สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ปกติเราไปเซเว่น เราจะพูดกับลูก (2 ขวบ) ให้เลือกขนมได้ชิ้นเดียว พอเขาเลือกเสร็จเราจะบอก
ให้เขาเอาขนมไปวางที่เคาน์เตอร์เพื่อคิดเงิน ส่วนเราก็วางของชิ้นอื่น ๆ ในมือ แล้วเราก็จ่ายเงิน
ก็ไม่เคยถูกแซงคิว เพราะเรามาด้วยละมั้ง
แต่คุณแม่ไม่น่าจะรีบพาน้องออกมานะคะ คำพูดของน้องถูกต้อง แม่เอาหนูออกมาทำไม หนูแค่อยากจะกินน้ำ
อันที่จริงควรจะปล่อยให้ลูกแผลงฤทธิ์เต็มที่เสร็จแล้วก็พูดสอนน้อง ให้หยุดร้องจ่ายเงินแล้วก็เดินออกจากร้านไป
บอกกับลูกว่าจำความรู้สึกของคนที่ถูกแซงคิวไว้นะคะ ว่าคนที่ถูกแซงคิวจะรู้สึกไม่ดี นั่นเป็นเหตุผลที่เราควรจะ
เคารพกฎและเข้าคิว ไม่งั้นลูกก็จะทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีกับลูก
ให้เขาเอาขนมไปวางที่เคาน์เตอร์เพื่อคิดเงิน ส่วนเราก็วางของชิ้นอื่น ๆ ในมือ แล้วเราก็จ่ายเงิน
ก็ไม่เคยถูกแซงคิว เพราะเรามาด้วยละมั้ง
แต่คุณแม่ไม่น่าจะรีบพาน้องออกมานะคะ คำพูดของน้องถูกต้อง แม่เอาหนูออกมาทำไม หนูแค่อยากจะกินน้ำ
อันที่จริงควรจะปล่อยให้ลูกแผลงฤทธิ์เต็มที่เสร็จแล้วก็พูดสอนน้อง ให้หยุดร้องจ่ายเงินแล้วก็เดินออกจากร้านไป
บอกกับลูกว่าจำความรู้สึกของคนที่ถูกแซงคิวไว้นะคะ ว่าคนที่ถูกแซงคิวจะรู้สึกไม่ดี นั่นเป็นเหตุผลที่เราควรจะ
เคารพกฎและเข้าคิว ไม่งั้นลูกก็จะทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีกับลูก
ความคิดเห็นที่ 12
คุณสอนลูกให้รู้จักเข้าแถวได้ดีมากครับ ขอชื่นชม
ลูกคุณเองก็มีความอดทนพอสมควรที่ระงับอารมณ์ไม่ให้ร้องไห้หรือโวยวาย หรือกร๊ดกร๊าดออกมาตั้งแต่โดนอิแม่นาคมันแซง
ผมว่าแกมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ระดับนึงนะครับ
แต่ทั้งนี้ ณ จุดนี้ ถ้าเป็นผม คงเข้าไปต่อว่าแคชเชียร์เลยว่า น้องๆ นี่เด็กมาเข้าแถวก่อนไม่ใช่เหรอครับ ทำไมน้องไปคิดเงินให้อิแม่นาคล่ะครับ
(น้ำเสียงไม่วีนนะ เดี๋ยวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับลูก)
ผมว่า 99% ที่แคชเชียร์จะตอบว่า ขอโทษค่ะ สั้นๆ ง่ายๆ ไม่น่าจะต่อปากต่อคำ หรือไม่ก็ไม่เห็นค่ะ
ซึ่งเราก็คงจะบอกลูกไปว่า ไม่เป็นไรนะ พี่เขาขอโทษแล้ว พี่เขาคงไม่เห็น อะไรก็ว่าไป
เพื่อให้ลูกเข้าใจว่าการที่มีคนมาแซงเค้านั้น 1. มันผิด 2. พ่อแม่ช่วยดูแลปกป้องสิทธิของเขา
แต่อย่างว่าล่ะครับ ใครมันจะไปคิดว่าลูกเราจะดวงแตกเจอแซงซ้ำอีกรอบ (สงสารเลยอะ)
แต่ตอนโดนแซงรอบสองนี่ผมต้องขอเสียมารยาทบอกว่าคุณและแฟนทำไม่ถูกเลยครับ
พาลูกออกมา น้ำก็เอาไปคืน มันเหมือนกับแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ลูกอุตส่าห์ทำไปมันไม่ได้ผลลัพท์ที่ดี
(แต่คุณก็คงทราบแล้ว เพราะสิ่งที่ลูกคุณพูดออกมานั้น มันสื่อทุกอย่างได้ตรงไปตรงมาที่สุดครับ)
หนูเข้าคิว หนูโดนแซง ทำไมหนูต้องออกจากร้าน ซ้ำร้ายที่สุด ทำไมหนูอดกินน้ำล่ะ!
