ผมหยิบแผ่นเสียงเพลงโปรดลงมาจากรถด้วย สงกรานต์เริ่มมาสองวันแล้ว ร้านเงียบจนผมต้องให้ลูกน้องสองคนลาพักไปเล่นน้ำตามที่พวกเขาต้องการ ส่วนผมมาเปิดร้านฟังเพลงที่ชอบเพียงลำพัง วันนี้ชุดเครื่องหลอดและลำโพงสัญชาติเดนมาร์คจะอยู่โยงเป็นเพื่อนผมพร้อมกับเสียงทรัมเป็ตของจอน เฟดดิส
ผมเปิดแผ่นโปรดแล้วชงชาไปนั่งที่โซฟาเบดแบบฝรั่งเศสข้างร้าน มองร้านตัวเองในมุมมองที่แปลกตา เพราะในวันที่ลูกค้าหนาตา ร้านกาแฟเล็ก ๆ ในตรอกที่เป็นสวรรค์แห่งนักเดินทางทั่วโลกแห่งนี้จะถูกโอบคลุมด้วยเพลงบอสซ่าจากเครื่องเล่นซีดีอีกชุดหนึ่ง หากแต่วันนี้ผู้คนหลายเชื้อชาติรวมตัวอยู่ด้านนอกพร้อมปืนฉีดน้ำสีสันสดใส วันนี้ร้านกาแฟจึงไม่ใช่จุดหมายของผู้คนเหล่านั้น แต่ผมกลับรู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่กับร้านของตัวเอง เสียงทรัมเป็ตพาผมเคลิ้มจนไม่ทันสังเกตว่ามีลูกค้าสุภาพสตรีคนหนึ่งเข้ามานั่งในร้านแล้ว
"เพลงเพราะจังค่ะ" เธอเอ่ยชมเมือผมเอาเมนูไปยื่นให้
ผมโค้งแทนคำขอบคุณ เธอสั่งโกโก้ร้อน ดีใจที่เธอสั่ง โกโก้มันทำไม่ยากนักแต่ก็เหมือนผมจะปรุงมันช้าจนต้องกล่าวขอโทษเมื่อเอาไปเสิร์ฟ
"ไม่เป็นไรค่ะ ว่าจะขอนั่งนานอยู่แล้ว น้อง ๆ ไปไหนหมดคะ" เธอดูตรงไปตรงมาและบอกให้ผมรู้เลยว่าเคุ้นเคยกับร้านนี้พอสมควร
"ตามสบาย เด็กในร้านให้ลาหยุดไปเล่นน้ำครับ"
เธอเป็นสาววัยทำงานมาในชุดลำลองแต่ก็ไม่เชิงเป็นชุดสำหรับเทศกาลที่ฉุ่มช่ำนี้ ผมฉงนจนอดถามเธอไม่ได้
"ไม่เล่นน้ำเหรอครับ"
เธอส่ายหน้า
"คนเยอะ กลัวเปียก ชอบมาดูมากว่า ดูทุกคนมีความสุข"
หางเสียงเธอเบาและดูหม่นหมองลึก ๆ
"ขายดีไหมคะ หน้าเทศกาลแบบนี้"
"เรียกว่าคนมาขอเข้าห้องน้ำมากกว่ามาซื้อกาแฟดีกว่า"
ผมตอบเธอยิ้ม ๆ เธอหัวเราะเบา ๆ
"มาอุดหนุนที่ร้านบ่อยเหรอครับ" ผมชวนคุย เธอมองหน้าผมนิ่งก่อนเอ่ย
"ร้านแต่งสวยค่ะ เครื่องดื่มก็เยี่ยม เหมือนร้านกาแฟของคนฝรั่งเศสที่นิวออร์ลีนส์"
คำตอบของเธอทำผมทึ่งเล็ก ๆ
ด้านนอกฝนเริ่มตก เพลงที่มีความหมายว่าความทรงจำที่หล่นหายของชายหญิงคู่หนึ่งมันคือโศกนาฏกรรมเริ่มขึ้น ท่วงทำนองเอื่อยประคองเสียงด้นของเครื่องเป่าทองเหลือง เข้ากับบรรยากาศฝนพรำอย่างวิเศษ
"คุณเคยมีความทรงจำที่หล่นหายกับใครสักคนไหมคะ"
ผมส่ายหน้าให้กับดวงตาที่จ้องเขม็งของเธอ สมองผมกลับคิดถึงแนน อดีตแฟนผมที่บินไปเรียนต่อปริญญาโทด้วยกัน สี่ปีในอเมริกาผมคว้าแค่ประกาศนียบัตรทำอาหาร ล้มเหลวในการคว้าปริญญาและล้มเหลวในความรักที่นั่น
"อากาศเย็น เดี๋ยวผมไปทำบลัดดี้ แมรี่ให้ดื่มนะครับเป็นอภินันทนาการที่ให้เกียรติอยู่เป็นเพื่อนกัน"
"ค่ะ"
แผ่นเสียงหน้าแรกเล่นจบขณะผมไปทำบลัดดี้ แมรี่ ที่มีส่วนผสมของน้ำมะเขือเทศ พริกและเหล้า เครื่องดื่มที่มีความเป็นนิวออร์ลีนส์อย่างที่สุด ผมมั่นใจว่าเธอคงชอบเป็นแน่ แต่บลัดดี้ แมรี่ที่ผมตั้งใจทำให้ก็เป็นหมัน เธอกลับไปเสียแล้ว
บนโต๊ะมีเงินค่าโกโก้วางไว้พร้อมกับจดหมายข่าวของชมรมนักเรียนไทยในอเมริกาที่ลงข่าวร้านของผมในนั้น
