บ่ออาถรรพ์

สวัสดีครับ วันนี้ก็ได้ไปเที่ยวบ้านคุณย่าที่ต่างจังหวัดบ้านคุณย่าเป็นบ้านหลังเดียวที่ร่วมรื่นมากๆในจังหวัดหนึ่งทางภาคอิสานเพราะคุณย่ากับคุณอาคนเล็กเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ พรรณไม้แปลกๆครับ

แถวบ้านคุณย่าผมจะมีแต่ทุ่งนาโล่งกว้างไปบ้านคนไหนก็ร้อนเพราะแถวนั้นชุมชนยังพัฒนาไม่มาก ใช้ไฟเฟสเดียวเปิดแอร์พร้อมกันสักสองหลังก็ไฟตกกันระนาวเลยครับ ถัดจากบ้านคุณย่าจะมีต้นไม้ใหญ่เป็นต้นลูกหยี ตอนเด็กๆผมชอบไปทานมากๆเปรี้ยวหวานอร่อยสดๆจากต้น แต่พ่อแม่และผู้ใหญ่แถวนั้นไม่เห็นด้วยเพราะต้นไม้เก่าแก่ต้นนี้มีตำนานที่เรียกว่าถ้าเอามาเล่าแล้วขนลุกกันตามๆกัน งั้นขอข้ามก่อนเลยครับ

ถัดจากต้นลูกหยีไปจะเป็นสวนซึ่งจะแปลกตามากๆ เป็นสวนตะเคียนเรียกว่าเป็นคุ้งเลยก็ว่าได้ เป็นที่ให้ร่มเงาเย็นสบาย(ขนลุก) ใครขับมอเตอร์ไซค์ผ่านไปผ่านมาก็ชอบเพราะไม่ร้อนเลยแต่ที่น่าแปลกใจ แถวนั้นไม่มีบ่อน้ำเรียกว่าไม่มีแหล่งน้ำที่จะมามอบความสดชื่นเลย ต้นไม้อื่นตายหมด แต่ทว่าต้นตะเคียน 50 กว่าต้นยังคงยืนต้นสวยสดใสเขียวสะพรั่งและต้นไม้ที่อยู่ในเขตแถวนั้นก็สดใสเช่นกัน

สวนต้นตะเคียนมีแต่ต้นไม้ใหญ่มาก ตรงกลางสวนเป็นทางรถ ทางเดิน ไปยังหนองน้ำที่กว้างมากและใหญ่พอสมควรอีกอย่างไกลมากๆจนผมไม่อยากไปถ้าไม่จำเป็นเพราะ ไกลและในบ่มีแต่ งูกินปลามันไม่กัดคนแต่น่าขยะแขยงมากเลย และที่สำคัญเป็นที่กล่าวขวัญของคนในหมู่บ้านนี้ว่าหนองน้ำที่นี่คนตายทุกปี ผมก็กลัวตามเขาไปด้วยครับ

เย็นวันนั้นคุณย่า คุณอาและ ลูกพี่ลูกน้อง 3 คนชวนผมไปงมหอย เก็บผักตามหนองน้ำ ผมก็ไปนะชอบครับชอบเที่ยวกับญาติๆเพราะผมเป็นหลานชายคนเดียวมีแต่คนเอาใจ อิอิ ดีจัง พอไปถึงหนองย่าก็บอกว่าตรงนั้นแหละที่นาย่า คืนนี้ย่ากับอาจะมานอนที่นี่เฝ้าของ (ในนาของคุณย่ามีบ้านไม่ใหญ่นัก ยกสูง ด้านบนมีทีวี 14 นิ้วกับจานเดียวเทียม ระบบน้ำไฟเรียกว่าครบครัน) แต่ผมแปลกใจมากที่นี่ข้าวของยังครบประตูก็ไม่ล๊อก แแต่ของไม่ยักกะหาย เพราะความที่คนในหมู่บ้านไม่คิดจะเป็นโจรซะเอง แบบนี้นี่เองเขาจึงอยู่กันอย่างอบอุ่นและปลอดัย

ประมาณ ห้าโมงเย็นย่าเก็บของใส่รถอีแต๋น ผมอยากไปก็ร้องขอไปด้วยตอนนั้นผมอายุ 22 แล้วครับ มีแต่คนว่าผมว่า 22แล้วสิจบป.ตรีแล้วเฮ็ดคือเฒ่าทารก 55555+ ก็ทำไงได้ก็รักทุกคนนี่นา

