รอวัน...จันทร์ส่องหล้า ตอนที่ 18

กระทู้สนทนา
สไบที่เคยเป็นข้ารับใช้เก่าของแม้นมาศไม่ชอบลัยวัลย์หล่อนจะจับตาดูพฤติกรรมของลัยวัลย์อยู่ตลอด  วันนี้ลัยวัลย์เดินลงมาเดินเล่นที่สวนดอกไม้สไบก็ตามลงมาด้วย

“ คุณอย่าเด็ดดอกไม้ที่อยู่ในเขตหินนั่นนะคะ   ”
“ ทำไมหรือ  ดอกไม้พวกนี้แตกต่างจากดอกไม้พวกนั้นอย่างไร   ”

ลัยวัลย์ถามอย่างแปลกใจเพราะมันก็คือดอกไม้เหมือนๆกันแล้วทำไมในเขตที่มีหินตกแต่งไว้จึงห้ามเด็ด

“ ก็ตรงนั้นเขตหลุมฝังศพนี่คะ   ”

ลัยวัลย์ถึงกับชะงัก  สไบมองอย่างสะใจที่ได้บอกความจริงกับลัยวัลย์เรื่องหลุมฝังศพ

“ หลุมฝังศพ  ของ  ของใครคะ   ”
“ ของคุณแม้นมาศ  คู่หมั้นของคุณหมอ  เธอเพิ่งตายไม่กี่เดือนนี่เอง  ”
“ คู่หมั้นคุณหมอเหรอ   ”

ลัยวัลย์หน้าซีดมองหลุมศพของแม้นมาศอย่างรู้สึกกลัว

“ คุณหมอน่ะรักคุณมาศมาก  เมื่อคุณมาศตายคุณหมอก็เลยให้ฝังคุณมาศเอาไว้ที่นี่ไม่ยอมเอาไปฝังที่วัด   ”
ลัยวัลย์ถอยห่างออกมาสไบยิ้มหยัน

“ คุณกลัวหรือคะ  ก็น่ากลัวอยู่หรอกนะคะเพราะคุณเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียคุณหมอ  เหมือนกับคุณมาแย่งคุณหมอ   ”
“ เปล่านะ  ฉัน  ไม่   ”
“ สไบพูดอะไรน่ะ   ”

อนินตวาดสไบหันไปเห็นอนินถึงกับหน้าเสีย

“ คือ สไบ    ”
“ จะพูดอะไรให้ระวังปากระวังคำพูดบ้าง  คุณวัลย์เธอจะเข้าใจผิดเอาได้   ”
“ สไบแค่บอกคุณวัลย์ว่า   ”
“ มันไม่ใช่เรื่องอะไรของเธอเลยนะ  เธอมีหน้าที่อะไรก็ทำไปเท่าหน้าที่ของเธอมีเท่านั้น   ”
“ ค่ะ คุณนิน   ”
“ ไปได้แล้ว  คราวหน้าอย่าให้มีแบบนี้อีกนะ   ”

อนินไล่สไบ  หญิงรับใช้รีบเดินออกไปลัยวัลย์มองหลุมฝังศพของแม้นมาศด้วยสายตากังวล

“ คุณวัลย์ครับผมว่าเราเดินไปทางโน้นดีกว่านะครับ  ถ้าจะชมดอกไม้ด้านโน้นมีสวยๆเยอะเลย   ”
“ คุณนินคะ   ”
“ ครับผม    ”
“ ฉันอยากรู้ว่าทำคู่หมั้นคุณหมอถึง  เอ่อ  ตายคะ   ”
“ เขาป่วยครับ  ป่วยมานานแล้ว  คุณวัลย์คงแปลกใจทำไมเราถึงฝังคุณมาศเอาไว้ที่นี่ซึ่งมันน่ากลัวใช่ไหมครับ   ”
“ ฉัน เอ่อ   ”
“ พี่กริมสงสารคุณมาศ  เธอไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน  เมื่อตายไปแล้วก็อยากให้เธออยู่ใกล้กับคนที่เธอเคยรู้จักบ้างก็เลยฝังเอาไว้ที่นี่   ”

อนินมองหน้าพี่สะใภ้รู้ว่าเธอคงกลัวแน่แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ  สำหรับลัยวัลย์เธอเชื่อสไบที่บอกว่าหมอกีรติรักแม้นมาศมากเขาเลยฝังคู่หมั้นเอาไว้ที่นี่เพื่อจะได้อยู่ใกล้ๆเขาตลอดไปนั้นเอง

