาดผ่านก็หยวนๆไปละกัน
เมนูสุดท้ายที่สั่ง ข้าวยำเมกะบางนา เอ้ย..ข้าวยำเมกะด้ง (มั๊งอีกล่ะครับ ><)
อีกราวๆ สองอาทิตย์ถัดมาเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ บังเอิญผ่านไปทางถนนเลี่ยงเมืองนนท์ ไปเจอ...ร้านซูชิ วังหลัง...ครับ
หิวครับ เลยลองแวะกิน ร้านนี้เคยกินที่ศิริราชครับ ครั้งนั้นกินเฉพาะพวกข้าวปั้น ซูชิ ทาโก๊ะยากิ ครับ แต่วันนี้เปิดเจอ
เมนูข้าวหมูทอด >>> แน่นอนครับ สั่งมาเพราะอยากรู้ว่ารสจะต่างกันกับร้านที่ไปกินมาก่อนหน้านั้นไหม
บอกเลยครับประทับใจมากกับขนาดของจานและชิ้นหมูทอดที่วางลงมา แต่บังเอิญว่ามีชิ้นนึงมันตะแคงขึ้นพอดี
หมูสามชั้น..ชัดๆ 555 (หมูอยู่ตรงกลางชั้นที่ 3 ต่อจากแป้งที่ใช้ชุบให้ดูหมูชิ้นหนาและบานๆใหญ่ๆ) แต่ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน
ส่วนรายการอื่นๆที่สั่งก็ .....
จานนี้ 50 บาทครับ เนื้อแซลมอนหนาประมาณ 0.5 ซม มี 8 ชิ้น
ซุปสาหร่าย
และสุดท้าย
ปัญหา ณ วันและเวลาที่ผมได้ไปกิน อยู่ที่จานนี้ครับ ตั้งแต่ ผักแต่งจาน เนื้อปลา
ผักโดยเฉพาะมะเขือเทศช้ำมากทั้งนอกและใส้ในตามภาพเลยครับ ส่วนผักอื่นๆ ก็ไม่ค่อยสดเท่าที่ควรรวมถึงกะหล่ำซอยด้วย
และก็เนื้อปลาก็ทอดมายังไม่สุกเต็มที่ แต่ไม่ใช่ว่ากินไม่ได้นะครับ เพียงแต่ว่า มันควรจะสุกแห้งกว่านี้อีกนิด
อีกอย่าง คือ เฟรนช์ฟราย ที่ทอดมาไม่สุกด้วยเช่นกันครับ
ผมได้เรียกทางผู้จัดการร้าน เข้ามาเพื่อแจ้งปัญหาให้ทราบ บอกตามตรงครับ ประทับใจในการตอบคำถามของพี่ผู้จัดการร้านและแนวทางแก้ปัญหาแบบไม่มีอิดออดครับ คือ เสนอเปลี่ยนจานให้ทันที แต่ทางผม บอกว่า ผมไม่ได้ต้องการเปลี่ยนจาน แต่ต้องการแจ้งปัญหาให้ร้านรับทราบครับ เพราะเปลี่ยนจานมาผมก็กินไม่หมดอยู่ดี ทางพี่เขาก็ยื้อๆ จะเปลี่ยนให้ได้ แต่ผมบอกว่าไม่เป็นไร พอกินได้แต่ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้กับลูกค้าคนอื่นๆ ครับ ต้องการบอกแค่นั้นจริงๆ
สรุป ผมก็กินจนหมดนั่นล่ะครับ ยกเว้นผัก มะเขือเทศ เฟรนช์ฟรายที่มีปัญหา
อ่ะ ดูรูปกันไปแล้วนะครับ
===================
ผมขอสรุปแบบนี้นะครับ จากทั้ง 2 ร้าน ที่บังเอิญได้ไปกินมาในเวลาใกล้ๆกัน
1. ราคา ทั้ง 2 ร้าน ราคาใกล้เคียงกันครับ ร้านแรก KOFUKU ถ้าจำไม่ผิดเริ่มจะเริ่มต้นที่จานละ 55 บาทครับ ส่วนร้านซูชิวังหลัง อาหารแบบเป็นจานจะเริ่มต้นที่ 50 บาท (มั๊งอีกล่ะ) ไม่นับราคาซูชิเป็นคำๆ นะครับ
2. เอาที่ผมเทียบได้จะๆ เลยคือ เนื้อหมูทอด ครับ ร้านแรก KOFUKU ชั้นขาดครับ เนื้อหมูหนานุ่มกรอบนอกนุ่มในจริงๆ ส่วนของร้านซูชิ วังหลัง ตามภาพเลยครับ ได้เรื่องจัดจานที่ทำให้ประทับได้มากจริงๆ พอมาวางตรงหน้า มันอลังการมากกกกก
