ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะครับ ว่าก็ไม่ค่อยมีประสบการณ์ที่ดีกับค่ายนี้เท่าไร เช่น ซื้อ aircard 3g เคยถามว่าเอาซิมใส่โทรศัพท์ได้ไหม บอกได้ พอใส่เสร็จใช้ไม่ได้ เคยถามว่าซื้อโทรศัพท์แล้วเอาซิมใส่โทรศัพท์อื่นได้ไหม บอกว่าได้ แต่พอใช้ก็ไม่ได้ ประมาณ 2-3 ครั้ง ทั้งๆที่ครั้งหลังๆก็ยังถามย้ำตลอด จนเข้าใจว่า "ยังไงก็ไม่ได้" แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเคานเตอร์หรือซุ้มที่จัดโปรโมชั่นถึงพยายามจะบอกว่า "ได้" จนมาติดตั้งจานควบเบอร์ หน้าเคานเตอร์แจ้งว่าสัญญา 1 ปี แต่พอครบปีไปขอเลิก ดันบอกว่า "ปีครึ่ง" เลยโวยว่า ตอนติดพนักงานบอกว่า "1ปี" เค้ากลับบอกว่า "ไม่ทราบค่ะ แต่โปรโมชั่นนี้ 1 ปี ครึ่ง ทำอะไรไม่ได้" เลยยอมปล่อยจานทิ้งและทนใช้เบอร์มาเรื่อยๆ ประมาณครึ่งปี

ปัญหาที่พบก็คือ มักจะเกิดจากตัว "พนักงาน" เอง ที่มักบอกข้อมูลไม่ครบ และหลายๆอย่างไม่ได้มีการระบุให้ชัดเจนในเอกสารสัญญา ทำให้เกิดปัญหาที่ตามมามากมาย แต่ก็มีปัญหาบางประการที่พบจากระบบ เช่น การขอใช้เน็ท wifi ซึ่งที่หน้าจอ hotspot ที่ขอใช้ ไม่ได้ระบุว่ามันจะต่ออายุอัตโนมัติจนกระทั่งยกเลิก แต่มีการระบุไว้ที่ในเว็บไซต์ของทรู ทำให้ตอนนั้นต้องโทรไปโวยคอลเซนเตอร์ ซึ่งคอลเซนเตอร์บอกว่าคืนเงินไม่ได้ แต่จะทำเรื่องไปให้ ยังดีที่สุดท้ายก็ยังมีการชดเชยเงินคืนให้ ยังไม่รวมปัญหาอื่นๆอีกมากมายที่พบซึ่งเกี่ยวของกับจานเคเบิ้ล ซึ่งในพื้นที่ๆใช้งาน มันรับสัญญาณได้ไม่ดีนัก แต่อันนั้นถือว่าเข้าใจ

จนกระทั่งเมื่อราวๆวันที่ 28 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา จากการที่ผมเคยใช้เครือข่ายสีฟ้าแล้วเกิดปัญหาคุณภาพเน็ทมันต่ำลงเรื่อยๆ จากที่ไวที่สุดในจังหวัดเมื่อ 2-3 ปีก่อน กลายเป็น "กาก แบบ สนิท ใจ" รวมทั้งในการใช้ที่พื้นที่คอนโดอีกแห่งของผมซึ่งไม่มีสัญญาณเลยเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมี 1 ขีด แจ้งแล้วแจ้งอีกจนไม่รู้จะแจ้งยังไง (ขอย้ำว่ายังอยู่กับค่ายสีฟ้านะ) ในขณะที่ค่ายเขียว เต็มตลอด ค่ายส้มพัฒนาจาก 1 ขีด เป็น 3-4 ขีด รวมทั้งโปรโมชั่นย้ายค่ายที่น่าสนใจของค่ายส้ม จึงตัดสินใจย้ายค่ายมา ทั้งที่เคยเจอเหตุการณ์บ้าๆบอๆ มาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หลังจากย้ายค่ายเสร็จ พนักงานก็พูดตามระเบียบว่าประมาณ 3 วันทำการ ไอ้เราก็ไม่ได้ไปทำอะไรกับค่ายฟ้า เพราะคิดว่าไม่กี่วันก็ย้ายแล้ว จะได้เลิกเจอบิลแพงๆสักที (เนื่องจากช่วงหลังโทรเกินตลอด แต่ไม่ได้มีการปรับโปรหรือเสริมแพคเกจไป) ผ่านไป 5 วัน เลยถามเพื่อนที่ทำค่ายส้มว่า ทำไมยังไม่เปลี่ยน เพื่อนบอกบางครั้งอาจจะ 1-2 สัปดาห์ ไอ้เราก็รอ จนกระทั่งวันนี้ ได้เข้าไปยังช็อปที่ทำเรื่องไว้ ปรากฏว่า "มียอดค้างชำระ" ทำให้โดน "รีเจคท์" ตอนนั้นช็อกมาก "ตรูไปค้างอะไรตอนไหน !!" จึงสืบกลับไปได้ว่า เป็นเบอร์ตอนที่พ่วงกับจานแดง ซึ่งเคยยกเลิกไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2557 ในตอนนั้นคือไปยกเลิกจาน แล้วพนักงานบอกเบอร์สวย จะเก็บไว้ก่อนไหม ตอนนั้นเลยตัดสินใจเก็บไว้โดยการลดโปรลง แต่ไม่เกินสองสัปดาห์จากนั้นก็ได้ไปยกเลิก เพราะคิดว่าคงไม่ได้ใช้แล้วจริงๆ (ตอนนั้นมั่นใจแน่นอนว่ายกเลิก เพราะมีโปรย้ายค่ายของค่ายฟ้าที่มีไอโฟน 5s ราคา 6000 เลยยังคิดอยู่ว่า ไม่น่ายกเลิกเลย ไม่งั้นย้ายค่ายเอาโทรศัพท์ดีกว่า) จากนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร และก็ไม่ได้รับบิลพอดี เนื่องจากนิติบุคคลของอาคารที่ให้ส่งเอกสารแจ้งหนี้มามีปัญหากับกลุ่มผู้เช่า ทำให้โดนล็อค ก็ไม่ได้เอะใจอะไร สุดท้ายคือ เบอร์ถูกยิงยาวมาตั้งแต่ กันยายน-มกราคม ทั้งๆที่ไม่ได้ใช้ จริงๆก็ไม่ใช่ยอดมากมายอะไร แค่เดือนละราวๆ 86 บาท

