เขาหาว่าเรา "แซงคิว" ค่ะ

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแชร์เหตุการณ์หนึ่งที่เคยได้ประสบมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน

วันนั้นเป็นธรรมดาไม่มีคิวงาน เราเลยไปเดินเล่นในห้าง หลังจากช็อปปิ้งเสร็จ จึงแวะทานเกร็ดหิมะเจ้าประจำ
เราได้คิวที่สี่ เป็นคนสุดท้ายค่ะ ยืนต่อคิวไม่นาน คิวเราก็เลื่อนขึ้นมาเป็นคิวที่สอง คิวหน้าเราเป็นเด็กผู้หญิงอายุราวๆ12-13 ปีเห็นจะได้
เมื่อถึงคิวของเด็กนั้น พนักงานก็ถามตามปกติว่า "รับรสอะไรครับ" น้องเขาก็ก้มมองเมนูค่ะ
ผ่านไปพักนึงก็ยังเลือกไม่ได้ เราก็เข้าใจนะอารมณ์คงแบบรักพี่เสียดายน้อง รสนี้ก็น่ากิน รสนั้นก็น่าลอง

แต่แล้วเวลาก็ผ่านไป10กว่านาที น้องเขาก็ยังเลือกไม่ได้ลังเล ประจวบเหมาะกับคุณแม่ของน้องเขาเดินเข้ามาในร้านพอดี
แม่เด็กถามว่าทำไมนานจัง น้องเขาบอกว่าคิวมันยาว แล้วก้มหน้าก้มตาเลือกต่อ
พนักงานก็ถามซ้ำว่า "ตกลงจะรับรสไหนดีครับ" ตัวแม่ก็ถามน้องเขาค่ะว่าเอารสไหน น้องบอกเลือกไม่ถูก

ตัวแม่เลยถามพนักงานว่ารสไหนอร่อย พนักงานก็ตอบว่า อร่อยทุกรสครับ
(ก็จริงของพนักงานเขานะ ถ้าไม่อร่อยจะทำขายมาให้เจ๊งทำไม)
อารมณ์ของเราตอนนั้นเริ่มปุดๆแล้ว เมื่อยขาก็เมื่อย จากที่เคยเข้าอกเข้าใจเด็ก ก็กลายเป็นรำคาญ
(คือ จะเลือกยากเลือกเย็นอะไรนักหนาวกะแค่ 4 รสเนี่ย นม,ช็อค,กรีนที,สตรอว์)

เมื่อพนักงานพูดแบบนั้น สองแม่ลูกเลยกัมหน้าก้มตาที่เลือกรสจากเมนูตรงหน้าแคชเชียร์ต่อ
เสียงพูดคุยระหว่างแม่ลูกก็ประมาณว่า แม่ตัดสินใจเลือกรสช็อคโกแล็ตให้ลูกเพราะลูกชอบกินนมช็อคโกแล็ต
แต่ตัวลูกบอก ไม่เอา หนูเบื่อ จะเอารสอื่น

พนักงานก็ถามซ้ำด้วยรอยยิ้มว่า "ตกลงจะรับรสไหนดีครับ ลูกค้าท่านอื่นรอนานแล้ว"
แม่น้องก็ตอบว่า "แหม ก็เข้าคิวซื้อของ เขาก็ต้องรอตามคิวสิ ไม่งั้นจะมีต่อคิวไว้ทำไม"

แล้วก็ถามพนักงานต่อ ว่าแต่ละรส รสชาติเป็นยังไง พนักงานก็อธิบายไปค่ะ
และเมื่ออธิบายเสร็จ พนักงานชายคนนั้นก็หันมาพูดพร้อมรอยยิ้มกลับเราว่า "รอสักครู่นะครับคุณลูกค้า"
แล้วก็ไปหันไปรับออเดอร์จากแม่ลูกคู่นั้นต่อ ตอนนั้นทั้งคู่เลือกได้แล้วว่าจะเอารสนม แต่เลือกไซส์ไม่ได้ว่าจะเอาไซส์ไหน
ลูกเลือกไซส์ใหญ่ แต่ตัวแม่ก็กลัวลูกจะกลัวกินไม่หมด เลยจะเอาไซส์ปกติ ตัวลูกบ่นว่าเดี๋ยวแม่ก็แย่งหนูกินอยู่ดี....
ทั้งคู่เถียงกันไปมาอยู่ตรงหน้าเราเนี่ย ไม่เห็นใจเราเลยว่าเรายืนรอนานแล้ว (ราวๆครึ่งชั่วโมง)

