ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! การเกิดขึ้น (อุปฺปาโท) การตั้งอยู่ (ฐิติ) การเกิดโดยยิ่ง
(อภินิพพนฺติ) การปรากฏ (ปาตุภาโว) แห่งจักษุ, ฯลฯ อันใด; อันนั้นเป็นการเกิดขึ้นแห่ง
ทุกข์, เป็นการตั้งอยู่แห่งโรค (สิ่งซึ่งมีปรกติเสียบแทง) ทั้งหลาย, เป็นการปรากฏออก
แห่งชราและมรณะ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! และการดับไม่เหลือ (นิโรโธ) การเข้าไปสงบระงับ
(วูปสโม) การถึงซึ่งความตั้งอยู่ไม่ได้ (อตฺถงฺคโม) แห่งจักษุ, อันใด; อันนั้น เป็น
ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์, เป็นการเข้าไปสงบระงับแห่งโรคทั้งหลาย, เป็นการถึง
ซึ่งความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งชราและมรณะ.
- ขนฺธ. สํ. ๑๗/๔๗๙/๒๘๓-๒๘๗
(ข้อความในกรณีแห่งจักษุเป็นอย่างไร ข้อความในกรณีแห่งโสตะ ฆานะ ชิวหา กาย มโน
ก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ทุกตัวอักษร ต่างกันแต่ชื่ออายตนะแต่ละอย่าง ๆ เท่านั้น.
ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่าจักษุ โสตะ เป็นต้นเหล่านี้ ดับไปได้โดยที่คนไม่ต้องตาย; ดังนั้น
คำว่าจักษุเป็นต้นนั้นมิได้หมายถึงดวงตา ตามปรกติ แต่หมายถึงดวงตาที่ทำหน้าที่ของตา
แล้วหยุดไปครั้งหนึ่ง ๆ เรียกว่าจักษุเกิดขึ้นจักษุดับไป
โดยที่คนไม่ต้องเกิดใหม่หรือตายลงโดยร่างกาย; และยังจะเห็นได้ชัดต่อไปอีกว่า ข้อที่ว่าการตั้งอยู่
แห่งจักษุ เป็นการตั้งอยู่แห่งโรคทั้งหลายนั้น หมายถึงความเสียดแทงของกิเลสที่เกิดขึ้นจากการที่ตาเห็นรูป;
และการปรากฏแห่งจักษุ คือ การปรากฏแห่งชราและมรณะนั้น หมายความว่า การเห็นทางตา ทำให้ปัญหาอัน
เกิดแต่ชราและมรณะปรากฏขึ้น ในขณะนั้นนั่นเอง.
ทั้งหมดนี้ มีอาการแห่งปฏิจจสมุปบาทซ่อนอยู่ในนั้น
ครบทุกอาการ นับตั้งแต่อวิชชาไปจนถึงกองทุกข์ทั้งสิ้น. ตัวอย่าง เช่น ตาเกิดเป็นตาขึ้นมา เพราะการเห็น
รูปแล้วเกิดจักขุวิญญาณ อันทำให้เกิดการสัมผัสด้วยอำนาจแห่งอวิชชา (อวิชชาสัมผัส) ซึ่งย่อมเป็นการปรุง
แต่ง (สังขาร) อยู่ในตัวมันเองทุกระยะ จึงได้มีเวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชราและความทุกข์ ทุกครั้ง
ที่มีการกระทบทางอายตนะเช่นนี้.)
ว่าด้วยอายตนะภายใน 6 อย่าง......
(อภินิพพนฺติ) การปรากฏ (ปาตุภาโว) แห่งจักษุ, ฯลฯ อันใด; อันนั้นเป็นการเกิดขึ้นแห่ง
ทุกข์, เป็นการตั้งอยู่แห่งโรค (สิ่งซึ่งมีปรกติเสียบแทง) ทั้งหลาย, เป็นการปรากฏออก
แห่งชราและมรณะ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! และการดับไม่เหลือ (นิโรโธ) การเข้าไปสงบระงับ
(วูปสโม) การถึงซึ่งความตั้งอยู่ไม่ได้ (อตฺถงฺคโม) แห่งจักษุ, อันใด; อันนั้น เป็น
ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์, เป็นการเข้าไปสงบระงับแห่งโรคทั้งหลาย, เป็นการถึง
ซึ่งความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งชราและมรณะ.
- ขนฺธ. สํ. ๑๗/๔๗๙/๒๘๓-๒๘๗
(ข้อความในกรณีแห่งจักษุเป็นอย่างไร ข้อความในกรณีแห่งโสตะ ฆานะ ชิวหา กาย มโน
ก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ทุกตัวอักษร ต่างกันแต่ชื่ออายตนะแต่ละอย่าง ๆ เท่านั้น.
ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่าจักษุ โสตะ เป็นต้นเหล่านี้ ดับไปได้โดยที่คนไม่ต้องตาย; ดังนั้น
คำว่าจักษุเป็นต้นนั้นมิได้หมายถึงดวงตา ตามปรกติ แต่หมายถึงดวงตาที่ทำหน้าที่ของตา
แล้วหยุดไปครั้งหนึ่ง ๆ เรียกว่าจักษุเกิดขึ้นจักษุดับไป
โดยที่คนไม่ต้องเกิดใหม่หรือตายลงโดยร่างกาย; และยังจะเห็นได้ชัดต่อไปอีกว่า ข้อที่ว่าการตั้งอยู่
แห่งจักษุ เป็นการตั้งอยู่แห่งโรคทั้งหลายนั้น หมายถึงความเสียดแทงของกิเลสที่เกิดขึ้นจากการที่ตาเห็นรูป;
และการปรากฏแห่งจักษุ คือ การปรากฏแห่งชราและมรณะนั้น หมายความว่า การเห็นทางตา ทำให้ปัญหาอัน
เกิดแต่ชราและมรณะปรากฏขึ้น ในขณะนั้นนั่นเอง.
ทั้งหมดนี้ มีอาการแห่งปฏิจจสมุปบาทซ่อนอยู่ในนั้น
ครบทุกอาการ นับตั้งแต่อวิชชาไปจนถึงกองทุกข์ทั้งสิ้น. ตัวอย่าง เช่น ตาเกิดเป็นตาขึ้นมา เพราะการเห็น
รูปแล้วเกิดจักขุวิญญาณ อันทำให้เกิดการสัมผัสด้วยอำนาจแห่งอวิชชา (อวิชชาสัมผัส) ซึ่งย่อมเป็นการปรุง
แต่ง (สังขาร) อยู่ในตัวมันเองทุกระยะ จึงได้มีเวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชราและความทุกข์ ทุกครั้ง
ที่มีการกระทบทางอายตนะเช่นนี้.)