ปัญหาต่อมาคือ ทางช็อปบอกให้ไปให้ช็อปที่ยกเลิกหาเอกสารมายืนยัน เพื่อลดหนี้ ก็เลยกลับมาที่ช็อปซึ่งทำการยกเลิก ทางนั้นบอกว่าต้องใช้เวลา เพราะเอกสารถูกเอาไปรวมที่ศูนย์ใหญ่และไม่แน่ใจว่าจะใช้เวลาแค่ไหนเพราะผ่านมา 11 เดือนแล้ว (คิดในใจตอนนี้ คือกุรอย้ายค่ายมา 3 สัปดาห์ละ และไม่ได้ไปจัดการอะไรกับโปรเก่า sms หรือโทรมาแจ้งว่าเกิดปัญหาอะไรก็ไม่มี) ก็เลยพยายามเร่งเค้า เค้าบอกว่าบอกไม่ได้จริงๆ เลยถามกลับไปว่าถ้าเอกสารไม่มีขึ้นมาจะทำยังไง ทางพนักงานก็บอกทำอะไรไม่ได้ (ตอนนั้นก็คิดในใจว่า ปกติถ้าไม่มีการใช้งานจริงๆ มันก็เรียกเก็บย้อนหลังไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ในตอนนั้นว่าจะฟ้อง สคบ ละ) วีนแตกสิครับ เลยโทรเข้าไปคอลเซนเตอร์ เพื่อเร่งเรื่อง คอลเซนเตอร์บอกไม่มียอดใช้สามารถทำเรื่องลดหนี้ได้ผ่านเคานเตอร์ แต่ทางเคานเตอร์บอกทำไม่ได้ถ้าไม่มีเอกสาร เริ่มเกิดการโยนไปโยนมากันละ ส่วนตัวผมเข้าใจเคานเตอร์ว่าทำไม่ได้จริงๆ แต่ทางคอลเซนเตอร์สามารถทำเรื่องเสนอได้ แต่ไม่รู้ทำไมสุดท้ายคอลเซนเตอร์ก็บอกให้ทางเคานเตอร์ทำเรื่องไปตามเดิม ผมเลยได้คุยกับทางเคานเตอร์ที่ช็อป เค้าก็บอกว่าถ้าทำก็ต้องมีเอกสาร สุดท้ายคือพูดตรงๆว่ารีบมาก ทำเรื่องย้ายค่ายไป 3 สัปดาห์แล้ว ไม่เคยมีใครแจ้งปัญหามาเลย เลยตัดสินใจจ่ายเงินในส่วนที่ไม่ได้ใช้ หรือหลังจากวันที่ไปยกเลิกแต่ไม่ได้ยกเลิกให้นั่นแหละ เป็นเงินไม่มาก 271 บาท ซึ่งได้คุยกับช็อปก่อนหน้าแล้ว เค้าบอกคืนไปเป็นเงินไม่ได้ แต่สามารถปันไปเป็นค่าโทรกับเน็ทได้ เลยรับมาก่อน เพราะต้องการให้เบอร์สามารถใช้งานได้โดยเร็ว เพราะจะให้ไปเปลี่ยนโปรค่ายฟ้าตอนนี้ก็กระไรๆ

