ดิฉันถูกบริษัทเลิกจ้างโดยไม่ให้เหตุผลเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นเพียงการพูดคุยกันและดิฉันยินยอมออกเพราะบริษัทได้ชดเชยการเลิกจ้างตามกฎหมาย ทางบริษัทได้ออกหนังสือรับรองการเลิกจ้างแต่ไม่ได้ระบุเหตุผล โดยแจกแจงรายการชดเชยในจดหหมายให้ ดิฉันจึงนำจดหมายดังกล่าวไปขอลดหย่อนภาษีกรณีถูกเลิกจ้าง แต่เจ้าหน้าที่สรรพากรต้องการทราบเหตุผลของการเลิกจ้าง ดิฉันชี้แจงกับเจ้าหน้าที่สรรพากรว่าดิฉันถูกเลิกจ้างเพราะบริษัทมีการปรับเปลี่ยนองค์กร แต่เจ้าหน้าที่ต้องการเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรที่ออกโดยบริษัท ดิฉันจึงให้เจ้าหน้าที่สรรพากรคุยกับทางฝ่ายบุคคลเอง ต่อมาทางฝ่ายบุคคลของบริษัทได้ทำหนังสือแจ้งเหตุผลการเลิกจ้างว่า เนื่องจากมีข้อตกลงร่วมกัน และส่งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรโดยตรง ทางเจ้าหน้าที่แจ้งดิฉันว่าเหตุผลการเลิกจ้างแบบนี้ไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้
ความจริงคือ
ดิฉันถูกบริษัทเลิกจ้างโดยบริษัทชดเชยให้ตามกฎหมาย แต่ไม่ระบุสาเหตุการเลิกจ้าง
ดิฉันไม่ได้เซ็นต์ใบลาออก เพราะดิฉันไม่ได้ลาออกเอง
ดิฉันไม่ได้เซ็นต์เอกสารใด ๆ หรือมีข้อตกลงร่วมกันตามที่ฝ่ายบุคคลระบุในจดหมาย แต่ดิฉันยอมออกเพราะบริษัทชดเชยการเลิกจ้างตามกฎหมาย
คำถาม
1 จากข้อมูลข้างต้น ดิฉันสามารถขอคืนภาษีกรณีเลิกจ้างได้ไหม
2 ดิฉันสามารถฟ้องร้องฝ่ายบุคคลของบริษัทที่ทำให้ดิฉันเสียสิทธิ์ในการขอคืนภาษีได้ไหม เนื่องจากเอกสารที่ทางฝ่ายบุคคลแจ้งไปทางสรรพากรเป็นเท็จทำให้ดิฉันเสึยสิทธิ์ในการขอคืนภาษี
หมายเหตุ สาเหตุที่แท้จริงแล้วคือ ดิฉันกับผู้บริหารระดับสูงซึ่งย้ายมาจากประเทศอื่นไม่สามารถทำงานร่วมกันได้
รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
ขอคืนภาษีกรณีถูกเลิกจ้าง
ความจริงคือ
ดิฉันถูกบริษัทเลิกจ้างโดยบริษัทชดเชยให้ตามกฎหมาย แต่ไม่ระบุสาเหตุการเลิกจ้าง
ดิฉันไม่ได้เซ็นต์ใบลาออก เพราะดิฉันไม่ได้ลาออกเอง
ดิฉันไม่ได้เซ็นต์เอกสารใด ๆ หรือมีข้อตกลงร่วมกันตามที่ฝ่ายบุคคลระบุในจดหมาย แต่ดิฉันยอมออกเพราะบริษัทชดเชยการเลิกจ้างตามกฎหมาย
คำถาม
1 จากข้อมูลข้างต้น ดิฉันสามารถขอคืนภาษีกรณีเลิกจ้างได้ไหม
2 ดิฉันสามารถฟ้องร้องฝ่ายบุคคลของบริษัทที่ทำให้ดิฉันเสียสิทธิ์ในการขอคืนภาษีได้ไหม เนื่องจากเอกสารที่ทางฝ่ายบุคคลแจ้งไปทางสรรพากรเป็นเท็จทำให้ดิฉันเสึยสิทธิ์ในการขอคืนภาษี
หมายเหตุ สาเหตุที่แท้จริงแล้วคือ ดิฉันกับผู้บริหารระดับสูงซึ่งย้ายมาจากประเทศอื่นไม่สามารถทำงานร่วมกันได้
รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