ถ้าพูดกันในทางทฤษฎีจิตวิทยานี่มีโอกาสที่อีกหน่อยลูกคุณจะไม่ศรัทธาเรื่องการเข้าคิวครับ
นอกจากนั้น ที่ผมว่าน่ากลัวว่าแกจะเสียใจคือ ผมว่าแกมีโอกาสคิดว่าพ่อแม่ไม่ปกป้อง หนูทำถูกตามแม่สอน พ่อแม่ก็รู้ แต่ทำไมพ่อแม่ไม่ช่วยหนูอ่ะ
เรื่องนี้ผมมองว่าน่ากลัวเสียยิ่งกว่าต่อคิวอีก เพราะมันไม่ใช่การไม่ศรัทธาในทฤษฎี แต่มันกลายเป็นความเสียความเชื่อมั่นในตัวพ่อแม่
ควรไปคุยกับลูกนะครับว่าที่พ่อเค้าคืนน้ำเพราะเค้าไม่อยากอุดหนุนร้านที่ไม่ทำตามระเบียบ เราต้องไม่สนับสนุนร้านที่ไม่ดีนะ
พ่อไม่ได้ไม่ช่วยหนูนะคะ แต่พ่อต้องการบอกพนักงานว่าที่เค้าทำมันไม่ถูก เราจะไม่ซื้อเค้าแล้ว เป็นต้น
ต้องกลับไปคุยนะครับ ว่าวันนั้นลูกเสียใจที่พ่อเอาน้ำไปคืนเหรอคะ แต่ลูกรู้ใช่มั้ยว่าพ่อไม่ได้แกล้งหนูนะ พ่อไม่ได้ไม่ช่วยหนูนะ ฯลฯ
ผมว่าตรงนี้สำคัญครับ
แต่ก็อย่างว่าอีกล่ะนะครับ พูดตรงนี้มันก็ง่ายทั้งนั้น พอเจอเหตุการณ์จริงมันก็อาจจะตัดสินใจทำตามตำรากันไม่ได้ทุกคนหรอกครับ
ยังไงก็ขอให้โชคดีนะครับ ผมว่าลูกคุณเป็นคนที่มีความคิดความอ่านนะครับ อายุแค่ย่าง 5 ขวบเอง สอนดีๆแกเป็นเด็กดีแน่ครับ
ลูกคุณเองก็มีความอดทนพอสมควรที่ระงับอารมณ์ไม่ให้ร้องไห้หรือโวยวาย หรือกร๊ดกร๊าดออกมาตั้งแต่โดนอิแม่นาคมันแซง
ผมว่าแกมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ระดับนึงนะครับ
แต่ทั้งนี้ ณ จุดนี้ ถ้าเป็นผม คงเข้าไปต่อว่าแคชเชียร์เลยว่า น้องๆ นี่เด็กมาเข้าแถวก่อนไม่ใช่เหรอครับ ทำไมน้องไปคิดเงินให้อิแม่นาคล่ะครับ
(น้ำเสียงไม่วีนนะ เดี๋ยวเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับลูก)
ผมว่า 99% ที่แคชเชียร์จะตอบว่า ขอโทษค่ะ สั้นๆ ง่ายๆ ไม่น่าจะต่อปากต่อคำ หรือไม่ก็ไม่เห็นค่ะ
ซึ่งเราก็คงจะบอกลูกไปว่า ไม่เป็นไรนะ พี่เขาขอโทษแล้ว พี่เขาคงไม่เห็น อะไรก็ว่าไป
เพื่อให้ลูกเข้าใจว่าการที่มีคนมาแซงเค้านั้น 1. มันผิด 2. พ่อแม่ช่วยดูแลปกป้องสิทธิของเขา
แต่อย่างว่าล่ะครับ ใครมันจะไปคิดว่าลูกเราจะดวงแตกเจอแซงซ้ำอีกรอบ (สงสารเลยอะ)
แต่ตอนโดนแซงรอบสองนี่ผมต้องขอเสียมารยาทบอกว่าคุณและแฟนทำไม่ถูกเลยครับ
พาลูกออกมา น้ำก็เอาไปคืน มันเหมือนกับแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ลูกอุตส่าห์ทำไปมันไม่ได้ผลลัพท์ที่ดี