ย้อนกลับมาเรื่องย้ายค่าย ตอนที่คุยกับช็อปแรกที่ย้ายค่ายถามว่าถ้าเคลียร์ตรงนี้เสร็จต้องกลับมาแจ้งที่นี่ใช่ไหม เค้าบอกทำเรื่องที่ช็อปอีกที่ได้เลย แต่ที่ช็อปนั้นแจ้งว่า โทรเข้าไปให้คอลเซนเตอร์ดำเนินการต่อให้จะเร็วกว่า จึงโทรเข้าไป ผลคือ เลขที่ทำการย้ายค่ายไม่อยู่ในระบบ ก็ได้สอบถามคอลเซนเตอร์ เค้าก็บอกมาว่าไม่มีการส่งเรื่องมา เลยบอกไปว่ามันมีปัญหาตามที่กล่าวมาทั้งหมด เค้าก็ตอบกลับมาว่า ถึงจะมีปัญหาเรื่องยอดค้าง แต่ก็ต้องส่งเอกสารและข้อมูลเข้าระบบอยู่ดี (ถึงตอนนี้จึงเข้าใจว่า ทำไมผ่านมา 3 สัปดาห์ ไม่มี sms แจ้งรีเจคท์ หรืออะไรทั้งนั้น ซึ่งตอนไปหาช้อปแรก เค้าก็ถามพนักงานว่าไม่มีใครโทรบอกเลยเหรอ และปัญหาอีกอย่างคือ ทำไมคุณเอ็งไม่เช็คยอดค้างชำระในระบบก่อนวะครับ ??? จะได้ไม่ต้องเสียเวลามา) สุดท้ายเค้าบอกให้ไปหาซิมแล้วแจ้งเลขมา ก็เลยไปหาซิมแล้วแจ้งเข้าไปอีกรอบ พนักงานเลยบอกว่าให้รอ 3-5 วันทำการ เอ่อ... สรุป ผมต้องใช้เครือข่ายเดิมไปเดือนนึงอย่างสนุกสนาน ในตอนนี้มันแบบอารมณ์เซ็งมากๆ เซ็งกับบริการแบบสุดๆ และก็ไม่เข้าใจการทำงานของพนักงานหลายๆคน หรือระบบการทำงานของบริษัท ส่วนตัวผมไม่คิดว่าบริษัทจะเลวร้ายอะไร แต่มันเจอแต่เรื่องแย่ๆมามาก

และคิดว่าเรื่องเงิน 271 บาท นี่ (ถึงจะไม่ได้เยอะ) ก็ว่าจะแจ้งเข้า สคบ เหมือนกัน เพราะมีพยานว่าวันนั้นเข้าไปยกเลิกเบอร์โทรศัพท์จริงๆ แล้วก็ไม่เคยใส่ซิมอีกเลยนับตั้งแต่วันยกเลิก เพราะบางทีก็ไม่ไหวกับการทำงานแล้ว ยกเลิกตอนแรกแนะนำให้เก็บเบอร์ไว้ ก็เก็บ สุดท้ายไปยกเลิกเบอร์เพราะไม่ได้ใช้จริงๆ แต่กลับไม่ได้ยกเลิก แล้วปล่อยให้มีใบแจ้งหนี้มาต่ออีก 5 เดือน ยังดีที่มันเงินแค่เดือนละ 86 บาท ถ้าเดือนละหลายร้อย มันก็คงไม่ใช้เงินน้อยๆ เช่นกัน ต่อไปถ้ายกเลิกเบอร์หรือมีคนอื่นยกเลิก ก็คงต้องแนะนำให้ใส่ซิมแล้วลองโทรเช็คซ้ำอีกทีละ ไม่งั้นก็อาจจะเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก...

อาจจะยาวไปนิดนึงนะครับ แต่พิมพ์มา เผื่อจะมีผู้เกี่ยวข้องเข้ามารับทราบ หรือเป็นข้อระวังสำหรับผู้อื่นต่อไป สำหรับผม คงเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับค่ายนี้แล้วล่ะ เรื่องดีๆ ที่ผมประทับใจก็มี แต่เรื่องแย่ๆ จากคนที่อยู่ในระดับปฏิบัติงานนี่ก็เจอมาเยอะเหลือเกิน...