เก็บของเสร็จเรานั่งรถไปลงตรงบ้านกลางนา ย่าเดินไปเปิดพัดลม สักประมาณทุ่มกว่าๆมืดสลัวๆ ย่าเปิดสเตอริโอเพลงดังมากเรียกว่าไม่มีใครด่าแน่ 5555+
เราก็ฟังเพลงไปเรื่อยๆแล้วสักพักมีเพื่อนบ้านแวะมาจากหาปลา หาของป่าไปเรื่อยตามประสาชาวบ้าน เอาหน่อไม่มาฝากย่า ผมรับไว้แล้วเย็นวันนั้น คุณย่าก็เอาหน่อไม้ กับยอดหวายมาเผาไฟแล้วแกะเปลือกออก แกงเปรอะให้ผมทานบรรยากาศบ้านทุ่งมืดสนิท ทานกับปลาช่อนย่างเกลือ โหอร่อยมากผมไม่เคยรู้ว่ายอดหวายมันอร่อยขนาดนี้ ขมแต่อร่อยมากๆ ทานปลาย่างหอมๆ เผาบนฟืนที่ได้จากธรรมชาติ มันคือความสุขจริงๆครับ นั่งฟังย่านินทาเรื่องพ่อตอนเด็กๆยิ่งขำ แล้วสักพักก็เก็บของเก็บจานไปล้าง ซึ่งถ้าจะล้างต้องไปหนองน้ำ คุณย่าบอกผมว่า วิ่งเล่นแต่เด็กไม่เห็นมีอะไรเลยคนเราผิดพลาดเองก็ว่าไปทั่ว ผมเลยไม่กลัว

ไปกับน้าสาว อาสาวและอาเล็ก ไปนั่งล้างจานริมหนอง มีไฟที่คุณปู่เคยติดไว้เมื่อนานมาแล้วด้วยระหว่างล้างผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านที่บ้านผมเลยวิ่งไปถามว่าเขามาหาใครเขาถามว่า ผ่องอยู่ไหม ผมก็เลยบอกว่าล้างจานริมน้ำไปหาไหม "บ่เป็นหยัง" บอกเขาว่าหลานเขานะคนน้อยซนอย่าให้ลงหนอง ผมก็ครับลุงจะบอกให้ แล้วลุงคนนั้นก็เดินหายไป ผมไปบอกย่าย่าก็บอกว่าอย่าไปยุ่งกับเขาเลยเขาเป็นบ้า ผมก็ได้แต่ครับแล้วไปช่วยล้างจานต่อ

ระหว่างล้างจานครั้งนี้ผมเห็นลุงคนนั้นเดินไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งริมหนองน้ำสูงมาก สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นต้นยางนา แล้วเขายืนใต้ต้นผมก็แอบดูอยู่หลังจอมปลวกจึงรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว

ลุง: อย่าทำเขาเลยเขายังน้อยอยู่
?:  อย่ายิ้มไปใสก้ไป
ลุง: เราไม่ยอมแน่นอน
?:  อย่ามายุ่งถ้าไม่อยากเป็นแบบเดิมอีก
ลุง: เราไม่กลัว

พอลุงพูดจบลุงก็หยิบของในย่ามแต่ทันใดนั้นสิ่งที่ผมเห็นคือมีผู้หญิงเดินออกมาจากต้นไม้พร้อมกับตบหน้าคุณลุงอย่างแรง
แล้วเสียงกรี้ดก็ลั่นทุ่งไปหมด ผมกลัวมากผมก็แอบอยู่เงียบๆ แล้วลุงคนนั้นก็หยิบมีดออกมา เถียงกันไปมาแล้วลุงก็เอามีดเสียงลงดิน แล้วนั่งลงผู้หญิงคนนั้นก็ร้องกรี้ดดังมากๆผมเอามือปิดปากแล้วนั่งสั่น แต่พอหันไปมองน้าๆอาๆก็ล้างจานอยูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วสักพักลุงก็ล้มลงแล้วผู้หญิงคนนั้นก็หายไปแต่ก่อนที่เขาจะไป เขาหันมามองผมด้วยเหมือนเขารู้ว่าผมแอบมองพวกเขาอยู่

ผมรีบไปที่ล้างจานแล้วร้องไห้ด้วยทุกคนพาขึ้นบ้านย่ารีบหยิบสร้อยพระมาใส่ให้แล้วย่าก็บอกว่าไม่ต้องกลัว ไม่มีอะไรแล้วหลาน ทุกคนก็พาผมเข้านอน

ขณะนอนหลับ ผมได้ยินเสียงคนเถียงกัน เสียงที่ได้ยินคือพรุ่งนี้จะมีเด็กผู้หญิงมาเล่นแถวนี้พามาหาข้าได้ไหม จะทำไหม แล้วเสียงชายอีกคนบอกว่าไม่ทำ เราจะไม่ทำแล้ว ถ้าแกไม่ทำข้าจะจัดการให้แกไม่มีที่อยู่เรร่อนอดๆอยากๆ พรุ่งนี้บ่ายๆจะมีเด็กสาวน้อยเดินผ่านแล้วรองเท้าหล่นลงตรงทางข้าม แกต้องบังให้สนิท แล้วข้าจะช่วยเหลือแกไม่ให้อดอยากอีกต่อไป

