สไบที่เคยเป็นข้ารับใช้เก่าของแม้นมาศไม่ชอบลัยวัลย์หล่อนจะจับตาดูพฤติกรรมของลัยวัลย์อยู่ตลอด วันนี้ลัยวัลย์เดินลงมาเดินเล่นที่สวนดอกไม้สไบก็ตามลงมาด้วย
“ คุณอย่าเด็ดดอกไม้ที่อยู่ในเขตหินนั่นนะคะ ”
“ ทำไมหรือ ดอกไม้พวกนี้แตกต่างจากดอกไม้พวกนั้นอย่างไร ”
ลัยวัลย์ถามอย่างแปลกใจเพราะมันก็คือดอกไม้เหมือนๆกันแล้วทำไมในเขตที่มีหินตกแต่งไว้จึงห้ามเด็ด
“ ก็ตรงนั้นเขตหลุมฝังศพนี่คะ ”
ลัยวัลย์ถึงกับชะงัก สไบมองอย่างสะใจที่ได้บอกความจริงกับลัยวัลย์เรื่องหลุมฝังศพ
“ หลุมฝังศพ ของ ของใครคะ ”
“ ของคุณแม้นมาศ คู่หมั้นของคุณหมอ เธอเพิ่งตายไม่กี่เดือนนี่เอง ”
“ คู่หมั้นคุณหมอเหรอ ”
ลัยวัลย์หน้าซีดมองหลุมศพของแม้นมาศอย่างรู้สึกกลัว
“ คุณหมอน่ะรักคุณมาศมาก เมื่อคุณมาศตายคุณหมอก็เลยให้ฝังคุณมาศเอาไว้ที่นี่ไม่ยอมเอาไปฝังที่วัด ”
ลัยวัลย์ถอยห่างออกมาสไบยิ้มหยัน
“ คุณกลัวหรือคะ ก็น่ากลัวอยู่หรอกนะคะเพราะคุณเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียคุณหมอ เหมือนกับคุณมาแย่งคุณหมอ ”
“ เปล่านะ ฉัน ไม่ ”
“ สไบพูดอะไรน่ะ ”
อนินตวาดสไบหันไปเห็นอนินถึงกับหน้าเสีย
“ คือ สไบ ”
“ จะพูดอะไรให้ระวังปากระวังคำพูดบ้าง คุณวัลย์เธอจะเข้าใจผิดเอาได้ ”
“ สไบแค่บอกคุณวัลย์ว่า ”
“ มันไม่ใช่เรื่องอะไรของเธอเลยนะ เธอมีหน้าที่อะไรก็ทำไปเท่าหน้าที่ของเธอมีเท่านั้น ”
“ ค่ะ คุณนิน ”
“ ไปได้แล้ว คราวหน้าอย่าให้มีแบบนี้อีกนะ ”
อนินไล่สไบ หญิงรับใช้รีบเดินออกไปลัยวัลย์มองหลุมฝังศพของแม้นมาศด้วยสายตากังวล
“ คุณวัลย์ครับผมว่าเราเดินไปทางโน้นดีกว่านะครับ ถ้าจะชมดอกไม้ด้านโน้นมีสวยๆเยอะเลย ”
“ คุณนินคะ ”
“ ครับผม ”
“ ฉันอยากรู้ว่าทำคู่หมั้นคุณหมอถึง เอ่อ ตายคะ ”
“ เขาป่วยครับ ป่วยมานานแล้ว คุณวัลย์คงแปลกใจทำไมเราถึงฝังคุณมาศเอาไว้ที่นี่ซึ่งมันน่ากลัวใช่ไหมครับ ”
“ ฉัน เอ่อ ”
“ พี่กริมสงสารคุณมาศ เธอไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เมื่อตายไปแล้วก็อยากให้เธออยู่ใกล้กับคนที่เธอเคยรู้จักบ้างก็เลยฝังเอาไว้ที่นี่ ”
อนินมองหน้าพี่สะใภ้รู้ว่าเธอคงกลัวแน่แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ สำหรับลัยวัลย์เธอเชื่อสไบที่บอกว่าหมอกีรติรักแม้นมาศมากเขาเลยฝังคู่หมั้นเอาไว้ที่นี่เพื่อจะได้อยู่ใกล้ๆเขาตลอดไปนั้นเอง
ดึกแล้วลัยวัลย์ยังนั่งอยู่บนเตียงเพราะหลับไม่ลงห้องที่เธออยู่นี่ถ้ามองเฉียงออกไปก็สามารถมองเห็นเนินดอกไม้บนหลุมฝังศพนั่น ลัยวัลย์ลุกเดินไปที่หน้าต่างมองผ่านความมืดไปยังที่ที่หลุมฝังศพอยู่ แล้วหญิงสาวก็ต้องตกตลึงตัวชาวาบไปทั้งตัวเมื่อมองเห็นเงาดำๆร่างหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น ลัยวัลย์เซผงะถอยหลังกรูด เธอมายืนหน้าซีดตัวสั่นเทาอยู่กลางห้อง