(แต่คุณก็คงทราบแล้ว เพราะสิ่งที่ลูกคุณพูดออกมานั้น มันสื่อทุกอย่างได้ตรงไปตรงมาที่สุดครับ)
หนูเข้าคิว หนูโดนแซง ทำไมหนูต้องออกจากร้าน ซ้ำร้ายที่สุด ทำไมหนูอดกินน้ำล่ะ!
ถ้าพูดกันในทางทฤษฎีจิตวิทยานี่มีโอกาสที่อีกหน่อยลูกคุณจะไม่ศรัทธาเรื่องการเข้าคิวครับ
นอกจากนั้น ที่ผมว่าน่ากลัวว่าแกจะเสียใจคือ ผมว่าแกมีโอกาสคิดว่าพ่อแม่ไม่ปกป้อง หนูทำถูกตามแม่สอน พ่อแม่ก็รู้ แต่ทำไมพ่อแม่ไม่ช่วยหนูอ่ะ
เรื่องนี้ผมมองว่าน่ากลัวเสียยิ่งกว่าต่อคิวอีก เพราะมันไม่ใช่การไม่ศรัทธาในทฤษฎี แต่มันกลายเป็นความเสียความเชื่อมั่นในตัวพ่อแม่
ควรไปคุยกับลูกนะครับว่าที่พ่อเค้าคืนน้ำเพราะเค้าไม่อยากอุดหนุนร้านที่ไม่ทำตามระเบียบ เราต้องไม่สนับสนุนร้านที่ไม่ดีนะ
พ่อไม่ได้ไม่ช่วยหนูนะคะ แต่พ่อต้องการบอกพนักงานว่าที่เค้าทำมันไม่ถูก เราจะไม่ซื้อเค้าแล้ว เป็นต้น
ต้องกลับไปคุยนะครับ ว่าวันนั้นลูกเสียใจที่พ่อเอาน้ำไปคืนเหรอคะ แต่ลูกรู้ใช่มั้ยว่าพ่อไม่ได้แกล้งหนูนะ พ่อไม่ได้ไม่ช่วยหนูนะ ฯลฯ
ผมว่าตรงนี้สำคัญครับ
แต่ก็อย่างว่าอีกล่ะนะครับ พูดตรงนี้มันก็ง่ายทั้งนั้น พอเจอเหตุการณ์จริงมันก็อาจจะตัดสินใจทำตามตำรากันไม่ได้ทุกคนหรอกครับ
ยังไงก็ขอให้โชคดีนะครับ ผมว่าลูกคุณเป็นคนที่มีความคิดความอ่านนะครับ อายุแค่ย่าง 5 ขวบเอง สอนดีๆแกเป็นเด็กดีแน่ครับ
ความคิดเห็นที่ 16
ประเด็นแบบนี้แหละครับที่คนเป็นพ่ออย่างผมต้องตัดสินใจว่าจะให้คำตอบลูกอย่างไรดี ในเมื่อคนบางคนจ้องที่จะเอาเปรียบคนอื่น ในขณะที่เราพร่ำสอนให้ลูกเราไม่เอาเปรียบคนอื่น และสังคมชีวิตจริง ๆ ไม่ใช่โลกในฝันเราต้องเจอกับคนเอาเปรียบสังคมมากกว่า
- กรณีแซงคิวอาจจะเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าผมอยู่ในเหตุการณ์ผมก็จะไม่ยอม จะบอกทันทีเลยว่าไม่อายหรือ แซงคิวกระทั่งเด็ก ทั้ง ๆ ที่เด็กทำตามกติกาแต่กลับมีคนอื่นไม่ทำตามกติกา