ดึกแล้วลัยวัลย์ยังนั่งอยู่บนเตียงเพราะหลับไม่ลงห้องที่เธออยู่นี่ถ้ามองเฉียงออกไปก็สามารถมองเห็นเนินดอกไม้บนหลุมฝังศพนั่น  ลัยวัลย์ลุกเดินไปที่หน้าต่างมองผ่านความมืดไปยังที่ที่หลุมฝังศพอยู่  แล้วหญิงสาวก็ต้องตกตลึงตัวชาวาบไปทั้งตัวเมื่อมองเห็นเงาดำๆร่างหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น  ลัยวัลย์เซผงะถอยหลังกรูด  เธอมายืนหน้าซีดตัวสั่นเทาอยู่กลางห้อง

“ เงาใคร  ผีหรือเปล่า  ผีผู้หญิงที่ชื่อแม้นมาศคู่หมั้นของหมอกีรติ  ผีแน่ๆไม่อย่างนั้นใครจะไปยืนทำไมที่ปากหลุมกลางดึกดื่นอย่างนี้   ”

ลัยวัลย์นอนกลัวทั้งคืนกว่าเธอจะเคลิ้มหลับไปก็เกือบสว่าง  สไบมาเคาะประตูเรียก   ”

“ คุณวัลย์คะ  คุณวัลย์   ”

ลัยวัลย์เปิดประตูออกมาหน้าตาเธออิดโรยจนเห็นได้ชัด

“ ตาย  คุณวัลย์หน้าตาคุณทำไมเหมือนคนอดนอนอย่างนี้ล่ะคะ   ”
“ ฉันนอนไม่หลับน่ะ   ”
“ นอนไม่หลับ  กลัวผีคุณมาศใช่ไหมล่ะคะ   ”

สไบถามยุ

“ ฉัน    ”
“ มันก็น่ากลัวอยู่หรอกนะคะ  ศพตายยังไม่นานวิญญาณก็คงจะยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆคุณหมอใกล้คนที่เธอรัก  ตายแล้วสไบก็พูดเพ้อเจ้อไป  คือคุณหมอให้มาตามคุณวัลย์ลงไปทานข้าวค่ะ   ”
“ ฉันยังไม่หิวพี่สไบไปบอกเขาเถอะว่าฉันยังไม่กิน   ”
“ ได้ค่ะ    ”

สไบพูดแล้วเดินจากไปหล่อนแอบยิ้มสะใจที่พูดให้ลัยวัลย์กลัวได้

ลัยวัลย์กลับมานอนซม  เพราะอดนอนมากและเกิดความกลัวกังวลเธอจึงเหมือนจะมีไข้  เสียงประตูเปิ ดและปิดเบาๆลัยวัลย์คิดว่าเป็นสไบหรือเรียมเข้ามาจึงหลับตานิ่งจนกระทั่งมืออุ่นๆของใครมาแตะทีห่น้าผากลัยวัลย์จึงลืมตา

“ คุณตัวอุ่นๆน่าจะมีไข้นะ  ”

หมอบอกแล้วเดินกลับออกไปไม่นานก็กลับเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าเครื่องมือแพทย์  ลัยวัลย์รีบลุกขึ้นนั่ง

“ คุณจะทำอะไรน่ะ  ”
“ ก็ตรวจคุณน่ะสิ  หน้าซัดหน้าเซียวอย่างนี้ผมกลัวคุณจะเป็นไข้ไม่สบาย  ”
“ ฉันไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น  ”
“ จะมีสักกี่คนล่ะที่บอกว่าฉันเป็นไข้  ”

หมอพูดแล้วเอาเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ออกมาส่งให้หญิงสาวอม  แต่ลัยวัลย์ไม่เอาเขาก็เลยขู่   ”

“ ถ้าคุณไม่ยอมวัดว่ามีไข้ผมจะฉีดยาแก้ไข้ให้คุณเลย   ”
“ ทำไมต้องบังคับฉันด้วย   ”
“ เปล่าผมไม่ได้บังคับแต่ทำจริงๆ   ”

ลัยวัลย์รับเทอร์โมมิเตอร์มาจากหมอแล้วใส่ปากอมหน้าง้ำอย่างไม่พอใจ  หมอแอบยิ้มกลัวเข็ม  เขาจับชีพจรที่ข้อมือของเธอและนับเวลาลัยวัลย์มองเมินไปทางอื่นอย่างไม่อยากเห็นหน้าเขา  เวลาผ่านไปหมอหยิบเทอร์โมมิเตอร์มาจากปากของลัยวัลย์แล้วบอก

