力拔山兮气盖世。
时不利兮骓不逝。
骓不逝兮可奈何!
虞兮虞兮奈若何!
เรี่ยวแรงของข้า มหาศาลดุจขุนเขา
จิตวิญญาณของข้าเคยหล่อเลี้ยงยุคสมัย
ในเวลาอันมืดมิดนี้ แม้แต่ม้าของข้าก็พาข้าหนีไปไม่ได้
แต่ยามนี้สิ่งเหล่านี้จะมีความหมายอันใด
โอ้ หยูจีที่รักของข้า ชะตากรรมเจ้าจะเป็นเช่นใด
***********************************************************************
เซี่ยงหยี่ เป็นบุคคลที่ได้รับการกล่าวขานว่ามีพละกำลังมหาศาล สามารถยกกระถางธูป
ที่มีน้ำหนักนับร้อยกิโลกรัมไว้บนเหนือหัวได้
ครั้งหนึ่ง เซี่ยงหยี่ได้ยินว่ามีคนพบเห็นม้าดำลักษณะดีแต่ดุร้ายจนไม่มีใครจับได้มาปรากฏตัวอยู่ที่ชายป่านอกเมือง
เซี่ยงหยี่จึงออกไปจับม้าตัวนั้นไว้ได้ เศรษฐีใหญ่ผู้หนึ่งได้เห็นเซี่ยงหยี่กำราบม้าร้ายได้นึกชอบใจลักษณะของชาย
หนุ่มจึงยกบุตรสาวนาม หยูจี ซึ่งเป็นหญิงงามลือชื่อให้ ทั้งนี้นับแต่เซี่ยงหยีได้นางหยูจีมาเป็นภรรยา เขาก็รักนางมาก
และไม่มีหญิงอื่นใดอีก
หลิวปังที่อยู่เสฉวนได้ซ่องสุมกำลังจนเข้มแข็งและถือโอกาสตอนฌ้อป้าอ๋องไปปราบกบฎที่แคว้นฉี ยกกองทัพเข้ายึด
ดินแดนเดิมของราชวงศ์ฉินจากจางหานและพวก จากนั้นก็รวบรวมกองทัพของเจ้าแคว้นต่างๆ เคลื่อนพลบุกเข้าตีเผิงเฉิง
เมืองหลวงของแคว้นฉู่แตก
ทหารองครักษ์ได้คุ้มครองหยูจีและครอบครัวของเซี่ยงหยี่หนีออกไปได้ก่อนทัพหลิวปังเข้าเมืองครั้นเมื่อฌ้อป้าอ๋องทราบ
ข่าวก็ทั้งตกใจและทั้งโกรธจึงเร่งนำทัพกลับมาโจมตีกองทัพหลิวปังจนแตกพ่ายยับเยิน สังหารไพร่พลหลายแสนคนแทบหมด
กองทัพ หลิวปังเองต้องปลอมตัวเพื่อหนีกลับไปเสฉวน
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ฌ้อปาอ๋องนำนางหยูจีผู้เป็นชายาติดตามไปด้วยทุกแห่ง และจากนั้นสงครามใหญ่ระหว่างฉู่และฮั่น
ก็เริ่มขึ้น ทั้งสองฝ่ายผลัดแพ้ผลัดชนะหลายครั้ง ฌ้อป้าอ๋องกับหลิวปังทำศึกกันหลายปี แม้จะชิงแผ่นดินได้มากกว่าแต่ฌ้อป้าอ๋อง
ก็ไม่อาจเอาชนะหลิวปังได้ จนท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายจึงตกลงทำสัญญาสงบศึกและแบ่งแผ่นดินกันโดยใช้คลองหงโกวเป็นเส้นแบ่ง
ดินแดนทางตะวันตกเป็นของฮั่น ทางตะวันออกเป็นของฉู่
หลังจากทำสัญญาสงบศึกแล้ว ทัพฉู่ก็ถอนกำลังกลับ แต่เซียวเหอและจางเหลียงที่ปรึกษาของหลิวปังได้เสนอให้หลิวปังใช้โอกาส