- เคยเกิดกรณีลูกผมลืมกระเป๋าเครื่องเขียนไว้ ในขณะที่ไปเล่นกับเพื่อน ๆ (ลูกผมอยู่ชั้นประถม) กลับมาปรากฎว่ากระเป๋าถูกรื้อและโดนขโมยเครื่องเขียนไปเกือบหมด ลูกถามผมว่า "เขาเอาของผมไปทำไม มันไม่ใช่ของ ๆ เขา การเอาของคนอื่นเป็นคนไม่ดีไม่ใช่เหรอครับพ่อ แล้วเขาเอาของผมไปทำไม" ผมเลยตอบไปว่า "แต่ละคนเขาสั่งสอนลูกไม่เหมือนกัน บางคนเขาไม่สอนให้ลูกเป็นคนดี โตขึ้นมาเขาก็จะเป็นคนไม่ดี แต่ที่พ่อเคยสอนลูกว่าการเอาของคนอื่นเป็นสิ่งที่ไม่ดี อย่าทำ ก็เพื่อต้องการให้ลูกโตขึ้นเป็นคนดี แล้วลูกอยากเป็นคนดีหรือคนไม่ดีล่ะ" ลูกผมก็เลยเข้าใจครับ
- อีกเคสนึง อันนี้หนักเลยครับ ลูกผมโดนขโมยโทรศัพท์มือถือ เป็นมือถือเราคาไม่แพงประมาณ 1,000 บาท แต่ว่าเขาเป็นคนเก็บเงินซื้อเอง เพราะผมเคยสอนไว้ว่าถ้าอยากได้อะไรนอกเหนือจากสิ่งที่จำเป็น ลูกก็ต้องเก็บเงินซื้อเอง เขาก็ให้หักค่าขนมของเขาทุก ๆ วันเพื่อซื้อโทรศัพท์ ปรากฎว่าโดนขโมยจากเป้นักเรียน ตอนไปเล่นกับเพื่อน เคสนี้เขาเสียใจร้องไห้อยู่นาน ผมก็ปลอบให้เข้าใจว่าอย่างแรก เราต้องระวังและรักษาของ ๆ เราก่อน เราไปไว้ใจคนอื่นไม่ได้ เขาอาจจะไม่คิดเหมือนกับเราว่าไม่เอาของคนอื่น และผมก็ดำเนินการไปแจ้งตำรวจให้เขาได้รับรู้ว่า ถึงแม้จะเป็นของเล็กน้อย ก็ต้องไปแจ้งตำรวจให้รับทราบ และเตือนให้เขาระมัดระวังเพิ่มขึ้น
ซึ่งบางทีผมก็มานั่งคิดนะครับว่า ไอ้ที่เราพยายามสอนให้ลูกเราเป็นคนดีแบบนี้ ต่อไปลูกเราจะโดนเอาเปรียบตลอดไปหรือเปล่า ในขณะที่คนอื่นสอนลูกให้เอารัดเอาเปรียบคนอื่น แบบไหนกันแน่ที่เราควรสอนลูก สุดท้ายผมก็บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไรต่อไปให้ลูกเติบโตขึ้นเป็นคนดีก็พอแล้ว
- กรณีแซงคิวอาจจะเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าผมอยู่ในเหตุการณ์ผมก็จะไม่ยอม จะบอกทันทีเลยว่าไม่อายหรือ แซงคิวกระทั่งเด็ก ทั้ง ๆ ที่เด็กทำตามกติกาแต่กลับมีคนอื่นไม่ทำตามกติกา
- เคยเกิดกรณีลูกผมลืมกระเป๋าเครื่องเขียนไว้ ในขณะที่ไปเล่นกับเพื่อน ๆ (ลูกผมอยู่ชั้นประถม) กลับมาปรากฎว่ากระเป๋าถูกรื้อและโดนขโมยเครื่องเขียนไปเกือบหมด ลูกถามผมว่า "เขาเอาของผมไปทำไม มันไม่ใช่ของ ๆ เขา การเอาของคนอื่นเป็นคนไม่ดีไม่ใช่เหรอครับพ่อ แล้วเขาเอาของผมไปทำไม" ผมเลยตอบไปว่า "แต่ละคนเขาสั่งสอนลูกไม่เหมือนกัน บางคนเขาไม่สอนให้ลูกเป็นคนดี โตขึ้นมาเขาก็จะเป็นคนไม่ดี แต่ที่พ่อเคยสอนลูกว่าการเอาของคนอื่นเป็นสิ่งที่ไม่ดี อย่าทำ ก็เพื่อต้องการให้ลูกโตขึ้นเป็นคนดี แล้วลูกอยากเป็นคนดีหรือคนไม่ดีล่ะ" ลูกผมก็เลยเข้าใจครับ