ผมได้ยินชัดเต็มหู ผมกลัวอีกแล้วเลยเข้านอน
เช้าวันใหม่ผมลืมซะสนิทเลยเรื่องเมื่อคืนผมก็เลยไปเดินเล่นปกติไปดูต้นไม้ใหญ่และไปดูที่ที่เขาคุยกันเรื่องทางข้ามผมเห็นทางข้ามเป็นสะพานไม้ค่อนข้างเก่า ผมก็ไม่อยู่เฉยๆนะมองดูนั่นๆนี่ๆไปเรื่อยจนสักพักก็กลับบ้าน จากนั้นก็นั่งคุยตามประสาคนไม่มีงานทำไปเรื่อยๆจนบ่ายโมง คุณอาผู้ชายมาจาก กทม พร้อมกับลูกชายและลูกสาว ตอนนั้นก็บ่ายสองแล้ว น้องสาวผมก็ซนนะครับ วิ่งเล่นเผลอไม่ได้ชอบไปเล่นใต้ต้นไม้ริมน้ำ ผมก็ตามไปแหละครับ สักพักน้องก็เดินไปที่สะพาน ผมนี่นึกถึงเรื่องเมื่อคืนเข้าเค้ามากน้องยืนอยู่บนสะพานแล้วน้องก็ตะโกนเรียกผม คุณพี่ค่ะรองเท้าน้องหล่นน้องหยิบไม่ได้ ยิ่งทำให้ผมกลัวมากผมจึงรีบไปจับแขนน้องและบอกว่า พี่เก็บให้เองไปยืนรอบนบ้านก่อนตรงนี้น้ำลึก น้องก็เดินไปแล้วสักพักหมวกก็ปลิว ซึ่งไม่มีลมพัดเลย หลานจึงวิ่งไปที่ท่าน้ำเก่าที่ชาวบ้านมาตักน้ำ แล้วอยู่ดีๆโครงมันก็ทรุดแต่ดีนะผมอยู่ไกล้รีบจับแขนไว้แล้วอุ้มกลับเข้ามาพาขึ้นบ้านสั่งทุกคนว่าอย่าให้น้องไปเล่นแถวนั้นอีก มันอันตรายดูสิเกือบตกน้ำกี่ครั้งแล้ว

ตกดึกผมกำลังนอนอยู่ดีๆย่าก็เรียกผม ลงไปข้างล่างผมไม่ได้เอะใจเดินลงไปครับแล้วอยู่ดีๆย่าก็เปลี่ยนเป็นผู้หญิงน่ากลัวมากผมมองไม่เห็นเขาเลย เขาตบหน้าผม1ครั้ง แรงมากแล้วผมก็ขยับตัวเองไม่ได้ ผมยืนอยู่ตรงนั้นแล้วมีผู้ชายคนนึงตามมา เอามีดมาจะแทงผม แต่ย่าผมเดินลงมาพอดี ย่าวิ่งขึ้นไปบนบ้านหยิบสร้อยพระมา หยิบเปลือกอะไรไม่รู้มาพร้อมด้วยน้ำขันนึงแล้วย่าสาดลงมาข้างล่างโดนผมเต็มๆแล้วย่าก็บอกว่า

"หาตั้งนาน ว่าแล้วต้องเจอแบบนี้" เอาไว้ไม่ได้แล้วต้องจัดการ
คืนนั้นเราห้อยพระคนละองค์ เดินผ่าความมืดไปบ้านญาติของย่าอีกคนเป็นเพื่อนย่าสมัยเรียน บอกว่าต้องจัดการตอนนี้มันเล่นงานแบบไม่เลือกหน้าเลย มาเล่นกับหลานฉันถึงบันใด

แล้วตอนเช้าลุงก็พาพระมาทำพิธี แล้วโค่นต้นไม้นั้นทิ้ง ลมพัดแรงมาก น้ำในหนองขุ่นและเชี่ยวมากจนในที่สุดทุกอย่างก็เงียบไป แล้วทุกคนก็กลับบ้าน

วันนั้นตอนเที่ยงผมก็กลับไปอยู่ในหมู่บ้าน ผมก็ไม่รู้ว่าเขาทำพิธีอะไรบ้าง แต่ผมคงไม่อยากเจอเหตุการแบบนี้อีกแน่นอนแล้วอาทิตย์ต่อมา ทางอบต.ผู้ใหญ่บ้านก็มาลอกคูคลอง หนองที่เล็กๆก็กว้างขึ้นสะอาดและเป็นแหล่งน้ำให้กับชาวบ้าน และเรื่องคนตายที่หนองน้ำก็หายไปจากความทรงจำครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่