ที่ทัพฉู่กำลังถอยทัพระดมกำลังไล่ตามตี หลิวปังเห็นด้วย จึงส่งสาส์นไปแจ้งให้หานซิ่นซึ่งยามนั้นยังคุมเชิงอยู่ทางเหนือส่งกองทัพ
ลงมาช่วย จากนั้นฝ่ายฮั่นได้ระดมกำลังเกือบห้าแสนเข้าตีตลบหลังทัพฉู่ซึ่งมีกำลังเพียงหนึ่งแสน จนท้ายที่สุด กองทัพของฌ้อป้าอ๋อง
ก็ถูกปิดล้อมในหุบเขาที่ไกเซี่ย (อยู่ในมณฑลอันฮุย)
ในยามนั้น จางเหลียง เสนาธิการของฝ่ายทัพฮั่นได้ออกอุบายให้ทหารขับร้องเพลงพื้นบ้านของแคว้นเมืองฉู่เพื่อทำลายขวัญทหาร
ของข้าศึกและเมื่อเหล่าทหารฉู่ได้ยินเพลงพื้นบ้านของตน ก็เกิดความหดหู่และสิ้นหวังจึงพากันหนีทัพไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งคืน..
ก่อนรุ่งเช้า เมื่อฌ้อป้าอ๋องตื่นขึ้นมา ก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าไพร่พลได้หนีทัพจนเหลือทหารอยู่เพียงพันกว่าคนเท่านั้น เขา
คิดจะตีฝ่าแต่ก็เป็นห่วงหญิงคนรัก ดังนั้นเพื่อไม่ให้สามีเป็นกังวล นางหยูจีจึงฆ่าตัวตายก่อนเช้าวันนั้นเอง ฌ้อป้าอ๋องเศร้าเสียใจมาก
และตัดสินใจนำทัพสู้ตายกับกองทัพฮั่น
ท้ายสุด ฌ้อป้าอ๋องถอยมาจนถึงฝั่งแม่น้ำอู่เจียง พร้อมม้าคู่ใจและทหารไม่ถึงยี่สิบคน เบื้องหน้าเป็นแม่น้ำกว้าง เบื้องหลังเล่ากองทัพฮั่น
นับแสนกำลังไล่ตามมา ฌ้อปาอ๋องยืนอยู่กับเหล่าทหารคู่ใจ ทุกคนเลือดโทรมกายเสื้อเกราะฉีกขาด ก่อนที่ทัพฮั่นจะมาถึง พลันปรากฏเรือ
แจวหนึ่งลำอาสาพาปาอ๋องข้ามฟาก
“ท่านอ๋อง แม้วันนี้ฝ่ายเราจะพ่ายแพ้แต่แผ่นดินก็ยังอยู่ ขอท่านกลับถึงแคว้นฉู่ วันหน้าก็ยังมีความหวังที่จะกลับมาชิงแผ่นดินคืน” เหล่า
ทหารอ้อนวอนผู้เป็นจอมทัพ แต่ฌ้อป้าอ๋องเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูงความพ่ายแพ้ครั้งนี้ใหญ่หลวงทำลายความภาคภูมิใจของเขาจนหมด
สิ้นอีกทั้งยามนี้ หญิงอันเป็นที่รักก็ได้ตายไปแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็หมดกำลังใจที่จะอยู่ต่อไป
200 ปี ก่อนคริสตกาล ฌ้อปาอ๋องเซี่ยงหยี่ได้ฆ่าตัวตายในวงล้อมของกองทัพฮั่นที่ริมแม่น้ำอู่เจียง ด้วยวัยเพียง 33 ปี หลังจากนั้นหลิวปัง
ได้ขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ฮั่นปกครองแผ่นดินจีน
บทเพลง ไก่เซี่ยเกอ 垓下歌
时不利兮骓不逝。
骓不逝兮可奈何!