3. หน้าตา การจัดจาน สีสันของร้านซูชิ วังหลัง ชนะขาดครับ ของ KOFUKU ผมว่าออกแนวดิบๆ หน่อย เน้นการโชววัตถุดิบในจาน ไม่เน้นสีสัน
4. รสชาด อันนี้ ความเห็นส่วนตัวครับ ผมชอบร้าน KOFUKU มากกว่าครับ รู้สึกว่า เข้มข้นกว่าครับ ทั้งซุปทั้งรสชาติของซอสที่ราดลงมาในจานอาหารต่างๆ แต่ไม่ใช่ว่าอาหารของร้านซูชิ วังหลังไม่อร่อยนะครับ อร่อยครับ อร่อยตามมาตรฐานร้านครับ
5. ข้าว ร้าน KUFUKU ชนะขาดครับ เพราะน่าจะใช้ข้าวญี่ปุ้น 100% ครับ ส่วนของทางร้านซูชิวังหลัง ผมไม่แน่ใจจริงๆครับ แต่เท่าที่กินไม่น่าจะใช่ข้าวญี่ปุ่นครับ (ถ้ามีใครทราบบอกได้นะครับ ^_^ )
6. ปริมาณ สำหรับคนกินไม่จุอย่างผม หรือสำหรับสาวๆ ผมคิดว่า ข้าวชุด 1 จาน อิ่มพอดีๆ ครับ
สุดท้าย กระทู้นี้จากเหตุการณ์ที่ไปเจอจริงนะครับ ดังนั้น สิ่งที่ผมเจอมา ณ วันนั้น เวลานั้นอาจจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วนะครับ และขอเป็นกระทู้แบบบอกเล่าให้ฟังแบบเพื่อนๆ นะครับ ไม่มีเจตนาจะ discredit ร้านใดๆ ทั้งสิ้นครับ
ดังนั้น ใกล้ไหนก็ไปกินที่นั่นได้ครับ ได้ทั้ง 2 ร้านเลยครับ ไปลองเลือกกินเลือกจิ้มตามภาพแบบผมได้เลยครับ 555
ขอให้ทุกๆคนมีความสุขกับการกินนะครับ ^_^
===============////////////////////=============
เกือบลืม...............ประทับใจกับ service mind ของพี่ผู้จัดการร้านมากกกกกก คือ
ตอนจ่ายตังค์ เรียกเก็บเงินนานมากก็ไม่มีคนมาเก็บ จนผมมองเห็นว่า ทางพี่ผู้จัดการหยิบเงินออกจากกระเป๋าตังค์ตัวเองจ่ายให้พนักงานเก็บเงินหน้าเคาน์เตอร์ ไปแล้วให้พนักงานอีกคนมาบอกว่า ร้านจะไม่เก็บตังค์ค่าอาหารที่ผมกินทั้งโต๊ะนะครับ
ผมเลยไม่ยอมครับ ก็ผมกินไปแล้วนี่นาจะไม่เก็บตังค์ได้ไง อีกอย่างผมก็บอกว่า ผมเห็นพี่เอาเงินตัวเองจ่ายไปเมื่อกี้อ่ะ
แน่นอน พี่เขาก็ไม่ยอมรับครับ ว่าจ่ายเอง 555
เลยเถียงกันสัก 5 นาที่ได้ เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้น ผมขอจ่ายที่ไม่มีปัญหาละกันครับ พี่เขาก็ตกลงคิดตังค์มาเฉพาะค่าซูชิ 50 บาท และ ค่าน้ำเปล่า รวมมื้อนั้น ผมจ่ายไป 60 บาทครับ
ประทับใจครับ ว่างๆ ผ่านไป จะไปซ้ำแน่ๆ ครับ ^_^
[CR] บังเอิญไปหม่ำมา kofuku vs ซูชิ วังหลัง ณ นนทบุรี
เมื่อต้นเดือนกับจะปลายๆเดือนมิถุนาที่ผ่านมา
แล้วเห็นความต่างของอาหารที่เป็นเมนูคล้ายๆกันครับ เลยนึกสนุกเอามา Review ให้ดูครับ
ร้านแรก
คืนนั้น บังเอิญกลับจากการทำธุระที่ไม่ใช่เส้นทางประจำแล้วหิว เลยแวะเข้าไป MAX VALUE สาขาวัดลาดปลาดุก ที่บางใหญ่ครับ เลยได้ไปเจอร้านนี้มา จอดอยู่ที่ใกล้ลานจอดรถพอดีครับ
จะเรียกว่าร้านหรือว่าจะเรียกว่ารถขายข้าวเคลื่อนที่ดีก็ไม่รู้ครับ >< แต่ดูดีโดยรวมดูดีครับ
ร้านอาหารเคลื่อนที่แบบนี้หลังน่าจะเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะเห็นเยอะล่ะ