- อีกเคสนึง อันนี้หนักเลยครับ ลูกผมโดนขโมยโทรศัพท์มือถือ เป็นมือถือเราคาไม่แพงประมาณ 1,000 บาท แต่ว่าเขาเป็นคนเก็บเงินซื้อเอง เพราะผมเคยสอนไว้ว่าถ้าอยากได้อะไรนอกเหนือจากสิ่งที่จำเป็น ลูกก็ต้องเก็บเงินซื้อเอง เขาก็ให้หักค่าขนมของเขาทุก ๆ วันเพื่อซื้อโทรศัพท์ ปรากฎว่าโดนขโมยจากเป้นักเรียน ตอนไปเล่นกับเพื่อน เคสนี้เขาเสียใจร้องไห้อยู่นาน ผมก็ปลอบให้เข้าใจว่าอย่างแรก เราต้องระวังและรักษาของ ๆ เราก่อน เราไปไว้ใจคนอื่นไม่ได้ เขาอาจจะไม่คิดเหมือนกับเราว่าไม่เอาของคนอื่น และผมก็ดำเนินการไปแจ้งตำรวจให้เขาได้รับรู้ว่า ถึงแม้จะเป็นของเล็กน้อย ก็ต้องไปแจ้งตำรวจให้รับทราบ และเตือนให้เขาระมัดระวังเพิ่มขึ้น
ซึ่งบางทีผมก็มานั่งคิดนะครับว่า ไอ้ที่เราพยายามสอนให้ลูกเราเป็นคนดีแบบนี้ ต่อไปลูกเราจะโดนเอาเปรียบตลอดไปหรือเปล่า ในขณะที่คนอื่นสอนลูกให้เอารัดเอาเปรียบคนอื่น แบบไหนกันแน่ที่เราควรสอนลูก สุดท้ายผมก็บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไรต่อไปให้ลูกเติบโตขึ้นเป็นคนดีก็พอแล้ว
ความคิดเห็นที่ 17
การสอนให้ลูกเข้าคิวเป็นเรื่องที่ดีค่ะ เราเองก็สอนให้ลูกเข้าคิวทุกครั้งค่ะ และรักษาสิทธิ์ให้ลูกเห็นทุกครั้งด้วยความสุภาพ เมื่อมีการแซงคิวกัน เราจะบอกเลยว่า ขอโทษนะคะ เรามาก่อนค่ะ รบกวนไปต่อแถวนะคะ ซึ่งโดยมากก็จะไปต่อแถวกัน ไม่ค่อยมีใครอยู่ทนแซงคิวซักเท่าไหร่ ซึ่งลูกเราก็จะซึมซับพฤติกรรมตรงนี้เราไปด้วยว่า ถ้าเราโดนใครละเมิด เราก็ควรพูดทักท้วงเค้าด้วยความสุภาพ ซึ่งโดยมากคนที่มีสามัญสำนึกเค้าก็จะละอายไปเอง แต่ถ้าจะมีใครหน้าด้าน เราก็คงได้แต่สอนลูกว่า สิ่งที่เค้าทำถูกต้องไหม ดีไหม ควรทำไหม ถ้าไม่ควรเราก็อย่าทำแบบนั้นนะ เพราะมันน่าเกลียด เข้าใจไหมคะ