“ มีไข้นิดนึงไม่ต้องถึงกับฉีดยาแต่ต้องกินข้าวเยอะๆแทนแล้วพักผ่อนมากๆ  จะลงไปกินข้าวข้างล่างหรือว่าจะให้ขึ้นเอามากินข้างบนนี่    ”
“ ฉันยังไม่หิว  ถ้าหิวจะลงไปกินเอง   ”
“ ไม่ได้  ต้องกินเลย  ผมว่าให้สไบเอาขึ้นมาให้กินข้างนี่บนดีกว่าผมจะได้ดูด้วยว่าคุณกินได้มากแค่ไหน   ”
“ เอ๊ะ   ”
“ เอ๊ะอะไร  หรือว่าอยากฉีดยาก็ได้นะสักเข็มจะได้แข็งแรงขึ้น   ”
“ ไม่ต้อง  ฉันกินข้าวก็ได้  แต่จะลงไปกินเอง   ”
“ ดีครับ  ผมจะได้ลงไปเป็นเพื่อน   ”
“ คุณอย่ามาวุ่นวายกับฉันนักจะได้ไหม   ”
“ ได้  เมื่อคุณกินข้าวอิ่มแล้วผมก็จะไปทำงาน   ”

หมอตอแยไม่เลิกลัยวัลย์หัวเสียนักแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรได้

พัดชาต้องทนทุกทรมานเมื่อเธอเกิดความต้องการทางเพศขึ้นมาเพราะเธอได้รู้ลิ้มรสความสุขสุดยอดกับราวินในวันนั้นมันจึงทำให้เธอหลงมันและต้องการมันอีก  ยิ่งเธอพยายามอดกลั้นมันก็ยิ่งโหยหา  ในที่สุดเธอก็แพ้ใจตัวเองแพ้ความต้องการของตัวเองต้องยอมบากหน้าเข้าไปหาราวิน  ราวินมองพัดชาในชุดบางเบาแล้วยิ้มอย่างรู้ว่าเธอต้องการอะไร

“ ติดใจใช่ไหมล่ะ   ”
“ มันก็ยังดีกว่าให้ฉันไปยิ้มกับคนอื่นไม่ใช่หรือ   ”

ราวินหัวเราะเขาจูบเธอที่ไหล่และเรื่อยไปยังซอกคอพัดชาไหวสะท้านและกอดเขา  พัดชายอมเสียเปรียบราวินอย่างเต็มใจ  เมื่อมันมีครั้งที่สอง  สามสี่ห้าก็ตามมาและกลายเป็นว่าพัดชาแอบมีความสัมพันธุ์กับราวินโดยที่ไม่มีใครรู้เลย  ป้าสนเองก็แปลกใจที่พัดชาไม่ออกไปไหนนัก  เธอนอนตื่นสายตะวันโด่งทุกวันมืดมาก็เข้าห้องปิดประตูเงียบเป็นเช่นนี้มานานนับเดือนแล้ว

สำหรับลัยวัลย์เธอต้องอยู่กับความหวาดกลัวทุกคืนเธอจะได้ยินเสียงผู้หญิงดังแว่วมาจากหลุมฝังศพของแม้นมาศ  และถ้าเธอยอมข่มใจไม่กลัวมองลงไปที่หลุมก็จะเห็นร่างดำมะมึนยืนอยู่ที่ปากหลุมทุกครั้ง

หมอกีรติสังเกตว่าลัยวัลย์จะมีสีหน้าซีดหน้าอิดโรยและอ่อนเพลียเหมือนคนอดนอนอย่างต่อเนื่องแต่ลัยวัลย์ไม่ค่อยยอมให้เขาตรวจนัก  และมันก็เกิดเรื่องจนได้ในกลางดึกคืนหนึ่ง  ลัยวัลย์ได้ยินเสียงร้องไห้ดังแว่วอยู่ที่หน้าห้องนอนของเธอ  หญิงสาวตัดสินใจลุกขึ้นเปิดประตูออกมาดูก็พบว่าสไบยืนหันหลังให้เธอ

“ พี่สไบ   ”

ร่างของสไบเดินหนีไปที่บันไดทางลงลัยวัลย์จึงเดินตามเพราะคิดว่าสไบเป็นอะไรถึงร้องไห้

“ พี่สไบเป็นอะไรหรือเปล่า   ”

ลัยวัลย์เดินตามมาจนถึงตัวของสไบแล้วถามอย่างหวังดี  แต่พอสไบหันหน้ามาลัยวัลย์ถึงกับผงะเพราะใบหน้าของสไบขาวโพลนดวงตาแดงกร่ำและที่สำคัญมันไม่ใช่หน้าของสไบเลย  ลัยวัลย์ตกใจกรีดร้องสุดเสียงแล้ววิ่งหนีแต่เพราะชุดนอนที่ยาวเธอจึงเหยียบชายกระโปรงชุดนอนล้มกลิ้งตกบันไดตั้งแต่ชั้นบนสุดลงมาฟุบอยู่ข้างล่าง

หมอที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนได้ยินเสียงกรีดของลัยวัลย์เขารีบวิ่งออกมาจากห้อง  ไฟหน้าบันไดหมอมองเห็นร่างของลัยวัลย์นอนฟุบกองอยู่ข้างล่างถนัดถึงกับใจหายวาบ