KOFUKU เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบแนว street food (เรียกแบบนี้ป่าว) ช่างเถอะ เข้าเรื่องไปดูของกินที่ผมสั่งมากินเลยดีกว่า
อ้อ อีกเรื่อง คือ ตรงๆครับ ตอนสั่งผมจิ้มตามรูปเลย ไม่เรียกชื่อเมนูครับ ขออภัยที่จำชื่ออาหารไม่ได้ เพราะไม่เคยกินและก็ไม่เคยรู้จักร้านนี้มาก่อนด้วย
แต่ถ้าอันไหนนึกออกว่า เรียกว่าอะไรจะบอกไว้ละกันครับ
รายการอาหาร
ข้าวแกงกะหรี่หมูทอด (มั๊ง) จำชื่อได้อันนี้อันเดียว
ผิดหวังกะหน้าตารายการนี้เล็กน้อย แต่รสชาดผ่านก็หยวนๆไปละกัน
เมนูสุดท้ายที่สั่ง ข้าวยำเมกะบางนา เอ้ย..ข้าวยำเมกะด้ง (มั๊งอีกล่ะครับ ><)
อีกราวๆ สองอาทิตย์ถัดมาเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ บังเอิญผ่านไปทางถนนเลี่ยงเมืองนนท์ ไปเจอ...ร้านซูชิ วังหลัง...ครับ
หิวครับ เลยลองแวะกิน ร้านนี้เคยกินที่ศิริราชครับ ครั้งนั้นกินเฉพาะพวกข้าวปั้น ซูชิ ทาโก๊ะยากิ ครับ แต่วันนี้เปิดเจอ
เมนูข้าวหมูทอด >>> แน่นอนครับ สั่งมาเพราะอยากรู้ว่ารสจะต่างกันกับร้านที่ไปกินมาก่อนหน้านั้นไหม
บอกเลยครับประทับใจมากกับขนาดของจานและชิ้นหมูทอดที่วางลงมา แต่บังเอิญว่ามีชิ้นนึงมันตะแคงขึ้นพอดี
หมูสามชั้น..ชัดๆ 555 (หมูอยู่ตรงกลางชั้นที่ 3 ต่อจากแป้งที่ใช้ชุบให้ดูหมูชิ้นหนาและบานๆใหญ่ๆ) แต่ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน
ส่วนรายการอื่นๆที่สั่งก็ .....
จานนี้ 50 บาทครับ เนื้อแซลมอนหนาประมาณ 0.5 ซม มี 8 ชิ้น
ซุปสาหร่าย
และสุดท้าย
ปัญหา ณ วันและเวลาที่ผมได้ไปกิน อยู่ที่จานนี้ครับ ตั้งแต่ ผักแต่งจาน เนื้อปลา
ผักโดยเฉพาะมะเขือเทศช้ำมากทั้งนอกและใส้ในตามภาพเลยครับ ส่วนผักอื่นๆ ก็ไม่ค่อยสดเท่าที่ควรรวมถึงกะหล่ำซอยด้วย
และก็เนื้อปลาก็ทอดมายังไม่สุกเต็มที่ แต่ไม่ใช่ว่ากินไม่ได้นะครับ เพียงแต่ว่า มันควรจะสุกแห้งกว่านี้อีกนิด
อีกอย่าง คือ เฟรนช์ฟราย ที่ทอดมาไม่สุกด้วยเช่นกันครับ
ผมได้เรียกทางผู้จัดการร้าน เข้ามาเพื่อแจ้งปัญหาให้ทราบ บอกตามตรงครับ ประทับใจในการตอบคำถามของพี่ผู้จัดการร้านและแนวทางแก้ปัญหาแบบไม่มีอิดออดครับ คือ เสนอเปลี่ยนจานให้ทันที แต่ทางผม บอกว่า ผมไม่ได้ต้องการเปลี่ยนจาน แต่ต้องการแจ้งปัญหาให้ร้านรับทราบครับ เพราะเปลี่ยนจานมาผมก็กินไม่หมดอยู่ดี ทางพี่เขาก็ยื้อๆ จะเปลี่ยนให้ได้ แต่ผมบอกว่าไม่เป็นไร พอกินได้แต่ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้กับลูกค้าคนอื่นๆ ครับ ต้องการบอกแค่นั้นจริงๆ
สรุป ผมก็กินจนหมดนั่นล่ะครับ ยกเว้นผัก มะเขือเทศ เฟรนช์ฟรายที่มีปัญหา
อ่ะ ดูรูปกันไปแล้วนะครับ
===================