“ เงาใคร ผีหรือเปล่า ผีผู้หญิงที่ชื่อแม้นมาศคู่หมั้นของหมอกีรติ ผีแน่ๆไม่อย่างนั้นใครจะไปยืนทำไมที่ปากหลุมกลางดึกดื่นอย่างนี้ ”
ลัยวัลย์นอนกลัวทั้งคืนกว่าเธอจะเคลิ้มหลับไปก็เกือบสว่าง สไบมาเคาะประตูเรียก ”
“ คุณวัลย์คะ คุณวัลย์ ”
ลัยวัลย์เปิดประตูออกมาหน้าตาเธออิดโรยจนเห็นได้ชัด
“ ตาย คุณวัลย์หน้าตาคุณทำไมเหมือนคนอดนอนอย่างนี้ล่ะคะ ”
“ ฉันนอนไม่หลับน่ะ ”
“ นอนไม่หลับ กลัวผีคุณมาศใช่ไหมล่ะคะ ”
สไบถามยุ
“ ฉัน ”
“ มันก็น่ากลัวอยู่หรอกนะคะ ศพตายยังไม่นานวิญญาณก็คงจะยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆคุณหมอใกล้คนที่เธอรัก ตายแล้วสไบก็พูดเพ้อเจ้อไป คือคุณหมอให้มาตามคุณวัลย์ลงไปทานข้าวค่ะ ”
“ ฉันยังไม่หิวพี่สไบไปบอกเขาเถอะว่าฉันยังไม่กิน ”
“ ได้ค่ะ ”
สไบพูดแล้วเดินจากไปหล่อนแอบยิ้มสะใจที่พูดให้ลัยวัลย์กลัวได้
ลัยวัลย์กลับมานอนซม เพราะอดนอนมากและเกิดความกลัวกังวลเธอจึงเหมือนจะมีไข้ เสียงประตูเปิ ดและปิดเบาๆลัยวัลย์คิดว่าเป็นสไบหรือเรียมเข้ามาจึงหลับตานิ่งจนกระทั่งมืออุ่นๆของใครมาแตะทีห่น้าผากลัยวัลย์จึงลืมตา
“ คุณตัวอุ่นๆน่าจะมีไข้นะ ”
หมอบอกแล้วเดินกลับออกไปไม่นานก็กลับเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าเครื่องมือแพทย์ ลัยวัลย์รีบลุกขึ้นนั่ง
“ คุณจะทำอะไรน่ะ ”
“ ก็ตรวจคุณน่ะสิ หน้าซัดหน้าเซียวอย่างนี้ผมกลัวคุณจะเป็นไข้ไม่สบาย ”
“ ฉันไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น ”
“ จะมีสักกี่คนล่ะที่บอกว่าฉันเป็นไข้ ”
หมอพูดแล้วเอาเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ออกมาส่งให้หญิงสาวอม แต่ลัยวัลย์ไม่เอาเขาก็เลยขู่ ”
“ ถ้าคุณไม่ยอมวัดว่ามีไข้ผมจะฉีดยาแก้ไข้ให้คุณเลย ”
“ ทำไมต้องบังคับฉันด้วย ”
“ เปล่าผมไม่ได้บังคับแต่ทำจริงๆ ”
ลัยวัลย์รับเทอร์โมมิเตอร์มาจากหมอแล้วใส่ปากอมหน้าง้ำอย่างไม่พอใจ หมอแอบยิ้มกลัวเข็ม เขาจับชีพจรที่ข้อมือของเธอและนับเวลาลัยวัลย์มองเมินไปทางอื่นอย่างไม่อยากเห็นหน้าเขา เวลาผ่านไปหมอหยิบเทอร์โมมิเตอร์มาจากปากของลัยวัลย์แล้วบอก
“ มีไข้นิดนึงไม่ต้องถึงกับฉีดยาแต่ต้องกินข้าวเยอะๆแทนแล้วพักผ่อนมากๆ จะลงไปกินข้าวข้างล่างหรือว่าจะให้ขึ้นเอามากินข้างบนนี่ ”
“ ฉันยังไม่หิว ถ้าหิวจะลงไปกินเอง ”
“ ไม่ได้ ต้องกินเลย ผมว่าให้สไบเอาขึ้นมาให้กินข้างนี่บนดีกว่าผมจะได้ดูด้วยว่าคุณกินได้มากแค่ไหน ”
“ เอ๊ะ ”
“ เอ๊ะอะไร หรือว่าอยากฉีดยาก็ได้นะสักเข็มจะได้แข็งแรงขึ้น ”
“ ไม่ต้อง ฉันกินข้าวก็ได้ แต่จะลงไปกินเอง ”