ถามว่าสิ่งที่คุณทำถูกต้องไหม เราว่าถูกต้องที่คุณสอนให้เค้ารู้จักการเข้าคิว แต่เราไม่เห็นด้วยเลย ที่คุณปล่อยให้ลูกโดนแซงคิวซ้ำ 2 ครั้ง โดยที่คุณไม่เรียกร้องสิทธิ์ใดๆให้ลูกคุณเลย ทั้งๆที่เค้าทำถูกกติกา คือเข้าแถวรอคิว แทนที่คุณจะช่วยเค้าในการทักท้วงสิทธิ์นั้นให้ลูกคุณที่อุตส่าห์เข้าคิว โดยการบอกกับพนักงานว่า ขอโทษนะคะ เด็กยืนเข้าแถวรอจ่ายอยู่นานแล้วค่ะ ทำไมถึงไม่คิดเงินเด็กก่อนคะ ซึ่งผลที่ได้คือ เค้าก็ต้องคิดเงินให้ลูกคุณก่อน และลูกคุณก็ได้กินน้ำด้วย ถือว่าภาระกิจในการสอนลูกเข้าคิวสำเร็จด้วยดี แถมเป็นการตำหนิทั้งพนักงาน และคนที่แซงคิวด้วยว่าคุณแซงคิวเด็กได้ไง
สิ่งที่คุณทำในวันนั้น เหมือนคุณจะเรียกร้องสิทธิ์ให้ลูกก็จริง โดยการตำหนิว่าเค้าแซงคิวลูกคุณ แต่แทนที่คุณเรียกร้องแล้ว ก็ขอชำระเงินก่อนเลย เพราะลูกคุณยืนเข้าแถวรออยู่แล้ว คุณกลับหักหาญตอบแทนน้ำใจลูก โดยการเอาน้ำคืนที่ และเดินออกจากร้านไปเลย เพื่อตอบสนองอารมณ์โกรธ หรือสะใจตัวคุณเอง จนลืมไปว่าลูกคุณหิวน้ำอยู่ เค้ายืนเข้าแถวอย่างถูกต้องตามที่แม่สอนมาแล้ว แต่ทำไมถึงอดกินน้ำ เพียงเพราะโดนคนอื่นแซงคิวล่ะ กลายเป็นว่าเค้าต้องทนหิวน้ำ เพียงเพราะคนอื่นไมียืนเข้าแถวตามกติกาเหรอ
ที่บูกคุณร้องไห้ ไม่ใช่เพราะโดนแซงคิวหรอกนะคะ แต่เค้าร้องเพราะเค้าหิวน้ำ และอดกินน้ำ เพราะโดนแซงคิว เค้าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทำไมเค้าโดนพ่อแม่ลงโทษโดยการให้ทนหิวน้ำต่อไป เพียงความโกรธของพ่อแม่ที่ลูกโดนแซงคิวแท้ๆ
อยากบอกว่าถ้าคุณสอนลูกให้รู้จักการเข้าคิวแล้ว คุณก็ควรสอนลูกให้รู้จักการเรียกร้องสิทธิ์ให้ตัวเอง โดยการบอกคนอื่นให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วย ไม่ใช่ให้ลูกเคารพกฏ แต่พอโดนคนอื่นละเมิดสิทธิ์เราแล้ว กลับยอมทำร้ายตัวเองโดยการยกเลิก ไม่เอา ไม่กินแล้ว เราว่ามันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยนะคะกับการสอนแบบนี้ และลูกจะไม่เข้าใจด้วย ว่าทำไมต้องเข้าแถว เข้าคิวล่ะ ในเมื่อคนอื่นแซงกลับได้ก่อน เรามาเข้าแถวกลับอดกินซะงั้น ขออภัยที่เห็นต่างนะคะ แต่เราอ่านแล้วเราไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณทำกับลูกคุณจริงๆ
ถามว่าสิ่งที่คุณทำถูกต้องไหม เราว่าถูกต้องที่คุณสอนให้เค้ารู้จักการเข้าคิว แต่เราไม่เห็นด้วยเลย ที่คุณปล่อยให้ลูกโดนแซงคิวซ้ำ 2 ครั้ง โดยที่คุณไม่เรียกร้องสิทธิ์ใดๆให้ลูกคุณเลย ทั้งๆที่เค้าทำถูกกติกา คือเข้าแถวรอคิว แทนที่คุณจะช่วยเค้าในการทักท้วงสิทธิ์นั้นให้ลูกคุณที่อุตส่าห์เข้าคิว โดยการบอกกับพนักงานว่า ขอโทษนะคะ เด็กยืนเข้าแถวรอจ่ายอยู่นานแล้วค่ะ ทำไมถึงไม่คิดเงินเด็กก่อนคะ ซึ่งผลที่ได้คือ เค้าก็ต้องคิดเงินให้ลูกคุณก่อน และลูกคุณก็ได้กินน้ำด้วย ถือว่าภาระกิจในการสอนลูกเข้าคิวสำเร็จด้วยดี แถมเป็นการตำหนิทั้งพนักงาน และคนที่แซงคิวด้วยว่าคุณแซงคิวเด็กได้ไง
สิ่งที่คุณทำในวันนั้น เหมือนคุณจะเรียกร้องสิทธิ์ให้ลูกก็จริง โดยการตำหนิว่าเค้าแซงคิวลูกคุณ แต่แทนที่คุณเรียกร้องแล้ว ก็ขอชำระเงินก่อนเลย เพราะลูกคุณยืนเข้าแถวรออยู่แล้ว คุณกลับหักหาญตอบแทนน้ำใจลูก โดยการเอาน้ำคืนที่ และเดินออกจากร้านไปเลย เพื่อตอบสนองอารมณ์โกรธ หรือสะใจตัวคุณเอง จนลืมไปว่าลูกคุณหิวน้ำอยู่ เค้ายืนเข้าแถวอย่างถูกต้องตามที่แม่สอนมาแล้ว แต่ทำไมถึงอดกินน้ำ เพียงเพราะโดนคนอื่นแซงคิวล่ะ กลายเป็นว่าเค้าต้องทนหิวน้ำ เพียงเพราะคนอื่นไมียืนเข้าแถวตามกติกาเหรอ
ที่บูกคุณร้องไห้ ไม่ใช่เพราะโดนแซงคิวหรอกนะคะ แต่เค้าร้องเพราะเค้าหิวน้ำ และอดกินน้ำ เพราะโดนแซงคิว เค้าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทำไมเค้าโดนพ่อแม่ลงโทษโดยการให้ทนหิวน้ำต่อไป เพียงความโกรธของพ่อแม่ที่ลูกโดนแซงคิวแท้ๆ
อยากบอกว่าถ้าคุณสอนลูกให้รู้จักการเข้าคิวแล้ว คุณก็ควรสอนลูกให้รู้จักการเรียกร้องสิทธิ์ให้ตัวเอง โดยการบอกคนอื่นให้ทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วย ไม่ใช่ให้ลูกเคารพกฏ แต่พอโดนคนอื่นละเมิดสิทธิ์เราแล้ว กลับยอมทำร้ายตัวเองโดยการยกเลิก ไม่เอา ไม่กินแล้ว เราว่ามันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยนะคะกับการสอนแบบนี้ และลูกจะไม่เข้าใจด้วย ว่าทำไมต้องเข้าแถว เข้าคิวล่ะ ในเมื่อคนอื่นแซงกลับได้ก่อน เรามาเข้าแถวกลับอดกินซะงั้น ขออภัยที่เห็นต่างนะคะ แต่เราอ่านแล้วเราไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณทำกับลูกคุณจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
ลูก 5 ขวบโดนแซงคิว แล้วถามคุณจะตอบว่ายังไงกันเหรอคะ
ที่ผ่านมาเราก็เป็นลูกค้าร้านเค้าประจำเพราะคุณยายชอบทานขนมหลายอย่าง ซื้อทีก็ตุนไว้เยอะเลย แต่วันนี้