"I will be there"
ผมจำเจ้าของลายมือนี้ได้ คนที่ทำการ์ดอวยพรวันเกิดส่งให้ผมมาหลายปี เด็กสาวขี้อายคนนั้นนั่นเอง
เรื่องสั้นหน้าเดียว : Together song
ผมเปิดแผ่นโปรดแล้วชงชาไปนั่งที่โซฟาเบดแบบฝรั่งเศสข้างร้าน มองร้านตัวเองในมุมมองที่แปลกตา เพราะในวันที่ลูกค้าหนาตา ร้านกาแฟเล็ก ๆ ในตรอกที่เป็นสวรรค์แห่งนักเดินทางทั่วโลกแห่งนี้จะถูกโอบคลุมด้วยเพลงบอสซ่าจากเครื่องเล่นซีดีอีกชุดหนึ่ง หากแต่วันนี้ผู้คนหลายเชื้อชาติรวมตัวอยู่ด้านนอกพร้อมปืนฉีดน้ำสีสันสดใส วันนี้ร้านกาแฟจึงไม่ใช่จุดหมายของผู้คนเหล่านั้น แต่ผมกลับรู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่กับร้านของตัวเอง เสียงทรัมเป็ตพาผมเคลิ้มจนไม่ทันสังเกตว่ามีลูกค้าสุภาพสตรีคนหนึ่งเข้ามานั่งในร้านแล้ว
"เพลงเพราะจังค่ะ" เธอเอ่ยชมเมือผมเอาเมนูไปยื่นให้
ผมโค้งแทนคำขอบคุณ เธอสั่งโกโก้ร้อน ดีใจที่เธอสั่ง โกโก้มันทำไม่ยากนักแต่ก็เหมือนผมจะปรุงมันช้าจนต้องกล่าวขอโทษเมื่อเอาไปเสิร์ฟ
"ไม่เป็นไรค่ะ ว่าจะขอนั่งนานอยู่แล้ว น้อง ๆ ไปไหนหมดคะ" เธอดูตรงไปตรงมาและบอกให้ผมรู้เลยว่าเคุ้นเคยกับร้านนี้พอสมควร
"ตามสบาย เด็กในร้านให้ลาหยุดไปเล่นน้ำครับ"
เธอเป็นสาววัยทำงานมาในชุดลำลองแต่ก็ไม่เชิงเป็นชุดสำหรับเทศกาลที่ฉุ่มช่ำนี้ ผมฉงนจนอดถามเธอไม่ได้
"ไม่เล่นน้ำเหรอครับ"
เธอส่ายหน้า
"คนเยอะ กลัวเปียก ชอบมาดูมากว่า ดูทุกคนมีความสุข"
หางเสียงเธอเบาและดูหม่นหมองลึก ๆ
"ขายดีไหมคะ หน้าเทศกาลแบบนี้"
"เรียกว่าคนมาขอเข้าห้องน้ำมากกว่ามาซื้อกาแฟดีกว่า"
ผมตอบเธอยิ้ม ๆ เธอหัวเราะเบา ๆ
"มาอุดหนุนที่ร้านบ่อยเหรอครับ" ผมชวนคุย เธอมองหน้าผมนิ่งก่อนเอ่ย
"ร้านแต่งสวยค่ะ เครื่องดื่มก็เยี่ยม เหมือนร้านกาแฟของคนฝรั่งเศสที่นิวออร์ลีนส์"
คำตอบของเธอทำผมทึ่งเล็ก ๆ
ด้านนอกฝนเริ่มตก เพลงที่มีความหมายว่าความทรงจำที่หล่นหายของชายหญิงคู่หนึ่งมันคือโศกนาฏกรรมเริ่มขึ้น ท่วงทำนองเอื่อยประคองเสียงด้นของเครื่องเป่าทองเหลือง เข้ากับบรรยากาศฝนพรำอย่างวิเศษ
"คุณเคยมีความทรงจำที่หล่นหายกับใครสักคนไหมคะ"
ผมส่ายหน้าให้กับดวงตาที่จ้องเขม็งของเธอ สมองผมกลับคิดถึงแนน อดีตแฟนผมที่บินไปเรียนต่อปริญญาโทด้วยกัน สี่ปีในอเมริกาผมคว้าแค่ประกาศนียบัตรทำอาหาร ล้มเหลวในการคว้าปริญญาและล้มเหลวในความรักที่นั่น
"อากาศเย็น เดี๋ยวผมไปทำบลัดดี้ แมรี่ให้ดื่มนะครับเป็นอภินันทนาการที่ให้เกียรติอยู่เป็นเพื่อนกัน"
"ค่ะ"
แผ่นเสียงหน้าแรกเล่นจบขณะผมไปทำบลัดดี้ แมรี่ ที่มีส่วนผสมของน้ำมะเขือเทศ พริกและเหล้า เครื่องดื่มที่มีความเป็นนิวออร์ลีนส์อย่างที่สุด ผมมั่นใจว่าเธอคงชอบเป็นแน่ แต่บลัดดี้ แมรี่ที่ผมตั้งใจทำให้ก็เป็นหมัน เธอกลับไปเสียแล้ว
บนโต๊ะมีเงินค่าโกโก้วางไว้พร้อมกับจดหมายข่าวของชมรมนักเรียนไทยในอเมริกาที่ลงข่าวร้านของผมในนั้น
"I will be there"
ผมจำเจ้าของลายมือนี้ได้ คนที่ทำการ์ดอวยพรวันเกิดส่งให้ผมมาหลายปี เด็กสาวขี้อายคนนั้นนั่นเอง