“ ดีครับ ผมจะได้ลงไปเป็นเพื่อน ”
“ คุณอย่ามาวุ่นวายกับฉันนักจะได้ไหม ”
“ ได้ เมื่อคุณกินข้าวอิ่มแล้วผมก็จะไปทำงาน ”
หมอตอแยไม่เลิกลัยวัลย์หัวเสียนักแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรได้
พัดชาต้องทนทุกทรมานเมื่อเธอเกิดความต้องการทางเพศขึ้นมาเพราะเธอได้รู้ลิ้มรสความสุขสุดยอดกับราวินในวันนั้นมันจึงทำให้เธอหลงมันและต้องการมันอีก ยิ่งเธอพยายามอดกลั้นมันก็ยิ่งโหยหา ในที่สุดเธอก็แพ้ใจตัวเองแพ้ความต้องการของตัวเองต้องยอมบากหน้าเข้าไปหาราวิน ราวินมองพัดชาในชุดบางเบาแล้วยิ้มอย่างรู้ว่าเธอต้องการอะไร
“ ติดใจใช่ไหมล่ะ ”
“ มันก็ยังดีกว่าให้ฉันไป
กับคนอื่นไม่ใช่หรือ ”
ราวินหัวเราะเขาจูบเธอที่ไหล่และเรื่อยไปยังซอกคอพัดชาไหวสะท้านและกอดเขา พัดชายอมเสียเปรียบราวินอย่างเต็มใจ เมื่อมันมีครั้งที่สอง สามสี่ห้าก็ตามมาและกลายเป็นว่าพัดชาแอบมีความสัมพันธุ์กับราวินโดยที่ไม่มีใครรู้เลย ป้าสนเองก็แปลกใจที่พัดชาไม่ออกไปไหนนัก เธอนอนตื่นสายตะวันโด่งทุกวันมืดมาก็เข้าห้องปิดประตูเงียบเป็นเช่นนี้มานานนับเดือนแล้ว
สำหรับลัยวัลย์เธอต้องอยู่กับความหวาดกลัวทุกคืนเธอจะได้ยินเสียงผู้หญิงดังแว่วมาจากหลุมฝังศพของแม้นมาศ และถ้าเธอยอมข่มใจไม่กลัวมองลงไปที่หลุมก็จะเห็นร่างดำมะมึนยืนอยู่ที่ปากหลุมทุกครั้ง
หมอกีรติสังเกตว่าลัยวัลย์จะมีสีหน้าซีดหน้าอิดโรยและอ่อนเพลียเหมือนคนอดนอนอย่างต่อเนื่องแต่ลัยวัลย์ไม่ค่อยยอมให้เขาตรวจนัก และมันก็เกิดเรื่องจนได้ในกลางดึกคืนหนึ่ง ลัยวัลย์ได้ยินเสียงร้องไห้ดังแว่วอยู่ที่หน้าห้องนอนของเธอ หญิงสาวตัดสินใจลุกขึ้นเปิดประตูออกมาดูก็พบว่าสไบยืนหันหลังให้เธอ
“ พี่สไบ ”
ร่างของสไบเดินหนีไปที่บันไดทางลงลัยวัลย์จึงเดินตามเพราะคิดว่าสไบเป็นอะไรถึงร้องไห้
“ พี่สไบเป็นอะไรหรือเปล่า ”
ลัยวัลย์เดินตามมาจนถึงตัวของสไบแล้วถามอย่างหวังดี แต่พอสไบหันหน้ามาลัยวัลย์ถึงกับผงะเพราะใบหน้าของสไบขาวโพลนดวงตาแดงกร่ำและที่สำคัญมันไม่ใช่หน้าของสไบเลย ลัยวัลย์ตกใจกรีดร้องสุดเสียงแล้ววิ่งหนีแต่เพราะชุดนอนที่ยาวเธอจึงเหยียบชายกระโปรงชุดนอนล้มกลิ้งตกบันไดตั้งแต่ชั้นบนสุดลงมาฟุบอยู่ข้างล่าง
หมอที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนได้ยินเสียงกรีดของลัยวัลย์เขารีบวิ่งออกมาจากห้อง ไฟหน้าบันไดหมอมองเห็นร่างของลัยวัลย์นอนฟุบกองอยู่ข้างล่างถนัดถึงกับใจหายวาบ
“ คุณวัลย์ไม่นะ ไม่ ”
ที่โรงพยาบาลหมอยืนมองร่างที่นอนนิ่งของลัยวัลย์ เธอถูกผ่าเอาเด็กออกจากท้องไปแล้วแม้เด็กจะปลอดภัยแต่เขาก็ถูกผ่าออกมาก่อนกำหนดจึงตัวเล็กนิดเดียวในขณะที่ลัยวัลย์ยังนอนไม่ได้สติ หมอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลัยวัลย์ทำไมเธอถึงตกบันไดลงมาได้กลางดึง ราวินกับอนินเข้าสมายืนข้างเตียงกับวัลย์ใบหน้ากังวลห่วงใยเต็มเปี่ยม