ไปกับลูกแค่สามคน พ่อ แม่ ลูก เลยไม่ได้ซื้อขนม แต่ลูกสาวหิวน้ำก็ขอเราไปซื้อน้ำ เค้าก็เดินไปเปิดตู้แช่
หยิบน้ำขวดเล็กมา 1 ขวด เราเห็นก็หยิบเหรียญ 5 บาทให้ไปตามราคาน้ำจะได้ไม่ต้องทอน น้องก็เดินไปต่อคิว
ซึ่งขณะนั้นมีอยู่ 1 คิว เมื่อคิดเงินคุณน้าคนข้างหน้าเสร็จน้องก็เดินเข้าไปชิดโต๊ะแคชเชียร์ ทันใดนั้นก็มีมือแม่นาค
จากด้านหลัง ข้ามหัวน้องแล้วเอาถาดเบเกอรี่วางลงตรงหน้า จากนั้นแคชเชียร์ก็คิดเงินให้แม่นาคนางนั้นจนเสร็จ
ลูกเราก็เริ่มมองซ้ายขวา พ่อกับแบบยืนดูอยู่ห่างๆเพราะอยากให้เค้าช่วยตัวเอง ทีนี้น้องก็เลยเอาขวดน้ำตั้งบนโต๊ะ
ได้คิดตังค์แล้วแน่นอน(หน้ายังยิ้มแฉ่งให้พี่แคชเชียร์อยู่ด้วยความภูมิใจ ที่มาจายตังค์เอง) ไม่กี่วินาทีก็มีนักศึกษา
สองคนที่ทำราวกับว่าโลกนี้มีเพียงตัวเธอ ไม่เห็นเด็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า เอาขนมหอบใหญ่วางลง โพละประมาณว่าหนัก
ถือมาเยอะว่างั้น งานนี้เด็ก 5 ขวบจะรับสถานะการณ์แบบนี้ได้ยังไง เธอก็หันกลับมาร้องไห้ตะโกนลั่นร้านว่า แม่จ๋า
ทำไมทุกคนถึงแซงคิวหนู ไหนแม่บอกว่าให้ต่อแถวทีละคน ไม่เห็นมีใครทำเลย ได้ยินแล้วแทบจุก สงสารลูกจับใจ
ตัวเรากอดลูกไว้ ส่วนพ่อไม่ต้องพูดพร่ำ ดึงขวดน้ำจากมือเล็กๆของเด็ก 5 ขวบหัวใจสลาย เดินตรงไปที่แคชเชียร์
แล้ววางบนโต๊ะ บอกแคชเชียร์ว่าขอคืน แล้วหันไปบอกนักศึกษาสองคนที่กำลังคิดเงินอยู่ว่า ไม่อายเหรอแซงคิวเด็ก
แล้วก็พาลูกออกไปจากร้าน เดินไปที่ลานจอดรถ ซึ่งระหว่างทางลูกก็ร้องไห้ตลอดบอกว่าหนูแค่อยากกินน้ำทำไมพ่อแม่
ให้หนูกินไม่ได้ ทำไมกลับแล้ว หนูหิวน้ำ เราเสียใจมากได้แต่ปลอบลูกว่าเดี๋ยวเราไปซื้อที่เซเว่นใกล้ๆนี่นะคะ
พี่ทีเซเว่นเค้าใจดีกว่า แล้วไม่ให้ใครมาแซงคิวหนูด้วย หนูทำดีมากแล้ว ทำถูกแล้วลูกคุณน้าเค้าทำไม่ดีก็ไม่ต้องทำตามเค้านะคะ
***จริงๆอยากบอกว่าเจอเหตุการณ์นี้บ่อยมากกกกกก เราก็อาจผิดที่อยากฝึกวินัยลูกให้เค้าหัดรอคอย หัดทำอะไรเอง ไปยืนต่อแถวแบบนั้น
แต่ก็ไม่คิดว่าผู้ใหญ่หลายๆคนจะไม่สนใจ หรือสังเกตุเลยว่า มีมนุษย์เด็กอีกคนยืนต่อคิวอยู่ก่อนหน้าคุณ***
อยากรู้จริงๆว่าพ่อแม่คนอื่นปลอบลูกหรือสอนลูกยังไงให้เค้าเข้าใจเรื่องนี้
แชร์ให้ฟังหน่อยนะคะ เพลียใจจริงๆ
ขอบคุณค่ะ