ผมขอสรุปแบบนี้นะครับ จากทั้ง 2 ร้าน ที่บังเอิญได้ไปกินมาในเวลาใกล้ๆกัน
1. ราคา ทั้ง 2 ร้าน ราคาใกล้เคียงกันครับ ร้านแรก KOFUKU ถ้าจำไม่ผิดเริ่มจะเริ่มต้นที่จานละ 55 บาทครับ ส่วนร้านซูชิวังหลัง อาหารแบบเป็นจานจะเริ่มต้นที่ 50 บาท (มั๊งอีกล่ะ) ไม่นับราคาซูชิเป็นคำๆ นะครับ
2. เอาที่ผมเทียบได้จะๆ เลยคือ เนื้อหมูทอด ครับ ร้านแรก KOFUKU ชั้นขาดครับ เนื้อหมูหนานุ่มกรอบนอกนุ่มในจริงๆ ส่วนของร้านซูชิ วังหลัง ตามภาพเลยครับ ได้เรื่องจัดจานที่ทำให้ประทับได้มากจริงๆ พอมาวางตรงหน้า มันอลังการมากกกกก
3. หน้าตา การจัดจาน สีสันของร้านซูชิ วังหลัง ชนะขาดครับ ของ KOFUKU ผมว่าออกแนวดิบๆ หน่อย เน้นการโชววัตถุดิบในจาน ไม่เน้นสีสัน
4. รสชาด อันนี้ ความเห็นส่วนตัวครับ ผมชอบร้าน KOFUKU มากกว่าครับ รู้สึกว่า เข้มข้นกว่าครับ ทั้งซุปทั้งรสชาติของซอสที่ราดลงมาในจานอาหารต่างๆ แต่ไม่ใช่ว่าอาหารของร้านซูชิ วังหลังไม่อร่อยนะครับ อร่อยครับ อร่อยตามมาตรฐานร้านครับ
5. ข้าว ร้าน KUFUKU ชนะขาดครับ เพราะน่าจะใช้ข้าวญี่ปุ้น 100% ครับ ส่วนของทางร้านซูชิวังหลัง ผมไม่แน่ใจจริงๆครับ แต่เท่าที่กินไม่น่าจะใช่ข้าวญี่ปุ่นครับ (ถ้ามีใครทราบบอกได้นะครับ ^_^ )
6. ปริมาณ สำหรับคนกินไม่จุอย่างผม หรือสำหรับสาวๆ ผมคิดว่า ข้าวชุด 1 จาน อิ่มพอดีๆ ครับ
สุดท้าย กระทู้นี้จากเหตุการณ์ที่ไปเจอจริงนะครับ ดังนั้น สิ่งที่ผมเจอมา ณ วันนั้น เวลานั้นอาจจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วนะครับ และขอเป็นกระทู้แบบบอกเล่าให้ฟังแบบเพื่อนๆ นะครับ ไม่มีเจตนาจะ discredit ร้านใดๆ ทั้งสิ้นครับ
ดังนั้น ใกล้ไหนก็ไปกินที่นั่นได้ครับ ได้ทั้ง 2 ร้านเลยครับ ไปลองเลือกกินเลือกจิ้มตามภาพแบบผมได้เลยครับ 555
ขอให้ทุกๆคนมีความสุขกับการกินนะครับ ^_^
===============////////////////////=============
เกือบลืม...............ประทับใจกับ service mind ของพี่ผู้จัดการร้านมากกกกกก คือ
ตอนจ่ายตังค์ เรียกเก็บเงินนานมากก็ไม่มีคนมาเก็บ จนผมมองเห็นว่า ทางพี่ผู้จัดการหยิบเงินออกจากกระเป๋าตังค์ตัวเองจ่ายให้พนักงานเก็บเงินหน้าเคาน์เตอร์ ไปแล้วให้พนักงานอีกคนมาบอกว่า ร้านจะไม่เก็บตังค์ค่าอาหารที่ผมกินทั้งโต๊ะนะครับ
ผมเลยไม่ยอมครับ ก็ผมกินไปแล้วนี่นาจะไม่เก็บตังค์ได้ไง อีกอย่างผมก็บอกว่า ผมเห็นพี่เอาเงินตัวเองจ่ายไปเมื่อกี้อ่ะ
แน่นอน พี่เขาก็ไม่ยอมรับครับ ว่าจ่ายเอง 555
เลยเถียงกันสัก 5 นาที่ได้ เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้น ผมขอจ่ายที่ไม่มีปัญหาละกันครับ พี่เขาก็ตกลงคิดตังค์มาเฉพาะค่าซูชิ 50 บาท และ ค่าน้ำเปล่า รวมมื้อนั้น ผมจ่ายไป 60 บาทครับ
ประทับใจครับ ว่างๆ ผ่านไป จะไปซ้ำแน่ๆ ครับ ^_^