“ มันเกิดขึ้นได้อย่างไรครับหมอ ”
ราวินถามน้องเขย
“ ผมก็ไม่รู้ แต่มันไม่น่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย นิน พี่กลัว กลัวว่าคุณวัลย์จะเป็นแบบ ”
“ ไม่หรอกครับพี่กริม พี่อย่ากังวลมากนักเมื่อคุณวัลย์ฟื้นเธอจะเป็นอย่างปรกติ ”
เวลาผ่านไป ลัยวัลย์ยังฝันร้ายในความมืดเธอเห็นใบหน้าสะสวยของผู้หญิงคนหนึ่งแสยะยิ้มให้กับเธอ
“ เธอแย่งกริมไปจากฉัน เธอทำให้ฉันต้องตรอมใจตาย ฉันจะฆ่าเธอ ”
“ ไม่ ไม่จริง ฉันไมได้แย่งเธอ ฉันไม่รู้เรื่อง แม้นมาศเธออย่าทำอะไรฉัน ไม่ ไม่ กรี๊ดๆๆๆ ”
“ วัลย์ วัลย์ ตื่นๆ ตื่น นี่พี่เองวัลย์ ”
ราวินจับมือน้องสาว หมอกับอนินมองลัยวัลย์ละเมออย่างตกใจ
“ แม้นมาศเหรอ ทำไมคุณวัลย์ละเมอแบบนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณวัลย์กันแน่ ”
หมอคิดอย่างคาดไม่ถึง หมอจับมือของลัยวัลย์กุมเอาไว้แล้วเรียก
“ คุณวัลย์ ตื่นเถอะครับ คุณปลอดภัยแล้วคุณวัลย์ ”
ลัยวัลย์ลืมตาเธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย หญิงสาวเอามือคลำที่ท้องโดยสัญชาตญาณแล้วถึงกับผวาร่ำร้อง
“ ลูกของฉันล่ะ ลูก ”
“ คุณวัลย์ ลูกคลอดออกมาแล้ว เขาปลอดภัยนะคุณวัลย์ ”
หมอบอกเธอด้วยน้ำเสียงปลอบโยนและมองจ้องตาของเธอว่ามองเห็นเปล่า ราวินกับอนินเรียกเธออย่างโล่งใจ
“ วัลย์พี่เป็นห่วงแทบแย่ เป็นยังไงบ้างหืมม์ ”
ลัยวัลย์มองพี่ชายแล้วร้องไห้ท่าทางยังหวาดกลัว
“ พี่วิน ช่วยวัลย์ด้วย เขาจะฆ่าวัลย์ ”
“ ใคร ใครจะฆ่าวัลย์ ”
“ ผี ผี คู่หมั้นคุณหมอ เขาจะฆ่าวัลย์ ”
“ อะไรนะ ”
ทั้งสามร้องพร้อมกันอย่างแตกตื่น หมอกีรติสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที
“ เป็นไปไม่ได้ เหลวไหลสิ้นดี ”
หมอกีรติพูดออกมาอย่างลืมตัวอนินเองก็ตะลึงที่คุณวัลย์บอกเช่นนั้น
อนินตามพี่ชายออกมาข้างนอก
“ พี่กริม มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คุณวัลย์พูด ”
“ ใช่ มันจะเป็นไปได้อย่างไร พี่ไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด ”
“ แต่ท่าทางคุณวัลย์ไม่ได้พูดโกหกเลยนะ พี่ลองคิดดูใครจะมีแก่ใจมาพูดโกหกในสถานการณ์แบบนี้ เขาเองก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอดเลยนะ ”
“ พี่ไม่ได้ว่าคุณวัลย์โกหกหรือกุเรื่องขึ้นมา แต่พี่ ไม่เข้าใจว่า มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้อย่างไร ”
“ มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแล้วนะพี่กริม ”