“ คุณวัลย์ไม่นะ  ไม่   ”

ที่โรงพยาบาลหมอยืนมองร่างที่นอนนิ่งของลัยวัลย์  เธอถูกผ่าเอาเด็กออกจากท้องไปแล้วแม้เด็กจะปลอดภัยแต่เขาก็ถูกผ่าออกมาก่อนกำหนดจึงตัวเล็กนิดเดียวในขณะที่ลัยวัลย์ยังนอนไม่ได้สติ  หมอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลัยวัลย์ทำไมเธอถึงตกบันไดลงมาได้กลางดึง  ราวินกับอนินเข้าสมายืนข้างเตียงกับวัลย์ใบหน้ากังวลห่วงใยเต็มเปี่ยม

“ มันเกิดขึ้นได้อย่างไรครับหมอ   ”

ราวินถามน้องเขย

“ ผมก็ไม่รู้  แต่มันไม่น่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย  นิน  พี่กลัว  กลัวว่าคุณวัลย์จะเป็นแบบ   ”
“ ไม่หรอกครับพี่กริม  พี่อย่ากังวลมากนักเมื่อคุณวัลย์ฟื้นเธอจะเป็นอย่างปรกติ   ”

เวลาผ่านไป  ลัยวัลย์ยังฝันร้ายในความมืดเธอเห็นใบหน้าสะสวยของผู้หญิงคนหนึ่งแสยะยิ้มให้กับเธอ

“ เธอแย่งกริมไปจากฉัน   เธอทำให้ฉันต้องตรอมใจตาย  ฉันจะฆ่าเธอ  ”
“ ไม่  ไม่จริง  ฉันไมได้แย่งเธอ  ฉันไม่รู้เรื่อง  แม้นมาศเธออย่าทำอะไรฉัน  ไม่  ไม่  กรี๊ดๆๆๆ   ”
“ วัลย์  วัลย์  ตื่นๆ  ตื่น  นี่พี่เองวัลย์   ”

ราวินจับมือน้องสาว  หมอกับอนินมองลัยวัลย์ละเมออย่างตกใจ

“ แม้นมาศเหรอ ทำไมคุณวัลย์ละเมอแบบนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณวัลย์กันแน่   ”

หมอคิดอย่างคาดไม่ถึง  หมอจับมือของลัยวัลย์กุมเอาไว้แล้วเรียก

“ คุณวัลย์  ตื่นเถอะครับ  คุณปลอดภัยแล้วคุณวัลย์   ”

ลัยวัลย์ลืมตาเธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย  หญิงสาวเอามือคลำที่ท้องโดยสัญชาตญาณแล้วถึงกับผวาร่ำร้อง

“ ลูกของฉันล่ะ  ลูก   ”
“ คุณวัลย์  ลูกคลอดออกมาแล้ว  เขาปลอดภัยนะคุณวัลย์   ”

หมอบอกเธอด้วยน้ำเสียงปลอบโยนและมองจ้องตาของเธอว่ามองเห็นเปล่า  ราวินกับอนินเรียกเธออย่างโล่งใจ

“  วัลย์พี่เป็นห่วงแทบแย่  เป็นยังไงบ้างหืมม์   ”

ลัยวัลย์มองพี่ชายแล้วร้องไห้ท่าทางยังหวาดกลัว

“  พี่วิน  ช่วยวัลย์ด้วย  เขาจะฆ่าวัลย์   ”
“ ใคร  ใครจะฆ่าวัลย์   ”
“ ผี  ผี  คู่หมั้นคุณหมอ  เขาจะฆ่าวัลย์  ”
“ อะไรนะ  ”

ทั้งสามร้องพร้อมกันอย่างแตกตื่น  หมอกีรติสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที

“ เป็นไปไม่ได้  เหลวไหลสิ้นดี  ”

หมอกีรติพูดออกมาอย่างลืมตัวอนินเองก็ตะลึงที่คุณวัลย์บอกเช่นนั้น
อนินตามพี่ชายออกมาข้างนอก

“ พี่กริม  มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คุณวัลย์พูด  ”
“ ใช่  มันจะเป็นไปได้อย่างไร  พี่ไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด  ”
“ แต่ท่าทางคุณวัลย์ไม่ได้พูดโกหกเลยนะ  พี่ลองคิดดูใครจะมีแก่ใจมาพูดโกหกในสถานการณ์แบบนี้  เขาเองก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอดเลยนะ  ”
“  พี่ไม่ได้ว่าคุณวัลย์โกหกหรือกุเรื่องขึ้นมา  แต่พี่  ไม่เข้าใจว่า  มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้อย่างไร  ”
“  มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแล้วนะพี่กริม  ”
“ พี่ต้องรู้ความจริงให้ได้แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่  ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่