มาถึงตอนนี้เหตุการณ์เดิมๆก็วนกลับมา ยังดีที่ไม่มีลูกค้าคิวถัดจากเรา
สองแม่ลูกนั่นยังเลือกไม่ได้เช่นเดิม พนักงานจะคิดเงินก็ไม่ได้ จะทำก็ทำไม่ได้ ระบบการทำงานก็ชะงัก
ต่อมความอดทนของเราก็เริ่มจะหยุดทำงานด้วยเหมือนกัน

สักพักพนักงานอีกคน(คนที่ทำเกร็ดหิมะ)ล้างไม้ล้างมือเดินมาที่แคชเชียร์ แล้วสะกิดพนักงานชายคนที่รับออเดอร์สองแม่ลูก
ซึ่งเขาก็พยักหน้าตอบกลับแบบรู้กัน โดยที่คนทำเกร็ดหิมะมายืนที่แคชเชียร์แทน
ส่วนคนรับออเดอร์ไปยืนตรงหน้าตู้ท็อปปิ้ง พร้อมบอกสองแม่ลูกว่า "เชิญมาเลือกท็อปปิ้งด้านนี้เลยครับ"
สองแม่ลูกก็ขยับไปตามคำเชิญ

จากนั้นพนักงานที่ทำเกร็ดหิมะ(ที่มายืนแทนที่แคชเชียร์)ก็เรียกเราค่ะ "เชิญลูกค้าท่านต่อไปครับ"
เราก็พยักหน้าเดินขึ้นมาที่เค้าเตอร์ ไม่นานเราก็สั่งเสร็จ จ่ายตังค์เรียบร้อย
แต่ในขณะที่เราเดินออกจากเค้าเตอร์เพื่อมานั่งรอสินค้า มีเสียงนึงลอยมาค่ะ
"เบื่อจังเล้ยย พวกแซงคิวเนี่ย"
ได้ยินปุ๊บ เราชะงักปั๊บ หันไปมองต้นเสียง (ตัวแม่นั่นล่ะค่ะ) ต่อมดราม่าเราก็เริ่มทำงานสิคะ

เราพยายามคิดว่าคงไม่ได้ว่าเรา เราคงหูฝาด พยายามไม่สนใจ แล้วเดินไปนั่งลงตรงเก้าอี้หน้าตู้ท๊อปปิ้ง...
ครู่เดียวค่ะ พนักงานก็ตะโกนว่า"ชาเขียวเชอร์รี่ลำไยได้แล้วครับ"
เราก็ลุกไปเอาเกร็ดหิมะของเราสิคะ ซึ่งแม่ลูกคู่นั่นก็ยังคงอยู่ที่ตู้ท๊อปปิ้งอย่างเหนียวแน่น

แต่พอเราจะหยิบถ้วยเกร็ดหิมะของเราเท่านั้น เสียงเดิมก็มาอีกแล้วค่ะ มาแบบการสอนลูก...
"มัวแต่เงอะงะอยู่นั่นแหละ เป็นไง โดนแซงคิวเลยเห็นมั้ย ถึงเป็นเด็กก็อย่ายอมโดนเอาเปรียบ มีปากก็ต้องพูดว่าหนูมาก่อน เข้าใจมั้ย"
เรายืนนิ่ง อึ้ง มั่นใจแล้วว่า ตัวแม่มันด่าเราอะ เราคิดว่าเราอดทนมาพอแล้ว เราเลยหันไปพูดว่า...
"ขอโทษนะคะ ไม่ได้แซงคิวค่ะ ทำตามกติกามารยาทสังคมเสมอค่ะ ขอให้อร่อยสมกับเวลาที่เลือกสรรนะคะ"
จากนั้น เราก็เดินออกจากร้านไป...

--------------------------------------

มีใครเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆเราบ้างมั้ยคะ
สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เข้ามาแสดงความคิดเห็นค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่