“ พี่ต้องรู้ความจริงให้ได้แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ”
รอวัน...จันทร์ส่องหล้า ตอนที่ 18
“ คุณอย่าเด็ดดอกไม้ที่อยู่ในเขตหินนั่นนะคะ ”
“ ทำไมหรือ ดอกไม้พวกนี้แตกต่างจากดอกไม้พวกนั้นอย่างไร ”
ลัยวัลย์ถามอย่างแปลกใจเพราะมันก็คือดอกไม้เหมือนๆกันแล้วทำไมในเขตที่มีหินตกแต่งไว้จึงห้ามเด็ด
“ ก็ตรงนั้นเขตหลุมฝังศพนี่คะ ”
ลัยวัลย์ถึงกับชะงัก สไบมองอย่างสะใจที่ได้บอกความจริงกับลัยวัลย์เรื่องหลุมฝังศพ
“ หลุมฝังศพ ของ ของใครคะ ”
“ ของคุณแม้นมาศ คู่หมั้นของคุณหมอ เธอเพิ่งตายไม่กี่เดือนนี่เอง ”
“ คู่หมั้นคุณหมอเหรอ ”
ลัยวัลย์หน้าซีดมองหลุมศพของแม้นมาศอย่างรู้สึกกลัว
“ คุณหมอน่ะรักคุณมาศมาก เมื่อคุณมาศตายคุณหมอก็เลยให้ฝังคุณมาศเอาไว้ที่นี่ไม่ยอมเอาไปฝังที่วัด ”
ลัยวัลย์ถอยห่างออกมาสไบยิ้มหยัน
“ คุณกลัวหรือคะ ก็น่ากลัวอยู่หรอกนะคะเพราะคุณเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียคุณหมอ เหมือนกับคุณมาแย่งคุณหมอ ”
“ เปล่านะ ฉัน ไม่ ”
“ สไบพูดอะไรน่ะ ”
อนินตวาดสไบหันไปเห็นอนินถึงกับหน้าเสีย
“ คือ สไบ ”
“ จะพูดอะไรให้ระวังปากระวังคำพูดบ้าง คุณวัลย์เธอจะเข้าใจผิดเอาได้ ”
“ สไบแค่บอกคุณวัลย์ว่า ”
“ มันไม่ใช่เรื่องอะไรของเธอเลยนะ เธอมีหน้าที่อะไรก็ทำไปเท่าหน้าที่ของเธอมีเท่านั้น ”
“ ค่ะ คุณนิน ”
“ ไปได้แล้ว คราวหน้าอย่าให้มีแบบนี้อีกนะ ”
อนินไล่สไบ หญิงรับใช้รีบเดินออกไปลัยวัลย์มองหลุมฝังศพของแม้นมาศด้วยสายตากังวล
“ คุณวัลย์ครับผมว่าเราเดินไปทางโน้นดีกว่านะครับ ถ้าจะชมดอกไม้ด้านโน้นมีสวยๆเยอะเลย ”
“ คุณนินคะ ”
“ ครับผม ”
“ ฉันอยากรู้ว่าทำคู่หมั้นคุณหมอถึง เอ่อ ตายคะ ”
“ เขาป่วยครับ ป่วยมานานแล้ว คุณวัลย์คงแปลกใจทำไมเราถึงฝังคุณมาศเอาไว้ที่นี่ซึ่งมันน่ากลัวใช่ไหมครับ ”
“ ฉัน เอ่อ ”
“ พี่กริมสงสารคุณมาศ เธอไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เมื่อตายไปแล้วก็อยากให้เธออยู่ใกล้กับคนที่เธอเคยรู้จักบ้างก็เลยฝังเอาไว้ที่นี่ ”
อนินมองหน้าพี่สะใภ้รู้ว่าเธอคงกลัวแน่แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ สำหรับลัยวัลย์เธอเชื่อสไบที่บอกว่าหมอกีรติรักแม้นมาศมากเขาเลยฝังคู่หมั้นเอาไว้ที่นี่เพื่อจะได้อยู่ใกล้ๆเขาตลอดไปนั้นเอง
ดึกแล้วลัยวัลย์ยังนั่งอยู่บนเตียงเพราะหลับไม่ลงห้องที่เธออยู่นี่ถ้ามองเฉียงออกไปก็สามารถมองเห็นเนินดอกไม้บนหลุมฝังศพนั่น ลัยวัลย์ลุกเดินไปที่หน้าต่างมองผ่านความมืดไปยังที่ที่หลุมฝังศพอยู่ แล้วหญิงสาวก็ต้องตกตลึงตัวชาวาบไปทั้งตัวเมื่อมองเห็นเงาดำๆร่างหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น ลัยวัลย์เซผงะถอยหลังกรูด เธอมายืนหน้าซีดตัวสั่นเทาอยู่กลางห้อง
