นับตั้งแต่ละครบุพเพสันนิวาส จนมาถึงเรื่อง พรหมลิขิต ที่ผมได้ดู ที่นางเอกได้ย้อนเวลาไปในสมัยอยุธยา เท่าที่ผมดู แทบจะหนีไม่พ้นเรื่องรัก มีอิจฉา
ซึ่งแตกต่างจากละครของทางประเทศจีนที่เป็นแน้วข้ามกาลเวลา ที่มีฉาก ที่พระเอก ได้ย้อนไปในสมัยจักรพรรดิ์ฉินซีฮ่องเต้ และมีฉากที่พระเอกได้เป็นแม่ทัพคุมกองกำลังทางทหาร และได้ใช้สติปัญญาอย่างเต็มที่ ได้จับดาบออกรบ และจะนำกำลังเข้าตีเมืองเสียนหยางก็ยังได้ แต่หลิวปังชิงเข้าไปก่อน
ผมแปลกใจที่ละครแนวข้ามกาลเวลาของไทย ไม่ค่อยทำบท ให้ผู้ชาย มาเป็นพระเอก ข้ามกาลเวลาไปสมัยกรุงศรีอยุธยา และ ได้กลายเป็นนายทหารในกองทัพ และ ใช้สติปัญญาอย่างเต็มอัตรา และเกี่ยวข้องกับการเมืองในสมัยนั้น แต่เรื่องรัก เรื่อง อิจฉา ก็คงต้องมี มันจะได้ครบ
เป็นไปได้ไหมที่ผู้แต่งเรื่อง ทั้งบุพเพสันนิวาส และพรหมลิขิต เขาจะเน้นความรักลูกเดียว เป็นหลัก ไม่ยุ่งเรื่องทางการทหาร และการใช้สติปัญญา
เพราะละครข้ามกาลเวลาของจีน ที่พระเอกนั้น กล้ายุ่งเกี่ยวเรื่องการเมือง การทหาร การรบ แต่มีเรื่องความรักอยู่นะ
ทำไม ละคร ข้ามกาลเวลาของไทย มีแต่เรื่องรัก ไม่มีเรื่องการใช้สติปัญญา และเรื่องทางการทหาร การรบ
ซึ่งแตกต่างจากละครของทางประเทศจีนที่เป็นแน้วข้ามกาลเวลา ที่มีฉาก ที่พระเอก ได้ย้อนไปในสมัยจักรพรรดิ์ฉินซีฮ่องเต้ และมีฉากที่พระเอกได้เป็นแม่ทัพคุมกองกำลังทางทหาร และได้ใช้สติปัญญาอย่างเต็มที่ ได้จับดาบออกรบ และจะนำกำลังเข้าตีเมืองเสียนหยางก็ยังได้ แต่หลิวปังชิงเข้าไปก่อน
ผมแปลกใจที่ละครแนวข้ามกาลเวลาของไทย ไม่ค่อยทำบท ให้ผู้ชาย มาเป็นพระเอก ข้ามกาลเวลาไปสมัยกรุงศรีอยุธยา และ ได้กลายเป็นนายทหารในกองทัพ และ ใช้สติปัญญาอย่างเต็มอัตรา และเกี่ยวข้องกับการเมืองในสมัยนั้น แต่เรื่องรัก เรื่อง อิจฉา ก็คงต้องมี มันจะได้ครบ
เป็นไปได้ไหมที่ผู้แต่งเรื่อง ทั้งบุพเพสันนิวาส และพรหมลิขิต เขาจะเน้นความรักลูกเดียว เป็นหลัก ไม่ยุ่งเรื่องทางการทหาร และการใช้สติปัญญา
เพราะละครข้ามกาลเวลาของจีน ที่พระเอกนั้น กล้ายุ่งเกี่ยวเรื่องการเมือง การทหาร การรบ แต่มีเรื่องความรักอยู่นะ