虞兮虞兮奈若何!
เรี่ยวแรงของข้า มหาศาลดุจขุนเขา
จิตวิญญาณของข้าเคยหล่อเลี้ยงยุคสมัย
ในเวลาอันมืดมิดนี้ แม้แต่ม้าของข้าก็พาข้าหนีไปไม่ได้
แต่ยามนี้สิ่งเหล่านี้จะมีความหมายอันใด
โอ้ หยูจีที่รักของข้า ชะตากรรมเจ้าจะเป็นเช่นใด
***********************************************************************
เซี่ยงหยี่ เป็นบุคคลที่ได้รับการกล่าวขานว่ามีพละกำลังมหาศาล สามารถยกกระถางธูป
ที่มีน้ำหนักนับร้อยกิโลกรัมไว้บนเหนือหัวได้
ครั้งหนึ่ง เซี่ยงหยี่ได้ยินว่ามีคนพบเห็นม้าดำลักษณะดีแต่ดุร้ายจนไม่มีใครจับได้มาปรากฏตัวอยู่ที่ชายป่านอกเมือง
เซี่ยงหยี่จึงออกไปจับม้าตัวนั้นไว้ได้ เศรษฐีใหญ่ผู้หนึ่งได้เห็นเซี่ยงหยี่กำราบม้าร้ายได้นึกชอบใจลักษณะของชาย
หนุ่มจึงยกบุตรสาวนาม หยูจี ซึ่งเป็นหญิงงามลือชื่อให้ ทั้งนี้นับแต่เซี่ยงหยีได้นางหยูจีมาเป็นภรรยา เขาก็รักนางมาก
และไม่มีหญิงอื่นใดอีก
หลิวปังที่อยู่เสฉวนได้ซ่องสุมกำลังจนเข้มแข็งและถือโอกาสตอนฌ้อป้าอ๋องไปปราบกบฎที่แคว้นฉี ยกกองทัพเข้ายึด
ดินแดนเดิมของราชวงศ์ฉินจากจางหานและพวก จากนั้นก็รวบรวมกองทัพของเจ้าแคว้นต่างๆ เคลื่อนพลบุกเข้าตีเผิงเฉิง
เมืองหลวงของแคว้นฉู่แตก
ทหารองครักษ์ได้คุ้มครองหยูจีและครอบครัวของเซี่ยงหยี่หนีออกไปได้ก่อนทัพหลิวปังเข้าเมืองครั้นเมื่อฌ้อป้าอ๋องทราบ
ข่าวก็ทั้งตกใจและทั้งโกรธจึงเร่งนำทัพกลับมาโจมตีกองทัพหลิวปังจนแตกพ่ายยับเยิน สังหารไพร่พลหลายแสนคนแทบหมด
กองทัพ หลิวปังเองต้องปลอมตัวเพื่อหนีกลับไปเสฉวน
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ฌ้อปาอ๋องนำนางหยูจีผู้เป็นชายาติดตามไปด้วยทุกแห่ง และจากนั้นสงครามใหญ่ระหว่างฉู่และฮั่น
ก็เริ่มขึ้น ทั้งสองฝ่ายผลัดแพ้ผลัดชนะหลายครั้ง ฌ้อป้าอ๋องกับหลิวปังทำศึกกันหลายปี แม้จะชิงแผ่นดินได้มากกว่าแต่ฌ้อป้าอ๋อง
ก็ไม่อาจเอาชนะหลิวปังได้ จนท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายจึงตกลงทำสัญญาสงบศึกและแบ่งแผ่นดินกันโดยใช้คลองหงโกวเป็นเส้นแบ่ง
ดินแดนทางตะวันตกเป็นของฮั่น ทางตะวันออกเป็นของฉู่
หลังจากทำสัญญาสงบศึกแล้ว ทัพฉู่ก็ถอนกำลังกลับ แต่เซียวเหอและจางเหลียงที่ปรึกษาของหลิวปังได้เสนอให้หลิวปังใช้โอกาส
ที่ทัพฉู่กำลังถอยทัพระดมกำลังไล่ตามตี หลิวปังเห็นด้วย จึงส่งสาส์นไปแจ้งให้หานซิ่นซึ่งยามนั้นยังคุมเชิงอยู่ทางเหนือส่งกองทัพ
ลงมาช่วย จากนั้นฝ่ายฮั่นได้ระดมกำลังเกือบห้าแสนเข้าตีตลบหลังทัพฉู่ซึ่งมีกำลังเพียงหนึ่งแสน จนท้ายที่สุด กองทัพของฌ้อป้าอ๋อง
ก็ถูกปิดล้อมในหุบเขาที่ไกเซี่ย (อยู่ในมณฑลอันฮุย)
ในยามนั้น จางเหลียง เสนาธิการของฝ่ายทัพฮั่นได้ออกอุบายให้ทหารขับร้องเพลงพื้นบ้านของแคว้นเมืองฉู่เพื่อทำลายขวัญทหาร
ของข้าศึกและเมื่อเหล่าทหารฉู่ได้ยินเพลงพื้นบ้านของตน ก็เกิดความหดหู่และสิ้นหวังจึงพากันหนีทัพไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งคืน..
ก่อนรุ่งเช้า เมื่อฌ้อป้าอ๋องตื่นขึ้นมา ก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าไพร่พลได้หนีทัพจนเหลือทหารอยู่เพียงพันกว่าคนเท่านั้น เขา
คิดจะตีฝ่าแต่ก็เป็นห่วงหญิงคนรัก ดังนั้นเพื่อไม่ให้สามีเป็นกังวล นางหยูจีจึงฆ่าตัวตายก่อนเช้าวันนั้นเอง ฌ้อป้าอ๋องเศร้าเสียใจมาก
และตัดสินใจนำทัพสู้ตายกับกองทัพฮั่น
ท้ายสุด ฌ้อป้าอ๋องถอยมาจนถึงฝั่งแม่น้ำอู่เจียง พร้อมม้าคู่ใจและทหารไม่ถึงยี่สิบคน เบื้องหน้าเป็นแม่น้ำกว้าง เบื้องหลังเล่ากองทัพฮั่น
นับแสนกำลังไล่ตามมา ฌ้อปาอ๋องยืนอยู่กับเหล่าทหารคู่ใจ ทุกคนเลือดโทรมกายเสื้อเกราะฉีกขาด ก่อนที่ทัพฮั่นจะมาถึง พลันปรากฏเรือ
แจวหนึ่งลำอาสาพาปาอ๋องข้ามฟาก
“ท่านอ๋อง แม้วันนี้ฝ่ายเราจะพ่ายแพ้แต่แผ่นดินก็ยังอยู่ ขอท่านกลับถึงแคว้นฉู่ วันหน้าก็ยังมีความหวังที่จะกลับมาชิงแผ่นดินคืน” เหล่า
ทหารอ้อนวอนผู้เป็นจอมทัพ แต่ฌ้อป้าอ๋องเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูงความพ่ายแพ้ครั้งนี้ใหญ่หลวงทำลายความภาคภูมิใจของเขาจนหมด
สิ้นอีกทั้งยามนี้ หญิงอันเป็นที่รักก็ได้ตายไปแล้ว แม่ทัพหนุ่มก็หมดกำลังใจที่จะอยู่ต่อไป
200 ปี ก่อนคริสตกาล ฌ้อปาอ๋องเซี่ยงหยี่ได้ฆ่าตัวตายในวงล้อมของกองทัพฮั่นที่ริมแม่น้ำอู่เจียง ด้วยวัยเพียง 33 ปี หลังจากนั้นหลิวปัง
ได้ขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ฮั่นปกครองแผ่นดินจีน