“ เงาใคร ผีหรือเปล่า ผีผู้หญิงที่ชื่อแม้นมาศคู่หมั้นของหมอกีรติ ผีแน่ๆไม่อย่างนั้นใครจะไปยืนทำไมที่ปากหลุมกลางดึกดื่นอย่างนี้ ”
ลัยวัลย์นอนกลัวทั้งคืนกว่าเธอจะเคลิ้มหลับไปก็เกือบสว่าง สไบมาเคาะประตูเรียก ”
“ คุณวัลย์คะ คุณวัลย์ ”
ลัยวัลย์เปิดประตูออกมาหน้าตาเธออิดโรยจนเห็นได้ชัด
“ ตาย คุณวัลย์หน้าตาคุณทำไมเหมือนคนอดนอนอย่างนี้ล่ะคะ ”
“ ฉันนอนไม่หลับน่ะ ”
“ นอนไม่หลับ กลัวผีคุณมาศใช่ไหมล่ะคะ ”
สไบถามยุ
“ ฉัน ”
“ มันก็น่ากลัวอยู่หรอกนะคะ ศพตายยังไม่นานวิญญาณก็คงจะยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆคุณหมอใกล้คนที่เธอรัก ตายแล้วสไบก็พูดเพ้อเจ้อไป คือคุณหมอให้มาตามคุณวัลย์ลงไปทานข้าวค่ะ ”
“ ฉันยังไม่หิวพี่สไบไปบอกเขาเถอะว่าฉันยังไม่กิน ”
“ ได้ค่ะ ”
สไบพูดแล้วเดินจากไปหล่อนแอบยิ้มสะใจที่พูดให้ลัยวัลย์กลัวได้
ลัยวัลย์กลับมานอนซม เพราะอดนอนมากและเกิดความกลัวกังวลเธอจึงเหมือนจะมีไข้ เสียงประตูเปิ ดและปิดเบาๆลัยวัลย์คิดว่าเป็นสไบหรือเรียมเข้ามาจึงหลับตานิ่งจนกระทั่งมืออุ่นๆของใครมาแตะทีห่น้าผากลัยวัลย์จึงลืมตา
“ คุณตัวอุ่นๆน่าจะมีไข้นะ ”
หมอบอกแล้วเดินกลับออกไปไม่นานก็กลับเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าเครื่องมือแพทย์ ลัยวัลย์รีบลุกขึ้นนั่ง
“ คุณจะทำอะไรน่ะ ”
“ ก็ตรวจคุณน่ะสิ หน้าซัดหน้าเซียวอย่างนี้ผมกลัวคุณจะเป็นไข้ไม่สบาย ”
“ ฉันไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น ”
“ จะมีสักกี่คนล่ะที่บอกว่าฉันเป็นไข้ ”
หมอพูดแล้วเอาเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ออกมาส่งให้หญิงสาวอม แต่ลัยวัลย์ไม่เอาเขาก็เลยขู่ ”
“ ถ้าคุณไม่ยอมวัดว่ามีไข้ผมจะฉีดยาแก้ไข้ให้คุณเลย ”
“ ทำไมต้องบังคับฉันด้วย ”
“ เปล่าผมไม่ได้บังคับแต่ทำจริงๆ ”
ลัยวัลย์รับเทอร์โมมิเตอร์มาจากหมอแล้วใส่ปากอมหน้าง้ำอย่างไม่พอใจ หมอแอบยิ้มกลัวเข็ม เขาจับชีพจรที่ข้อมือของเธอและนับเวลาลัยวัลย์มองเมินไปทางอื่นอย่างไม่อยากเห็นหน้าเขา เวลาผ่านไปหมอหยิบเทอร์โมมิเตอร์มาจากปากของลัยวัลย์แล้วบอก
“ มีไข้นิดนึงไม่ต้องถึงกับฉีดยาแต่ต้องกินข้าวเยอะๆแทนแล้วพักผ่อนมากๆ จะลงไปกินข้าวข้างล่างหรือว่าจะให้ขึ้นเอามากินข้างบนนี่ ”
“ ฉันยังไม่หิว ถ้าหิวจะลงไปกินเอง ”
“ ไม่ได้ ต้องกินเลย ผมว่าให้สไบเอาขึ้นมาให้กินข้างนี่บนดีกว่าผมจะได้ดูด้วยว่าคุณกินได้มากแค่ไหน ”
“ เอ๊ะ ”
“ เอ๊ะอะไร หรือว่าอยากฉีดยาก็ได้นะสักเข็มจะได้แข็งแรงขึ้น ”
“ ไม่ต้อง ฉันกินข้าวก็ได้ แต่จะลงไปกินเอง ”
“ ดีครับ ผมจะได้ลงไปเป็นเพื่อน ”
“ คุณอย่ามาวุ่นวายกับฉันนักจะได้ไหม ”
“ ได้ เมื่อคุณกินข้าวอิ่มแล้วผมก็จะไปทำงาน ”
หมอตอแยไม่เลิกลัยวัลย์หัวเสียนักแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรได้
พัดชาต้องทนทุกทรมานเมื่อเธอเกิดความต้องการทางเพศขึ้นมาเพราะเธอได้รู้ลิ้มรสความสุขสุดยอดกับราวินในวันนั้นมันจึงทำให้เธอหลงมันและต้องการมันอีก ยิ่งเธอพยายามอดกลั้นมันก็ยิ่งโหยหา ในที่สุดเธอก็แพ้ใจตัวเองแพ้ความต้องการของตัวเองต้องยอมบากหน้าเข้าไปหาราวิน ราวินมองพัดชาในชุดบางเบาแล้วยิ้มอย่างรู้ว่าเธอต้องการอะไร
“ ติดใจใช่ไหมล่ะ ”
“ มันก็ยังดีกว่าให้ฉันไปกับคนอื่นไม่ใช่หรือ ”
ราวินหัวเราะเขาจูบเธอที่ไหล่และเรื่อยไปยังซอกคอพัดชาไหวสะท้านและกอดเขา พัดชายอมเสียเปรียบราวินอย่างเต็มใจ เมื่อมันมีครั้งที่สอง สามสี่ห้าก็ตามมาและกลายเป็นว่าพัดชาแอบมีความสัมพันธุ์กับราวินโดยที่ไม่มีใครรู้เลย ป้าสนเองก็แปลกใจที่พัดชาไม่ออกไปไหนนัก เธอนอนตื่นสายตะวันโด่งทุกวันมืดมาก็เข้าห้องปิดประตูเงียบเป็นเช่นนี้มานานนับเดือนแล้ว
สำหรับลัยวัลย์เธอต้องอยู่กับความหวาดกลัวทุกคืนเธอจะได้ยินเสียงผู้หญิงดังแว่วมาจากหลุมฝังศพของแม้นมาศ และถ้าเธอยอมข่มใจไม่กลัวมองลงไปที่หลุมก็จะเห็นร่างดำมะมึนยืนอยู่ที่ปากหลุมทุกครั้ง
หมอกีรติสังเกตว่าลัยวัลย์จะมีสีหน้าซีดหน้าอิดโรยและอ่อนเพลียเหมือนคนอดนอนอย่างต่อเนื่องแต่ลัยวัลย์ไม่ค่อยยอมให้เขาตรวจนัก และมันก็เกิดเรื่องจนได้ในกลางดึกคืนหนึ่ง ลัยวัลย์ได้ยินเสียงร้องไห้ดังแว่วอยู่ที่หน้าห้องนอนของเธอ หญิงสาวตัดสินใจลุกขึ้นเปิดประตูออกมาดูก็พบว่าสไบยืนหันหลังให้เธอ
“ พี่สไบ ”
ร่างของสไบเดินหนีไปที่บันไดทางลงลัยวัลย์จึงเดินตามเพราะคิดว่าสไบเป็นอะไรถึงร้องไห้
“ พี่สไบเป็นอะไรหรือเปล่า ”
ลัยวัลย์เดินตามมาจนถึงตัวของสไบแล้วถามอย่างหวังดี แต่พอสไบหันหน้ามาลัยวัลย์ถึงกับผงะเพราะใบหน้าของสไบขาวโพลนดวงตาแดงกร่ำและที่สำคัญมันไม่ใช่หน้าของสไบเลย ลัยวัลย์ตกใจกรีดร้องสุดเสียงแล้ววิ่งหนีแต่เพราะชุดนอนที่ยาวเธอจึงเหยียบชายกระโปรงชุดนอนล้มกลิ้งตกบันไดตั้งแต่ชั้นบนสุดลงมาฟุบอยู่ข้างล่าง
หมอที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนได้ยินเสียงกรีดของลัยวัลย์เขารีบวิ่งออกมาจากห้อง ไฟหน้าบันไดหมอมองเห็นร่างของลัยวัลย์นอนฟุบกองอยู่ข้างล่างถนัดถึงกับใจหายวาบ
“ คุณวัลย์ไม่นะ ไม่ ”
ที่โรงพยาบาลหมอยืนมองร่างที่นอนนิ่งของลัยวัลย์ เธอถูกผ่าเอาเด็กออกจากท้องไปแล้วแม้เด็กจะปลอดภัยแต่เขาก็ถูกผ่าออกมาก่อนกำหนดจึงตัวเล็กนิดเดียวในขณะที่ลัยวัลย์ยังนอนไม่ได้สติ หมอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลัยวัลย์ทำไมเธอถึงตกบันไดลงมาได้กลางดึง ราวินกับอนินเข้าสมายืนข้างเตียงกับวัลย์ใบหน้ากังวลห่วงใยเต็มเปี่ยม
“ มันเกิดขึ้นได้อย่างไรครับหมอ ”
ราวินถามน้องเขย
“ ผมก็ไม่รู้ แต่มันไม่น่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย นิน พี่กลัว กลัวว่าคุณวัลย์จะเป็นแบบ ”
“ ไม่หรอกครับพี่กริม พี่อย่ากังวลมากนักเมื่อคุณวัลย์ฟื้นเธอจะเป็นอย่างปรกติ ”
เวลาผ่านไป ลัยวัลย์ยังฝันร้ายในความมืดเธอเห็นใบหน้าสะสวยของผู้หญิงคนหนึ่งแสยะยิ้มให้กับเธอ
“ เธอแย่งกริมไปจากฉัน เธอทำให้ฉันต้องตรอมใจตาย ฉันจะฆ่าเธอ ”
“ ไม่ ไม่จริง ฉันไมได้แย่งเธอ ฉันไม่รู้เรื่อง แม้นมาศเธออย่าทำอะไรฉัน ไม่ ไม่ กรี๊ดๆๆๆ ”
“ วัลย์ วัลย์ ตื่นๆ ตื่น นี่พี่เองวัลย์ ”
ราวินจับมือน้องสาว หมอกับอนินมองลัยวัลย์ละเมออย่างตกใจ
“ แม้นมาศเหรอ ทำไมคุณวัลย์ละเมอแบบนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณวัลย์กันแน่ ”
หมอคิดอย่างคาดไม่ถึง หมอจับมือของลัยวัลย์กุมเอาไว้แล้วเรียก
“ คุณวัลย์ ตื่นเถอะครับ คุณปลอดภัยแล้วคุณวัลย์ ”
ลัยวัลย์ลืมตาเธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย หญิงสาวเอามือคลำที่ท้องโดยสัญชาตญาณแล้วถึงกับผวาร่ำร้อง
“ ลูกของฉันล่ะ ลูก ”
“ คุณวัลย์ ลูกคลอดออกมาแล้ว เขาปลอดภัยนะคุณวัลย์ ”
หมอบอกเธอด้วยน้ำเสียงปลอบโยนและมองจ้องตาของเธอว่ามองเห็นเปล่า ราวินกับอนินเรียกเธออย่างโล่งใจ
“ วัลย์พี่เป็นห่วงแทบแย่ เป็นยังไงบ้างหืมม์ ”
ลัยวัลย์มองพี่ชายแล้วร้องไห้ท่าทางยังหวาดกลัว
“ พี่วิน ช่วยวัลย์ด้วย เขาจะฆ่าวัลย์ ”
“ ใคร ใครจะฆ่าวัลย์ ”
“ ผี ผี คู่หมั้นคุณหมอ เขาจะฆ่าวัลย์ ”
“ อะไรนะ ”
ทั้งสามร้องพร้อมกันอย่างแตกตื่น หมอกีรติสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที
“ เป็นไปไม่ได้ เหลวไหลสิ้นดี ”
หมอกีรติพูดออกมาอย่างลืมตัวอนินเองก็ตะลึงที่คุณวัลย์บอกเช่นนั้น
อนินตามพี่ชายออกมาข้างนอก
“ พี่กริม มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คุณวัลย์พูด ”
“ ใช่ มันจะเป็นไปได้อย่างไร พี่ไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด ”
“ แต่ท่าทางคุณวัลย์ไม่ได้พูดโกหกเลยนะ พี่ลองคิดดูใครจะมีแก่ใจมาพูดโกหกในสถานการณ์แบบนี้ เขาเองก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอดเลยนะ ”
“ พี่ไม่ได้ว่าคุณวัลย์โกหกหรือกุเรื่องขึ้นมา แต่พี่ ไม่เข้าใจว่า มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้อย่างไร ”
“ มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแล้วนะพี่กริม ”
“ พี่ต้องรู้ความจริงให้ได้แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ”